10 วัดดอยสุเทพ ทุ่งสแลงหลวง ทริปที่ผ่านมา"วัดเจดีย์7ยอดและวัดเจดีย์หลวง" //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=imaginer&month=01-2007&date=01&group=4&gblog=14 แต่ไม่ได้ไปกินร้าน"ข้าวซอยศิริชัย"ที่อยู่ใกล้กัน คนเยอะพวกเราต้องขึ้นไปกินชั้น2 ร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องข้าวมันไก่และหมูสเต๊ะ  ก่อนเข้าร้านฉันแวะซื้อของฝากร้านติดกันพวก ขนมข้าวซอยตัดห่อสีแดง และคนขายเชียร์โดนัทที่ทอดในกะทะสดๆ เชียร์ว่ากรอบนอกนุ่มใน เลยอุดหนุนหน่อย กับเชียร์ส่าหร่ายทอดกรอบอร่อยดี เพราะฉันชอบกินสาหร่าย ร้านนี้ไอศครีมกะทิสดเขาก็อร่อยใส่เนื้อมะพร้าวอ่อนสดด้วย  เวลา13.00น. ไปดอยสุเทพ ข้อมูลเพิ่มเติม วัดดอยสุเทพ //www.ezytrip.com/travel/images/10000/00600/000556.htm ผ่านมหาลัยเชียงใหม่รั้วสีม่วงยาว ต่อไปเป็นสวนสัตว์ถ้าใครอยากแวะดูหมีแพนด้า มองเข้าไปร่มรื่นดีเหมือนกัน ถนนขึ้นเนินเขาคดเคี้ยวไม่กี่สิบนาทีเราก็ถึง แต่จะไปองค์เจดีย์มีทั้งกระเช้าให้ขึ้นไปหรือจะเดินขึ้นบันได พวกเราเลือกบันไดเพราะคิวกระเช้าเยอะ ทั้งที่ปวดขาและรองเท้ากัดจากเดินสวนโลกมาเราก็ค่อยๆเดินขึ้นเหนื่อยหอบถึงจนได้ แต่เดี๋ยวนี้ดีกว่าเมื่อสมัยนักเรียนที่เราเคยมาบันไดจะชันกว่านี้ เดี๋ยวนี้ทำใหม่มีที่พักบันไดเป็นระดับมีร้านขายของบางส่วน ใช้เวลาประมาณ30นาทีก็ถึง  นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเยอะมาก ต้องถอดรองเท้าทิ้งไว้ข้างนอก ส่วนมากเวลาไปเที่ยววัดฉันจะใส่รองเท้าแตะแบบราคาไม่แพง จะได้ไม่กังวลโดนขโมย  เจดีย์ดอยสุเทพ มีพวกรับถ่ายภาพคู่กับองค์เจดีย์ภาพละ40บาท  ทั้งเดินวน3รอบ ทั้งกราบไหว้พระให้ครบ4ทิศ มึน  รอบนอกอุโบสถจะมีที่เคาะระฆังรอบเป็นจุด มีไฮไลจุดชมวิวตัวเมืองเชียงใหม่  นั่งรอหลานตามนัดดูคนมาเที่ยวฆ่าเวลาก็เพลินดี นับถือใครทำงานไกด์ที่เชียงใหม่ เพราะงานคงหนักกว่าที่อื่น ไหนจะนั่งรถขึ้นเขาเดินขึ้นวัด เห็นต่างชาติกลุ่มหนึ่งคงมาถ่ายทำออกทีวี คงเป็นแนวเรื่อง หนุ่มวัยรุ่นมาเที่ยวแบกแพ็คกางแผนที่เที่ยวแต่ละจุด ถ่ายรูปคนดำเนินเรื่องไม่ทัน ไม่แน่น๊าอาจเป็นนักร้องดัง เมื่อหลานมาเวลา15.00น. ก็ออกจากวัด แอบทะลุมหาลัยเชียงใหม่เป็นทางลัดเลาะไปด้านหลังมหาลัย เพราะรถติดมาก  ทีแรกขากลับว่าจะแวะวัดหิริญภุญชัย เวลาเลทที่จะเดินทางกลับมากเลยอด คนขับรถอาจไม่ไหวและไม่ชินทางเวลากลางคืน มื้อค่ำแถวพิษณุโลก ทานก๋วยเตี๋ยวหมูลูกชิ้นเบอเริ่มเท่ากำปั้น และจำเป็นต้องหาที่พักสี่แยกเลี้ยวเข้าตัวเมือง มาเจอโรงแรมภูเกิด ห้องละ380บาท สะอาดสงบใช้ได้ ใกล้ทางออกกลับบ้านด้วย   ประมาณ9.00น. เราออกจากโรงแรม แวะซื้อสะตอแถววังน้ำเย็น เพราะแปลกดีเป็นอีกที่ที่ไม่ใช่ใต้ก็มีขายแต่พอเอามาแกะเม็ดเล็กกว่า ที่ห้อยเป็นลูกดำๆนะรังต่อนะ คนขายคงถือเป็นเครื่องราง  จะเข้าไปชมน้ำตกที่แก่งโสภา แต่มีเจ้าหน้าที่เก็บค่าเข้าชม คนละ30บาทรถ50บาท จะดูไม่นานเลยไม่เสียเงินเข้าไปชม ค่ากางเต้นท์30 บาท มีรับทำอาหารให้ทาน ประมาณ10.00น. ถึง"ทุ่งสแลงหลวง" เจ้าหน้าที่ผู้หญิงทางเข้ายิ้มแย้มดี ไม่ได้มาพักกางเต้นท์ค้างคืนเลยไม่เสียค่าเข้าชม มีโปรชัวร์แผนที่ที่เที่ยวด้วย ดีจัง แต่ถ้ากางเต้นท์คิดราคา30บาท เพื่อความสะดวกมีรับทำอาหารสั่งให้ทำทานด้วย  มีรถบรรทุกเบ็นซ์โบราณ เรือโบราณให้ดู  ซากโครงกระดูกช้างอายุ90ปีกระดูกสมบูรณ์90 เปอร์เซนต์ ตายเพราะถูกยิง  ป่าต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นน่ามากางเต้นท์นอนมาก สะอาดแต่ทางถนนราดยางแคบ บางจุดชันแต่รถเก๋งก็พอไปได้ พวกเราขับรถไปชมจุดกางเต้นท์ และสายน้ำเข็ก เป็นน้ำตกไม่สูงมากแต่กว้างใหญ่ เสียงสายน้ำไหลแรงฟังเพลินเลยละ โลเกชั่นเหมือนเคยเห็นในหนัง น่ามากางเต้นท์นอนมากเลย ร่มเย็น สงบ ธรรมชาติล้วนๆ  เท่าที่อ่านในโปรชัวร์ที่นี่น่าสนใจน่าดูหลายอย่าง *พวกทุ่งหญ้า เช่น ทุ่งสแลงหลวง เป็นทุ่งหญ้า มีดอกไม้ ทุ่งหญ้าเปลี่ยนสีสันตามฤดู ฤดูฝนเป็นสีเขียวขจี ฤดูแล้งสีเหลืองทองและแดง *น้ำตกแก่งโสภาคล้ายแองการ่า *แก่งวังน้ำเย็น เดือนมีค-เมย. จะพบแมงกระพรุนน้ำจืด *ถ้ำพระวังแดง มีน้ำลอด ยาวที่สุดในไทย13.5กม. มีปลาตาบอดปลาแปลกๆ *ถ้ำเดือน-ถ้ำดาว มีน้ำลอด หินงอกหินย้อยระยิบระยับเหมือนแสงดาว  ผ่านเขาค้อ เพชรบูรณ์ ทิวเขาคล้ายสวิสเซอร์แลนด์แต่อยู่ในเมืองไทย  ซื้อผักและมะขามต่างๆริมทาง จนเวลา14.00น. แวะทานไก่ย่างเขาสวนกวางริมทาง ตัวละ60บาท  สรุปการเดินทาง การเดินทางวันแรก วันที่22 ธค. เริ่มต้นออกจากบ้านตี4.30น. เพื่อจะทันเห็นพระอาทิตย์ขึ้นที่น้ำหนาว เข้าสู่เมืองพิษณุโลกเวลาประมาณ10.30น. แวะไหว้พระพุทธชินราช ประมาณเที่ยง เข้าเขตอุตรดิตถ์ แวะที่พักริมทาง"ช่องเขาเพลิง"ทานข้าวเที่ยง ผ่านเขตจังหวัดแพร่ เวลาประมาณ 15.00น.ถึงลำปาง ไหว้พระธาตุลำปางหลวง เวลาประมาณ16.30น. ถึงจังหวัดลำพูนเกือบ6โมงเย็นถึงที่พักอยู่ที่ศูนย์ราชการบ้านพักนักกีฬา700ปีเชียงใหม่ วันที่23 ธค. เที่ยววันที่สอง ตืนเช้ามาประมาณ.6.30น. ไปเชียงราย ลอดอุโมงค์ถนนประมาณ3อุโมงค์ของตัวเมืองเชียงใหม่ เวลา 8.00น. ถึงน้ำพุร้อน ทานข้าวเช้า ประมาณ10.00น. ไปวัดร่องขุ่น เวลาประมาณ11.00น.ดูมหาลัยแม่ฟ้าหลวง เขานางนอน น้ำตกห้วยก้างปลา (อุทยานแห่งชาติลำน้ำกกที่3) เวลาประมาณ15.00น.เราก็เริ่มเดินไปที่พักอ.เวียงแก่น มื้อเย็นกินหมูกะทะ วันที่ 24ธค. เที่ยววันที่สาม เวลา8โมงกว่าพวกเราเริ่มออกเดินทางจากเวียงแก่น เวลา9โมงเราก็มาถึงร้านอาหารชาวบ้านในอำเภอร้านตรงข้ามกับโรงเรียน เวลา11.00น. ถึงภูชี้ฟ้า อีก2เดือนดอกเสี้ยวบานและดอกซากุระบาน เที่ยง ทานข้าวที่ตัวเมืองแถวนั้นร้านใกล้วัดที่มีพระนาคปรก เวลา15.30น. ขับรถถึงยอดเขาดอยแม่สลองดูพระธาตุ มื้อค่ำทานข้าวต้มกุ๊ยที่ตัวเมืองเชียงราย วันที่25ธค. เที่ยววันที่สี่ เดินทางกลับเชียงใหม่ เพื่อไปเที่ยวงานราชพฤกษ์ที่เราจองตั๋วได้วันนี้ ออกบ้าน7โมงเช้า กินข้าวเช้าร้านเดิม ประมาณ10.00น. ถึงตัวเมืองเชียงราย ข้าวเที่ยง ปิคนิคอุทยานแห่งชาติขุนแจ บ่ายโมงถึงเชียงใหม่ ประมาณ15.00น. ไปงานสวนโลก ประมาณ18.30น. ออกจากงานสวนโลก 26 ธค. เที่ยววันที่ห้า ครบกำหนดที่เรามาถึงวันที่จะกลับบ้าน เวลา8.00น.เราก็เริ่มเดินทางออกจากที่พัก ไปทานโจ๊กร้าน"ศีรพิงค์"ตรงข้าม3แยกหอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม เวลา10.00 ดูพิพิธพันธ์สถานแห่งชาติ เชียงใหม่ ประมาณ11.00น. เราไปดูวัด"เจดีย์7ยอด" ประมาณ 11.30น. มานมัสการวัดเจดีย์หลวง ประมาณ12.00น. ไปกินข้าวมันไก่ใก้ลร้าน"ข้าวซอยศิริชัย" ประมาณ13.00น. ไปดอยสุเทพ ผ่านมหาลัยเชียงใหม่รั้วสีม่วงยาว ต่อไปเป็นสวนสัตว์ เกือบหกโมงเย็นออกจากเชียงใหม่ สองทุ่มกว่ามื้อค่ำแถวพิษณุโลก ทานก๋วยเตี๋ยวหมู ประมาณสี่ทุ่ม พักโรงแรมภูเกิด ห้องละ380บาท วันที่27 เที่ยววันที่หก เพิ่มหนึ่งวัน ประมาณ9.00น. เราออกจากโรงแรม ประมาณ10.00น. ถึงแถววังน้ำเย็น เที่ยว"ทุ่งสแลงหลวง" ผ่านเขาค้อ เพชรบูรณ์ เที่ยวจนคุ้ม6วัน หมดค่าน้ำมันรถไป-กลับ ประมาณ 4 พันกว่าบาท จดที่พักโรงแรมราคาถูกเชียงรายมาติดถนนใหญ่ ราคา200-300บาท นันทชัย 053-702381
|
บทความทั้งหมด
|
||||||||||||||||||||
 |
|
ผู้ติดตามบล็อก : 91 คน [