(ทริปเดี่ยวๆเที่ยวคนเดียว 4 วัน 3 คืนที่วังน้ำเขียว เขาใหญ่ ปลายธค.)


ที่มาของการเซอร์เวย์ครั้งนี้มาจากการที่ยังไม่มีที่พักในคืนที่ 3 (2 คืนแรกพักที่ casa pendio) เลยต้องมาขับตระเวณหาที่พักกัน ตอนแรกตั้งใจจะไปนอนแถวเขาใหญ่ แต่พอออกจากไทยสามัคคีผ่านบ้านไร่คุณนายและแวะทานกาแฟที่ภูเคียงลมแล้วก็ขับไปเรื่อยๆก็มาสะดุดตากับร้านกาแฟน่ารักๆริมถนน ได้อารมณ์ประมาณเห็น coffee in love ที่ปายครั้งแรกไม่มีผิด ... แบบนี้ต้องแวะซะหน่อย

ก่อนถึง a cup of love ขอแวะจอดป้่ายภูเคียงลมซักหน่อย ที่นี่เป็นรีสอร์ทด้วยนะคะและมีห้องว่างอีกต่างหากแต่เป็นห้องใหญ่สองห้องนอนราคาสามพันห้ามั่งแต่เค้าเห็นไปคนเดียวเลยจะคิด 2000 บาท แต่ไม่ไหวหรอก ไปคนเดียวนอนบังกะโล 2 ห้องนอนเนี่ย

a cup of love


ขับผ่านเห็นแล้วอยากพักมากๆๆๆ ลองถามดูเค้าบอกว่ามีห้องพักแค่ 2 ห้องและยังไม่เปิด แถมมีคนจองมาแล้วอีกต่างหาก
และเห็นว่าจะเต็มไปจนเกือบกลางเดือนมค.แล้ว แต่ป่านนี้คงมียอดจองเต็มไปจนถึงปลายเดือนแล้วมั้งเนี่ย 555 อ้อ
ราคาห้องที่นี่ช่วงโปรฯคือ 2900 บาทค่ะ

มีร้านขายกาแฟ ขนมเค้กน่าัรักสะดุดตาอยู่ริมทางด้านหน้าเลย เห็นคนขับรถเลยไปแล้วยังกลับรถย้อนกลับมาได้อีก ของเค้าแรงจริงๆ อิอิ





คิดว่าอีกไม่นานที่นี่ก็คงจะฮิตติดลมในวังน้ำเขียวแน่นอน เอ๊ะ หรือว่าป่านนี้ติดไปแล้ว? อิอิ






บ้านพัก 2 หลังของที่นี่ ตอนนั้นยังไม่เสร็จดี ทั้งๆที่จะมีลูกค้าเข้ามาพักในวันรุ่งขึ้นแล้ว อยากรู้เหมือนกันว่าเค้าจะประทับใจกันแค่ไหน?
เพราะปรกติบ้านที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆนี่สารพัดปัญหา ทั้งเรื่องกลิ่นสี ระบบน้ำ ไฟ ห้องน้ำจะเรียบร้อยหรือปล่าว? ลุ้นแทนเลยน่ะเนี่ย





รอรีสอร์ทแนวนี้ที่วังน้ำเขียว เขาใหญ่มานานแล้ว หลังจากที่เห็นเทรนนี้ที่สวนผึ้งแล้วคิดว่าถ้ารีสอร์ทแนวนี้เหมาะกับสวนผึ้ง
ก็น่าจะเหมาะกับละแวกนี้เช่นกัน เพราะอากาศและสภาพแวดล้อมเอื้ออำนวยมาก แม้อากาศช่วงที่ไปจะไม่เป็นใจเลยก็ตาม





ดอกบัวขึ้นเต็มบึงบัวหน้าห้องพัก สวยดี





น่าจะเป็นมุมฮิตของที่นี่ไปแล้วมั้ง?





บังกะโลสีขาวน่ารักน่าพักดี อยากเห็นภายในห้องจัง !!






ติดใจขออีกรูป





บึงบังหน้าบ้านพัก ที่ขั้นด้วยสนามหญ้าปรับระดับแล้ว คาดว่าตรงนี้น่าจะเตรียมไว้เป็นที่กางเต็นท์หรือปล่าว?





เก้าอี้ขาวเข้ากับธีมของรีสอร์ท





กังหันลมหน้าห้องน้ำที่ร้านกาแฟ







เวลาเวียน Veravian (ซึ่งน่าจะสะกด Velavian มากกว่าหรือปล่าว? แหะๆๆ เจ๋อได้อีก อิอิ)


หลังจากเช็คแล้วว่า a cup of love ห้องเต็ม เลยคอตกออกไปหาที่นอนกันใหม่ ขับไปจาก a cup of love นิดเดียวก็มาสะดุดตากับ
"เวลาเวียน " เป็นรีสอร์ทใหม่ ที่ใหญ่โตอลังการ (น่าจะมีเนื้อที่มากกว่า 40 ไร่น่ะ) ใสกิ๊กขนาดที่กำลังสร้างกันอยู่
เลยแวะเข้าไปถาม เผื่อฟลุ๊คๆอาจจะมีห้องบางโซนเปิดให้บริการบ้างแล้ว แต่ก็ผิดหวังอีกเพราะที่นี่จะเปิดราวกลางเดือนมค.
ดูจากทำเลที่ตั้งและสไตล์ของรีสอร์ท เชื่อแน่ว่าต่อไปคงเป็นรีสอร์ทฮิปฮิตอีกแห่งของวังน้ำเขียวแน่ๆ





ที่นี่ทำลเดีเพราะเป็นเนินเชิงเขา จุดสูงสุดเป็นห้องอาหารที่มีดาดฟ้าชมวิวได้ ตอนที่ไปก็เจอน้องผู้หญิงหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก 2 คน
ซึ่งดูโหงวเฮ้งแล้วคาดว่าน่าจะเป็นลูกสาวเจ้าของ อิอิ เชิญให้ขึ้นไปชมวิวที่ดาดฟ้าแต่บังเอิญไม่มีเวลามาก
เพราะยังหาที่พักไม่ได้เลยต้องขอตัว น่าเสียดายจัง








น้องเค้าบอกว่า ช่วงพระอาทิตย์ตกดินจะสวยมาก อยากเห็นจัง







เป็นรีสอร์ทที่น่าสนใจมากๆเลยทีเดียว ว่าแล้วไปสืบราคาเปิดตัวหน่อยดีกว่า อิอิ







เดินดินดูดาว


หลังจากนั้นก็ขับแวะดูรีสอร์ทหลายแห่ง แต่ก็ไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยในการไปเที่ยวคนเดียวแบบนี้ซักที เลยลองเข้าไป
ดูรีสอร์ทที่เห็นรีวิวมาบ้างดีกว่า





เคยเห็นรูปตามเน็ตแล้ว ถ้าไม่คิดว่าแวดล้อมไปด้วยภูเขาหัวโล้นและดูแห้งแล้งไปซักหน่อย โดยรวมก็ใช้ได้เลยทีเดียว
แต่มาเห็นของจริงแล้วแห้งกว่าในรูปอีกอ่ะ อิอิ แต่ก็ไม่เป็นไรมั้ง ห้องพัก (ในรูป) ก็โึอเคอยู่ นอนอยู่แต่ในห้องก็ได้ อิอิ
แต่ปรากฏว่าห้องเล็กเต็มหมด เหลือแต่บ้านหลังใหญ่ที่ว่างอยู่ ซึ่งไม่เหมาะกับการนอนคนเดียวเป็นอย่างยิ่ง






มุมต้นไม้นี้คลาสสิคดี เก็บภาพไว้ัซักหน่อย






ซูมๆๆ ว่าแต่ทำไมใบไม้เป็นสีนี้ได้นะ? แบบนี้เกือบจะตายยืนต้นหรือปล่าว?







ที่นี่ต้องขับรถเข้าไปลึกพอสมควรเลยทีเดีัยว







งั้นกลับดีกว่า







สรุปก็ยังไม่ได้ที่พักเลยจ้า ...







ภูธาราฟ้า ลำพระเพลิง



ขับไปเรื่อยๆจนผ่านลำพระเพลิงมาถึงจุดพักรถชมวิว แล้วมองไปสังเกตเห็นว่ามีรีสอร์ทใหม่ริมน้ำที่ดูโอเคมากๆอยู่ฝั่งโน้น ถามคนแถวนั้น
บอกว่าเป็นภูธาราฟ้า ดูน่าสนใจเลยขับย้อนกลับไปดูกัน เผื่อถูกใจจะได้ค้่างซะเลย







สถานที่บริเวณโดยรวมก็ใช้ได้ แต่ไม่มีต้นไม้ใหญ่เลย ถ้าอากาศไม่เย็นก็ตัวใครตัวมันเหมือนกันน่ะ







แต่ยังไม่วายขอดูห้องเผื่อไว้ซักหน่อย ไม่แน่ว่าในวันอากาศเป็นใจที่นี่น่าจะพอเป็นทางเลือกได้ รูปนี้เป็นห้องน้ำของห้องชั้น 2 .. กว้างขวางใช้ได้







ห้องใหญ่เลยทีเดียว หน้าต่างเยอะ โปร่งโล่งสบายดี แต่รีสอร์ทใหม่เงียบขนาดนี้ คนงานเดินขวักไขว่เพราะเหมือนยังไม่เรียบร้อยเท่าไหร่
และไปคนเดียวแบบนี้ คงไม่ไหวอีกตามเคย







เนื้อที่มาก ห้องพักเยอะ แต่ไม่มีต้นไม้ใหญ่เลย ร้อนง่ะ







บ้าน 2 ชั้นที่แวะดู ที่นี่จะมีบังกะโลชั้นเดียวริมน้ำด้วยน่ะ คิดว่าถ้าอากาศดีๆเย็นสบายลมพัดก็น่าจะสบายอยู่น่ะ







ปายรุ้งฮิลล์


ดูอาการแล้วคิดว่าแถวลำพระเำพลิงคงไม่ไหวแน่ เพราะร้อนเหลือเกิน เลยขับกลับวังน้ำเขียว ไทยสามัคคีดีกว่าเพราะเย็นสบายกว่าหน่อย
เลยแวะดูที่นี่หน่อย เห็นป้ายด้านนอกว่าเป็นรีสอร์ทใหม่ (อีกแล้ว) ...ทางเข้าเล็กๆแต่สีสันจัดจ้านน่าดู







พอขับเข้ามาจากถนนใหญ่นิดเดียวก็เจอเลย รีสอร์ทเล็กนิดเดียวแต่ดูผ่านๆก็น่ารักน่าสนใจ











ล็อบบี้ตกแต่งไปแนวบาหลีนิดๆแต่ดูเหมือนขาดๆเกินๆบอกไม่ถูก แต่ที่แน่ๆสีสันน่าจะโดนใจใครหลายคนแน่ๆ







มุมทานอาหาร ชอบร่มมาก







เน้นร่มกันอีกซักที ที่นี่มีมุมเก๋ๆน่ารักเยอะเชียวล่ะ











ที่นี่มีห้องพักแ่ค่ 3 หลัง 3 ขนาดและมีดาดฟ้าแบบนี้ 2 หลังเล็ก







บ้านพักอยู่ฝั่งตรงข้ามล็อบบี้







มุมโต๊ะเครื่องแป้งของบังกะโลหลังกลางที่ห้องเล็กที่สุด







ผนังห้องนอน ห้องน้ำสีเจ็บมาก







ห้องนอนใหญ่ นอนได้หลายคน และสีม่วงงงงง !!!







มีห้องครัวให้อีกต่างหาก จริงๆแล้วที่นี่ก็น่ารักสดใสดี แต่ตกแต่งขาดๆเกินๆไปนิด เห็นว่าเพิ่งเปิด อะไรต่ออะไรอาจจะยังไม่ลงตัว
ต่อไปน่าจะเข้าที่เข้าทางกว่านี้ งั้นตอนนี้ผ่านก่อนล่ะกัน







ํThe green


ขับเข้าไทยสามัคคี ผ่านอบต.ไปเรื่อย (และแวะบ้างแ่ต่ผ่านโลดๆๆ) เห็นป้าย the green ริมทาง ฟังดูแล้วน่าจะได้อยู่เลยขับตามป้าย
ไปจนมาเจอว่าอยู่ซอยเดียวกับบ้านไร่โอโซนเลยแวะเข้าไปลองเสี่ยงดูทั้ง 2 ที่ ปรากฏว่าเหมือนที่คิดคือบ้านไร่โอโซนเต็ม งั้นซอยนี้
ก็เเหลือความหวังเดียวคือ The green ... วันนี้ขับฝ่าดงฝุ่นมาเยอะ พอมาถึงที่นี่แล้วเออ.. โอแฮะ สนามหญ้าเขียวดี ดอกไม้เยอะด้วย
สวยด้วย งั้นปักหลักที่นี่เลยแล้วกัน (คิดเอาเองหมด อิอิ)







่ร่มรื่นไม่พอ ... มีสระว่ายน้ำด้วยยย กรี๊ดดๆๆ







จะเอาทีนี่อ่ะ....







ทำเลบ้านพักก็ใช้ได้ สวยเลยทีเดียว จะเอาๆๆๆ







แต่ถึงแม้อยากจะพักแค่ไหนก็อดอยู่ดี เพราะเต็มอีกแล้วคร้าบ สรุปโดยรวมแล้วที่นี่ถือว่าโอมากเลยน่ะ เสียดายที่ห้องพักไม่ค่อยสวย
ตกแต่งเชยไปหน่อย แถมเตียงก็ไม่ใช่อีก เ่อ่อ คือว่าหัวเตียงมันดูไม่เข้ากับบรรยากาศโดยรวมของรีสอร์ท แหะๆ แหม ถ้าเปลี่ยนเีตียงให้ดูทันสมัย
เรียบเก๋ ก็จะดูน่าพักกว่านี้แน่ๆ (บร๊ะ แม่ีคนนี้เรื่องมากจริงวุ๊ย)






เดอบัว วัลเลย์ รีสอร์ท


ความหวังสุดท้ายอยู่ที่เดอบัว ... แม้ต้องขับรถฉีกเส้นทางไปอีกหน่อยก็เอา ขอลุ้นดูอีกซักตั้ง เพราะุถ้าไม่ได้ที่นี่ก็กลับไปสตาร์เวลล์ ที่เล็งไว้ก่อนหน้านี้ก็ยังทัน






อืมมม ... ไม่ค่อยเหมือนในรูปที่เห็นตามเน็ตซักเท่าไหร่ ผิดหวังเล็กๆ อาจะเป็นเพราะอากาศไม่เป็นใจหรือปล่าวไม่รู้น่ะ






แต่ห้องใหญ่สะอาดโอเคเลย







มีห้องหลายแบบ แต่ขอดูห้องเรือนแถว จำชื่อไม่ได้แระ







เตียงเสริมได้หลายคนเลยนะเนี่ย







ห้องตกแต่งเรียบง่าย







ผ่านเดอบัวไปอีกแห่ง






สรุป... ว่าัวันนี้ออนทัวร์ ขับรถค่อนวันเซอร์เวย์หาที่พักที่ัวังน้ำเขียวกัน เห็นที่พักหลายหลากและทุกแห่งก็มีข้อแม้ต่างกันไป
ไม่ว่าห้องใหญ่เกินไป ห้องเต็ม ห้องราคาสูงแต่ไม่โดนใจ หรือสภาพแวดล้อมของรีสอร์ทที่ไม่ค่อยเป็นใจแฮ่ะ

ปล... ที่ดีใจขนาดนั้นเพราะรีสอร์ทบางแห่งที่แวะไปดู ราคาสองพันแต่ไม่มีแอร์ยังมีน่ะ ขอบอก
ซึ่งถ้าอากาศปรกติไม่วิปริตเหมือนปีนี้ก็คงสบาย ดีไม่ดี อากาศเย็นจนไม่ต้องใช้พัดลมเลยด้วยซ้ำ แต่ปีที่แล้วกรุงเทพเย็นอยู่ 2 วันค่ะ !!!