วันนี้เป็นวันเกิดของพี่เบอร์รี่ค่ะ  ก็เลยนึกครึ้มอยากทำขนมให้พี่เบอร์รี่ดูบ้าง

ใจตุ้มๆ ต่อมๆ เหมือนกันนะคะ กลัวพี่เบอร์รี่เมิน ฮ่าๆๆๆ  

แต่ในที่สุดก็กลายเป็นว่าผ่านฉลุยค่ะ พี่เบอร์รี่ชอบมาก ก็เลยคิดว่า

พี่หมาน้องหมาที่บ้านเพื่อนๆ อาจจะชอบเหมือนกันก็ได้ค่ะ

แก้มดัดแปลงสูตรนี้มาจากหนังสือ Dessert by the yard ค่ะ  เห็นคุ้กกี้สูตรนี้มานานแล้ว

 ก็ว่าจะลองหลายที  ในที่สุดก็ได้ลองจนได้ค่ะ  โดยมีพี่เบอร์รี่เป็นพยานว่าอร่อยกั๊บบ

ส่วนผสมสำหรับน้ำซุปไก่

เนื้ออกไก่ หรือสันในไก่  120  กรัม

น้ำสะอาด

ต้มน้ำ ครึ่งลิตรให้เดือด เสร็จแล้วใส่เนื้อไก่ลงไป ปรับไฟให้อ่อนลงเคี่ยวไปเรื่อยๆ

จนน้ำซุปไก่เหลือประมาณ 175 มล. ค่ะ

จากนั้นตักเนื้อไก่ออก นำไปปั่นให้ละเอียด ส่วนน้ำซุปไก่ พักไว้ให้เย็นค่ะ

ส่วนผสมสำหรับคุกกี้พี่เบอร์รี่

ไข่ไก่  2  ฟอง

น้ำผึ้ง  15  กรัม

น้ำมันพืช  15  กรัม

น้ำซุปไก่ 175 มล.

เนื้อไก่ต้มสุกบดละเอียดในตอนต้น

คอร์นมีล  70  กรัม

แป้งโฮลวีท  400  กรัม

นำคอร์นมีล  แป้งโฮลวีทใส่โถผสมรวมกัน  ทำช่องตรงกลาง

ตอกไข่ใส่ลงไป  2  ฟอง ตามด้วยน้ำผึ้ง น้ำมันพืช น้ำซุปไก่

ใช้พายไม้ คนให้เข้ากันดีค่ะ

เสร็จแล้วใส่เนื้อไก่ต้มสุกบดลงไป  ใช้มือนวดจนโดว์เนียนเข้ากันดี

ไม่ต้องถึงขนาดนวดแบบโดว์ขนมปังจนขึงฟิล์มนะคะ

แค่ผสมให้เข้ากันดี ทั่วๆ กันเท่านั้นค่ะ

เสร็จแล้วใช้พลาสติกแร็ปใส่ตู้เย็นทิ้งไว้ประมาณ 1 ชม.ค่ะ

เมือครบกำหนดเวลา ก่อนนำโดว์ออกมา ก็เริ่มวอร์มเตาอบ

เปิดทั้งไฟบนและล่างค่ะ ที่ 180 °C

นำโดว์ออกมา ทาแป้งนวลให้ทั่ว แล้วใช้ไม้รีดแป้งให้หนาประมาณ 1/2 นิ้ว

ใช้ที่ตัดคุกกี้ตัดตามชอบค่ะ

งานนี้แม่แก้มมีผู้ช่วยป่วนอยู่ข้างๆ  สนุกสนานกันเลยทีเดียว

นำโดว์ที่ตัดได้ เรียงใส่ถาด รองด้วยกระดาษรองอบ  และทาหน้าคุกกี้ด้วยไข่ไก่บางๆ ค่ะ

(ไข่ไก่ 1 ฟอง ตีให้แตก)

งานนี้ลูกหมูลงแรงเต็มที่เลยลูกเอ๊ยย  

นำเข้าอบไฟบนและล่าง 180 °C ประมาณ 20 นาทีค่ะ

เมื่อสุกพักให้เย็น ผึ่งบนตะแกรง ก่อนเก็บใส่ขวดโหลค่ะ

ถ้าจะไม่ให้น้องหมาเลยในทันที ก็เก็บใส่ตู้เย็นไว้ค่ะ 

แต่ตอนนี้บ้านแก้มอากาศเย็นมาก ไว้ข้างนอกก็คงไม่ต่างกัน อิ อิ

ตอนแรกกะว่าถ้าพี่เบอร์รี่เมิน คงไม่ได้เขียนบล็อกนี้แน่นอน ฮ่าา

แต่ถ้าพี่เบอร์รี่ว่าผ่าน แม่แก้มคิดว่า  น่าจะโอเคค่ะ

อร่อยๆ นะคะ 

แก้มคิดว่าสามารถเปลี่ยนเป็นรสอื่นได้นะ เช่นถ้าเกิดอยากทำรสปลา ก็แค่เอาปลามาต้มเป็นน้ำซุปปลา

ใส่เนื้อปลาบดลงไป แต่อย่าใส่เกลือลงไปในอาหารเด็ดขาด เท่านั้เองค่ะ

ปล่อยให้รสเป็นธรรมชาติไปน่าจะดีกว่าค่ะ