3เดือนแรกผ่านไปใน JaPaN ปรับตัวๆๆ HeLLooooo!!! มีใครอยู่บ้างมั้ยคะ ถ้าผ่านมาทางนี้ช่วยแวะมาทักทายกันหน่อยเด้อคร้า ร้างราบล็อกไปนานมากๆ ขอมาอัพเดทชีวิตน้อยๆ ที่ล่องลอยมาหล่นอยู่แดนศิวิไลซ์แห่งนี้ ก็คือ ประเทศญี่ปุ่น เป็นการถาวรค่ะ แบบถูกต้องตามกฎหมายเรียบร้อย นับจาก 27 ธันวาคม 2012 ถึงวันนี้ ก็ผ่านมาสามเดือนแล้ว ถือเป็นช่วงแร๊กที่ต้องปรับตัวปรับใจปรับอารมณ์ ปรับเยอะมากโดยเฉพาะอารมณ์ ที่แปรปรวนง่ายเป็นพิเศษ กว่าจะเข้าที่เข้าทาง เล่นเอาซ๊ามีเหนื่อยเลย หุหุ รู้สึกผิด ง่ะ หลักๆ ที่เจอในช่วงเดือนแรกๆ นั้น นึกได้คร่าวๆ ดังนี้ค่ะ 1.อากาศ วู้ๆๆ ลมพัดเย็นสบาย ชอบๆอากาศหนาว เพิ่งมาจากเมืองร้อนก็รู้สึกแบบนี้ อยู่สักพักเข้าเดือนมกรา อูยยย หนาวหนักกว่าเดิม ไม่สบายแหละ หนาวเกิ๊น หนังหน้าเริ่มตึง ผิวเริ่มแตก รีบชโลมครีมด่วน อาบน้ำเสร็จ ไม่อยากจะเอื้อมมือไปเปิดประตู ยืนแช่ นอนแช่มันอยู่พักใหญ่ กว่าจะย่างกรายไปแต่งตัวได้ อยู่สักเดือนนึง ก็เหมือนจะชินแต่ถ้าหนาวจัดๆ ก็ไม่ไหวนะคร้า 2.ความเงียบ มาแรกๆ ไม่มีเพื่อน ไม่มีญาติ ไม่มีคนแถวบ้านรู้จัก มีแต่ซ๊ามี พอฮีไปทำงาน เราก็รูดซิบปากอยู่บ้าน อยู่คนเดียว ทำได้อย่างมากก็แชทกะเพื่อน จะโทร line skype ไปคุยกะคนนั้นคนนี้ ก็ทำงานกันหมด เฮ้อออ ทำไมช่างเงียบเหงา จากเราเป็นคนที่พูดมันทั้งวัน เจอผู้คนมากมาย นี่ต้องมาอยู่คนเดียวในบ้านแบบนี้ ความฟุ้งซ่านก็บังเกิดดดด กลายเป็นชนวนของการหาเรื่องทะเลาะกับซ๊ามีโดยใช่เหตุ 3.ความขี้เกียจ ช่วงแรกที่มา อากาศหนาวเย็น ที่ตั้งของบ้านแดดก็ส่องไม่ค่อยจะถึง ทำให้รักษาอุณหภูมิเย็นได้ตลอดวัน จะขยับทำงานบ้าน ก็นั่งแช่อยู่พักใหญ่ วันไหนขยับก็ขยับทั้งวัน ทั้งสมองและสองมือ วันไหนไม่ขยับก็นิ่งมันทั้งวัน อะไรของมัน งงๆ ผิดกับอยู่ที่ไทย ไม่เคยนิ่งนานเป็นชั่วโมงนอกจากนั่งทำงาน เผลอไม่ได้ เป็นขยับทั้งปาก มือเท้า สมอง ขยับทุกส่วนของอวัยวะก็ว่าได้ 55+ 4.ความไม่มีอะไรทำ อยู่บ้านทั้งวันทำไรดีล่ะ ดูทีวี อ่านหนังสือ มีแต่ภาษาญี่ปุ่นก็มึนๆๆ ฟังแต่ภาษาญี่ปุ่นก็ไม่ได้ดีขึ้น ฟังมากก็ปวดหัว เล่นเกมส์ แชท เฟส บลาๆๆๆ 5.หงุดหงิดง่าย อ่อนไหวต่อคำพูด สืบเนื่องจากความฟุ้งซ่านที่บังเกิด เป็นเหตุให้จิตใจไม่อยู่กะเนื้อกะตัว คราวนี้ซ๊ามีพูดอะไร ก็คิดไปเอง เออเอง เอ้า บ้าไปแล้วว ทำเอาเค้างงกันไปเลย ว่าเปงไรของมันนนน ก็นอยกันไปพักใหญ่อยู่กะอาการแบบนี้ของเรา 6.ขี้เอาแต่ใจ ขี้อ้อนสามี เพราะมีเธอคนเดียวในประเทศนี้ ในบ้านหลังนี้ โลกของฉันจึงเหมือนว่ามีแต่เธ๊ออออ เพ้อไปๆ เพราะสภาพแวดล้อมไม่มีใครนี่แหละ (จะพูดทำไมเนี่ยประเด็นนี้) หลังๆ เริ่มดีขึ้นค่ะ เริ่มสรรหาสถานที่เที่ยวของตัวเองและ 7.อาหารการกิน ไม่เป็นปัญหาช่วงแรก ไม่ได้อยากอาหารไทยอะไรมาก เรื่องน้ำพริก ปลาร้า ปลาแจ่ว อยู่ไทยก็ไม่กินอยู่แล้ว แต่มันติดตรงอย่างอื่น เช่น ยำๆๆ ทั้งหลาย เย็นตาโฟของโปรด ฯลฯ หากินก็ยาก อยู่มา 3 เดือน เริ่มอยากกินขึ้นมาแล้วววว 8.การขับถ่าย เดือนแรก อืดมาก ถ่ายยากขอบอก ผ่านไปเดือนนึงก็ดีขึ้น จบ 9.วัฒนธรรม นิสัย และความเป็นอยู่ต่างๆของคนญี่ปุ่น 10. การปรับตัวของเราสองคน เวลาเกิดเรื่องทะเลาะ ถกเถียงกันก็ต้องคุยกันมากๆ ต้องอดทนมากๆ ต้องผ่อนปรนบ้าง เห้ออ เรียนรู้ไป ชีวิตคู่เนอะ ทั้งหมดทั้งมวลมานี้ เผื่อใครจะมาญี่ปุ่นแว๊ปเข้ามาอ่าน หวังว่าจะเป็นประโยชน์ได้บ้างนะคะ ชีวิตในต่างแดนมันก็ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินความอึดของสาวไทยหรอก 555+ เดี๋ยวพอคล่องแล้ว คราวนี้บินโลดดด แผนการต่อไปของเรา คือ การสอบใบขับขี่ญี่ปุ่น ค่ะ จะเป็นไงต่อ ไว้จะมาเล่าให้ฟังอีกนะคะ (ปล.คนฟังหายหมดแว้ววว) ปิดท้ายด้วยภาพหน้าบ้านล่ะกันค่ะ じゃねええ แวะเข้ามา ส่งกำลังใจคะ คนมาอยู่ไกลบ้าน จะเป็นเหมือนกันทุกคนเลยนะคะ ไม่ว่าจะอยู่ประเทศอะไร
เวลาจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นจริง ๆคะ สู้ ๆ นะคะ แอบอิจฉาคนอยู่ ญี่ปุ่น ช่วงนี้ ดอกซากุระ แสนสวย คงบานเต็มเลยนะคะ โดย: tukata001 วันที่: 5 เมษายน 2556 เวลา:7:34:27 น.
ภู่จัง! ภู่จัง! ภู่จัง!
ย้ายมาอยู่ญี่ปุ่นแล้วเหรอ ยินดีด้วยนะครับ ภู่จัง กับ เจนจัง เราว่าเป็นไงบ้าง เจนจังยังไม่อัพเดท ภู่จังอัพเดทแล้วเนอะ ดีใจจังเลย เราอยู่ไกลกัน แต่ไม่มีปัญหาครับ เพราะสมัยนี้มีอินเตอร์เน็ตใช่มั้ยล่ะ โดย: กูจิ (international ) วันที่: 5 เมษายน 2556 เวลา:15:50:57 น.
หาอะไรทำค่ะ ไปเรียนภาษาดีที่สุด บางทีครูเขาพาเที่ยวพาไปกินด้วย(เคยเรียนกับโวลันเทียร์แล้วครูพาไปนะคะ ไปชมดอกไม้, ไปทานบุฟเฟ่ต์ในโรงแรมดังๆ ฯลฯ)
แล้วก็จะได้มีเพื่อนที่อ่อนภาษาเหมือนๆ กัน จะได้ปรับทุกข์กันได้ และชวนกันไปเที่ยวได้ จะได้ไม่เหงาค่ะ โดย: Kitakaze วันที่: 7 เมษายน 2556 เวลา:9:39:27 น.
ยังไม่อ่านหมด อ่านแค่ 1.~4. ย้ายมาอยู่ญี่ปุ่น หนาวเกินเหรอ เดี๋ยวจะอุ่นขึ้นครับ
เราหาคนนี้ในเน็ตมาครับ ชื่อเค้า นาย Pinthong Anuchit มาจากจ.สุพรรณบุรี อยู่ Kumamoto 14 ปี (ญี่ปุ่น) //www.pref.kumamoto.jp/soshiki/3/asian10.html (อังกฤษ pdf file) //www.pref.kumamoto.jp/uploaded/attachment/69662.pdf (facebook ของเค้า) https://www.facebook.com/anuchit.pinthong เค้ามีร้านอาหารไทย(=เจ้าของ) ชื่อร้าน Pin Tong ใกล้ๆ สำนักงานอำเภอเมือง Kumamoto (=熊本市役所の近く) ครับ //kumamoto.nasse.com/shop_vew/9287?tab=top เราว่าที่ Kumamoto ไม่ค่อยมีคนไทย เค้าคงจะดีใจ และเค้าทำงานระหว่างเมืองไทยกับญี่ปุ่น ภู่จังพูดญี่ปุ่น เค้าอาจจะแนะนำงานดีๆ ครับ ไปกินข้าวที่ร้าน Pin Tong แล้วติดต่อเค้า เราว่าดีกว่าครับ ที่ Kumamoto มีคนไทยอีก 1 คนครับ ชื่อเค้า นาง Iida Nopu Pawan มาจากจ.สุโขทัย อยู่ Kumamoto 20 ปี (ญี่ปุ่น) //www.pref.kumamoto.jp/soshiki/3/asian15.html (อังกฤษ pdf file) //www.pref.kumamoto.jp/uploaded/attachment/72549.pdf เราว่านาย Pinthong Anuchit คงจะทราบนาง Iida Nopu Pawan ครับ Enjoy your life in ประเทศญี่ปุ่น นะครับ โดย: กูจิ (international ) วันที่: 7 เมษายน 2556 เวลา:20:43:25 น.
อีกเดี๋ยวก็ชินค่ะ
พี่ไม่แน่ใจว่าคุมาโมะโตะที่ภู่อยู่ เป็นย่านไหน ใกล้หรือห่างไกลจากตัวเมืองนะคะ ยังไงขอเป็นกำลังใจให้ได้เจอเพื่อนที่นิสัยดี น่ารัก ๆ อย่างน้อยก็ซักคนค่ะ ^^ โดย: fahtsuki IP: 111.64.76.225 วันที่: 8 เมษายน 2556 เวลา:21:49:02 น.
ขอบคุณพี่ๆ ทุกคนที่มาให้กำลังใจนะคะ
สำหรับคุณกูจิ ขอบคุณมากค่ะสำหรับข้อมูลดีๆ ภู่ไปกินอาหารไทยร้านเค้ามาพอดีเลยค่ะ เจอพี่เค้าด้วย แล้วเค้าขอแอดเฟส ตอนนี้เป็นเพื่อนในเฟสเรียบร้อยแล้วค่ะ ส่วนอีกคนที่อยู่คุมาโมโต้มา 20 ปี เดี๋ยวจะลองไปหาในเฟสดูค่ะ สำหรับคุณ Kitakaze เหมือนว่าภู่จะเคยเข้าไปแว็ปๆส่องบล็อกอยู่นะคะ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ ตอนนี้หาเพื่อนได้คนนึงจากการไปเรียนภาษากับvolunteerเมื่อวันก่อนนี่เองค่ะ สนุกดีด้วย เริ่มมีอะไรให้ทำมากขึ้นแล้วอิอิ พี่ฟา ไม่รู้ว่าชินระดับไหน แต่ก็ปั่นจั๊กขยายวงกล้างไกลไปเรื่อยๆ แล้วอ่ะ ออกแนวเริ่มโลดแล่น55 โดย: จขบ เองจร้า (~@JaPPanNy@~ ) วันที่: 10 เมษายน 2556 เวลา:12:29:12 น.
แวะมาเยี่ยมจ้าาา..
เดี๋ยวก็ชินเนาะ พอภาษาแข็งแรงได้งานทำก็จะดีขึ้นจ้ะ คุมะโมโต้รู้สึกว่าจะมีคนไทยอยู่หลายคนเหมือนกันนะ แต่จะส่วนไหนของจังหวัดเท่านั้นเอง บางคนก็อยู่ออกนอกๆเมืองหน่อย บางคนก็อยู่ในตัวเมือง อาทิตย์ก่อนป้าโซไปที่ยะมะกะ ไปเที่ยวซื้อหน่อไม้ ยังคิดถึงเพื่อนๆที่อยู่คุมะโมโต้ แต่มันกว้างเนาะ .. ก็เขาทั้งลูก สู้ๆนะจ๊ะภู่จัง โดย: ป้าโซ วันที่: 12 เมษายน 2556 เวลา:18:44:28 น.
|
เราเองก็แต่งงานมาอยู่ญี่ปุ่นได้ เกือบๆ 1 ปี (ครบในวันที่ 15 เมษา นี้)
อาการที่คุณ จขบ ประสบอยู่นั้น ตัวเราเองก็เคยเจอนะ แต่เราก็จะไม่ทำตัวให้ว่างนะ ทำงานบ้าน อ่านหนังสือ สำรวจห้างแถวบ้าน และก็ไปเรียนภาษาด้วย
เดี๋ยวนี้เราเริ่มดี ขึ้นมาบ้างแระ เป้าหมายคุณ เหมือนเราเลย คือ จะต้องไปทำใบขับขี่จ๊ะ
และจะคอยเข้ามาอ่านบล็อคเรื่อยนะ เป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ