บ ล็ อ ค จ า ก ท ริ ป เ ดี ย ว กั น จ้ า

:: One fine day @ สวนผึ้ง

:: มื้ออร่อยที่ครัวกระเหรี่ยง สวนผึ้ง

:: บ้านหอมเทียน สวนผึ้ง

:: น้ำค้างยอดหญ้า โบเก้อูฟูจากพนาลี


ไปสวนผึ้งคราวนี้ขอนอนที่พนาลีดีกว่า จริงๆแล้วไม่ได้นึกถึงที่นี่เลย ก็กำลังหาๆที่พักอยู่
ครั้นจะไปพักแนวบ้านอ้อมกอด, nagaya (ทั้งๆที่จองเอาไว้แล้ว 2 ห้องก็ต้องยกเลิก
กระทันหันเพราะคิดไปคิดมาแล้วห้อง naked , nude, nest อะไรคงไม่เหมาะกับ
คุณตาคุณยายน้องโจซักเท่าไหร่ อิอิ) ส่วนThe camp ก็โอเค แต่คงจะร้อนเอามากๆ
The scenery นั้นไม่ต้องพูดถึง ห้องเต็มกันข้ามปีกันเลย จนได้มาคุยกับคุณ Sunsmile
ที่แนะนำที่นี่มา เลยร้องอ๋อ ... เพราะเคยเห็นมาบ้างและเคยอยากพักมาแล้ว ลองโทรจองดู
ห้องก็ว่างจริงๆ เลยได้พักพนาลีแบบไม่ได้แปลนแบบนี้ .. ขอบคุณคุณซันด้วยที่ช่วยเตือน
ความจำในวันนั้นน่ะค่ะ

ปอลิง ... บล็อคนี้รูปแอบเยอะมากมายมหาศาล โหลดกันช้านิดขออภัยด้วยค่ะ นิสัยเสีย
แก้ไม่หายซักที ไอ้โรคถ่ายเยอะ เลือกรูปไม่ได้ เหมาหมดแบบเนี่ย

พนาลี พนาลี โฮม แอนด์ แคมป์ปิ้ง ( Panalee home & camping)
นี้อยู่เส้นเดียวกับ The scenery และธารน้ำร้อนบ่อคลึงนั่นแหล่ะค่ะ คือเข้าสวนผึ้งมา
แล้วเลี้ยวขวาตรงภูผาผึ้ง และขับเข้ามาอีกราวๆ 8-10 กม.ก็จะถึงรีสอร์ทอยู่ทางขวามือน่ะค่ะ










ช่วงที่ไปพัก แม้จะเป็นหน้าร้อน ที่ร้อนจัด แต่ก็มีฝนเข้าช่วงบ่ายๆแทบทุกวัน
มองไปทางไหนเลยไม่แห้งแล้งอย่างที่ควรจะเป็น










ไม่รอช้า เข้าห้องพักกันดีกว่า เราพักกันที่ห้องเหลืองจันทร์กันค่ะ ราคาวันธรรมดา 2000
บาท แต่ขอเตียงเสริมอีกเตียง 300 บาทรวมอาหารเช้า










ห้องพักกว้างขวางและออกแบบ ตกแต่งได้น่ารัก เป็นสัดส่วน น่าพักดี









มีห้องมุมนั่งเล่นภายในห้องด้วย จริงๆแล้วราคาห้องพักเท่ากับบ้านอ้อมกอดขุนเขาเลย
แต่ห้องพักที่นี่กว้างขวางกว่ามาก ส่วนตัวคิดว่าชอบที่นี่มากกว่า เพราะให้ความรู้สึก
เหมือนอยู่บ้าน อบอุ่นมากกว่า และคงเป็นไปตามวัยด้วยแหล่ะ อิอิ









ห้องน้ำปูนเปลือย เรียบง่ายแต่น่ารักดี










ห้องนั่งเล่น มองเห็นจากในห้องน้ำเลย










รีสอร์ทยังใหม่อยู่มาก ทุกอย่างเลยยังดูสะอาดสะอ้านน่ามองอยู่











ห้องพักในมองมุมกว้างตามประสาเลนส์คิท ถ่ายจากโซฟาในห้องนั่งเล่น










ขยับมุมนิดนึงจะเห็นระเบียงหน้าบ้านด้วย ถ้าอากาศเย็นๆก็เปิดประตูรับลม รับวิวได้เต็มที่
แต่อีกใจก็กลัวมด ยุง แมลงเหมือนกัน










ระเบียงหน้าห้องพัก มีชุดโต๊ะ เก้าอี้เอาไว้นั่งจิบน้ำชา อ่านหนังสือ ชมวิว
แต่ตอนที่ไปแทบไม่ได้ใช้เลยเพราะไม่ร้อนจัดก็เจอฝน หรือว่าออกไปเที่ยวข้างนอก











ถ่ายในห้อง นอกห้องอีกที










บรรยากาศโดยรอบ สวยงามใช้ได้เลยทีเดียว และที่เกินคาดอยู่มากคือวิวหน้าบ้านพัก
เพราะที่นี่อยู่บนเนิน และเป็นรีสอร์ทหน้ากว้างมาก เปิดรับวิวได้เต็มๆแถมยังเป็นวิว
ภูเขาที่โอบล้อมแบบพาโนรามาเลย










บรรยากาศดี น่าเดินเล่นถ่ายรูปเป็นที่สุด










แสงงามๆ










ชอบจังเลย











ดูห้องอื่นๆมาบ้าง ห้องนี้เป็นห้องเอื้องเงิน ราคาแพงกว่าเหลืองจันทร์ 500 บทเพราะกว้าง
กว่านิดหน่อย แถมเตียงนอนจะอยู่ตรงประตู นอนไปชมวิวไปได้เลยเต็มๆ เริ่ด !!!










ห้องช้างกระ มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งล่นแยกส่วน มาเป็นครอบครัวใหญ่
ก็สะดวกสบายดี ราคาวันธรรมดา 4500 วันหยุด 5000 เสริมเตียงนอนได้สองที่














เดินถ่ายรูปดอกไม้ ต้นไม้ ใบหญ้า เพลินดี










เห็นแมลงปอแว๊บเดียว คว้ากล้องแทบไม่ทัน











ลีลาวดีร่วงเต็มไปหมด










มุมน่ารักๆที่หน้าห้องน้ำในส่วนล็อบบี้










เดินตากแดดเล่นๆ ลัลล้า ดำดีจัง











ขึ้นไปบนดาดฟ้า ถ่ายบ้านเอื้องมณี เพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน











อากาศปรวนแปรมาก เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝน เดี๋ยวหมอกลง โอ๊ย .. แขกงง









ชิงช้ามีสองตัวโรแมนติกเชียว










กว้างๆจะเห็นบ้านเหลืองจันทร์อยู่ตรงกลางเลย










มุมฮิต จักรยานเอาไปขี่เล่นได้น่ะจ๊ะ










ถ่ายจากระเบียงหน้าห้องพัก อึมครึมดีแท้ ท้องฟ้าแบบนี้ถ่ายรุปไม่สวยหรอก แต่แปลก
ที่มาเที่ยวหน้าร้อนอยากเจออากาศแบบนี้แฮ่ะ










ตั้งใจจะนั่งทานอาหารเย็นที่ห้องอาหาร แต่ฝนดันตก แถมตกหนักซะด้วย เลยต้อง
ย้ายเข้าไปทานในห้องพักแทน กลัวฝนสาดไหนจะดอกฝนอีก เป็นหวัดเป็นไข้กันแหงๆ











ถ่ายจากในห้องนั่งเล่น แหม ... หลังฝนตก อากาศดี บรรยากาศดีจัง











มองไปทางไหนก็ชุ่มชื่น ชุ่มช่ำ เขียวไปหมด










ฝนหยุดแล้ว เห็นหมอกลอยอ้อยอิ่งอยู่ที่แนวเขาลิบๆ ชอบจัง











นึกว่าจะไม่ได้เห็นท้องฟ้าสวยๆตอนพระอาทิตย์ตกดินซะแล้ว เพราะฝนเพิ่งหยุดตกไป
แต่กลับเห็นท้องฟ้าใสราวกระจก สวยถูกใจมาก จริงๆแล้วกดมาไม่ยั้งเลย แต่บล็อคนี้
ท่าทางจะยาว เอาไว้จะแยกบล็อคให้ดีกว่า










เห็นหลายโทนมาก แต่ขอเอามาเก็บไว้ที่นี่ซักสามสีแล้วกัน รูปแทบจะไม่ได้ปรับอะไรเลย
ท้องฟ้าวันนี้สวยจริงๆ มันสวย ใส บอกไม่ถูก











อีกโทนนึง ก่อนแสงสุดท้ายของวันจะหมดไป นี่ถ้าไม่ได้อาม่า 70-300 แล้วแย่แน่











รูปนี้เหลืองแดงไปหน่อยเพราะใช้ WB เป็น cloudy











รวมๆมาฝากเป็นน้ำจิ้มค่ะ










เก็บภาพกลางคืนไว้นิดหน่อย










ถ่ายไม่ค่อยสะดวก คืนนี้เรียกหมอนวดมานวดแผนไทยให้คุณตาคุณยายในห้องพักด้วย
เค้าคิดชม.ล่ะ 200 สองชั่วโมง 350 บาท











ขออีกรูป










เช้าวันรุ่งขึ้นก็ตั้งใจตื่นแต่เช้ามาดูพระอาทิตย์ขึ้นและดูหมอกด้วยเพราะถามชาวบ้าน
แถวนั้นบอกว่าช่วงเช้ายังมีหมอกลงอยู่ และตื่นเช้ามาเจอหมอกจริงๆ










เอาหมอกมายั่วจิ๊บๆแล้วกันค่ะ เพราะเอารูปหมอกยามเช้าไปไว้ในบล็อค one fine day
แล้ว คลิกดูได้ที่ลิงค์ข้างบนน่ะค่ะ











รวมมาเล่นๆ










อาหารเช้าเรียบง่าย










นั่งทานกันที่นี่ค่ะ








ปิดท้ายด้วยวิวจากบนดาดฟ้าที่ห้องพักตอนฟ้าใสแดดเปรี้ยงแล้วกันค่ะ
















และรูปท้องฟ้าวันฟ้าใสแดดเปรี้ยงๆเต็มๆของสวนผึ้ง (ยืมรูปมาจากบล็อคโน้นอีกที อิอิ)









สนใจก็ลองดูเวบของพนาลีก็แล้วกันจ้า ==> Panalee home & camping สวนผึ้ง


ขอบคุณที่ไปเที่ยวสวนผึ้งด้วยกันและแวะทักทายกันค่ะ