คืนหนึ่งนั้น :: ผู้ชายกลางสายฝน


ใครกันหนอยืนมองสบตาฉัน ใครคนนั้นที่ดูดังเมฆสีดำ
ยืนมองไร้ถ้อยคำ ดวงตาคู่นั้นแดงก่ำ ใคร ใครนะเออ






ภาพที่สะท้อนกระจกตรงหน้า คนร่างสูง หลังไหล่กว้าง ยืนห่อกายด้วยหนาวสะท้าน
หยาดน้ำที่หยดรินอยู่ข้าง ๆ ไม่ต้องบอกเลยว่า ชุ่มเปียกมาก-เพียงใด หมอกสีขาวกรุ่นจาง
มองเห็นเป็นควันลอยอยู่บาง ๆ เท่าที่ตาพอสัมผัสได้ รอคอยใครอยู่ เฝ้ามองใครอยู่
เดินออกมาทางขวาถัดจากพื้นที่ตรงนั้นอีกสักหน่อย ใต้หลังคาใหญ่พอจะให้หลบฝนได้
แม้จะเหลือบมอง แต่สายตาที่จ้องไป ณ เบื้องหน้า ไม่อาจละเลือน คล้ายกลัวว่าใครจะหายไป



“อืม ๆ ได้ อืม เดี๋ยวไป” เสียงกระซิบป้องลงที่โทรศัพท์ มือปิดป้องกันละอองฝน
กายเปียกชุ่ม สั่นสะท้านทั่ว บุหรี่ในกางเกงยังพอมีสภาพให้จุดติดได้ไหวอีกสองสามตัว
กว่าชั่วโมงที่ตากฝนยืนเปียกเฝ้ามอง อย่างหวาดกลัวเหลือเกินว่า เขา จะพาเธอ...หายไป
ขนาดว่า จ้องมองเขม็งขนาดนั้นแล้ว รู้ตัวอีกที ก็สัญญาณสั่นในกระเป๋ากางเกงร้องบอก



“พี่ฮะ ไปราชเทวี” แท็กซี่หรี่ตามองคนตัวเปียกก่อนพยักหน้า



เสียงในความคิดของตัวเอง สะท้อนกลับไปกลับมา “ฉัน กำลัง เป็นบ้าอะไรหรือเปล่า”
นึกห่วง นึกหวง ใครคนหนึ่งที่เรียกเธอว่า “คนรัก” คอยห่วงใย เอาใจอยู่ไม่ห่าง
จะไปไหน ทำอะไร ก็เฝ้า ก็มอง ก็ดู อย่างเท่าที่จะเรียกได้ว่า ไม่ให้คลาดสายตา
ฉันหวาดกลัวเหลือเกินว่า เขาคนนั้น จะลงมือลงไม้ จะทำร้ายเธอ จะทำร้ายร่างกายเธอ

เรื่องจิตใจ ฉันห่วงไม่ได้มากหรอก เพราะสมองที่เป็นความคิด มันถูกปิดซ่อนไว้ข้างใน
จะพอเห็นได้ก็จากสายตาเหม่อลอยคู่นั้น อาการครุ่นคิดที่ ฉัน ไม่กล้าก้าวล่วงเข้าไป


ใจใครก็ใจใคร ความรักของใครก็ของใคร
ต่างคนต่างมีจิตเป็นของตัวเอง เราไม่อาจบังคับได้ว่าจะต้องคิด ต้องทำอะไรอย่างไร

หากเมื่อคิดจะรัก ก็รัก และหากคิดจะตัด ก็ตัด


นั่น คือคำพูดและการกระทำ ที่เจ้าตัวจะต้องกำหนดมันเอง ไม่มีใครอาจแทนได้เลย



เธอกับเขา คบหากันมากว่าห้าหกปี แถมยังสัมพันธภาพที่ดี ทั้งกาย ทั้งใจ
เมื่อวันหนึ่งที่ทางเดินคู่ขนานระหว่างเธอกับเขาไม่สามารถไปด้วยกันได้ ใครคนหนึ่งจึงต้องลา


เธอเป็นฝ่ายออกมา แต่ไม่ใช่ฉันที่เป็นฝ่ายเข้าไป
เราต่างเดินมาพบกันที่กลางแยกแห่งหนึ่ง แล้วตกลงที่จะเลี้ยวไปในทิศทางเดียวกัน



แล้วทำไม ทำไม .. ถึงรักได้มากขนาดนี้
คำถามในความคิด วนเวียนซ้ำไปซ้ำมา คล้ายกับการตีลูกบอลกระทบผนัง
เหวี่ยงไปแรง ก็ กลับมาแรง เหวี่ยงไปเร็ว ก็ กลับมาเร็ว
แต่ยังไม่มีคำตอบ .. ใช่ บางอย่างไม่จำเป็นต้องมีคำตอบ



“น้อง เข้าซอยไหม” เสียงปลุกให้ตื่นจากภวังค์ “ส่ายหน้า” คือคำตอบจากกระจกส่องหลัง
รถเทียบหน้าปากซอยทางเข้า ฝนซาเม็ดลงไปมากแล้ว แต่ให้เดินฝ่าไปอีก ก็คงเปียก


หยุดตัวลงที่หน้าปากซอยอีกครั้ง จะเดินเข้าไปดีหรือเปล่า
เสียงจากใครคนนั้น ไม่ดูทุกข์ร้อนอ่อนใจเท่าฉันเป็น
หยาดน้ำไหล่ลู่จากหน้าผากผ่านดวงตา ไออุ่นกายเริ่มส่งความร้อนออกมา

“เธอ รักฉันบ้างหรือเปล่า” คำถามที่อยากได้คำตอบ .. ผุดขึ้นมา


“ตัวเอง อยู่ไหนอ่ะ ถึงหรือยังไม่เข้ามาเหรอ” แค่นั้น ใจมันก็อ่อนยวบยาบลงกองแทบเข่าเธอ
“อืม อยู่ปากซอย กินปลาหมึกไหม” อีกสองสามคำก่อนจะวางสายลงไประหว่างกัน
ไม่รู้ว่าอะไร ทำไม อย่างไร ทุกอย่างมันถึงได้ดำเนินไปอย่างง่ายดายอย่างนี้

ความรักใช่ไหม คำว่ารักใช่ไหม ..
... ที่ทำให้ทุกอย่างมันเป็นไป ทำให้ทุกอย่างดำเนินไป
คำถามที่ยังไม่ได้คำตอบ .. ก็ คง ไม่เป็นไร ใจเราเองคงค้นหาได้ ในสักเวลาหนึ่ง



เตรียมเอาความร้าวรอนซ่อนเก็บเอาไว้ ความชอกช้ำในใจไม่ให้ใครเห็น
ใจดวงนี้เยือกเย็น เป็นภูผาที่สูงใหญ่ ไม่เคยเสียใจไม่เคยอาวรณ์





“ก๊อก ๆ ” เคาะประตูเรียกเธอเบา ๆ พร้อมยื่นถุงของกินไปตรงหน้า
“เปียกหมดเลย ไอ้ลูกหมาเอ้ย” อ้อมแขนที่โอบลงมาที่คอดึงให้เข้าบ้าน พร้อมผ้าเช็ดตัวที่วางบนหัว

แม้ไม่ได้ยินจากปาก ... ก็ คงไม่เป็นไร เถอะนะคำตอบมันคงมีมาให้ใน สักวัน สักวัน ..


......................

แอบเห็นว่า ถนนสายมิตรภาพหมดงบประมาณทำทางต่อแล้ว
จะบอกว่าเสียใจก็ใช่ที่ รู้สึกว่า เสียดายมากกว่า เหมือนใจหาย
นะ รู้สึกว่า เหมือนสติไม่อยู่กับตัว อะไรบางอย่างที่คุ้นเคยแต่กลับมองไม่เห็นอีกแล้ว
ยังอยากให้ก้าวต่อไป รักษาระยะทางอย่างนี้ต่อไปเรื่อย ๆ
ถ้ายังทำได้ ถ้ายังทำไหว อาจจะเหนื่อยสักหน่อย อาจจะล้าสักหน่อยก็ตาม


ขอบคุณ ... ที่ทำให้โลกไซเบอร์เล็กลง และหัวใจเราใหญ่มากขึ้น
ขอบคุณล่วงหน้ากับคุณอ้อน คุณปอย และคุณแจง
ขอบคุณฮะ






Create Date : 18 มกราคม 2553
Last Update : 19 มกราคม 2553 9:52:11 น.
Counter : 2074 Pageviews.

9 comments
๏ ... รักลูก เลี้ยงหลาน ... ๏ นกโก๊ก
(20 มี.ค. 2567 20:54:32 น.)
: หยดน้ำในมหาสมุทร 8 : กะว่าก๋า
(19 มี.ค. 2567 05:02:03 น.)
: หยดน้ำในมหาสมุทร 7 : กะว่าก๋า
(18 มี.ค. 2567 06:03:40 น.)
เถาตำลึง..ตัวร้าย (ヤサイカラスウリ) ฟ้าใสทะเลคราม
(18 มี.ค. 2567 22:51:42 น.)
  
มาซึมซับความรู้สึกของสายฝนบ้านนี้
ไม่รู้ทำไม อ่านจบมีแอบถอนหายใจยาว ๆ ไปที
ถอนหายใจให้ .. ความรัก ล่ะมั้ง
โดย: Paulo วันที่: 18 มกราคม 2553 เวลา:19:44:39 น.
  
เศร้าซะ
เมื่อคนนั้นไม่รักเรา ก็ยังมีอีกหลายคนที่รักเราครับ



ปล. ไม่อยากให้โครงการนี้หยุดเหมือนกันเลย
อยากให้มีต่ออ่ะครับ หรือว่าจะสานต่อดีนะ
โดย: ไอซ์คุง (ปีศาจความฝัน ) วันที่: 18 มกราคม 2553 เวลา:20:48:54 น.
  
วันนี้เค้ายังไม่รักเรา แต่ซักวันเค้าอาจมีใจให้เราบ้างล่ะค่ะ
หรือไม่ก็รักแล้วแต่ไม่กล้าบอกให้ดูที่การกระทำก็ได้นะคะ
โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 18 มกราคม 2553 เวลา:23:19:11 น.
  
ซึมๆ เหงาๆนะ ทั้งที่เรื่องราวไม่ได้สื่ออย่างนั้น
ความรัก..บางทีการกระทำอย่างเดียวก็ไม่พอ
การพูดออกมา แม้นว่าไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนในความสัมพันธ์
แต่ก็ทำให้คนได้ฟัง ได้รู้..ชื่นอกชื่นใจดี...ยังไงก็อยากได้ยินอยู่ดี
ไม่เป็นไรเนอะ อย่างน้อยก็ยังอยู่ด้วยกัน(หรือแวะมาเยี่ยมเฉยๆ)
อย่างน้อยก็ยังห่วงใยเอาผ้าเช็ดตัวมาให้...รักแท้คือความห่วงใย

เนื้อเรื่องซึ้งแล้ว..แต่ข้อความท้ายๆซึ้งกว่า..ขอบคุณเช่นกัน
ที่สละเวลามาร่วมเขียนเรื่องราว ทั้งเรื่องจริง เรื่องไม่จริง
เล่าสู่กันฟัง แลกเปลี่ยนความสนุกสนาน เศร้าบ้าง ซึ้งบ้าง..

เมื่อไหร่พร้อม..คงกลับมาชวนเพื่อนๆ มาร่วมเล่นสนุกๆกันอีกค่ะ
แต่คิดเอาไว้ว่า ถ้ากลับมาอีก...โจทย์คงเปลี่ยนเป็นอะไรที่ท้าทายกว่านี้
โดย: nikanda วันที่: 19 มกราคม 2553 เวลา:6:42:22 น.
  
อ่านแล้วปวดหัวใจจัง

กับความรู้สึกที่ไม่รู้ว่าจะสื่อไปถึงไหม?
ทั้งๆ ที่ความรักมันท่วมหัวใจเสียขนาดนั้น

เข้าใจความกลัวของ 'เขา' เลยนะคะ
หากทำอะไรผิดพลาดไป แม้สักนิดเดียว
แล้วสิ่งที่พยายามทนุถนอมไว้มันแตกสลาย
คงไม่อยากแม้จะมีชีวิตต่อละมั้ง

เฮ้อ...เศร้า...
โดย: ธาร นาวา วันที่: 19 มกราคม 2553 เวลา:8:13:22 น.
  
อ่านแล้วมีแอบงงเล็กน้อย ว่าสมหวังหรือผิดหวัง แล้วคนที่เปิดประตูเป็นใครอะ แต่ที่แน่ๆ คำถามยังไม่ได้คำตอบเลย
โดย: Summer Flower วันที่: 19 มกราคม 2553 เวลา:11:13:11 น.
  
กับบางคน
ไม่ต้องใส่ใจ
เพราะ อยู่ในใจ
โดย: .. IP: 202.57.129.65 วันที่: 19 มกราคม 2553 เวลา:13:28:47 น.
  
มาซึมซับความรู้สึกด้วยคนค่ะ

ไม่อยากให้จบเหมือนกันเลย
เศร้าซะ

สองพี
โดย: SongPee วันที่: 19 มกราคม 2553 เวลา:20:58:05 น.
  
อยากได้คำว่ารัก หรืออยากได้ความรักน้า ...
สำหรับนิยายฉากนี้ ^^

เปียกเข้าบ้านแต่มีคนเช็ดผมให้แบบนี้
ยอมเปียกกันแย่เลยล่ะคุณ

บล็อกเราสองคนคล้ายกันที่มีเพลงประกอบสลับกันนี่แหละคุณ
fly me to the moon เวอร์ชั่นที่บล็อกนู้นเป็นของ olivia ล่ะ
โดย: BeCoffee วันที่: 21 มกราคม 2553 เวลา:23:02:39 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Inmemoir.BlogGang.com

inmemoir
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]