Air - Johann Sebastian Bach
หม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธุ์ บริพัตร เป็นพระธิดาพระองค์เดียวของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุมภฏพงษ์บริพัตร กรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิพินิต และหม่อมราชวงศ์พันธุ์ทิพย์ (เทวกุล) บริพัตร ประสูติเมื่อวันที่ ๒๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๔ ณ วังบางขุนพรหม (ปัจจุบันเป็นที่ทำการธนาคารแห่งประเทศไทย)
หม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธุ์ ประทับอยู่ใน Annot เมืองเล็ก ๆ ที่สวยงามทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส เป็นระยะเวลากว่า ๓o ปี และได้สร้างสรรค์ผลงานภาพเขียนที่งดงามและมีเอกลักษณ์เป็นของท่านเองในแนว surréaliste-fantastique (เซอร์เรียลลิสต์/แฟนตาสติก)
ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๗๕ หม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธุ์ บริพัตร ได้ตามเสด็จครอบครัวไปประทับที่ชวา และต่อไปยังประเทศอังกฤษ ได้มีโอกาสเสด็จเข้าโรงเรียนที่ประเทศอังกฤษ ก่อนเสด็จกลับประเทศไทย
หม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธุ์ทรงเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย ในปี พ.ศ. ๒๔๘๓ ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ ๒ โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัยต้องย้ายสถานศึกษา ไปที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ครอบครัวหม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธุ์ บริพัตร ก็ได้อพยพไปประทับที่บ้านบ่อจืด ซึ่งเป็นตำหนักส่วนพระองค์ของพระบิดาที่ตำบลหนองแก อำเภอหัวหิน และทรงจักรยานไปโรงเรียนซึ่งอยู่บริเวณพระราชวังไกลกังวลทุกวัน กล่าวได้ว่า ชีวิตในช่วงนั้นของท่านเป็นที่ตื่นเต้นสนุกสนาน และประทับพระทัยเป็นอย่างยิ่ง หัวหินจึงเสมือน บ้านที่ ๒ ที่ฝังพระทัยตลอดมา และจะเสด็จไปประทับที่นั่นทุกคราวที่มีโอกาส
ภายหลังสงครามสิ้นสุดลงและหลังหม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธุ์ทรงจบการศึกษาในระดับมัธยมปีที่ ๖ ที่โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัยแล้ว ท่านได้เสด็จไปทรงศึกษาต่อที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส และประเทศสเปน
หม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธุ์ ได้รับปริญญา Docteur ès Lettres สาขาวรรณคดี จากมหาวิทยาลัย ณ กรุงปารีส ในปี พ.ศ. ๒๔๙๗ (หัวข้อวิทยานิพนธ์:Le Romantisme Contemporain) ต่อมาทรงได้รับปริญญาเอกสาขาประวัติศาสตร์ศิลปะ จากมหาวิทยาลัยแห่งมาดริด ประเทศสเปน (หัวข้อวิทยานิพนธ์: Bases sociales, technicas y espirituales de la Pintura Paisajista en Chine) ในปี พ.ศ. ๒๕o๒
จากนั้นหม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธุ์ บริพัตร ได้ทรงสอนวิชาศิลปะโลกตะวันออกไกล ในคณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมาดริด และเมื่อเสด็จกลับมาประทับในประเทศไทย ได้เคยไปทรงสอนเป็นอาจารย์พิเศษที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิชาประวัติศาสตร์ศิลปกรรมตะวันตกอยู่ระยะหนึ่ง
แม้ว่าหม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธุ์ บริพัตร จะทรงแสดงว่า มีแวว ในด้านศิลปะมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ แต่ก็มิได้เข้าสู่วงการศิลปะอย่างจริงจังจนพระชนมายุราว ๓o ปี ท่านได้ทรงยุติการทำงานในแวดวงวิชาการ ทรงเริ่มศึกษาศิลปะด้วยพระองค์เองจากงานศิลปะของบรรดาศิลปินต่าง ๆ ทรงได้รับคำแนะนำหลักการวาดภาพจิตรกรรมยุคเรอแนซองซ์ และเทคนิคการใช้สีจากเพื่อนศิลปิน อาทิ André Poujet และอีกหลายท่าน
ในปี พ.ศ. ๒๕o๕ หม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธุ์ บริพัตร ได้จัดแสดงภาพเขียนในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ที่หอศิลป์พีระศรี จากนั้นหม่อมเจ้าหญิงมารศีสุขุมพันธุ์ได้ร่วมกับกลุ่มศิลปินในประเทศฝรั่งเศสจัดแสดงภาพในนิทรรศการ Salon Comparaisons ณ Musée de l Art Moderne ในกรุงปารีสหลายครั้ง ตั้งแต่ ปี พ.ศ. ๒๕o๗ ๒๕๑๕ และร่วมกับศิลปินกลุ่ม l Art Fantastique ในนิทรรศการ Figuratif de l Imaginaire Surreal ซึ่งเป็นงานศิลปะที่แสดงอารมณ์ ความนึกคิด และจินตนาการในลักษณะที่ท่านโปรด
ชีวิตส่วนพระองค์นั้น หม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธุ์ บริพัตร ทรงสมรสกับศาสตราจารย์ชาวฝรั่งเศสชื่อ Jacques Bousquet ซึ่งทำงานประจำ ณ องค์การ UNESCO กรุงมาดริด ประเทศสเปนอยู่ระยะหนึ่ง ต่อมาเมื่อได้จัดแสดงนิทรรศการศิลปะในฝรั่งเศสอย่างต่อเนื่อง จึงทรงย้ายไปประทับ ณ กรุงปารีส ทรงแสดงภาพตามพิพิธภัณฑ์ และหอศิลป์ต่าง ๆ ทางใต้ของประเทศฝรั่งเศส และได้เสด็จไปพบเมืองเล็ก ๆ ชื่อ Annot ซึ่งอยู่ในภูเขาบริเวณ Alpes des Haute Provence ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมือง Nice ทรงตกหลุมรักในเสน่ห์ของเมือง Annot และตัดสินพระทัยไปซื้อที่ดินบนเนินเขานั้น สร้างสตูดิโอ และประทับเป็นตำหนักถาวรที่นั่นตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๑๓ เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน
นอกจากงานศิลปะแล้ว หม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธุ์ บริพัตร โปรดการทำสวน ทั้งสวนครัวและสวนดอกไม้ และโปรดเลี้ยงสัตว์มาก ในบริเวณที่ประทับจึงมีทั้งดอกไม้ ผักหญ้า ลำธารบนตำหนัก Vellera ไม่เคยขาดสิงห์สาราสัตว์ ทั้งแมว สุนัข และนก ซึ่งนับเป็นนายแบบและนางแบบกิตติมศักดิ์ที่ทรงใช้ประกอบภาพเขียนของท่านตลอดมา
พระรูป ภาพและข้อมูลจากหนังสือ "Marsi"
บีจีจากคุณเนยสีฟ้า
Free TextEditor 
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [