อำลา อาลัย...เคิร์ก ดักลาส  สำหรับผู้ที่เคยใช้ชีวิตอยู่ในช่วงศตวรรษ ๑๙๕๐-๑๙๖๐ น้อยคนที่จะไม่รู้จักพระเอกคางบุ๋ม เคิร์ก ดักลาส (Kirk Douglas) ดาราภาพยนตร์และผู้อำนวยการสร้างชาวอเมริกันเชื้อสายยิว บทบาทตัวละครชายชาตรีที่แข็งแกร่ง เต็มไปด้วยเหตุผลและความคิดแน่วแน่ ที่เขาถ่ายทอดจากภาพยนตร์กว่า ๙๐ เรื่อง อาทิ ใต้ทะเลสองหมื่นโยชน์, หนังคาวบอยอย่าง สองเสือใจสิงห์ (Last train from Gun Hill), หนังชีวประวัติจิตรกรวินเซนต์ แวนโก๊ะ ในเรื่อง Lust for Life (ตัณหาชีวิต), หนังขบถขุนทาสอย่าง Spartacus และเรื่องอื่น ๆ ยังอยู่ในความทรงจำของนักชมภาพยนตร์มาจนทุกวันนี้ เคิร์ก ดักลาส กลายเป็นดาราตำนานสำหรับนักชมภาพยนตร์หลาย ๆ คน เขาเคยได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลตุ๊กตาทองถึง ๓ ครั้ง แต่เขาไม่เคยได้ กลับมาได้รับรางวัลออสการ์ความสำเร็จแห่งชีวิตเมื่อหลายปีก่อน ชีวิตเขาน่าสนใจพอสมควรสำหรับคนรุ่นหลัง   เคิร์ก ดักลาส มีชื่อเดิมว่า Issur Danielovitch อิลเซอร์ แดเนียลโลวิช เกิดเมื่อวันที่ ๙ ธันวาคม ๑๙๑๖ ที่เมืองอัมสเตอร์ดัม รัฐนิวยอร์ค พ่อเชื้อสายยิวอพยพมาจากรัสเซีย เมืองอัมสเตอร์ดัมเต็มไปด้วยคนเชื้อสายแองโกลแซกซัน ไม่ชอบคนยิว พ่อเก็บของที่ชาวบ้านทิ้งไปขายต่อ เด็กน้อยอิสเซอร์ต้องทำงานหาเลี้ยงชีพยามว่างหลังกลับจากโรงเรียน ทั้งทำงานส่งหนังสือพิมพ์ ล้างชามในร้านอาหาร หลังจากเรียนจบชั้นมัธยมปลายเขาเข้าเรียนต่อด้านการแสดงที่มหาวิทยาลัยเซนต์ลอว์เรนซ์ ทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟหาเงินจ่ายค่าเล่าเรียน อีกทั้งเขาเป็นนักกีฬามวยปล้ำของมหาวิทยาลัย พอถึงปีสามเขาได้เป็นประธานนักศึกษา   หลังจบจากมหาวิทยาลัยเข้าเรียนต่อด้านการแสดงที่สถาบันการแสดงอเมริกัน American Acadamy of Dramatic Arts ที่นิวยอร์ค เมื่อถูกเกณฑ์ทหาร เขาประจำการทหารเรื่องอยู่หน่วยสื่อสารเรือตระเวนชายฝั่งในสมรภูมิสงครามโลกครั้งที่ โ๒ จนได้รับบาดเจ็บ จึงถูกส่งกลับ หลังพักรักษาตัวเขากลับมานิวยอร์คทำงานเป็นนักแสดง ได้บทดาราประกอบ ช่วงนี้ที่เขาเปลี่ยนมาใช้ชื่อ เคิร์ก ดักลาส ต่อมาแต่งงานกับสาวนักแสดงชื่อ ไดนา ดิล ซึ่งรู้จักกันสมัยเรียนอยู่ที่สถาบันการแสดงในปี ๑๙๔๓ เธอให้กำเนิดลูกชายสองคน ไมเคิลและโจเอล ก่อนที่เธอจะแยกทางในปี ๑๙๕๑ ไดนา ลินน์ เสียชีวิตเมื่อปี ๒๐๑๕  เคิร์ก ดักลาส เดินทางมาฮอลีวูดในปี ๑๙๔๕ เมื่อเห็นโอกาสที่ตนจะพัฒนาเป็นดาราภาพยนตร์ โชคเริ่มเข้าข้างเขาเมื่อถูกเรียกมาแสดงภาพยนตร์เรื่องแรก The Strange Love of Martha Ivers (1946) รับบทชายผู้เห็นเหตุการณ์ฆาตกรรม ได้แสดงร่วมกับดาราชื่อดังในเรื่องอย่าง บาร์บารา สแตนวิก ในปี ๑๙๔๘ แสดงคู่กับ เบิร์ต แลนแคสเตอร์ ในเรื่อง I Walk Alone ถัดมาในปี ๑๙๔๙ มารับบทนักมวยที่ล้มลุกคลุกคลานกว่าจะเป็นเจ้าสังเวียนในเรื่อง Champion และจากเรื่องนี้ที่เขากลายเป็นดาราระดับอินเตอร์ แถมได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลตุ๊กตาทองดาราชายยอดเยี่ยม แต่ไม่ได้   ปีเดียวกันนี้ที่เขารับบทนักเป่าแทรมเป็ตในเรื่อง Young Man with a Horn แสดงคู่กับ ดอริส เดย์ เขาฝึกฝนเทคนิกการเป่าทรัมเป็ตกับ แฮร์รี เจมส์ อยู่หลายเดือน ปี ๑๙๕๑ เคิร์ก ดักลาส เปลี่ยนมาแสดงภาพยนตร์คาวบอยตะวันตกเรื่อง Along the Great Divide รับบทนายอำเภอผจญกับผู้มีอิทธิพลในไร่ปศุสัตว์ ปีเดียวกันที่มาแสดงเป็นนักสืบในนิวยอร์คในภาพยนตร์เรื่อง Detective Story สังเกตดู เคิร์ก ดักลาส มีงานแสดงไม่ต่ำกว่า ๒-๓ เรื่องต่อปี โดยเฉพาะหนังคาวบอยที่แสดงถึง ๒ เรื่องในปี ๑๙๕๒ ได้แก่ The Big Trees และ The Big Sky   ปี ๑๙๕๒ เขาได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลตุ๊กตาทองตัวที่สองดาราชายยอดเยี่ยมจาก The Bad and The Beautiful รับบทผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ที่หาผลประโยชน์จากดารา ผู้กำกับและนักเขียนบท เมื่อเริ่มมีชื่อเสียงกลายเป็นดาราอินเตอร์ เขาเดินทางไปฝรั่งเศสถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Act of Love (1953) รับบทอดีตทหารผ่านศึกมาตามหาคนรู้จักในฝรั่งเศส และจากเรื่องนี้ตามด้วยหนังที่ถ่ายในอิตาลี จากมหากาพย์ของโอเมอร์เรื่อง Ullyses (1954) จบจากเรื่องนี้มาแสดงหนังของวอล์ท ดิสนีย์ต่อ เรื่องใต้ทะเลสองหมื่นโยชน์ รับบทนักล่าปลาวาฬ ปฏิบัติการกับกัปตันเนโมในเรือดำน้ำ หนังประสบความสำเร็จไปทั่วโลก รวมทั้งบ้านเราเมื่อฉายที่ศาลาเฉลิมไทย ปี ๒๙๕๔ เคิร์ก ดักลาส แต่งงานครั้งที่ ๒ กับ แอน บายเดนส์ (Ann Buydens) ซึ่งเป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ ทั้งสองพบกันขณะที่เคิร์กไปถ่ายภาพยนตร์เรื่อง Lust for Life ในยุโรป รับบทจิตรกรวินเซนต์ แวนโก๊ะ และจากเรื่องนี้ที่เขาได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลตุ๊กตาทองตัวที่ ๓ แต่ไม่ได้   เคิร์ก ดักลาส เป็นผู้ที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและชอบความเป็นอิสระ ในปี ๑๙๕๕ เขาฟอร์มบริษัทสร้างภาพยนตร์ขึ้นมา ใช้ชื่อ Bryna Production เขาทั้งทำงานให้กับโรงถ่ายทั้งสร้างหนังเองบ้าง หนังคาวบอยออกจะเป็นหนังที่ได้รับการต้อนรับมากกว่าหนังประเภทอื่น หนังที่ออกมาในช่วงนี้อย่างเช่น Last Train from Gun Hill, Gunfight at the O.K. Coral ปี ๑๙๕๘ เคิร์ก ดักลาส เปลี่ยนมาแสดงหนังแอนตี้สงครามเรื่อง Paths of Glory ภายใต้การกำกับของสแตนลีย์ คูบริก และเขียนบทโดย ดัลตัน ทรัมโบ หนังเล่าถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๑ เหตุคดีไต่สวนพิพากษาทหาร ๔ นายที่ถูกกล่าวหาว่าไม่ปฏิบัติตามคำสั่งโจมตีข้าศึก เรื่องนี้กลายเป็นหนังคลาสสิกที่นักวิจารณ์ต่างยกย่องจนถึงปัจจุบันนี้    และจากความสนิทสนมกับ สแตนลีย์ คูบริก เมื่อ เคิร์ก ดักลาส เป็นผู้อำนวยการสร้างหนังฟอร์มใหญ่ Spartacus เรื่องราวขุนทาสสปาร์ตาคัสเป็นขบถ นำเหล่าทาสต่อต้านสู้รบกับจักรพรรดิ์โรมัน สแตนลีย์ คูบริก ได้มาเป็นผู้กำกับ อีกทั้ง ดัลตัน ทรัมโบ เป็นผู้เขียนบท ช่วงนั้นที่มีการขึ้นบัญชีดำผู้ฝักใฝ่ลัทธิคอมมิวนิสต์ ห้ามจ้างงาน ซึ่งรวมถึงตัว ดัลตัน ทรัมโบ แต่ เคิร์ก ดักลาส ไม่สนใจ แหกกฎข้อนี้ จนภายหลังรัฐบาลอเมริกันยกเลิกกฎโดยปริยาย ปี ๑๙๕๘ เคิร์ก ดักลาส แสดงหนังฟอร์มยักษ์อีกเรื่องหนึ่งชื่อ The Vikings คู่กับ โทนี เคอร์ติส และ เจเนต ลี รวมถึง เออร์เนส บอร์กไนน์   ช่วงทศวรรษ ๑๙๖๐ ความชื่นชอบในตัว เคิร์ก ดักลาส จากแฟน ๆ ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง งานแสดงเข้ามาอย่างชุกชุม ทั้งหนังสงครามอย่าง In Harms Way, Seven Days in May, The Heroes of Telemark, Is Paris Burning? หนังคาวบอยอย่าง The Way West, The War Wagon, The Last Sunset, Lonely Are the Brave ซึ่ง ไมเคิล ดักลาส บอกกับผู้เขียนในงานบางกอกฟิลม์ว่า เป็นหนังที่พ่อเขาชอบมากที่สุด มาถึงยุคทศวรรษ ๑๙๗๐ และ ๑๙๘๐ งานแสดงยังคงมีอยู่ แต่อาจไม่ใช่หนังฟอร์มใหญ่ อย่างเช่น Scalawag หนังโจรสลัดขาเดียว, The Fury หนังสยองขวัญ และ The Man from Snowy River หนังคาวบอยออสเตรเลีย ระยะหลัง เคิร์ก ดักลาส หันมาแสดงหนังทีวีฟอร์มเล็กอยู่หลายเรื่อง รวมทั้งหนังที่เกี่ยวกับครอบครัว อย่างเช่น It Runss in The Family   เคิร์ก ดักลาส ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายครั้ง ทั้งเครื่องเฮลิคอปเตอร์เคยประสบอุบัติเหตุตก คนอื่นเสียชีวิตแต่ตัวเองรอด อิริก ลูกชายคนหนึ่งเสพยาเกินขนาด เสียชีวิตเมื่อปี ๒๐๐๔ ขณะอายุ ๔๖ ปี ปี ๑๙๘๖ เขาเกิดอาการหัวใจเต้นผิดปกติ ต้องใส่เครื่องช่วยการเต้นของหัวใจ (pace-maker) ปี ๑๙๖๖ เขาประสบปัญหาสุขภาพ อาการ stroke ทำให้พูดไม่เต็มคำอยู่พักใหญ่ หนังสือบันทึกความทรงจำ เคิร์ก ดักลาส เขียนไว้หลายเล่ม อย่างเช่น The Ragmans Son, Dance With The Devil, My Stroke of Luck, Lets Face It : 90 years of Living, Loving & Learning   ช่วงบั้นปลายชีวิต เคิร์ก ดักลาส ทำงานการกุศลอยู่หลายด้าน ทั้งบริจาคเงินให้ผู้ป่วยเป็นโรคสมองเสื่อม สร้างศูยน์การศึกษานักแสดงที่ขาดทุนทรัพย์ เคิร์ก ดักลาส เสียชีวิตด้วยโรคชราที่บ้านพักในเมืองเบเวอรีฮิลส์ แคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๐๒๐ ขณะมีอายุ ๑๐๓ ปี  บีจีจาก xmple.com |
บทความทั้งหมด
|
 |
|
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [