ต่อมเผือกทำงาน...
D A Y : 0 7  
M O N T H 
: J U N E  
Y E A R : 2 0 1 9





สวัสดีตัวฉัน. . วันนี้จะมาคุยเกียวกับเรื่องต่อมเผือก
ไม่ได้หมายถึงใครหรอกนะ . . ที่จะกล่าวถึงก็คือตัวเองนี่แหละ
บางทีก็. . เบื่อตัวเองมากเหมือนกัน. . แต่ไม่รู้จะทำยังไง
ไม่รู้ทำไม ถึงต้องอยากเจือกเรื่องชาวบ้านมากมายถึงขนาดนั้น. .


จำที่เล่าให้ฟังได้ปะ. . ว่ามีแฟนเก่าสมัยมหาลัยแอดเฟรนมา
แล้วก็ทักมาตอนปีใหม่. . ว่าขอโทษอย่างนั้นอย่างนี้
ที่ตอนโน้นทำเธอเสียใจ คือ สรุปนางก็ไม่ได้อะไรหรอก
เหมือนเพิ่งเลิกกะแฟนมา(โดนทิ้ง) แล้วรู้สึกว่า
ตัวเองจะถูกกรรมตามสนองอะไรแบบนั้นมัง. . 
ก็เลยทักมาขอโทษ. . 


หลังจากวันนั้น. . เราก็ชอบเข้าเฟส ไปเผือกเค้าเรื่อยเรย
คือ เอาจริงๆ เลยอะ อยากอันเฟรนมาก
ไม่ใช่ว่าโกรธเกลียดหรืออะไร แต่เพราะรู้ตัวว่าลึกๆ แล้ว
เค้าก็ยังมีอิทธิพลต่อจิตใจเราอยู่ไม่ว่าจะผ่านมานานแค่ไหนก็เหอะ
ซึ่งข้อนี้ มันแม่มไม่ดีเลย เราไม่ชอบเอามากๆ 



แต่ . . แต่ . . แต่ . . แต่ . . ต่อมเผือกมันมีเยอะไง
ต่อมเผือกมีมากกว่า. . ก็ยังอยากรู้เรื่องราวชาวบ้านเขา
หากอันเฟรนไป มันอาจจะไม่ได้ข่าวที่ล้วงลึกเท่าไรไง (ใช่หรอวะ)


เฮ๊อะ. . .






ก็เลยไปกดอันฟอลโล่วววว. . .แทน
เพราะถ้าไม่อันฟอล เวลานางโพสอะไร
หน้านางมันก็จะเด้งขึ้นฟีด  เราไม่ทันตั้งตัวเห็นปั๊บก็เหมือนจะสะดุ้งทุกที
แต่คุณคะ. . . อันฟอลโล่ว ก็ไม่สามารถลบต่อมเผือกของอิฉันได้
ในทุกๆ วัน อิชั้นต้องเข้าไปดู ไปส่องเขา ว่าวันนี้ โพสอะไรบ้าง
โอ๊ยยย อนาจตัวเองจริงๆ ณ จุดนี้ . .
เหมือนสตอล์คเกอร์ออนไลน์ยังไงอย่างงั้น


บางทีก็คิด. . หรือว่าเราจะว่างเกินไป. . ควรเอาเวลาที่มี
ไปเหยียบหญ้าให้มากขึ้นจะได้ไม่ฟุ้งซ่านดีไหมนะ
เหมือนตัวเองเริ่มแก่แล้ว. . บางคืน บางวัน
ก็จะนั่งนึกถึงอดีต เวลานึกถึงทีไร


ภาพที่ตัวเองนั่งมองทุ่งนาแล้วก็ร้องไห้. . อยู่นอกระเบียงหอพัก
เพราะอ้างรูมเมทว่าจะออกไปซักผ้าาาา. . ในเวลาเที่ยงวัน
555+ คือ แดดเปรี้ยง ว่าไปแล้วก็ขำดี. . 

ฉากต่อมา. . เป็นฉาก ปิดห้องปิดประตูหน้าต่างปิดม่าน
แล้วเปิดเพลงที่เต็มไปด้วยรมณ์ลึกซึ้ง น้ำตาท่วมเตียง
เต็มเพลลีสต์ เช่นเพลง 
'จบไปแล้ว' ของซ่าซ่า
(สมัยนั้นป้าๆ รุ่นเรากำลังฮิต)






. . .ตื่นจากภวังค์ได้แล้ว จะหลอกตัวเองทำไม
กลับสู่ความจริงได้ไหม เสียดายเวลา
กี่วันที่ฟ้าทุ่มเทใจไป ได้แต่คว้าหัวใจว่างเปล่าคืนมา
เวลาไม่เคยเป็นใจ ช่วยบอกตัวเองให้ท้อ
ให้หมดกำลังใจไป อย่าบอกว่ายังทนไหว เลิกทีพอที

หากว่าเขายังคิดจะรักกันจริง
คงไม่ทิ้งให้รออยู่นานเป็นปี
เหมือนเราไม่มีตัวตน

จบมันไปได้แล้ว. . . . อย่าหยุดอย่าเพ้ออย่าฝันต่อ
ที่แล้วๆ มาก็มากพอ ยังจะรอให้ใจต้องช้ำมากมายเพียงไหน
จบมันไปได้แล้ว . . . . อย่าไปรักเขาอีกได้ไหม
ไม่มีอะไรให้หวังอีกแล้ว ให้พอกันที อย่าหนีความจริงเลย!





เปิดวนไปวนไป ไม่รู้วันรู้เวลา
จากนั้น. . รูมเมท ก็เข้ามาฉุดอีนี่ออกจากที่นอน
หลังจากที่หมดชั่วโมงเรียนแล้ว (อีป้าโดดเรียนไงคะ จะอะไร)

เป็นความทรงจำที่ชอกช้ำพอสมควร . . 
สำหรับการจบความสำพันธ์แบบไม่มีคำอธิบาย
ไม่มีแม้แต่ประโยคบอกลาคลาสสิคที่ว่า...
'เราเลิกกันเถอะ'


แบบ. . ที่ อยู่ดีๆ ก็หายเงียบไปเลย
แล้วให้มโนไปเอาเองว่า นี่คือการเลิกกันแล้ว
คือ แม่มมมมม. . เรียกว่าเป็นผู้ชายที่คอดไม่แมน สุดๆ ของสุดๆ


แต่นะ. . . สุดท้าย  อีนี่ก็ยังเผือก
แล้วก็ยังไม่มีความกล้าที่จะ
UNFRIEND





เป็นอันสรุปได้ว่า . . 
เผือก มันอร่อยจริงๆ 
เราถึงติดอกติดใจมันถึงขนาดนี้ . . 


ยิ่งคุยยิ่งเพ้อ . . ยังอยู่ในโลกอดีต . . 
ตอนนั้น. . ถ้ารูมเมทไม่ลากไปดูหนังเรื่องนี้

คิดว่า... 

เราก็ยังจะจมอยู่กับโลกความเจ็บปวด
ในจินตนาการไม่หาย


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ แคชอเวย์ หนัง

เคยดูหนังเรื่อง  Cast Away  กันไหม . .
หนังเรื่องนี้แหละ  ที่ทำให้หลุดบ่วง. . 
อันที่จริงแล้วหนอนเคยเอาเรื่องนี้ มาเล่าให้ฟังแล้วครั้งหนึ่ง
ในบล็อคตะพาบ จำไม่ได้ว่าปีไหน . . แต่วันนี้
อยู่ดีๆ ก็อยากนำมาเล่าอีกซะอย่างนั้น. . 
เรียกว่าวัน . . . รำลึกความหลังก็แล้วกันนะ 




Cash Away หรือคนหลุดโลก

เป็นเรื่องราวชีวิตของ ชัค โนแลนด์ วิศวกรระบบของ FedEx
 ชีวิตของผู้ชายคนนี้ เร่งรีบ ทุกอย่างถูกกำหนดโดยนาฬิกา 
ทุกวินาทีของเขา อุทิศให้กับงานที่มีประสิทธิภาพ และความสำเร็จเท่านั้น
เวลาเกือบทั้งหมดของชัค มันจึงถูกมอบให้กับงาน และ งาน และงาน
จนทำให้เขาห่างเหินจากภรรยาที่อยู่ที่บ้านเข้าไปทุกทีๆ

วันหนีง.. ในระหว่างที่ชัคเดินทางไปส่งของ 
เครื่องบินโดยสารที่เขานั่งได้เกิดเหตุขัดข้องบางอย่างขึ้น
ทำให้เครื่องตกลงในทะเล...  





ชัค รอดชีวิต เขาลอยไปติดอยู่ในเกาะที่ห่างไกล.. 
ที่นั่นไม่มีผู้คน ไม่มีใครเลย.. การใช้ชีวิตอยู่ลำพัง 
อย่างโดดเดียวบนเกาะไม่ใช่เรื่องง่าย..






ต้องเรียนรู้วิธีหาอาหารเพื่อยังชีพ




ต้องจุดไฟโดยไม่มีไม้ขีด... ชัคต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้มีชีวิตรอด..





แม้ว่าวันเวลายังเดินต่อไปไม่หยุดนิ่ง.. 
แต่ชีวิตของชัคบนเกาะแห่งนั้น... ราบเรียบยิ่งนัก 
ไม่ต้องรีบตื่นนอน ไม่ต้องทำงาน


ชีวิตของชัค..
ไม่ถูกกำหนดด้วยเวลาอีกแล้ว!!!



ความเหงาทำให้ชัค ต้องคุยกับลูกวอลเล่ย์บอล 1 ลูก
ที่เขาสถาปณาขึ้นให้เป็นเพื่อนคุยยามเหงา.. เขาตั้งชื่อมันว่า.. 'วิลสัน'



'วิลสัน' คือ สิ่งเดียวที่ทำให้เขารู้สึกอุ่นใจ... มันคือเพื่อน ชัคคิด


จากวัน....... เป็นเดือน จากเดือน..... เป็นปี
เข้าสู่ปีที่ 4 แล้ว ที่ชัคต้องอยู่อย่างเดียวดายบนเกาะแห่งนี้..





ในที่สุด ชัคก็กลายเป็นคนเกาะอย่างสมบูรณ์.. 
ในแต่ละวันของชัคมีให้ทำอยู่อย่างเดียวคือ 
หาวิธีที่จะออกจากเกาะร้างแห่งนี้ให้ได้

....เขาพยายามทุกวิถีทาง...
เขาต้องเผชิญกับความกดดันทางอารมณ์
ต้องต่อสู้กับความเปล่าเปลี่ยว สิ้นหวัง..




 เขาคิดถึงภรรยาของเขา และเฝ้าแต่โทษตัวเองซ้ำไปซ้ำมา
 ถึงการที่เขาเอาเวลาทั้งหมดของตนเอง
ไปโยนทิ้งให้กับงานอย่างเดียว โดยไม่สนใจครอบครัว





ชัคผิดหวังจากพยายามหาวิธีออกจากเกาะเป็นรอบที่ล้าน
เขาหดหู่และสิ้นหวัง จนถึงขั้นพยายามฆ่าตัวตาย
แต่พยายามตายยังไงก็มีเหตุให้ไม่สำเร็จทุกที ชัคทรมาน
อยู่ก็ไม่ได้ ตายก็ไม่ได้.. เขาใช้ชีวิตหายใจทิ้งเพื่อรอความตายไปวันๆ



ในห้วงเวลาของความท้อแท้อย่างถึงที่สุดนั้น.. 
เขาก็ได้ค้นพบความหมายที่แท้จริงของชีวิต


มีเส้นทางสองเส้นให้เขาเลือก... นั่น คือ

เลือก... ตายอยู่บนเกาะอย่างสิ้นหวัง 
หรือ เลือกที่จะสู้ มีชีวิตอยู่ต่อไป
หาวิธีออกจากเกาะให้ได้ เพื่อจะได้กลับไป
แก้ไขในสิ่งที่ผิดอีกครั้งหนึ่ง!!!



ชัคได้เลือก.. เขารวบรวมแรงใจเฮือกสุดท้าย
ต่อแพขึ้นอีกครั้งจนสำเร็จ
แพของเขาล่องลอยออกไปกลางมหาสมุทร






วันแล้ววันเล่าที่ชัคต้องนอนแห้งเหี่ยว เจอทั้งพายุ เจอทั้งแดดเผา
เหมือนทุกวินาทีตรงหน้านี้มันยาวนานไม่มีสิ้นสุด 
ชัครู้สึกได้ว่า.. ความตายมันอยู่ใกล้ๆ แค่เอื้อมนี้เอง.. 







 สุดท้าย... โชคก็เป็นของชัค มีเรือสมุทรลำใหญ่ผ่านมา..

เขารอดชีวิต !!!!

และได้ขึ้นมาเหยียบแผ่นดินอีกครั้งหนึ่ง.. 

ตลอดสี่ปีที่ผ่านมา.. 
ความเพียรพยายามที่จะกลับมาหาภรรยา
เพื่อแก้ไขในสิ่งที่พลาดไป ได้สมหวังแล้ว..




แต่ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นตรงหน้า
กลับกลายเป็นว่า.. ภรรยาของเขาได้แต่งงานใหม่
มีครอบครัวใหม่ และมีลูกแล้ว 2 คน เพราะคิดว่าเขาตายไปแล้ว..


ชัค สิ้นหวังอีกครั้งหนึ่งแล้ว...


จุดเปลี่ยนอยู่ตรงนี้.. 




ในตอนที่เขาติดเกาะ มีพัสดุมากมายลอยมาเกยตื่น
บางชิ้นสภาพยังดี นำมาใช้งานได้ บางชิ้นก็พังเสียหายไม่มีประโยชน์
จากพัสดุทั้งหมดนั้น มีชิ้นหนึ่งที่แตกต่าง... มันดูดีและสมบูรณ์อย่างมาก 
ราวกับว่ามันพยายามอย่างที่สุดที่จะมีชีวิตรอดเช่นเดียวกับเขา..

ชัคตั้งใจว่า.. ถ้าเขารอดชีวิต จะเอาพัสดุชิ้นนี้ ไปส่งให้ถึงมือเจ้าของให้จงได้


 
ฉากที่ไปกระตุ้นให้หนอนหลุดบ่วงคือฉากนี้. . 
มันเป็นเหตุการณ์ตอนที่ชัคนำกล่องพัสดุที่นำติดตัวออกมาจากเกาะ
ไปส่งให้ผู้รับตามที่เขาตั้งปณิธานไว้ แต่ปรากฏว่าดันไม่เจอใคร
เขาเลยวางมันไว้หน้าบ้านพร้อมกระดาษโน๊ตแสดงความขอบคุณ
จากนั้นเราก็ขับรถออกมา. . . แล้วดันเจอสี่แยก








ทางแยกนี้.. ไม่มีป้ายบอกทางอะไรทั้งสิ้น




ในระหว่างนั้นเอง...ตอนที่พี่แกยืนงงๆ อยู่นั้น
ก็มีสาวขับกระบะมาจอด แล้วแนะนำเส้นทางให้ ซึ่งสาวคนนี้
ก็คาดการณ์ได้ว่า น่าจะเป็นเจ้าของพัสดุคนที่เขาเพิ่งไปส่งมานั่นแหละ. .
ทั้งสองสบตากันยิ้มๆ ด้วยมิตรไมตรีจากนั้นเธอขับรถออกไป. . 
ยังคงเหลือเพียบเขาอยู่กลางสี่แยกนั้น . . 





ชัค เดินไปยืนอยู่กลางทางแยก และต้องตัดสินใจ..

เขามองไปยังเส้นทางที่จากมา.. 
และมองไปยังเส้นทางข้างหน้าที่ยังไม่เคยผ่านไป..
สุดท้ายเขาก็ได้เลือกอีกครั้งหนึ่ง!!!



หนังจบลงที่ตรงนี้...
พร้อมกับรอยยิ้มเล็กๆ ที่มุมปากของชัค!



“I know what I have to do now,
I’ve got to keep breathing
because tomorrow the sun will rise.
Who knows what the tide could bring?” 


“ฉันรู้แล้วล่ะว่าต้องทำอะไร
ฉันจะมีลมหายใจต่อไป เพราะวันพรุ่งนี้
ก็ยังมีพระอาทิตย์ขึ้น ใครจะรู้ล่ะว่า
คลื่นทะเลอาจนำอะไรดี ๆ มาให้”


[ ข้อคิดดีๆ จากหนังเรื่อง cash away ]



เมื่อมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น..  
บางอย่าง..ทำให้คุณรู้สึกล้มเหลว
เจ็บปวด ทรมานจนเกือบทนไม่ไหว..


ชีวิตของคุณยืนอยู่บนทางแยก มีอยู่สองเส้นทางให้คุณเลือก..
หนึ่ง คือ ลืมมันซะ..แล้วก้าวต่อไป กับสอง คือ ใช้ชีวิตไปวันๆ 
และอยู่กับมัน(ความเศร้า)อย่างเงียบสงบ..

สติช่วยได้ เมื่อต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนี้
จงมีสติ ค่อยๆ ตัดสินใจ.. ค่อยๆ คิดวิเคราะห์
ใครครวญถึงปัญหาที่เกิดขึ้น..


ทุกปัญหามีทางแก้ เราเลือกได้ 
ว่าจะ.. จมอยู่กับอดีต หรือ เดินไปข้างหน้า



เรียกว่า. . การเลือกของชัค
ทำให้หนอนมีสติ และหลุดบ่วงของตัวเอง
ยอมออกมาเผชิญกับโลกความเป็นจริงในที่สุด!





บันทึก.. โดยหนอน

ปล..ใครว่าการรำลึกความหลังไม่มีข้อดีกันฟระ
อย่างน้อยการได้นึกถึง เรื่องราวของชัคในวันนี้...  
ก็ทำให้ต่อมเผือกทำงานช้าลงไป 50% ก็แล้วกัน
555+ ขอบคุณนะชัค โนแลนด์ 

119



Create Date : 07 มิถุนายน 2562
Last Update : 7 มิถุนายน 2562 17:32:51 น.
Counter : 1830 Pageviews.

8 comments
20 ม.ค. 67 ป่าป๊าไปต่างจังหวัด kae+aoe
(18 มี.ค. 2567 05:41:15 น.)
a day full of good vibes พุดดิ้งรสกาแฟ
(16 มี.ค. 2567 17:34:35 น.)
คิดถึงรัชโยธิน จันทราน็อคเทิร์น
(15 มี.ค. 2567 23:19:40 น.)
CORO Field ราชบุรี ดาวริมทะเล
(14 มี.ค. 2567 20:41:49 น.)

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณสองแผ่นดิน, คุณกะว่าก๋า, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณอุ้มสี

  
มีสติ ก้าวต่อไป โลกกว้างใหญ่ สวยงามรอเราอยู่ครับ

โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 7 มิถุนายน 2562 เวลา:21:14:39 น.
  

สวัสดียามเช้าครับน้องหนอน

พี่ก๋าก็ชอบหนังเรื่องนี้นะ
แต่ด้วยความที่ดูมานานมากเลยเริ่มลืมๆเนื้อหาไปบ้าง
พอกลับมาอ่านรีวิว
ใช่เลย ชอบฉากจบมากจริงๆ

แฟนเก่าก็เป็นสิ่งหนึ่งในความทรงจำเช่นกันนะครับ
คราวนี้ก็เหลือแต่ว่าตอนเจอ 4 แยก
เราจะเลือกเดินทางใด

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 มิถุนายน 2562 เวลา:6:27:52 น.
  
ทุกปัญหามีทางออกเสมอ ... เราจะออกจะแก้ยังไงนี่สิคะ

สติมาปัญญาเกิด ใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย ทุกปัญหาจริง ๆ ค่ะ
โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 8 มิถุนายน 2562 เวลา:6:45:50 น.
  
พี่ก๋าแทบไม่เคยนอนกับพ่อแม่เลยนะ
เมื่อก่อนมีพี่น้อง 4 คน
พี่น้องนอนรวมกันครับ 555

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 มิถุนายน 2562 เวลา:14:22:55 น.
  
ใช่ค่ะ คุณหนอน เค้ามีกุ้งปูไม่อั้น
ครัวพี่ก็จัดหนักจัดเต็มกันเหมือนกัน
อาหารเซ็ตซีฟู้ด ไว้อัพบล็อกต่อตอนหน้าค่ะ

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 8 มิถุนายน 2562 เวลา:18:47:19 น.
  
หมิงก็ลูกคนเดียวครับ
แถมเป็นหลานชายคนเดียวของบ้านด้วย
พี่ก๋ามีหลานสาวสองคน
แต่เรียนอยู่ที่กรุงเทพครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 มิถุนายน 2562 เวลา:20:41:26 น.
  

สวัสดียามเช้าครับ
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 มิถุนายน 2562 เวลา:6:32:46 น.
  
สติมาปัญญาเกิดใช้ได้ดีเสมอเนาะน้อง
โหวต
โดย: อุ้มสี วันที่: 13 มิถุนายน 2562 เวลา:8:24:23 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Intooneweb.BlogGang.com

nonnoiGiwGiw
Location :
นนทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]

บทความทั้งหมด