Red Dog ( เพื่อนซี้หัวใจหยุดโลก ) .... 3 ดาว ....

....................กระเถิบเข้ามาใกล้ๆแล้วค่อยๆเปิดใจรับฟังเรื่องราวของหมาน้อยธรรมดาตัวหนึ่งซึ่งพลัดหลงมาจากใหนก็ไม่รู้ จากหมาจรจัดก็กลายเป็นหมาบ้านแล้วก็กลายเป็นหมาของทุกๆคน กลายเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน ของสังคม เป็นศูนย์รวมใจอันยิ่งใหญ่ของชาวบ้าน เป็นยิ่งกว่าทุกสิ่งอันพึงที่สิ่งมีชีวิตสักสิ่งจะเป็นได้ กลายเป็นเครื่องปลอบประโลมใจยามทุกข์ให้ทุกๆคน เป็นเพื่อนคลายเหงา และเติมเต็มความรักความผูกพันให้กับชาวเหมือง ในเมืองเล็กๆของออสเตรเลียตะวันตก เมื่อสัก 40 ปีที่แล้ว เจ้าหมาน้อยตัวนี้ก็ไม่ได้เป็นหมาสายพันธ์พิศดารหรือพิเศษอะไร หมาบ้านๆนี่เอง ไม่ใช่หมาที่มีลักษณะพิเศษ ไม่ได้มีวีรกรรมอะไรลือลั่น หรือฝากสิ่งที่สุดยอดไว้ให้กับโลกนี้ ก็เหมือนกับเราๆท่านๆนี่แหละ จำเป็นด้วยเหรอว่าเราจะต้องเป็นสุดยอด เป็นวีรชน กลายเป็นไอค่อนหรืออะไรสักอย่างหรือประกอบคุณความดีอันยิ่งใหญ่ให้กับโลกใบนี้ เจ้าหมาตัวนี้ก็ไม่ต่างจากเรา เค้าก็เป็นแค่สิ่งมีชีวิตเล็กๆตัวหนึ่งที่ร่วมอยู่ คงอยู่กับเราบนโลกนี้ จำเป็นแค่ใหนที่จะต้องพองตัวให้ตัวเองสูงส่งยิ่งใหญ่ หรือต่ำต้อยกว่าคนอื่นเค้า ในเมื่อเราก็อาศัยอยู่ร่วมโลกกัน ทำไมเราไม่ทำตัวให้อยู่ในระดับเท่าเทียมแล้วก็เข้าหากันอย่างเป็นมิตรไม่ดีกว่าหรือครับ จะแบ่งแยกชนชั้น วรรณะ ฐานันดรกันไปทำไม

....................หนังเล่าเรื่องในแบบ Narrative หรือเรื่องเล่า ใช้เสียงบรรยายของตัวละคร จากหนึ่งเป็นสองเป็นสามเป็นสี่ หลายปากแต่หัวใจของเรื่องก็ไม่ต่างกัน ไม่ใช่ราโชมอนเป็นเรื่องที่ชาวเมืองชุมชนนี้เห็นพ้องต้องกันว่า ทั้งหมดนี้มองจากสายตาคนๆเดียวกัน ไม่ได้ผิดเพี้ยนอะไรไป เจ้าหมาแดงตัวนี้ ไปใหนก็ถูกเรียกว่าไอ้แดง ติดสอยห้อยตามรถของคนที่มาอยู่ในเมืองใหม่ จากนั้นก็ไปโน่นมานี้ จนเจอเจ้าของ จนต้องจากเจ้าของ ออกตามหาเจ้าของ ผจญภัยในโลกกว้าง เค้าว่าหนังสร้างจากเรื่องจริง แต่การเล่าปากต่อปากก็อาจจะมีใส่ไข่บ้าง อะไรบ้างก็ไม่ได้เป็นเรื่องเสียหายอะไร มันก็คือตำนานหรือเรื่องเล่า หาใช่บันทึกทางประวัติศาสตร์แต่อย่างใด หนังเล่นประเด็นในรูปแบบของนามธรรมมากกว่ารูปธรรม คนไม่รักหมาอาจจะมองว่าบางอย่างดูธรรมดาเกินไป หนังไม่ได้ซาบซึ้งกินใจอะไรนัก แต่คนรักหมา หรือคนที่มีใจอ่อนโยน จะอินและประทับใจกับเรื่องราวหลายๆอย่างที่ธรรมดาของหนังได้ มันเป็นหนังที่ต้องใช้ใจดูอยู่พอประมาณ ตัวหนังเล่าเรื่องโดยใส่อารมณ์ อีโมชั่นมากกว่าที่จะขับเคลื่อนเรื่องราวด้วยคอนฟลิคซ์ หรือจุดหักเห หรือเรื่องราวที่ซับซ้อน หนังเล่าเรื่องแบบง่ายๆมากๆ ไม่มีหักมุมอะไร ไปเรื่อยๆแต่ค่อยๆให้คนดูซึมไปกับความผูกพันของชาวบ้านและเจ้าแดง ผมว่าเรื่องหมาธรรมดาเนี่ย สามารถยกระดับจิตใจของมนุษย์ได้มากกว่าเรื่องราวไร้สาระของผู้ยิ่งใหญ่หลายรายบนโลกนี้ซะด้วยซ้ำไป

....................Red Dog ไม่ต้องมีการสู้รบครั้งยิ่งใหญ่ ไม่ต้องมีการฆ่าฟัน ไม่ต้องพาชาวบ้านไปตายเพื่อตอบสนองนี๊ดตัณหา ความต้องการมักใหญ่ใฝ่สูงของมนุษย์บางตัว ไม่มีการหลอกลวงกันและกัน เหมือนพวกมนุษย์ที่คิดแต่เรื่องเลวๆ ที่สำคัญเพราะความที่มันเป็นหมา มันเลยไม่ต้องคิดอะไรมาก คิดแค่ว่า ฉันรักเธอ เธอรักฉัน ฉันจะอยู่กับเธอ แค่นั้นแหละก็เพียงพอแล้วในโลกของเค้า ไม่ต้องมีทรัพย์สินเงินทอง ไม่ต้องมีแผ่นดินอันยิ่งใหญ่ ไม่ต้องปลดปล่อยแอกเรียกร้องเอกราชหาพ่อหาแม่อะไรของมัน ใครก็เป็นพ่อเป็นแม่เจ้าแดงได้ เพียงแค่ให้อาหารมัน มีเวลาเล่นกับมัน พูดคุยกับมัน และมันก็สามารถช่วยเรากลับได้เช่นกัน ไม่ใช่ว่ามันเรียกร้องอะไรทุกอย่างจากเราสถานเดียว สิ่งดีๆที่เราให้มันมันก็มีมอบให้เราตอบกลับมาเช่นกัน อาจจะไม่ใช่วัตถุเงินทองสิ่งของ แต่เป็นความรู้สึกดีๆที่ค่อยๆก่อเกิดจากภายในใจเรา จากคนที่แข็งกร้าวและมีปมเรื่องเศร้าๆในอดีต ก็ค่อยๆเปิดตัวเอง ค่อยๆออกจากที่คุมขัง ค่อยๆทลายกำแพงของตัวเองออกมา ปรับตัวปรับใจของตนเข้าหาคนอื่นๆได้ก็เพราะเจ้าหมาน้อยธรรมดาตัวนี้นี่เอง ไม่จำเป็นต้องมีพลังวิเศษ ไม่จำเป็นต้องมีอำนาจยศฐาบรรดาศักดิ์ใหญ่โต ถึงจะทำได้ เรื่องบางอย่างแค่หลับตาแล้วก็เปิดใจ ความรู้สึกดีๆมันก็เกิดขึ้นได้ คนเรามักจะมองข้ามสิ่งดีๆที่อยู่ใกล้ตัวและมักจะมองทุกอย่างเป็นเรื่องยากทั้งๆที่จริงๆกุญแจไขปมนั้นมันก็อยู่ใกล้ๆแต่มันก็เหมือนเส้นผมบังภูเขา บ่อยครั้งที่คนเราก็อยากจะมีอะไรสักอย่างคอยย้ำเตือน และสะกิดใจเรา

....................ไม่แปลกใจที่หนังออสเตรเลียนฟอร์มเล็กๆเรื่องนี้จะทำเงินถล่มทลายปีที่แล้วในบ้านเกิด รวมถึงเก็บรางวัลขวัญใจผู้ชมจากหลายเทศกาลและคว้ารางวัลสำคัญจากเวทีประกวดในบ้านเกิด เพราะหนังเรื่องนี้มันลงตัว ฉลาดในการเล่าเรื่องเบาๆและสอดแทรกสร้างความประทับใจได้ดี เพลงประกอบหนังเรื่องนี้เพราะมากๆ แล้วก็จัดเต็มจัดหนักมาเลย ที่น่าชื่นชมก็คือคนเอาหนังเข้ามาฉาย แปลเพลงให้ด้วย ทำให้ได้รับรู้สารที่เค้าแฝงมา มันไม่ได้มีแค่เมโลดี้เพราะๆ ที่น่าชื่นชมอีกอย่างก็คือ หนังมาด้วยกระบวนการสร้างที่บ้านๆมาก แม้จะมีดาราระดับมีชื่อพอสมควรมาร่วมแสดง แต่ก็ไม่ได้เห็นว่าจะต้องหมดไปกับฉากทุนสูงอะไร เป็นเครื่องยืนยันอีกครั้งว่าหนังดีๆไม่จำเป็นต้องมีซีจีเว่อร์ๆ ไม่ต้องทำฉากอลังการณ์เยอะๆ แต่อยู่กับหัวใจและเนื้อหาของหนังซะมากกว่า ต้องชื่นชมเจ้าหมาแดงด้วยที่เล่นได้น่ารัก น่าหยิก น่าชื่นชมมากๆ แววตาของหมาเนี่ย ถ้าเป็นคนเลี้ยงหมาหรือเคยใกล้ชิดกับหมาก็จะรู้ดีว่ามันช่างเว้าวอน และมีเสน่ห์ทำให้หลงใหลและทำให้หลายคนใจอ่อนได้ไม่ยาก คนใหนก็ตามที่มีเวลาให้กับสัตว์ เลี้ยงสัตว์โดยเฉพาะหมาส่วนใหญ่จะเป็นคนจิตใจงดงาม อ่อนโยน ความคิดเลวๆแย่ๆก็จะลดลง ใครที่คิดชั่วกะคนอื่น หรือเคยรู้สึกแย่ๆกับชีวิต อยากฆ่าตัวตาย หรือหดหู่อะไรหนักๆ ก็น่าจะลองหาหมามาเลี้ยงดูครับ แต่ต้องมั่นใจว่าจะรับผิดชอบชีวิตเค้าไหวด้วยนะครับ เพราะมันเป็นภาระผูกพันไปไม่ต่ำกว่าสิบปี บางทีก็อาจจะมากกว่านั้นถ้าหามาเลี้ยงแล้วเลี้ยงได้ไม่ตลอด มันจะเป็นอะไรที่แย่มากๆ ดูหนังเรื่องนี้จบแล้วมีความสุข ตื้นตัน อิ่มใจ ดีใจที่เลือกมาดูหนังเรื่องนี้ฉลองวันเกิด โชคดีมากที่ทันดูหนังในโรงในวันฉายวันสุดท้ายพอดีครับ อย่างว่าบางทีไม่ใช่เราเลือกไปดูหนังหรอก หนังต่างหากที่มันเลือกเราเข้าไปนั่งดูเค้าในโรง !!

ป.ล. หนังยังเหลือรอบฉายวันละรอบ ห้าโมงเย็น เช็คชัวร์ได้ที่เวปเฮ๊าส์ www.houserama.com

ฟังเพลงซาวน์แทรคหวานๆเพราะๆจากหนังได้ โดยคลิก

https://www.facebook.com/pages/Sweet-Soundtrack-s-lover/259904340708159