เดินสายไหว้พระรอบๆพระนคร ปิดท้ายด้วยของอร่อยริมถนนมังกรกันจร้าาา


ในสภาวะบ้านเมืองยุคโควิดแบบนี้ บางทีก็ทำท้อใจไปกับการใช้ชีวิต
อยู่เหมือนกันนะคะ . . อยู่บ้านมากก็เบื่อ ออกนอกบ้านก็เครียด ทำอะไร
ก็เหมือนจะติดๆ ขัดๆไปหมดชีวิต . . ส่วนจิตใจนับวันก็ยิ่งห่อเหี่ยวลงๆ ทุกวัน
ไม่รู้ทำไม . . เปิดโทรศัพท์ก็เจอแต่ข่าวฆ่ากัน เด็กตาย พ่อข่มขืนลูก . .
โคตรจะปวดหัวใจ  เลยคิดว่า. . ก็คงจะดีนะ ถ้าเราเลิกเสพโซเชียลสักพัก
เปลี่ยนไปอยู่กับต้นไม้ในสวนบ้าง  หรือว่างๆ ก็ออกเดินดูผู้คน
เข้าวัดทำบุญ ดูว่าโลกภายนอกเค้าปรับตัวเข้าสู่

สภาวะ New Normal กันอย่างไรบ้าง


วันนี้หนอนก็เลยจะมาชวนทุกคนไปพิชิต   
#ภารกิจเพิ่มแต้มบุญ  กันค่ะ
จะพาไปทำบุญวัดแถบพระนคร เริ่มจากวัดพระแก้วก่อนเลย จากนั้นเดินต่อ
ไปที่ ศาลหลักเมือง ตามด้วยวัดโพธ์ วัดอรุณ แล้วไปจบที่วัดมังกร
ที่เยาวราช . . ปิดท้ายของด้วยการเดินหาของอร่อยๆ
ในย่านเยาวราชกินก่อนกลับบ้านกันค่ะ . . ลืมบอก บล็อกนี้
สดๆ ร้อนๆ เพิ่งไปมาวันอาทิตย์ที่ผ่านมานี้เองค่ะ


เหมือนเดิมคือ . . เหมือนจะยาวมว๊ากกกกก อีกแล้วๆ
ตอนแรกว่าจะแบ่งเป็น 2 EP แต่ คือ เมริง นังหนอน แค่พาเขาไปทำบุญ
ไม่กี่วัดแค่นี้ จำเป็นต้องแบ่งตอนลงบล็อกกันเลยเร๊อะ . .
แลดูเยอะไป ดังนั้น . . ก็เลยรวมกันไว้แบบยาวเหยียดอย่างที่เห็นนี้ . . 55+
เอาเป็นว่า . .จะพยายาม โม้ไม่เยอะนะคะ (ทำได้ร๊อออววว)
จะได้รู้สึกว่า มันไม่ยาวไง๊ . . เคร น๊าาาาาาา ปะไปกัน . .


เริ่มจาก. .   
  สถานีที่ 1  วัดพระแก้ว    กันเลยนะจร้าาาา  . . 






ตอนแรกกะว่าจะนั่งเรือ. . จากท่าน้ำนนท์มากันเลย . . แต่คือ ไปๆ มาๆ ก็เอารถ
ไปจอดไว้เซ็นปิ่นฯ แล้วนั่งแท็กซี่มาลงสนามหลวงซะงั้น . . เหตุเพราะ
เพื่อนบ้านบอกว่า อยากกินชาไข่มุก แต่สุดท้ายก็ไม่ได้กินเพราะอิ่ม 55+
แต่ยังไงซะ . . ที่เซ็นปิ่นก็จอดฟรีไม่เสียค่าที่จอดรถ เพราะงั้น จึงไม่ต้องกังวล
เรื่องเงินในกระเป๋า ออกไปล่อนได้เต็มที่ . .วันนี้ . .
แดดร้อนมาก สนามหลวง โล๊งงง โล่งๆ . .


พี่แท็กซี่พาเรามาหย่อนไว้ตรงจุดคัดกรองจุดที่ 1 จะมีพี่ทหารคอย
ตรวจเช็คว่าใส่แมสหรือไม่ และตรวจวัดอุณหภูมิ . . 






ผ่านจุดคัดกรองแรก ก็ลุยเข้าวัดกันเลยค่ะ . . .   เชิญทุกคนเข้าร่มมาค่ะ
ไม่งั้น หน้าอาจขึ้นฝ้าได้ . . แดดขนาดนี้ ไม่ว่า SPF เท่าไร ก็เอาไม่อยู่นะคะ เหอๆ 






จุดคัดกรองที่สอง . . จะมีให้เช็คอิน แอพไทยชนะ หรือถ้าใครไม่มี . .
ก็ต่อคิว บันทึกลงเล่มเลยค่ะ . . ส่วนเรานั้น Scan QR Code จากนั้นก็ผ่านฉลุย




วัดพระแก้ว ณ ช่วงเวลา ที่ไม่มีทัวร์จีนอยู่ในประเทศ ก็จะเงียบๆ ประมาณนี้นะคะ . .  



สถานีแรกนี้ หนอนกับเพื่อน . . ได้เข้าไปสักกาะระพระแก้วมรกต




พร้อมกับนั่งสมาธิกันพักหนึ่ง . . อยากบอกว่า . . สำหรับคนที่มีจิตฟุ้งซ่าน(มาก)
แบบหนอน การได้นั่งสมาธิในที่นี่ เป็นอะไรที่ทำให้เราเข้าสมาธิได้เร็วมาก
รู้สึกสงบมาก . . คิดเลยว่า อาทิตย์ไหนว่างๆ จะแวะมาคนเดียว แล้วก็มานั่งยาวๆ
ไปเลยครึ่งวันเช้า หรือไม่ก็ครึ่งวันบ่าย . . . มีคนใส่ชุดขาว
เข้ามานั่งฝึกจิต กันอยู่พอสมควร. . .  (ในนั้นห้ามถ่ายรูป)




ไหว้พระเพื่อความเป็นศิริมงคล . .   ไม่มีเรื่องอะไรจะให้ขอ นอกจาก
ขอจิตที่สงบ  ให้คืนวันที่ยากลำบากในบางช่วงของชีวิตแบบนี้
ผ่านพ้นไปด้วยดีเถอะนะ . . จากนั้นก็ออกมาประพรมน้ำมนต์



ก่อนกลับเดินชม . . ประติมากรรมฝาผนังรอบๆ วัด ..
ชอบภาพนี้. .   กุมภกรรณ เสนอพิธีทดน้ำให้ทศกัณฐ์
 (ที่เห็นยักษ์ไปนอนกั้นเขื่อนไว้ฮาดี)  ที่จริงแล้วกุมภกรรณ
เป็นยักษ์ที่ตั้งมั่นในธรรม แต่ต้องออกรบช่วยทศกัณฐ์
เพราะเห็นแก่ความเป็นพี่น้อง  แต่พิธีทดน้ำก็ไม่สำเร็จ
เพราะโดนขัดขวางจากหนุมาน . . ศึกนั้น กุมภกรรณแทง
หอกโมกขศักดิ์ใส่พระลักษมณ์จนเกือบสิ้นชีวิต




ที่แรก สังเกตุว่านักท่องเที่ยวชาวไทยทุกคน การ์ดยังไม่ตกจริงๆค่ะ
ทุกคนใส่แมสกัน 99% มีเห็นถอดบ้าง แต่ก็ถอดแบบเปิดออกมารับอากาศ
กันนิดๆ หน่อยๆ โดยมีแมสคาอยู่ที่หู  ในวัดพระแก้ว มีจุดขวดแอลกอฮอล์
แบบให้เท้าเหยียบอยู่หลายจุด . . เพราะงั้นสบายใจได้ ที่สำคัญคือคนน้อยค่ะไม่เบียด





ออกจากวัด . . เดินเลียบถนนด้านข้างมาเรื่อยๆ . . . 





ยังคงแอบอยู่ในร่มนะคะ . . .





แดดยังนรกเหมือนเดิม . . แต่ มีลมพัดมาเย็นดี . . วันนี้รถบนถนนน้อยมาก
มองย้อนกลับไปตรงประตูที่เราเดินออกมาตะกิ๊ . . 





รอสัญญาณไฟข้ามทางม้าลาย ตรงจุดนี้ จะมีเจ้าหน้าที่ . .
คุณพี่เสื้อส้ม คอยพานักท่องเที่ยว อย่างเราๆ ข้ามถนนนะคะ . . 




ข้ามมาเจอ ตึก . . กระทรวงกลาโหม  สีสวยตัดกับท้องฟ้าจนอดถ่ายรูปเก็บไว้ไม่ได้




จากถนนฝั่งนี้ มองไปเห็นวิวพระบรมมหาราชวังและ
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว). . ดูสวยงามเหมือนภาพวาดจริงๆ ค่ะ





เดินต่อค่ะ . . .  ไปยังเป้าหมายต่อไป . . 





  
  สถานีที่ 2  ศาลหลักเมือง     


พอดินเข้ามาก็เราก็จะเจอจุดคัดกรอง  ตรวจวัดอุณหภูมิล้างมือ
และแสกนแอพเข้าด้านใน เราก็ปฎิบัติตามที่เจ้าหน้าที่บอกทุกขั้นตอน
อยากเที่ยว การ์ดเราต้องไม่ตกนะคะ . .





มาถึงแล้ว ดอกไม้ธูปเทียนผ้าสามสี น้ำมันตะเกียง พร้อมแล้ว . . . ลุย



ไหว้เรียบร้อย ถวายดอกไม้ ธุปเทียบ ผูกผ้า . . .



จากจุดนี้ . . พื้นร้อนมากขร่ะ . . เพื่อนใส่ถุงเท้ามา นางเดินชิวมาก . . เหอๆ



ที่ศาลหลักเมืองวันนี้ คนก็ไม่เยอะ ค่ะ . . 



ถวายน้ำมันตะเกียง เพิ่มแสงสว่าง . . ส่องนำทางชีวิต . . มันเป็นเคล็ดค่ะ 55+



หรือใครอยากถวายละครก็สามารถทำได้นะคะ . . .
ในโรงละครติดแอร์ด้วยนะ  หลบร้อนได้เลยทีเดียว อิอิ ก่อนกลับ . . 
เสี่ยงเซียมซีสักหน่อย  . . . . .     -  -"  โดนเซียมซีด่า (อีกแล้ว)
ชีวิตสบายไปสินะ . . ต้องลำบาก(เพิ่ม)อีกหน่อยจึงจะดี . .





ออกจากศาลหลักเมือง นั่งพี่ตุ๊ก ไปไปวัดโพธ์ต่อ . . เจอพี่ตุ๊กใจดี 
ลดค่าโดยสารให้จาก 50 บาท เป็น 40 บาท ด้วยแหละ เย้ . . 






ถึงแล้วค่ะ . .   
  สถานีที่ 3 วัดโพธิ์     

วัดโพธิ์  หรือ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร
หนึ่งในวัดที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดใน กทม. เป็นวัดประจำรัชกาลในรัชกาลที่ 1



และเป็นวัดประจำรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
ทั้งยังเปรียบเสมือนเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศด้วย
เนื่องจากเป็นที่รวมจารึกสรรพวิชาหลายแขนง และทางยูเนสโก
ได้ขึ้นทะเบียนจารึกวัดโพธิ์จำนวน 1,440 ชิ้น เป็นมรดก
ความทรงจำโลกในทะเบียนนานาชาติ



เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงปฏิสังขรณ์วัด
พระองค์ทรงได้รวบรวมการแพทย์แผนโบราณและศิลปวิทยาการ
ของกรุงศรีอยุธยาเอาไว้ รวมทั้ง ได้ปั้นรูปฤๅษีดัดตนในท่าต่างๆ ไว้ด้วย
แต่เนื่องจากมีการเคลื่อนย้ายรูปปั้น รวมทั้งมีการลักลอบ
เอารูปปั้นไปขายบางส่วน ดังนั้น รูปปั้นที่อยู่ภายในวัดโพธิ์
จาก 80 ท่า ปัจจุบันจึงมีเหลือแค่เพียง 24 ท่าเท่านั้น




ดอกบัวข้างๆ โบสถ์ เป็นสีม่วงสวย สดใส . .




ถวายปัจจัยใส่ตู้ . . . อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย
ทั้งที่มีชีวิตอยู่ก็ดี หรือผู้ที่ล้วนดับสังขารไปแล้วก็ดี . . . น้อมส่งบุญเหล่านี้ไปให้





จากนั้นก็เดินถ่ายรูป รอบๆ วัดไปเรื่อยๆ . . 




นอกจากจารึกความรู้ต่างๆ แล้ว ยังมีตำนานเกี่ยวกับ ยักษ์วัดโพธิ์
กับ ยักษ์วัดแจ้ง   ได้เล่าต่อๆกันมาว่า.. 


บริเวณท่าเตียนอันเป็นพื้นที่โล่งเตียนนั้น เป็นผลจากการต่อสู้
ของ
“ยักษ์วัดแจ้ง” กับ “ยักษ์วัดโพธิ์” โดยมี “ยักษ์วัดพระแก้ว” เป็นผู้ห้ามทัพ 


กล่าวกันมาว่า . . ยักษ์วัดโพธิ์ซึ่งทำหน้าที่ดูแลวัดโพธิ์
และยักษ์วัดแจ้งซึ่งทำหน้าที่ดูแลวัดแจ้งหรือวัดอรุณฯ (ฝั่งตรงข้าม)
ยักษ์ทั้ง ๒ ตนเป็นเพื่อนรักกัน วันหนึ่งทางฝ่ายยักษ์วัดโพธิ์ไม่มีเงิน
จึงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปขอยืมเงินจากยักษ์วัดแจ้ง
พร้อมทั้งนัดวันที่จะนำเงินไปส่งคืน   แต่เมื่อถึงกำหนดส่งเงินคืน

กลายเป็นว่า ยักษ์วัดโพธิ์ กลับไม่ยอมจ่ายหนี้ เบี้ยวเอาเสียดื้อๆ
ยักษ์วัดแจ้งเมื่อรอแล้วรอเล่า ทนไม่ไหว จึงตัดสินใจข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา
มาทวงเงิน . . แต่ยักษ์วัดโพธิ์ไม่ยอมให้ ในที่สุดยักษ์ทั้ง ๒ ตน
จึงเกิดต่อสู้กันขึ้น แต่เพราะรูปร่างที่ใหญ่โตมหึมาและมีกำลังอันมหาศาล
หลังจากที่เลิกต่อสู้กันแล้ว . . บริเวณนั้น จึงราบเรียบเป็นหน้ากลอง
กลายเป็นสถานที่ที่โล่งเตียนไปหมด  ไม่มีอะไรเหลือเลย
จนกลายมาเป็นท่าเตียน ในปัจจุบัน






ซึ่งตามตำนานเรื่องเล่าดังกล่าวยังสรุปไม่ได้ว่า
ยักษ์วัดไหนเป็นฝ่ายชนะ ครั้นเมื่อพระอิศวร (พระศิวะ)
ได้ทราบเรื่องการต่อสู้กัน ทำให้บรรดามนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย
ในบริเวณนั้นเดือดร้อน จึงได้ลงโทษโดยการสาปให้ยักษ์ทั้ง ๒
กลายเป็นหิน แล้วให้ยักษ์วัดโพธิ์ ทำหน้าที่ยืนเฝ้าหน้าพระอุโบสถ
วัดโพธิ์ และให้ยักษ์วัดแจ้ง ทำหน้าที่ยืนเฝ้าพระวิหาร วัดแจ้ง เรื่อยมา . .






นอกจากในวัดจะเป็นที่ประดิษฐานของ มหาเจดีย์ สี่รัชกาล 
ซึ่งเป็นมหาเจดีย์ขนาดใหญ่ 4 องค์ องค์พระเจดีนั้นเป็นแบบเจดีย์
ย่อไม้สิบสอง ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบ อันประกอบด้วย
พระมหาเจดีย์ประจำรัชกาลที่ 1 – 4 แล้ว ยังมี พระเจดีย์ราย
ประดิษฐานอยู่บริเวณโดยรอบของพระระเบียงชั้นนอกมีจำนวนทั้งสิ้น
71 องค์ สร้างขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
ซึ่งเดิมมีพระราชประสงค์ให้เป็นให้เป็นที่บรรจุพระอัฐิของเจ้านายเชื้อพระวงศ์
พระเจดีย์ประดับด้วยกระเบื้องถ้วยเคลือบสีและศิลาเขียว




ส่วนตะวันตกของวัด ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่นี้เป็นที่ตั้งของ
วิหารพระพุทธไสยาส  ภายในวิหารประดิษฐานพระพุทธไสยาส
ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่ก่ออิฐ ถือปูน ปิดทองทั่วทั้งองค์ และมีขนาดใหญ่
เป็นอันดับ 3 ของประเทศ โดยมีลักษณะพิเศษ ได้แก่
พระบาทซ้ายและขวาซ้อนเสมอกัน 




ที่พระบาทประดับมุกภาพมงคล 108 ประการ ตรงกลางเป็นรูปจักร
ตามตำรามหาปุริสลักขณะ โดยลวดลายของมงคล108 ประการนั้น
เป็นการผสมผสานกันระหว่างคติความเชื่อที่รับมาจากชมพูทวีปและจีน





แลกเหรียญทำบุญ . . ปรากฎว่า ใส่บาตรต้นๆ เยอะเกิน ไม่พอถึงท้ายแถวซะอย่างนั้น ..





เป็นอีกวัดที่มีการ์ดแข็งแกร่ง จุดคัดกรองก็เป็นระเบียบเรียบร้อยตั้งแต่เข้าวัด  
แถมในวัด . . มีจุดแอลกอฮอล์ให้ล้างมือเยอะมาก . .  ต้องบอกว่าถึงลืมนำมาก็มีให้ใช้ตลอดจริงๆ 





ออกจากวัดมาเพื่อนหมดแรงแล้ว  . . พวกนางบอก เราไปแวะ หาไรเย็นๆกินสักที่เถอะ . .




แต่ก่อนโควิดจะมา ถนนเส้นนี้ คนพลุกพล่านมาก . . มาตอนนี้ ค่อนข้างเงียบเหงา



เพื่อนเดินวน หาพิกัดร้านกาแฟสีฟ้าอยู่สองรอบ . . . แต่พอเจอ คนดันเยอะ 
นางก็เลยเปลี่ยนร้านเป็น ร้านนี้แทน โดย มีเค้กที่อยู่หน้าร้าน เป็นตัวดึงดูดเราเข้าไป . . 55+



บรรยากาศตกแต่งน่ารัก . . เปิดเพลงคลอเบาๆ ที่สำคัญ แอร์เย็นฉ่ำ . . 




ได้ที่นั่งก็ตรงเข้าไปนี่ก่อนเลย มุมน้ำเปล่า ใส่น้ำแข็งเย็นชื่นใจ . . .





ตามด้วย Fresh  Lemonade  with mint เพื่อความสดชื่นนนน . . 
แก้วนี้โดนมาก เดี๋ยวจะไปสอยมะนาวสองลูกข้างบ้านมาทำกินมั่ง . . 





เพื่อนเดินไปเกาะหน้าตู้เค้กด้านหน้า   สอยเค้กสตอเบอร์รี่มา 1 ชิ้น . . 





ตามด้วย ชาเขียว และกาแฟ ของพวกนาง . . รสชาติโอเคเลย แต่หนอนว่า
น้ำมะนาวโซดาของหนอนสดชื่นกว่าเย้ออออ . . คิคิ





นั่งรากงอก ชาร์จแบตโทรศัพท์กันอยู่พักนึง . . .ได้เวลาไปต่อ . . สถานีต่อไป  
เดินๆๆๆ ไปท่าเรือ . . ท่าเตียน  เราจะนั่งเรือข้ามฟากไปกันค่ะ





เหมือนได้นั่งเรือชมวิวแม่น้ำ รับลมเย็นๆ พักหนึ่ง . . ยังไม่ทันหายเบื่อก็ถึงแล้ว 55+






 
  สถานีที่ 4  วัดอรุณ    

ขึ้นจากเรือเข้ามาปั๊บก็เจอจุดคัดกรองเลย . . จุดคัดกรองที่นี่ไฮโซมาก
เป็นประตูให้ยืนตามจุดมองกล้อง มันจะวัดอุณหภูมิให้อัตโนมัติ
จากนั้นก็เดินผ่านเข้าประตูไปได้เลยค่ะ . .





เข้ามาปั๊บ เราก็จะจ๊ะเอ๋ กับนั่นนนนนนน . . . . ยักษ์ วัดแจ้ง ยืนเด่นเป็นสง่า
หันหน้าไปทางวัดโพธิ์ ส่งสายตาให้กันปิ๊งๆๆๆๆ . . . 55+





ไง . . . คุณพี่ยักษ์ ได้ข่าวว่านายโดน เพื่อนยืมเงินแล้วทวงหนี้ไม่ได้งั้นหราา
เราว่านายอาจจะยังเหี้ยมไม่พอป๊าวววววว  . . .  เค้าก็เลยชิ่งอ่าา 66




วัดอรุณราชวราราม หรือที่นิยมเรียกกันในภาษาพูดว่า วัดแจ้ง
หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า วัดอรุณ เป็นวัดโบราณ สร้างในสมัยอยุธยา ที่ชื่อวัดแจ้ง
เพราะ พระเจ้าตากฯ ทำศึกเสร็จ แล้วยกทัพกลับมาเป็นเวลาเช้าพอดี




ในสมัยรัตนโกสินทร์ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร ได้เสด็จมาประทับ
ที่พระราชวังเดิม และได้ทรงปฏิสังขรณ์วัดแจ้งใหม่ทั้งวัด 




ต่อมามีพระราชดำริที่จะเสริมสร้างพระปรางค์หน้าวัดให้สูงขึ้น
แต่สิ้นรัชกาลเสียก่อน จนถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
โปรดเกล้าฯ ให้เสริมพระปรางค์ขึ้นและให้ยืมมงกุฎที่หล่อสำหรับ
พระพุทธรูปทรงเครื่องที่จะเป็นพระประธานวัดนางนองมาติดต่อบนยอดนภศูล
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ
ให้บูรณปฏิสังขรณ์วัดอรุณราชธารามหลายรายการ และให้อัญเชิญ
พระบรมอัฐิของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยมาบรรจุ
ไว้ที่พระพุทธอาสน์ของพระประธานในพระอุโบสถด้วย เมื่อการปฏิสังขรณ์
เสร็จสิ้นลง พระราชทานนามวัดใหม่ว่า 
 “วัดอรุณราชวราราม”





แวะสักการะ . . สวดมนต์ไหว้พระนั่งสมาธิอยู่พักหนึ่ง หลวงพ่อ ก็เรียก
ไปปะพรมน้ำมนต์พร้อมมอบสายสิญญ์ให้คนละเส้น . .




ภายในพระอุโบสถของวัดอรุณราชวราราม เป็นที่ประดิษฐานของ
พระพุทธรูปประธานชื่อว่า
“พระพุทธธรรมมิศรราชโลกธาตุดิลก”
เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย มีขนาดหน้าตักกว้าง 3 ศอกคืบ หรือ 1.75 เมตร
ศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ประดิษฐานเหนือแท่นไพทีบนฐานชุกชี
กล่าวกันว่า รัชกาลที่ 2 ทรงปั้นวงพระพักตร์พระพุทธรูปองค์นี้ด้วยพระองค์เอง
นอกจากนี้ใต้พระพุทธอาสน์พระพุทธธรรมิศราชโลกธาตุดิลกนี้
ยังเป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิในรัชกาลที่ 2 อีกด้วย




อยากบอกว่า วันนี้ ร้อนมากจริงๆ แต่ด้วยเราพกไอเท่มลับ
น้ำแร่ . . กับ shirt cool spray มาด้วย . .มันก็เลยสดชื่นต่อไปเป็นพักๆ 55+
นั่งพักเหนื่อยและนั่งดูลาย . . ผนังวัดที่นี่ หนอนชอบมาก มันมีความวินเทจสุดๆ




สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด ยังมีพระปรางค์ ซึ่งประดับด้วยกระเบื้องเคลือบ
ถ้วยชามเบญจรงค์และเปลือกหอย รูปปั้นยักษ์ ซึ่งมีตำนานเล่าขาน
เกี่ยวกับยักษ์วัดแจ้งแห่งนี้คู่กับยักษ์วัดโพธิ์ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม (ที่เล่าไว้ด้านบน)




พระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นพระปรางค์สถาปัตยกรรมไทย ขนาดใหญ่
มีความสูงจากฐานถึงยอด 81.85 เมตร ทำให้กลายเป็นสิ่งก่อสร้าง
ที่สูงที่สุดในกรุงเทพมาอย่างช้านาน  รวมถึงเป็นพระปรางค์ที่สูงที่สุด
ในประเทศไทยและของโลกอีกด้วย




ความวิจิตรพิสดารของพระปรางค์วัดอรุณฯ ไม่ได้อยู่เพียงแค่ขนาด
และสัดส่วนเท่านั้น หากแต่หมายรวมถึงงานประดับต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น
การประดับรูป “พลแบก” ได้แก่ ยักษ์แบกตามด้วย กระบี่แบก โดยรอบฐาน
พระปรางค์และเทวดาแบกโดยรอบส่วนรองรับ ทั้งสี่ของเรือนธาตุ
ประดิษฐานพระอินทร์ทรงช้างสามเศียร (ช้างเอราวัณ) แทนการ
ประดิษฐานพระพุทธรูปตามธรรมเนียมนิยม รวมทั้งประดับกระเบื้องสี
ถ้วยชามกระเบื้องจากเมืองจีน เป็นลวดลายพรรณพฤกษาและหมู่กินรี
งานประดับทั้งหมดนี้ ล้วนเกี่ยวโยงกับคติความเชื่อ
เรื่องเขาพระสุเมรุศูนย์กลางแห่งจักรวาลทั้งสิ้น





นั่งๆ หลบแดดอยู่ดีๆ เจอแมววัดจร้าาาา . . . . . น้อนนนนน 
เราเป็นญิง  อยู่ดีๆ จะเดินมาทิ้งตัวนอนอ่อย กลิ้งไปกลิ้งมาแบบนี้
กับทุกคนไม่ได้นะลูกกกกก . . มันไม่งามลูกกกก




ออกจากวัดอรุณมาก็เย็นย่ำ . .  นั่งรถผ่านสะพานพุทธไปต่อที่เยาวราชค่ะ






   สถานีสุดท้ายยยยยยย   วัดเล่งเน่ยยี่    

วัดนี้ก่อตั้ง เมื่อปี พ.ศ. 2414 ใช้เวลาก่อสร้าง 8 ปีกว่าจะแล้วเสร็จ
มีลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นแบบทางจีนตอนใต้ของสกุลช่างแต้จิ๋ว





หลายครั้งที่มาที่วัดนี้ . . แต่นี่เป็นครั้งแรกที่มาแล้ว แทบไม่มีคนเลย
อาจจะเป็นเพราะว่ามันเย็นแล้วด้วย . . มังนะ . . 




พอเลยจากจุดเช็คอินลงทะเบียนแอพไทยชนะ . . เจ้าหน้าที่จะติดสติ๊กเกอร์กลมๆ
ที่มีคำว่าเล่งเน่ยยี่ให้เรา เดินตรงมาก็จะเห็น อุโมงฆ่าเชื้อแบบนี้ . . คอดเท่ห์ เดินเข้าไปเล้ยย . . 




เมื่อเดินทางเข้าไปภายในวัดจนถึงวิหารจะพบ "ท้าวโลกบาล" ทั้ง 4
ที่เป็นเทวรูปเทพเจ้าทั้ง 4 พระองค์ ในชุดนักรบชาวจีน พร้อมถืออาวุธ
พิณ ดาบ ร่ม เจดีย์ ซึ่งชาวจีนเรียกว่า "ซี้ไต๋เทียงอ้วง"
หมายถึง  เทพเจ้าที่ปกปักษ์รักษาคุ้มครอง





เข้าไปทำบุญกันค่ะ และไหว้ ตามจุดที่เค้ากำหนด . . 





เป็นอันเรียบร้อยยยยย . . .  ภารกิจเพิ่มเต้มบุญในวันนี้ . . . 5555+
แต่เรายังไม่กลับนะคะ . . . . แน่นอนว่ามาถึงที่นี่แล้ว  มีสิ่งที่พลาดไม่ได้
ก็คือ อาหารอร่อย ริมถนนเยาวราชนี่ล่ะ น๊าาาาาา เอิ๊กกกกกก . . 






นั่งรอเพื่อนมาร่วมจอยอยู่สตาบั๊คข้างวัดอยู่พักหนึ่ง  พอพวกนางมากันแล้ววว
ก็พร้อมลุ้ยยยยย กันเล้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย เคี้ยกกกกกกๆ . . 
พอจะได้กิน ก็เหมือนจะร่าเริง มีแรง กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันทีเลย


ประเดิมกันที่ก๋วยจั๊บน้ำใส  
ก๋วยจั๊บหน้าโรงหนัง ไชน่าทาวราม่า 
เส้นนุ่มๆ น้ำซุบพริกไทยหนักๆ กับเครื่องในที่ไม่คาวเลย
มีความกรุบกรอบของหมูกรอบไปด้วย . . ให้ผ่านจร้าาาาาา
เอาจริงๆ ที่ตอนแรกเพื่อนบอกจะกินก๋วยจั๊บหนอนงี้ไม่อินเลย
คือเคยกินอีกร้าน หนอนว่ามันไม่โอ แต่ร้านนี้เพิ่งลองครั้งแรก ใช้ได้เลยเฮ้ย..





ต่อด้วย . . ร้านปลาหมึกย่างที่อยู่ใกล้ๆ กัน เห็นคนต่อแถวสั่งกันเยอะ
เลยคิดว่าต้องอร่อยแน่ . . อยากลองเลยเอากับเขามั่ง . . 


น้องกาย & น้องเก้า ปลาหมึกย่างเยาวราช

ปรากฎว่า . . ใช้ได้เลยเฮ้ยยย  น้ำจิ้มแซ๊บเว่อออออ มว๊ากกกกก




แต่เป้าหมายเรามาวันนี้ . . คือจะมากินหอยแครงค่ะ . .
เพื่อนพาเดินลัดเลาะเข้าไปในซอย . . นางบอกต้องร้านนี้ๆ . . 




ป้าจินหอยแครงซอยเท็กซัส (เจ้าเก่าเยาวราช)

ตอนเดินมาโต๊ะเต็ม เพราะมีโต๊ะให้นั่งกินอยู่ไม่กี่โต๊ะ
รับบัตรคิว ยืนรออยู่พักหนึ่งพนักงานก็เดินมาเรียก





มาแล้ว . . .  หอยลวกมากำลังดีเลย




  หอยสด น้ำจิ้มถั่วแซ๊บใช้ได้  แต่เหมือนหนอนจะชอบ
หอยแครงที่วงเวียนใหญ่มากกว่านิดหนึ่ง (หมายถึงน้ำจิ้มอะนะ)




กินหอยแครงไปสามจาน หอยแมลงภู่สอง ก็เหมือนจะอิ่มกันแล้วนะ . .
แต่เพื่อนบอกว่า . . อยากกินหมี่อ่ะ . . . ทุกคนเลยบอก  เอาสิ . .
อยากกินต้องได้กินนะ . .555+   เดินถนนข้ามฝั่งมาก็เจอทันที . . 



ผัดหมี่ฮ่องกงร้านเฮียอ้วน 

แน่นอนว่าต้องรอคิวสักพัก . . ข้างๆ กันมีเซเว่น เพือนก็เดินไปซื้อ
น้ำเท่ห์ๆ มากินกับผัดหมี่ . . โต๊ะเยอะร้านนี้ แต่คิวก็ยาวหน่อยๆ
เราก็เลยต้องรอกันพักหนึ่ง . . ระหว่างรอมองคนเดินไปเดินมา 88%
ใส่แมสกันทุกคน อีก 20% ต้องถอด เวลากินนะครัช เหอๆ 





เบื่องหลังความอร่อย . . .ให้ดูว่ากว่าจะได้แต่ละจาน . .
พ่อครัวกระดกกระทะโยนแล้วโยนอีก . . . 555+





พอได้โต๊ะ . . อาหารก็มาแล้ว แต่ยังไม่ใช่หมี่ เป็นกะเพาะปลาจร้าาา . . 
มาแบบร้อนปุดๆๆๆๆ กันมาเลย . . . จากที่อิ่มๆ กันอยู่ ก็จัดการจ้วงเลยจร้าา




ตามด้วย หมี่ฮ่องกง อร่อยมาก มันหอมๆ เส้นเหนียวนุ่ม
มีกลิ่นไหม้ๆ ของกระทะหน่อยๆ อย่างฟิน ไอ้ที่เห็นเป็นเส้นๆ น่าจะเป็นหน่อไม้
แล้วก็มีปลาหมึก มีเนื้อไก่ ที่ไม่เหมือนไก่ . . โดยรวมคือชอบมาก 





แจกอาวุธ จ้วงงงงงงง แล้ว จ้วงงงงงงงง อีก เอาเลยจร้าาาา





ไม่นานก็เกลี้ยงงงงงง บ๋อแบ๋  555555+ . . . 





ก็เหมือนจะอิ่ม  ก็เหมือนจะไม่ไหวกันแล้วน๊าาาา แต่ . . .
อยากกินบัวลอยน้ำขิงง่าาาา อยากกินมาจะครึ่งเดือนร๊าวววว
มาเยาวราชไม่ได้กินบัวลอยน้ำขิงก็เหมือนมาไม่ถึงเด้ออออ . .
มีร้านขนมอยู่ร้านนึง น่าจะเป็นร้านดัง แต่คนเยอะมาก สู้ไม่ไหว
เลยลองร้านนี้แทน . .    
เจ้แอนขนมหวาน





จัดไปเหนาะๆ  1 ถ้วย  เพื่อนบอก ร้อนจะตาย ยังจะกินน้ำขิงร้อนๆ อีก เหอๆ . .
ส่วนพวกนาง สั่งสาคูแคนตาลูป บ้าง ทับทิมกรอบบ้าง . . มีเราคนเดียว
กินไปร้อนไป . . เอาทิชชู่เช็ดหน้าไป . . แต่ . . . ก็เกลี้ยงจร้าาา


สรุป อิ่มท้องแตก แยกย้าย . . .  เอิ๊กกกกกกกกกกกก . . .




แม้ทุกวันนี้ . . จะมีข่าวการปิดกิจการ
ของบริษัทห้างร้านมากมายแต่ก็ยังหวังอยู่เสมอว่า
สักพักเดี๋ยวโควิดก็จะค่อยๆ หายไปแหละ . .
แล้วเศรษฐกิจของประเทศไทย ก็จะค่อยๆ ดีขึ้น
การออกนอกบ้านไม่ใช่สิ่งน่ากลัว  เพียงแค่ต้องรู้จักเซพตัวเอง
ใส่แมส ล้างมือ ด้วยแอลกอฮอล์บ่อยๆ การ์ดอย่าตก . .
มาร่วมแรงร่วมใจกัน  สร้าง
New Normal 
แล้วออกมาใช้ชีวิตกันเถอะนะคะ . .


ไม่ว่าสภาวะการณ์บ้านเมืองจะเป็นอย่างไร
ก็ยังเชื่อว่า . . คนไทยอย่างเราๆ นั้น เป็นพวกที่
ปรับตัวเก่ง และสุดท้าย เราจะผ่านมันไปได้
ได้ด้วยดีด้วยล่ะ . .  ยังไงก็สู้ๆ นะทุกคน . .
ขอจบการพาเที่ยววัดแต่เพียงเท่านี้





บันทึกภารกิจเพิ่มแต้มบุญโดย . . ตัวหนอนกิ๊วๆ



Create Date : 21 กรกฎาคม 2563
Last Update : 21 กรกฎาคม 2563 17:25:43 น.
Counter : 1573 Pageviews.

22 comments
ถนนสายนี้มีตะพาบ กม.ที่ 349 "วันใดที่เธอ...." จันทราน็อคเทิร์น
(8 เม.ย. 2567 14:18:13 น.)
come from away พุดดิ้งรสกาแฟ
(7 เม.ย. 2567 19:24:46 น.)
เดย์ ออฟ เดอะ " ซ ว ย " จันทราน็อคเทิร์น
(5 เม.ย. 2567 19:29:14 น.)
:) peaceplay
(4 เม.ย. 2567 08:14:28 น.)

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณSleepless Sea, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณMax Bulliboo, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณmcayenne94, คุณสองแผ่นดิน, คุณเริงฤดีนะ, คุณSai Eeuu, คุณSertPhoto, คุณKavanich96, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณกะว่าก๋า, คุณทนายอ้วน, คุณtoor36, คุณnewyorknurse, คุณSweet_pills

  
อิ่มบุญอิ่มพุงไปพร้อม ๆ กันเลยจ้า 555

แหม่ จริง ๆ อยากเห็นรายการวันเสาร์มากกว่า
เห็นว่าลุยทำสวนไม่ใช่เหรอ อิอิ

โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 21 กรกฎาคม 2563 เวลา:17:12:16 น.
  
สวัสดีครับ

แวะมาทักทายครับ ย่านนี้ของอร่อยเยอะครับ
เห็นแล้วหิวเลยครับ

โดย: Sleepless Sea วันที่: 21 กรกฎาคม 2563 เวลา:17:18:50 น.
  
เอิ่มมมมม ใจคอจะให้พี่ "เข้าสิง" อยู่ห้องไดเอทคนเดียวใช่ม๊ายยยยย พูดสิพูด 555

หูยยย วัดพระแก้วแบบไม่มีคน..อยากไปมาก และทุกวัดที่ไปมา น่าถ่ายรูปมากๆเพราะไม่มีคนมาเกะกะ ..แถม จบด้วยเยาวราช หนอนเอ๊ยยยย ดูไปใจพี่นี่อยากบินไป กทม ตอนนี้เลย แต่ท่านผู้นำเค้าไม่ให้เยอรมันเข้าประเทศง่าาาา ได้แต่ร้องเพลงรอต่อไป ... ของกินเยาวราชตอนกลางคืนน่าลุยมาก พี่ไม่เคยไปตอนค่ำๆเลย อยากไปๆๆๆ
โดย: Max Bulliboo วันที่: 21 กรกฎาคม 2563 เวลา:18:03:06 น.
  
น้องหนอนถ่ายรูปได้สวยค่ะ
โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 21 กรกฎาคม 2563 เวลา:18:28:43 น.
  
น่ารัก หูพลิกมาแล้ว
โด๊ป ๆ หน่อย ดูตัวเล็กกว่าพี่มันเห็น ๆ เลย 555

โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 21 กรกฎาคม 2563 เวลา:20:30:51 น.
  
น้องหนอน ได้ไปหลายวัด ถ่ายภาพ อาร์ตงามๆ
ชมเพลินเลยค่ะ พี่ก็พอเป็นพอไป เรื่อยค่ะวันนี้ขี่ MC ล้มในสวน เจ็บขานิดหน่อยค่ะ
โดย: mcayenne94 วันที่: 21 กรกฎาคม 2563 เวลา:20:58:49 น.
  
วัดในกรุงเทพฯสวยๆทั้งนั้นเลยครับน้องหนอน
น่าไปเดินถ่ายภาพนะครับ

การทำบุญเป็นการทำให้จิตใจสงบ
เหมือนเติมกำลังใจให้จิต
เพื่อใช้ชีวิตต่อไปด้วยสติ

แถมปิดท้ายด้วยอาหารอร่อยๆด้วย

เรียกว่าอิ่มกาย อิ่มใจ
ครบจบในวันเดียวเลยนะครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 กรกฎาคม 2563 เวลา:21:26:31 น.
  

Wow..wow..wow
เหมือนกันเลย..
แต่พี่อ้อพาพี่อุ้มไปทำบุญวันเกิดวันนี้
4 วัด 1 ศาล
สลับกันที่ พี่อ้อไปประเดิมที่
วัดอรุณ
วัดโพธิ์
ศาลหลักเมือง
วัดพระแก้ว
จบที่ วัดมังกร..เยาวราช

ร้อนๆๆ..ดีที่เสร็จตั้งแต่ก่อนเพล
เพราะต่อมาฝนตก..

อนุโมทนาบุญค่ะ

โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 21 กรกฎาคม 2563 เวลา:22:20:10 น.
  
เหมือนพาฝรั่งเที่ยวเลยค่ะ ดูวัง ดูวัด กินอาหาร 555
โดย: Sai Eeuu วันที่: 21 กรกฎาคม 2563 เวลา:22:41:46 น.
  
เป็นหารเดินสายทำบุญที่ได้บุญทันตาเห็นเลยครับ
ทำบุญเช้า เย็นได้กินอาหารอร่อยๆต่อเลย
ถือว่าทริปนี้คุ้ม!

ไอ่cold shirt นี่อารมเหมือนสเปรย์ตรางูไหมพี่
ไม่เคยใช้หรอก เห็นมีคนเคยใช้บอกว่าเย็นดี 5555
ต้องประเทศอย่างไทยนี่แหละ นวัตกรรมนี่ถึงตอบโจทย์ ขายดี

โควิดทำร้านหลายร้านต้องล้มหายตายจากไป
บางทีก็น่าตกใจว่าเฮ้ยยยย ไม่ไหวแล้วจิงๆ หรอแต่ก็นะ... ทุกคนก็สู้มาจนสุดตัว
ไม่มีใครอยากไปต่อไม่ไหวหรอก
ช่วยได้ก็ช่วยๆกันไป
โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 22 กรกฎาคม 2563 เวลา:0:36:33 น.
  
ขอบคุณที่แบ่งปัน
โดย: Kavanich96 วันที่: 22 กรกฎาคม 2563 เวลา:3:20:24 น.
  

สายบุญ สายกิน สายเที่ยว

อิ่มจิต อิ่มบุญ และอิ่มท้อง

มาสมัครเข้าชมรมด้วย อิ อิ
โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 22 กรกฎาคม 2563 เวลา:5:42:42 น.
  

สวัสดียามเช้าครับน้องหนอน

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 กรกฎาคม 2563 เวลา:7:33:38 น.
  
เป็นการเที่ยว 1 วันที่ครบมากค่ะน้องหนอน
อิ่มบุญ อิ่มท้อง

พี่ต๋าได้อิ่มตา อิ่มใจ กับเรื่องราวและภาพที่สวยมากๆ
ได้รู้ที่มาของคำว่าท่าเตียนแล้ว

ขอบคุณน้องหนอนที่พาเที่ยวแบบไม่ต้องเผชิญแดดเองนะคะ
พรุ่งนี้พี่ต๋าแวะมาใหม่ค่ะ

โดย: Sweet_pills วันที่: 22 กรกฎาคม 2563 เวลา:8:06:49 น.
  
มามะไปดูดอกไม้กัน
โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 22 กรกฎาคม 2563 เวลา:9:16:04 น.
  
ต้อยติ่งเทศตอนแรกก็เห่อมาก ซื้อมา 3 สีเลย
ปลูกกันระเบิดระเบ้อ เม็ดแก่ร่วงหล่นก็ขึ้นต้นใหม่ ถือเป็นเอเลี่ยนสปีชี่ส์
คือแพร่พันธุ์เร็วมาก ตอนหลังถอนทิ้งเลย เหลือไว้ทำพันธุ์บ้างนิดหน่อย 555
ยังไม่รู้ว่าเหลือสีไหนบ้าง ตอนนี้เห็นแต่สีชมพู
ดีไม่ดี ต้องไปขอเพื่อนบ้านที่เราให้ไปปลูกมาปลูกใหม่ กร๊าก ๆ ๆ

มุ้งลวด แมวที่บ้านไม่ข่วนจ้า เอาไว้ไต่เป็นสไปเดอร์แมวอย่างเดียว 555
แล้วนี่ก็เปลี่ยนมุ้งใหม่แล้ว เป็นแบบ pet screen เพื่อแมวโดยเฉพาะ อิอิ

ตำแยแมวดีนะ เลี้ยงแมวควรมีอย่างยิ่ง แล้วต้องมีเยอะด้วย เพราะส่วนที่ใช้คือราก
เคยซื้อที่เขาขายใส่เป็นถุง ๆ หล่อน้ำมา 2-3 ต้น 20 บาทแน่ะ
บอกเพื่อนทำฟาร์มแมวซะเลย 555
โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 22 กรกฎาคม 2563 เวลา:10:43:28 น.
  
ถ้าพรุ่งนี้อากาศดีๆจะพาหลานไปเที่ยวบ้างครับ คนน้อยมากๆ
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 22 กรกฎาคม 2563 เวลา:12:50:50 น.
  
พี่ก๋าเคยไปเดินถ่ายรูปในวัดพระแก้วครึ่งวัน
ไม่พอครับ คิดว่าน่าจะต้องไปสองวันจึงจะเก็บภาพครบทุกมุมนะ 555

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 กรกฎาคม 2563 เวลา:14:37:20 น.
  
ไปถ่ายภาพให้ครบ 9 วัด
พี่ก๋าต้องอยู่กรุงเทพสัก 2 อาทิตย์ครับ 555

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 กรกฎาคม 2563 เวลา:15:47:21 น.
  
ไปมาหลายที่เลยนะครับ ช่วงนี้ไปเที่ยวคนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ มีมุมให้ถ่ายรูปสวยๆ เยอะ ผมก็ได้ไปวัดพระแก้วเหมือนกัน แต่ยังไม่มีโอกาสได้เอามาลงบล็อกเลย
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 22 กรกฎาคม 2563 เวลา:23:05:09 น.
  

คิดถึงเมืองไทย จริงๆๆๆ
ภาพสวยงามด้วยค่ะ
ขอบคุณที่พาชมวัด และร้านอาหาร
เคยไปเกือบทุกแห่ง
แต่ไม่เคยไปร้านอาหารและร้านของหวาน

ได้ระลึกถึงความหลัง
โดย: newyorknurse วันที่: 25 กรกฎาคม 2563 เวลา:6:30:05 น.
  
ส่งกำลังใจค่ะน้องหนอน

โดย: Sweet_pills วันที่: 25 กรกฎาคม 2563 เวลา:12:56:00 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Intooneweb.BlogGang.com

nonnoiGiwGiw
Location :
นนทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]

บทความทั้งหมด