ภาพวาดงาม ๆ ฝีมือ คุณโย ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา







คนในวงการบันเทิงไทยหลายท่านนอกจากจะแสดงเก่งแล้ว ยังมีฝีมือด้านศิลปะไม่แพ้มืออาชีพเเลย เท่าที่ทราบและนึกได้ตอนนี้ก็มีสามท่านคือ คุณโย ทัศนวรรณ เสนีย์วงศ์, คุณตุ๊ก ดวงตา ตุงคมณี และ คุณยอดชาย เมฆสุวรรณ คุณโยมีฝีมือด้านวาดภาพ คุณตุ๊กเก่งเรื่องงานฝีมือประดิดประดอยงาม ๆ คุณยอดชายก็สุดยอดด้านงานประติมากรรม ถึงขนาดสร้างบ้านเป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อจัดแสดงผลงานศิลปะ บล็อกนี้ให้ชมภาพวาดของคุณโยก่อน ครั้งแรกที่เห็นผลงานจากรายการสัมภาษณ์เมื่อหลายปีก่อน ขออภัยที่จำชื่อรายการไม่ได้ ตอนนั้นทำบล็อกแล้ว พยายามหารูปมาลงบล็อกอยู่นาน จนมาเจอตอนที่คุณโยมีเพจและไอจี ดีใจมาก ๆ แต่กว่าจะอัพบล็อกได้ก็นานเป็นชาติ อัพบล็อกนี้เบาแรงเพราะแฮ้บทั้งภาพและคำบรรยายมาจากเพจทั้งหมด แถมด้วยบทสัมภาษณ์จากเวบกระปุก ตอนที่เห็นภาพวาดในรายการก็ทึ่งแล้วนะ แต่ที่น่าทึ่ง
กว่าก็ตรงที่คุณโยไม่เคยเรียนวาดรูปมาก่อน ฝึกฝนวาดด้วยตัวเอง ขอแสดงความชื่นชมฝีมือสะบัดพู่กันจริง ๆ ค่ะ













รักของ “แม่” ไม่เคยเหือดหาย #คิดถึงพระองค์ท่านเหลือเกิน










๒๘ เมษายน วันราชาภิเษกสมรสของสองพระองค์
ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป มีความสุขทุกครั้งที่วาดพระองค์ท่าน
วาดด้วยความสุขใจเป็นอย่างยิ่ง ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
(๒๘ ก.ค. ๒๕๕๗)




ภาพวาดจากหัวใจ เพื่อแม่ทุกคน
(๒๙ ก.ค. ๒๕๕๗)




ยังเป็นความรักที่ยิ่งใหญ่ของ "แม่"อีกรูปนึงที่วาดด้วยความสุขจริง ๆ
(๔ ส.ค. ๒๕๕๗)




รูปวาดรูปนี้เก็บไว้มอบแด่ "แม่" ทุกท่านในวันแม่ สุขสันต์วันแม่ค่ะ
(๑๒ ส.ค. ๒๕๕๗)




พระบรมสาทิสลักษณ์ที่อัญเชิญไปจัดแสดงในงานนิทรรศการ ที่สวนโมกข์ กรุงเทพฯ
คุณโยไม่ได้บอกชื่อนิทรรศการ แต่เดาว่าน่าจะเป็นงานนี้ค่ะ Drawing for King พ่อยังอยู่




รับพระราชทานรางวัล"ตุ๊กตาทอง"ปี ๑๙ ความภาคภูมิใจของดารายุคก่อน













รูปที่วาดติดห้องรับแขกบ้านตัวเอง ว่าจะเปลี่ยน แต่ยังไม่มีเวลาวาดใหม่ (๒๔ ก.ค. ๒๕๕๗)




รูปนี้เป็นสีน้ำ ใบไม้ที่ร่วงหล่นบนพื้นไม้ ดูความงามของธรรมชาติซิคะ
ใบไม้อายุและขนาดต่างกัน แต่งแต้มเติมสีด้วยกาลเวลาที่เปลี่ยนไป
มือธรรมชาติงดงามจริง ๆ เราเคยมองว่าใบไม้ที่ร่วงหล่นทำให้รก ลองมองดูใหม่ซิค่ะ
(๒๔ ก.ค. ๒๕๕๗)




นานๆได้อยู่บ้านลื้อสัมภารกออกมาจัดใหม่ เจอรูปที่วาดเก็บไว้ เอามาให้ดูวันละรูป




เปลี่ยนบรรยากาศเป็นแม่ต่างชาติบ้าง น่ารักดีเลยวาดเพื่อฝึกฝีมือ
(๓๑ ก.ค. ๒๕๕๗)




กินข้าวกันหรือยังคะ สตอผัดกุ้งมั้ยคะ
(๒๗ ก.ค. ๒๕๕๗)




รูปลูกสาวตอนเล็ก ๆ ตอนนั้นรูปถ่ายยังใช้ฟีล์มอยู่
รูปเสียหายเพราะย้ายบ้าน ฟีล์มก็หาไม่เจอเลยวาดเก็บไว้ สีอะคิริกค่ะ
(๒๗ ก.ค. ๒๕๕๗)




สีน้ำอีกรูปนึงมอบให้คุณแม่ทุกคนค่ะ
(๒๕ ก.ค. ๒๕๕๗)




ก่อนพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าสาดแสงจับท้องฟ้า
และทัองทะเลเป็นสีเดียวกันอย่างสวยงาม กลมกลืน และ อบอุ่นดีจัง คุณว่ามั้ย
(๑ ส.ค. ๒๕๕๗)




เปลี่ยนแนวกันหน่อยนะคะ รูปนี้เกิดจากการนั่งคอยเข้าฉากละคร
มีปากกาอยู่ในมือกับกระดาษ ๑ แผ่น ความที่นั่งเฉย ๆ ไม่เป็น
เลยเอาปากกาจุดไปบนกระดาษ เริ่มจาก ๑ จุด
แล้วจุดต่อไปก็ตามมาลื่นไหลไปตามจินตนาการ
ไม่มีการลากเส้นใด ๆ ทั้งหมดเป็นจุด จุด และจุด...
(๒ ก.ค. ๒๕๕๗)




เริ่มจากจุด..จุด..จุด อีกรูปในหลายๆรูปที่ทำให้ได้สมาธิดีมาก
ตุ๊ก ดวงตามาเห็นเลยให้สอนให้ อยากเห็นฝีมือตุ๊กกันมั้ยคะ เอาออกมาโชว์เลยตุ๊ก
(๓ ก.ค. ๒๕๕๗)




รูปที่เกิดจากจุด จุด และจุด อีกสองรูป
จบนิทรรศการรูปวาดส่วนตัวแล้วนะคะ ท่านผู้ชม สวัสดีค่ะ
(๕ ก.ค. ๒๕๕๗)




นั่งคอยเข้าฉากอีกนั่นแหละ ตาก็มองกระถางกล้วยไม้ที่แขวนอยู่ระเบียง
มือก็หยิบปากกากระดาษ จุด จุด จุด จุด ตามที่ตามองเห็น
(๔ ส.ค. ๒๕๕๗)




ภาพวาดของ ออกญาพิชิตแสนพล และ เจ้าฟ้าทิพฉาย
ซึ่งเป็นรูปที่ใช้ประกอบฉากในละครเรื่อง "นางทิพย์"











นับว่าเป็นนักแสดงอาวุโสที่ฝืมือชั้นครู สำหรับ โย ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา เพราะนอกจากจะเป็นนักแสดงเล่นภาพยนตร์ ละครอยู่เบื้องหน้าเป็นระยะเวลาหลาย ๑๐ ปีแล้ว ก็ยังเป็นแอคติ้งโค้ช ที่คอยสอนการแสดงให้กับดารา นักแสดงรุ่นลูกรุ่นหลานในวงการบันเทิงอีกมากมาย เรียกว่ามีลูกศิษย์ลูกหาไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งในจุดนี้หลาย ๆ คนก็คงได้รู้มาบ้างแล้ว แต่ล่าสุดที่ได้เห็นนักแสดงอาวุโส โย ทัศน์วรรณ ได้โชว์ความสามารถที่ยังไม่ค่อยมีใครรู้นั้นก็คือ การวาดรูป ที่บอกเลยว่าพอเห็นผลงานพูดได้ว่าฝีมือไม่ธรรมดานะจ๊ะ สวยงามอย่างกับศิลปินวาดรูป โดยทางเจ้าตัวได้เล่าที่มาที่ไปของการมาวาดรูปสวย ๆ แบบนี้ว่า

”จริง ๆ แล้วไม่เคยเรียน แต่ด้วยความที่ชอบวาดรูปอยู่แล้ว และพอวาดได้ ก็จะวาดเล่นมาเรื่อย ๆ ตั้งแต่เด็ก ซึ่งก็อยากจะเรียนพวกเพาะช่าง พวกช่างศิลป์ แต่ว่าไม่ได้เรียน ก็ใช้ความชอบวาดมาเรื่อย ๆ อย่างตอนเด็ก ๆ ก็วาดตุ๊กตากระดาษเล่นเอง วาดรามเกียรติ์ ก็คือวาดเป็นแรเงาขาวดำ ไม่ได้ลงสีเพราะเราไม่ได้เรียน จะมีเรียนแค่แบบในโรงเรียนที่มีวิชาวาดรูป แต่มันก็มีแค่นั้น มันไม่ได้ลึกล้ำอะไรมาก แต่พอเราวาดเป็นแรเงาขาวดำมันสวยแล้ว เราก็ไม่กล้าลงสี เพราะเราไม่ได้เรียนมา ก็ไม่กล้าลงอยู่อย่างนั้น จนมีความคิดว่าก็อยากไปเรียน แต่ว่าพวกพ้องก็บอกว่าไม่ต้องไปเรียนหรอก อย่าง พี่ไก่ วรายุฑ ก็บอกว่าไม่ต้องไปเรียนหรอก เพราะนี่มันก็เป็นสไตล์ของพี่ วาดได้ขนาดนี้ไม่ต้องไปเรียนหรอก ถ้าสมมติว่าไปเรียนมันก็จะเป็นสไตล์ที่เขาสอนไง แต่ก็ไม่ใช่เฉพาะไก่คนเดียว พวกที่เป็นศิลปินวาดรูปเขาก็บอกว่าพี่ไม่ต้องเรียนหรอกครับ เพราะนี่คือสไตล์ของเรา”




จนได้มาเจอกับ เหมี่ยว ปวันรัตน์ เขาก็บอกว่าลองไปเรียกับ ครูโต ม.ล. จิราธร จิรประวัติ ก็เลยไปเรียน เพื่อเอาความมั่นใจ กำจัดความกลัวที่เราไม่กล้าลงสี พอไปถึงเราได้ลองลงสี ตอนนั้นเป็นรูปดอกไม้ พอลงสีไปอ่ะ ๆ ภาพก็ไม่เสียนี่ จากนั้นมันเหมือนเปิดความมั่นใจ ก็วาดรูปและลงสีมาเรื่อย ๆ จะเป็นสีน้ำ สีอะคริลิค ยกเว้นสีน้ำมันเพราะมันเหม็น ที่เห็น ๆ ก็จะมีรูปของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ซึ่งในตอนที่ท่านสวรรคต เราก็เสียใจ ก็ไม่รู้จะทำยังไง เห็นรูปท่านก็อยากจะวาด ก็เลยวาด ทั้งที่ไม่เคยวาดเลย แล้วก็มีวาดรูปสมเด็จย่า จนวันหนึ่งได้มีโอกาสเอารูปท่านทั้งสองที่เคยวาดไว้ไปแสดงในงานนิทรรศการ ที่สวนโมกข์ ซึ่งในงานจะมีรูปจากฝีมือของศิลปินที่วาดรูปเก่ง ๆ มากมาย แต่รูปของเราได้รับเชิญให้ไปโชว์ด้วย โดยสามีของ คุณแจง วราพรรณ ติดต่อมา เราก็รู้สึกภูมิใจที่งานเราได้ไปร่วมแสดงรวมกับคนเก่ง ๆ เพราะจริง ๆ เราคือมือใหม่ ก็ดีใจ




เห็นมีวาดรูปของ อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ ด้วย “อ่อ ๆ (หัวเราะ) อันนั้นน่าจะใช้เวลา ๒-๓ เดือน คือจะวาดเซอร์ไพรส์พี่อ๊อฟเขาก่อนที่เขาจะป่วยนะคะ คือตอนเห็นรูปอ๊อฟ รูปนั้นที่เป็นรูปถ่าย ก็รู้สึกว่าอยากวาด ก็เลยแอบวาด และบอกแดง (แดง ธัญญา) ว่าอย่าเพิ่งบอกอ๊อฟนะ จะเอาไว้เซอร์ไพรส์ แล้วทีนี้สไตล์ของเราจะวาดละเอียดมาก ละเอียดมากจนรำคาญตัวเอง ก็เคยมีไปนั่งวาดกับ คุณโอ่ง กงพัฒน์  ซึ่งคุณโอ่งเขาจะสไตล์หยาบ ๆ ดิบ ๆ ใช่มั้ย เขาก็บอกว่าโอ้โห้ ๆ ทำไมพี่วาดละเอียดจัง เขาก็ลองทำมั้งแต่เขาบอกว่าทำไม่ได้เหมือนพี่ เขาบอกว่าให้เราลองข้ามรายละเอียดไปบ้างสิ เลยลองข้าม แต่ว่าไม่สำเร็จ เพราะว่าพอเราข้ามไปใจมันก็จะอยู่แต่ตรงที่เราข้ามไป จนพวกศิลปินที่เขาวาดรูปเขาบอกว่าเราเก็บรายละเอียดแบบยิบมาก (หัวเราะ) ซึ่งเราก็รำคาญตัวเองนะ แต่ทุกคนก็จะบอกว่าดีแล้ว มันคือสไตล์ของพี่ แล้วก่อนหน้าที่จะวาดรูปพี่อ๊อฟ ทางศูนย์สภากาชาดก็ขอมาว่าให้วาดรูปอะไรก็ได้ เพื่อเอาไปประมูล เอาเงินเข้าศูนย์สภากาชาด เราก็วาดรูปดอกไม้ในแจกันให้ไปค่ะ”




เมื่อถามว่าแบบนี้ถนัดวาดบุคคล หรือธรรมชาติ ทางนักแสดงอาวุโส กล่าวเสริมว่า “จริง ๆ อยากวาดอะไรก็วาด และไม่ได้มีฟอร์ม หรือจะต้องขึ้นโครงอะไรก่อน อยากเริ่มตรงไหนก็เริ่มเลย อย่างในรูป อ๊ออฟ พงษ์พัฒน์ คือร่างก่อน แล้วก็วาดกำไลข้อมือ มันเหมือนกับว่าอยู่ที่ใจเราอ่ะ มันอยู่ตรงไหน ใจสั่งตรงไหนก็ไปลงตรงนั้นก่อน คือเห็นอย่างนั้นกำไลไม่ใช่วาดง่าย ๆ นะ (หัวเราะ) เก็บรายละเอียด ไล่มากระเป๋าแดง ๆ แล้วก็มากล้องถ่ายรูปที่รายละเอียดมันเยอะมาก มาที่ผ้าพันข้อมือ แล้วค่อยมาจบที่หน้าเป็นจุดสุดท้าย” 

ซึ่งฝีมือขนาดนี้จะมีนิทรรศการเป็นของตัวเองมั้ย เจ้าตัวบอกว่า “ไม่เคยคิด มีแต่คนอื่น ๆ รวมทั้ง ม.ล. จิราธร จิรประวัติ ด้วยที่ชวนไปเปิดเอ็กซิบิชั่น แต่ก็คิดว่าคงต้องมีเยอะกว่านี้ ซึ่งรูปที่ประทับใจที่สุดคือ รูปของในหลวงรัชกาลที่ ๙ โดยตอนนี้มีคิววาดรูปให้หลายคนอยู่ เพราะมีแต่คนโน่น คนนี้อยากให้วาดให้หน่อย ซึ่งแต่ละชิ้นก็ใช้เวลาหลายเดือน




รูปที่วาดติดห้องรับแขกบ้านตัวเอง ว่าจะเปลี่ยนแระแต่ยังไม่มีเวลาวาดใหม่


ส่วนในเรื่องงานการแสดง ที่เห็นกันอยู่เบื้องหน้า ก็ยังทำอยู่ โดยเจ้าตัวยังเล่าต่อไปอีกว่า มีทุกวันไม่เคยขาด จนสื่อเขียนแซวว่าฮอตกว่านางเอก และงานแอคติ้งโค้ช ก็มีเปิดสอนอยู่ที่บ้าน ซึ่งต่างจากเมื่อสมัยก่อน ๆ ที่มีไปดูให้ที่กองถ่ายบ้าง แต่เดี๋ยวนี้เหนื่อยแล้ว ซึ่งถ้าย้อนเส้นทางการเป็นแอคติ้งโค้ช ก็นับเป็นเวลา ๑๐ กว่าปีได้ เริ่มชัด ๆ เลยคือตั้งแต่การได้มาสอน สเตฟาน สันติ วีรบุญชัย (ฐสิษฐ์ สินคณาวิวัฒน์) ตอนเล่นละเรื่อง หลงเงาจันทร์ คู่กับ กบ สุวนันท์ ซึ่งต้องบอกว่ายาก เพราะสเตฟานเป็นลูกครึ่ง และในตอนนั้นเขาอ่านภาษาไทยไม่ออก เราก็ต้องอ่านให้เขาฟัง ให้เขาจำให้ได้ ให้เข้าใจ แต่โชคดีที่สเตฟานเขาหัวดี เขาจำได้หมดที่เราสอน อย่างมีวันที่เขาต้องถ่ายฉากที่ยากมาก แล้วเราเองไม่ได้อยู่ที่กองถ่าย ก็หวงเขาว่าจะทำได้ไหม จำที่เราสอนได้ไหม แต่ปรากฎว่าเขาจำที่เราสอนได้หมดเลย และเขาเล่นเทคเดียวผ่าน คือเขาสมองดีมาก แต่จะบอกว่าจริง ๆ งานตรงนี้มันก็เหมือนมีรางมาเช่นกัน เพราะเคยมีหมอดูทักว่าจะมีอาชีพใหม่ คือจะต้องพูดเยอะ ต้องสอนคน แต่ไม่ใช่สอนหนังสือ จนมีพวกผู้จัดติดต่อมาให้สอนนักแสดง มีคนส่งพระเอก นางเอก มาเรียนก็เลยอ่อ ๆ แบบนี้นี่เอง

m1


จนตอนนี้มาช่วยลูกสาว ขวัญ พิมพ์อัปสร ที่เป็นผู้จัดละคร ทางช่อง ๗ ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า เราสองคนสนิทกันมาก เป็นเหมือนสไตล์เพื่อนกัน ไปไหนไปกัน เพราะอยู่กันสองคน และมีอะไรลูกสาวก็จะปรึกษาตลอด อย่างในเรื่องของงาน ตนก็จะช่วยตรวจดูบทละคร บทประพันธ์ ดูว่าบทแบบนี้จะเพิ่มใส่อะไรให้ละครมันเข้มข้น หรือว่าจะเลือกใครมาเล่นดี ตัวละครแบบนี้ควรเพิ่มเติมอะไรไหม

ทั้งนี้เจ้าตัวยังบอกว่าระหว่างให้เล่นละคร กับสอนนักแสดง ตัวเองรักการแสดงมากกว่า เพราะได้เล่นเป็นคนนั่น คนนี้ แต่การสอนเด็กมันเครียด เพราะเราต้องรู้และดูว่าเด็กแต่ละคนเป็นยังไง เพราะทุกคนไม่เหมือนกัน และยังฝากด้วย สมัยนี้กับสมัยก่อนต่างกันมาก เพราะสมัยก่อนนักแสดงต้องปากกัดตีนถีบ ผมทำเอง หน้าแต่งเอง หอบเสื้อผ้าเอง ทำเองทุกอย่างแต่สมัยนี้สบายมาก เพราะช่างหน้าผมพร้อม มีคนขับรถ มีผู้จัดการ และระบบการทำงานก็ไม่เหมือนกัน อย่างเมื่อก่อนหืออือ ก็ไม่ได้ แต่เดี๋ยวนี้หืออือเยอะมาก (หัวเราะ) อย่างไม่พอใจอะไรก็โน่นนี่นั่น แต่เมื่อก่อนเป็นเด็กนะ ผู้ใหญ่ว่ายังไงก็ฟัง แล้วความอบอุ่นมันมีเยอะกว่า ระบบผู้อาวุโส กับผู้ใหญ่ก็จะน่ารัก แต่เดี๋ยวนี้พอเจออะไรแบบนี้เราก็จะคิดว่าอ่ะ ๆ เด็กสมัยนี้ก็เป็นแบบนี้แหละ เขาอยากไหว้ ก็ไหว้ เขาไม่ไหว้ก็ช่างเขาเถอะ ก็ทำใจ จะไปแบบว่าเอ๊ะ ๆ ทำไมไม่ไหว้ อ้าว ๆ เขาไม่อยากไหว้ก็ไม่ไหว้เราจะว่าไง




ซึ่งสำหรับตนเอง ที่อยู่วงการบันเทิงมา ๔๐ กว่าปี จะยึดหลักมีวินัย ตรงเวลา ไม่เคยมาสาย และจะทำการบ้าน ไม่ดูถูกบทที่เราจะเล่น ในเมื่อเรารับเล่นแล้วตัวละครทุกตัวมีความสำคัญหมด ไม่ใช่ว่าร้ายจังเลย ไม่ชอบตัวละครตัวนี้ ไม่ได้ ๆ ในเมื่อเรารับเล่นแล้ว เราต้องเป็นเขา ไม่ชอบไม่ได้ ต้องเข้าใจและให้เกียรติเพื่อนร่วมงาน ทีมงาน เพราะการทำงานในกองถ่ายมันเป็นทีม ที่ประมาณ ๔๐-๕๐ คนแบบนี้ ถ้าเราสายอยู่คนเดียว แล้วคน ๔๐-๕๐ คนรอเรา เราละอายใจมาก ไปสาย ๕ นาทีนี่ใจตุ๊บ ๆ เลย และเตรียมตัวอย่างดี ไม่เคยสร้างปัญหาให้กองถ่าย และมีสัมมาคารวะ รุ่นพี่ รุ่นพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย เพราะว่าคนที่อายุเยอะแล้ว อย่าไปคิดว่าเขานั่นนะ จริง ๆ เขาคือวิชาความรู้ทั้งนั้นเลย คือถ้าคุณไปคุยกับเขา เขาจะให้อะไรคุณได้เยอะมากเลย นักแสดงอาวุโสกล่าว

โย ทัศน์วรรณ์ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา เข้าวงการบันเทิงตั้งแต่ปี ๒๕๑๕ มีผลงานเรื่องแรกคือภาพยนตร์ แม่อายสะอื้น รับบทเป็น ช่อเอื้อง โดยเรื่องนี้มีพี่สาวคนโตเป็นผู้อำนวยการสร้าง และพี่เขยคือ ชุติมา สุวรรณรัตน์ เป็นผู้กำกับ ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงที่วงการบันเทิงอยากมีนักแสดงหน้าใหม่บ้าง พี่สาวเลยเอาตนเองมาเล่นเป็นนางเอก และแม่อายสะอื้น ดังมาก เข้าฉายที่โรงหนังเพชรรามา ที่เหมือนจะซบเซาแล้ว แต่พอ แม่อายสะอื้น เข้าไปฉายก็เหมือนฟื้นคืนชีพ คนดูล้นโรง ดูคนละหลายรอบ และทุกคนออกมาร้องไห้ น้ำตานองหน้ากันหมด








พระบรมสาทิสลักษณ์ พระสาทิสลักษณ์ ภาพและข้อมูลจาก
kapook.com
ทวิตเตอร์ mediastudio
IG: @yotassawan
เพจทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์







บีจีจากคุณเนยสีฟ้า กรอบจากคุณ KungHangGerman ไลน์จากคุณญามี่

Free TextEditor





Create Date : 15 พฤศจิกายน 2563
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2563 0:01:29 น.
Counter : 5127 Pageviews.

0 comments
วัดพุทไธศวรรย์ พระนครศรีอยุธยา สายหมอกและก้อนเมฆ
(3 เม.ย. 2567 16:30:22 น.)
Udankhatole(उड़न खटोला) from Jubilee (TV Series) ปรศุราม
(2 เม.ย. 2567 10:34:32 น.)
: หยดน้ำในมหาสมุทร 9 : กะว่าก๋า
(20 มี.ค. 2567 05:08:18 น.)
วัดศรีสุภณ Wat Si Suphon, Nakhon Ratchasima. nanakawaii
(21 มี.ค. 2567 00:48:34 น.)

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณปรศุราม, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณเริงฤดีนะ, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณหอมกร, คุณtoor36, คุณALDI, คุณสองแผ่นดิน, คุณnewyorknurse, คุณกะว่าก๋า, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณเนินน้ำ, คุณInsignia_Museum, คุณtuk-tuk@korat, คุณสันตะวาใบข้าว, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณแมวเซาผู้น่าสงสาร, คุณThe Kop Civil, คุณmariabamboo, คุณnonnoiGiwGiw, คุณkatoy, คุณmcayenne94, คุณSai Eeuu, คุณอุ้มสี, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณตะลีกีปัส, คุณSleepless Sea, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณที่เห็นและเป็นมา, คุณทนายอ้วน, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณkae+aoe, คุณออโอ, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณชีริว, คุณ**mp5**, คุณTui Laksi, คุณร่มไม้เย็น, คุณmultiple


Haiku.BlogGang.com

haiku
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]

บทความทั้งหมด