บทกวีไฮกุ ๔


ภาพจากบลีอค chineseartstore.com



Anguish deepened
By the woodpecker's
Distant hammering.

(Janice Boston)
ความรวดร้าวยิ่งล้ำลึก
เพียงได้ยินเสียงนกหัวขวาน
ดังแว่วมาจากที่แสนไกล


Around the campfire
Singing every song we know
To keep warm.

(Katherine Gallagher)
นั่งรอบกองไฟ
ร้องเพลงทุกเพลงที่เรารู้จัก
ช่วยให้กายอบอุ่นขึ้น


In the bush
The scent of wild orchid
From a rotting tree.

(Elena Lindsey)
ในพุ่มไม้
กลิ่นดอกกล้วยไม้ป่ารวยริน
มาจากต้นไม้ผุพัง


Winter morning
Without leaf or flowers
The shape of tree.

(L.A. Davidson)
เช้าหน้าหนาว
ไม่มีแม้ใบไม้หรือดอกไม้
เห็นเพียงรูปร่างของต้นไม้


We talked while outside
The sky changed from winter blue
Through green to black night.

(Collin Blundell)
เราคุยกันขณะที่เบื้องนอก
ท้องฟ้าเปลี่ยนจากสีฟ้าหน้าหนาว
กลายเป็นเขียวและสีดำในยามราตรี


Time to go
The stones we throw
At the bottom of the ocean.

(Gary Hotham)
ได้เวลาต้องไปแล้ว
ก้อนหินที่เราเขวี้ยงออกไป
จมลงสู่ท้องทะเล


The summer night
She lets the firefly glow
Through the cage of her fingers.

(Gary Hotham)
คืนหน้าร้อน
เจ้าหิ่งห้อยกะพริบแสง
อยู่ในอุ้งมือเธอ





ภาพจาก nipic.com


Richard Wright นักประพันธ์ชาวอเมริกัน แต่งไฮกุไว้เยอะ เจอหนังสือผลงานของเขาในร้านคิโนฯ หนังสือชื่อ "HAIKU THIS OTHER WORLD" ในเล่มมีไฮกุกว่าแปดร้อยบท เลือกบทที่ชอบมาให้อ่านกันค่ะ


Lifting the lantern
The Scent of plums on the trees
Became more fragrance.

เพียงยกตะเกียงขึ้น
กลิ่นของพลัมบนต้น
ก็ยิ่งทวีความหอมขึ้น


As silent as snow
Sleeping in the cold moonlight
Of winter mountain.

เงียบเชียบราวหิมะโปรย
หลับใหลภายใต้แสงจ้นทร์
ของภูผาหน้าหนาว


The valley is full
Of the scent of violets
Scattered by spring rain.

หมู่บ้านอวลไปด้วย
กลิ่นหอมของดอกไวโอเลท
ด้วยฝนฤดูใบไม้ผลิ


I see nobody
Upon the muddy roadway
In autumn moonlight.

ฉันมองไปไม่เห็นใคร
บนถนนที่เต็มไปด้วยโคลน
ในแสงจันทร์ฤดูใบไม้ผลิ


Sweep away the clouds
And let a dome of blue sky
Give this sea a name.

กวาดเมฆให้หมดฟ้า
แล้วให้ท้องฟ้าสีฟ้าใส
ตั้งชื่อให้ทะเลแห่งนี้


In the falling snow
A laughing boy holds out his palm
Until they are white.

หิมะโปรยปราย
เด็กน้อยหัวเราะร่ายื่นมือออกไป
จนกระทั่งมือกลายเป็นสีขาว


A descending moon
Commanding cricket to sing
Louder in the woods.

ดวงจันทร์ที่คล้อยต่ำลง
สั่งเจ้าจิ้งหรีดให้กรีดปีก
จนเสียงดังก้องไปทั้งป่า


A butterfly makes
The sunshine even brighter
With fluttering wings.

ฝีเสื้อทำให้
แสงอาทิตย์ดูสว่างสดใสขึ้น
ด้วยปีกที่กระพือของเจ้า


Quickly vanishing
The first drop of summer rain
On an old wood door.

เหือดหายไปอย่างรวดเร็ว
น้ำหยดแรกของฝนหน้าร้อน
บนประตูไม้เก่าคร่ำคร่า


As the music stops,
Flooding strongly to the ear
The sound of spring rain.

เมื่อดนตรีหยุดบรรเลง
สิ่งที่ดังก้องเข้ามาให้หู
คือเสียงฝนฤดูใบไม้ผลิ


How melancholy
That these sweet magnolias
Cannot smell themselves.

น่าเศร้านัก
ที่ดอกแมกโนเลีย
ไม่ได้กลิ่นของเจ้าเอง


The swaying lanterns
Under the magnolias
Glow with sweet scent

ตะเกียงไหวเอน
ใต้ต้นแมกโนเลีย
เปล่งแสงพร้อมกลิ่นหอมหวน



บทกวีบทนี้แต่งโดยกวีชาวอเมริกัน Kenneth Rexroth เป็นกวีชาวอเมริกันที่ชอบบทประพันธ์ของญี่ปุ่นมาก มีงานเขียนแนวญี่ปุ่นออกมาหลายเล่ม บทนี้อ่านแล้วชอบมาก โดยเฉพาะประโยคสุดท้าย เจอคุณดาหลาแปลเป็นไทยไว้อย่างเพราะ อยู่ในเวบ thaiwriter


ASAGUMORI
On the forest path
The leaves fall.In the withered
Grass the crickets sing
Their last songs.Through dew and dusk
I walk the paths you once walked,
My sleeves wet with memory.


ใบไม้หล่นร่วง
ลงสู่ทางเดินในไพรป่า จิ้งหรีดเริงร้อง
บทเพลงสุดท้าย
ท่ามกลางต้นหญ้าที่เหี่ยวแห้ง ผ่านน้ำค้างและยามค่ำ
ฉันก้าวเดินไปบนเส้นทางซึ่งครั้งหนึ่งเธอเคยเหยียบย่าง
แขนเสื้อของฉันเปียกชุ่มด้วยความทรงจำ


บีจีจากคุณยายกุ๊กไก่

Free TextEditor





Create Date : 29 กันยายน 2551
Last Update : 2 พฤษภาคม 2565 9:22:08 น.
Counter : 2229 Pageviews.

9 comments
(ประชาชน)​ นอนฝันขอให้ได้เงินหมื่น​ (เจ้าสัว) นอนตื่นขอให้ได้เงินแสน​ (ล้าน) ปรศุราม
(18 เม.ย. 2567 11:39:20 น.)
: รูปแบบของความว่าง : กะว่าก๋า
(18 เม.ย. 2567 04:00:35 น.)
เรา คือ เอไอ ชีวภาพ..ที่ ทุกอย่าง ทำงาน อัตโนมัติ..อวิชชา ไม่รู้ โง่ ทุกข์..โดย อัตโนมัติ 15 CXO.Asia
(15 เม.ย. 2567 05:12:22 น.)
เรื่องเล่าที่ไม่เกี่ยวกับวันสงกรานต์ tanjira
(13 เม.ย. 2567 16:10:32 น.)
  
อ่านออกเสียงเพลินไปเลยค่ะ คุณไฮกุ
โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 29 กันยายน 2551 เวลา:19:39:59 น.
  
ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะจ๊ะ
โดย: haiku วันที่: 29 กันยายน 2551 เวลา:20:47:14 น.
  
ว่าไปแล้วการอ่านบทกวีแบบนี้ต้องอาศัยอารมณ์ร่วม
เยอะมากเหมือนกันนะคะ เพราะว่าถ้าอารมณ์เฉื่อยๆ
เราว่าอาจจะไม่เพราะได้ อีกอย่างต้องอ่านยามเวลาดีอารมณ์ดี
มันจะได้นั่งจินตนาการไปด้วยน่ะคะ .. เหมือนว่าอ่านไป
ภาพจะลอยมา หรือวาไม่ก็เป็นกลิ่นความหอม ความหวาน
โชยมาเสริมความเพราะของกวีได้ดียิ่งขึ้นค่ะ

(เขียนไป อารมณ์เม้นท์เหมือนเพ้อๆ เลยค่ะ)
โดย: JewNid วันที่: 30 กันยายน 2551 เวลา:2:44:04 น.
  
บทกวีไฮกุเป็นการจับอารมณ์ที่ประทับใจช่วงนึงแล้วเขียนออกมา แต่ละบทจึงสั้น ถ้ายังไม่เคยอ่านไฮกุ อาจจะไม่ค่อยรู้สึกว่าเพราะเท่าไหร่ เพราะไม่มีคำคล้องจองมากอย่างบทกวีของไทย แต่เราประทับใจตรงอารมณ์ของบทกวีและภาพที่จินตนาการตามตอนที่อ่านมากกว่าค่ะ
โดย: haiku วันที่: 30 กันยายน 2551 เวลา:21:07:07 น.
  
สวัสดีค่ะ
แวะมาเยี่ยมค่ะ
อ่านบทกวีไฮกุแล้วรู้สึกดีนะคะ
ถึงแม้จะไม่เข้าใจลึกซึ้งในสิ่งที่คนเขียนต้องการจะสื่อ
แต่อย่างน้อยก็ได้เห็นความงดงามของธรรมชาติที่อยู่ในบทกลอนค่ะ

ขอบคุณมากค่ะที่หามาให้อ่าน
มีความสุขและรักษาสุขภาพนะคะ
โดย: เราสองคน (ฝากเธอ ) วันที่: 6 ตุลาคม 2551 เวลา:15:48:10 น.
  
หวัดดีค่ะพั้ไฮกุ
แฟงแวะมาอ่านบทกวีเพราะๆค่ะ
โดย: d_regen วันที่: 6 ตุลาคม 2551 เวลา:16:54:50 น.
  
ขอบคุณสองสาวที่แวะมาอ่านบทกวีเพราะ ๆ นะจ๊ะ
โดย: haiku วันที่: 7 ตุลาคม 2551 เวลา:13:38:24 น.
  
ชอบบทสุดท้ายมายค่ะ
โดย: hibari IP: 125.24.95.3 วันที่: 27 กรกฎาคม 2552 เวลา:17:07:31 น.
  
เราอ่านบทนี้ครั้งแรกก็หลงรักเลยค่ะ Kenneth Rexroth เป็นกวีอเมริกันแต่หลงรักงานประพันธ์ของญี่ปุ่น ทั้งเขียนและแปลบทกวีของญี่ปุนไว้เยอะเลยค่ะ
โดย: haiku วันที่: 28 กรกฎาคม 2552 เวลา:9:46:12 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Haiku.BlogGang.com

haiku
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]