ถ้าพูดถึงผักพรึกหลายคนอาจไม่รู้จักแต่ถ้าบอกว่าผักขี้หูดคงพอจะมีคนรู้จักบ้างเป็นผักชนิดเดียวกันค่ะแต่เรียกชื่อต่างกัน... แถวบ้านเราจะเรียกผักพรึก อาจจะเป็นเพราะว่ามีฝักคล้ายพริก และมีรสเผ็ดนิดหน่อยก็เลยเรียกผักพรึก(เพี้ยนไปจากพริกนิดหน่อย)ไม่รู้มีใครสังเกตุหรือเปล่า ผักพรึกถ้ากินสดๆจะออกเผ็ดหน่อยๆแต่ถ้าทำให้สุกอย่างลวกแล้วนี่จะไม่มีรสเผ็ดค่ะ แปลกดีเน๊าะตอนกลับไปไทยได้แอบเหน็บเมล็ดมาปลูกที่นี่ด้วยรู้สึกว่าเขาจะชอบอากาศเย็นๆของที่นี่น่ะค่ะ ออกฝักกันจนเก็บกินไม่ทันผักพรึกเป็นผักพันธุ์เบาปลูกไม่ถึงสามเดือนก็ได้กินฝักแล้วค่ะปีนึงปลูกสามรุ่นก็ได้กินทั้งปี ตอนนี้ในสวนก็ยังพอมีให้เห็นบ้างค่ะแต่ถ้าหนาวจัดๆมีหิมะลงก็ไม่เหลือเหมือนกัน...อ้อ ถ้าได้ปลูกปีแรกแล้ว ปีถัดไปแทบจะไม่ต้องปลูกเองอีกเลยค่ะเพราะบางครั้งเราเก็บกินไม่หมดฝักมันก็จะแก่แล้วเมล็ดก็จะร่วง พออากาศอุ่นๆช่วงฤดูใบไม้ผลิ เจ้าเมล็ดเหล่านั้นก็จะพากันงอกออกมาชมโลกนี่ดอกค่ะ สีม่วงเล็กๆน่ารักเชียวพอเริ่มออกดอกแล้วอีกไม่ช้าก็จะได้กินฝักแล้วล่ะค่ะผักพรึกเอามาทำอาหารได้หลายอย่าง ลวกจิ้มน้ำพริก ใส่ในแกงต่างๆแกงส้มก็อร่อยค่ะ แต่พวกนี้กินจนเบื่อแล้ว วันนี้เลยเอามาทำแกงป่ากับปลาย่างแกงไกลบ้านบางครั้งง่ายกว่าใกล้บ้่าน เพราะมีอะไรก็ใส่ๆลงไปผักพรึกล้างน้ำเตรียมไว้ค่ะปลานิลเอามาย่างพอสุก(ชอบปลานิลเพราะเนื้อเยอะดีค่ะ)แล้วแกะเอาแต่เนื้ออ้อ อย่าลืมน้ำพริกแกงป่าน่ะค่ะ และก็น้ำปลาเอาไว้ปรุงรสค่ะเอาน้ำใส่หม้อตั้งไฟ พอเดือดใส่น้ำพริกแกง ตามด้วยเนื้อปลาที่แกะไว้พอเดือดอีกครั้งสักพักใส่ผักพรึกค่ะ พอผักโดนความร้อนจะเขียวสดล่ะทีนี้พอเดือดก็ปรุงรสด้วยน้ำปลาถ้ามีใบแมงลักก็ใส่ลงไปด้วยค่ะเสร็จแล้ว ง่ายจริงๆเลยแกงไกลบ้านเนี่ยทานตอนร้อนๆซดคล่องคอดีค่ะ คล้ายแกงเลียง