หรือจะโสดจนสามสิบ... (เรื่องจริงหรือนี่) วันที่ 24
เช้าวันอังคารนี้ก็เป็นเช้าที่ลุ้นระทึกอย่างคาดไม่ถึง
เริ่มด้วยตัวผมเองที่ดัดจริต ตั้งนาฬิกาปลุกให้เร็วขึ้นสิบนาที เพื่อว่าจะได้ไม่ต้องร้อนร้น กระเสือกกระสน รีบไปทำงานในยามเช้า
ไอเดียเหมือนจะบรรเจิดเริดศรี มณีเด้ง มะนาวดัน
ทว่าทุกอย่างกลับไม่เป็นดั่งคาดเพราะ.... ไอ้ตัวผมเองเนี่ยแหละ.....
พอรู้ว่ามีเวลาสิบนาทีเพิ่มขึ้น ก็ดันเออระเหย ลอยชาย สบายตัว ค่อย ๆ บรรจงจีบมือเลือกเสื้อผ้าให้ mix and match กับกางเกงชั้นนอก กางเกงชั้นใน แถมยังเลือกถุงเท้าให้รับกับใบหน้าซะอีก
พออาบน้ำ จากที่เคยสระผมและถูสบู่ไปในเวลาเดียวกัน ก็เปลี่ยนมาลั่นล้านวดหนังศีรษะอย่างใจเย็น ประดุจช่างสระจากค่ายจราชนมาบรรจงสระให้
สุดท้ายพอเหลือบดูนาฬิกาอีกที โอ๊ย พระเจ้าจอช อกอีแป้นแทบแตก เหลือเวลาเดินทางน้อยกว่าเดิมซะอีก
พอออกนอกตึกได้ ก็รีบเรียกมอเตอร์ไซด์ไปอย่างด่วน
ทว่า นั่ง ๆ ไปได้สักพัก มันก็ดูเหมือนจะไปไม่ทันแน่ ๆ สุดท้ายผมเลยกล่าวคำพูดอันไม่สมควรกับพี่วินไปว่า
"พี่ครับ รีบนิ๊ดหนึ่งได้ไหมครับ"
ท่านผู้อ่านครับ ตรงนี้แนะนำเลยครับว่า เวลาไปนั่งพี่วิน อย่างเรียกร้องให้พี่แกขับเร็วขึ้น เพราะจากที่ท่านนั่งมาเรื่อย ๆ ประดุจนั่งเรือข้ามฝาก จะกลายเป็นท่านนั่งเรือยาวทันที
พี่วิน แกก็ขับซิ่งมาในบัดดล โอ้โห ยังกะผมได้ไปเล่นบานาโบ๊ตที่พัทยา ช่างกระเด้งกระดอนดีเหลือเกิน
สุดท้ายไปทำงานทันครับไม่น่าเชื่อ (โชคดีจริง ๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่)
พอไปถึงออฟิศก็ได้ลันล้าแอบไปคุยกับน้องเลขาฯ ให้ใจชุ่มชื่น
ทว่าตอนเย็นทุกอย่างกลับเปลี่ยนไป เมื่อผมเห็นเธอเดินกลับออกจากออฟฟิศพร้อมกับเพื่อนรุ่นน้องของผมที่ในทำงาน (ขอเรียกหมอนี้ว่านายหล่อ)
เกิดอะไรขึ้น ทำไมน้องเลขาฯ ถึงเดินไปกับนายหล่อ หรือว่าข่าวลือที่เคยได้ยินว่าน้องเค้าแอบปลื้มนายหล่อ จะเป็นเรื่องจริง หรือเพื่อนรักจะหักเหลี่ยมโหด
หรือว่าผมจะคิดมากไปเอง เค้าอาจจะบังเอิญออกจากออฟิศพร้อมกันก็ได้
ไม่รู้จะคิดแบบไหน แต่ที่แน่ ๆ ตกเย็นวันนี้ผมเลยรู้สึกแห้งเหี่ยว เหมือนต้นไม้ขาดน้ำยังไงไม่รู้