หลีเป๊ะ......มัลดีฟเมืองไทย......พระเจ้า!!เเค่ได้ยินสมญานามก็กรี๊ดกร๊าดอยากไป ณ เดี๋ยวนั้น

ทริปนี้ จขบ.เเละเพื่อนๆรอคอยให้ถึงวันที่จะได้ไปเกือบปี จนมันก็มาถึง หลังจากที่ทั้งหาข้อมูล อ่านรีวิวใน BP จนตาแทบสึกก็ได้ไปลั้นลายังเกาะสวาท หาดสวรรค์ที่หลายๆคนฝันถึงซะที......

ทริปหลีเป๊ะเป็นทริปสั้นๆค่ะ 3 วัน 2 คืน ก็ไปได้แล้วแต่เชื่อว่าร้อยทั้งร้อยไปแล้วไม่อยากกลับ ถ้าอยากรู้ว่าทำไม ต้องลองไปดูนะคะ เมืองไทยของเราไม่น้อยหน้าที่ไหนในโลกอยู่เเล้ว

ป.ล.จริงๆทริปนี้ จขบ.ไปทัวร์สงขลาด้วยเเต่ยังไม่ได้จัดการรูปลงคอมเลย เลยเอามารีวิวเฉพาะส่วนของ อาดัง ราวี หลีเป๊ะ เท่านั้นนะคะ


ข้อมูลเกาะหลีเป๊ะ จขบ.แนะนำให้เข้าไปดูในเว็บ//www.kohlipethailand.comข้อมูลเยอะเเละอัพเดตมากๆ มีทุกอย่างสำหรับคนที่จะไปหลีเป๊ะอยากรู้เลยทีเดียว ทั้งที่พัก การเดินทาง อาหารการกิน ฯลฯ
ถ้ายังไม่เคลียร์ ก็เเนะนำเว็บพันทิพห้อง Blueplanet //www.pantip.com/cafe/blueplanet/ เลยค่ะ เสริทคำว่าหลีเป๊ะขึ้นมา รับรองข้อมูลเพียบ!!!

อารัมภบทมามาก ไปกันเลยดีกว่า Let's Go......

Day 1
เราสามารถเดินทางไปได้หลักๆ 4 วิธีคือ
- ขับรถไปเอง มีที่รับฝากรถตรงท่าเรือ
- รถทัวร์ ลงที่อ.ละงู จ.สตูล
- รถไฟ นั่งมาลงที่หาดใหญ่ แล้วต้องต่อรถตู้ไปอีกที
- เครื่องบิน ลงที่สนามบินหาดใหญ่เช่นกันแล้วต่อรถตู้มาท่าเรือ

คนที่นั่งเครื่องมาถึงเเล้วจะไปหลีเป๊ะเลยควรเลือกไฟท์เช้าสุดนะคะ เพื่อให้ทันเรือรอบ 11.30



น้ำบนเกาะแพงค่ะ เลยพกไปเอง ฮ่าๆๆๆ ประหยัด!!



ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินหาดใหญ่มาถึงท่าเรือปากบาราประมาณ 1.30 ชม.ค่ะ รถตู้ติดต่อได้ที่คิวรถตู้ตลาดเกษตร หรือรีสอร์ทที่คุณพักบางแห่งจะมีเซอร์วิสมารับที่สนามบินนะคะ ไปตกลงราคากันอีกที



เรือที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลือกใช้ก็คือ Speed Boat ค่ะเพราะราคาไม่ต่างจาก Ferry เท่าไหร่เเละเร็วกว่ามากกกกกกกกก
ตั๋วเรือนี่ก็เช่นกันค่ะ จะหาเองซึ่งมีหลายเจ้าให้เลือกใช้ หรือให้รีสอร์ทจัดการให้ก็ได้ ครั้งนี้ จขบ.ให้รีสอร์ทจัดการให้ค่ะ สนนราคาที่ 900/คน ไป+กลับนะคะ ถ้าซื้อเองราคาอาจถึง 1,200/คน เหอๆๆๆ

เรือวิ่งมาประมาณ 20 นาทีจะมาจอกที่เกาะตะรุเตาก่อนค่ะ แต่วันที่เราเดินทางเรือเเจ้งว่าให้เลือกระหว่างเกาะไข่กับตะรุเตา ให้ลงทีเดียวเพราะต้องทำรอบ(ซะงั้น) ประชามติบนเรือส่วนใหญ่เลือกไปเกาะไข่ค่ะ สวยมากกกก ไม่ผิดหวังเลย

ป.ล.เกาะไข่ไม่ใช่ว่าเรือทุกลำ ทุกรอบจะจอดได้นะคะ ต้องดูลม ฟ้า อากาศด้วย พูดง่ายๆก็เสี่ยงดวงนั่นแหละค่ะ



เรือจะจอดให้นักท่องเที่ยวลงไปถ่ายรูปประมาณ 15 นาทีแล้วก็มุ่งไปเกาะหลีเป๊ะ เป้าหมายของทริปต่อไปค่ะ
Speed Boat 5 เครื่องยนต์ทำงานสมประสิทธิภาพ เพียงอีก 1 ชม.กว่าๆก็พาเรามาถึงโป๊ะเรือที่เกาะหลีเป๊ะ มัลดีฟเมืองไทยแล้วววว
นักท่องเที่ยวต้องต่อเรือเมล์เข้าที่พักนะคะ คนละ 50 บาท อ่ะ...อย่าเพิ่งตกใจ เป็นรายได้ของชาวบ้านค่ะ อาจจะแปลกๆไปหน่อยแต่เพราะเกาะหลีเป๊ะไม่ได้เปิดให้เที่ยวทั้งปี ประมาณพ.ค.ไปจนถึงพ.ย.ก็ปิดยาวค่ะ เพราะมีมรสุมไม่เหมาะแก่การเดินทาง เค้าจึงมีช่วงนาทีทองไม่กี่เดือนเอง



ทริปนี้เราพักที่ Mountain Resort ค่ะ บันไดสูงเอาเรื่องเลย เหอๆๆๆ



แต่ขึ้นมาถึงส่วน Reception เเล้วได้วิวอย่างนี้....ก็โอเคนะ



หน้าตาห้องพักของเราตลอด 3 วัน 2 คืนนี้ค่ะ
เป็นห้องพัดลม แต่กลางคืนไม่ร้อนนะคะ เพราะตั้งบนเชิงเขาเเละยังมีต้นไม้เยอะ แถมลมทะเลพัดทั้งคืนอีก เลยชิลล์ ชิลล์ค่ะ กำลังสบายย
รูปล่างขวานั่นถ่ายจากหน้าห้องนะคะ ซีวิวเลยนะเนี่ย



ภายในห้องมีแค่พัดลมเเละเตียงนะคะ ทีวี ตู้เย็น ไม่มี



หลังจากจัดการธุระส่วนตัวเสร็จเราก็ไปเกาะอาดังค่ะ เพื่อขึ้นจุดชมวิวที่ผาชะโด



เหนื่อย..........มากกกกกกกกกกก.............ค่ะ ไม่เหมาะกับผู้เป็นโรคหัวใจนะคะ
แต่ จขบ.อยากเห็นเกาะหลีเป๊ะทั้งเกาะก็เลยเดินเรื่อยๆเหนื่อยก็พัก พอถึงนี่แทบสลบค่ะ แต่ก็คุ้ม วิวสวยมากกกกกกกก



ต่อตอน 2 นะคะ