The Bourne Ultimatum
สร้างจากนิยายขายดีของรอเบิร์ต ลัดลั่ม
ตีพิมพ์มากว่า 16 ปีแล้วนะคะ เป็นภาคต่อทรงคุณค่าของค่าย Universal
ที่ได้สร้างมาแล้วสองภาค ไม่ว่าจะเป็น The Bourne Identity และ Bourne Supremacy

สำหรับตัวหนังสือนั้นลัดลั่มเขียนเป็นไตรภาคไว้ค่ะ จบที่ตอนนี้
ทว่านักเขียนอีกคนคือ เอริค แวน ลัสต์เบเดอร์เป็นคนเขียนภาคต่อ
อีก 2 เล่มนะคะ คือ The Bourne Legacy และ The Bourne Betrayal ค่ะ
ที่สำคัญมีสำนักพิมพ์มือไว แปลและวางจำหน่ายเป็นภาษาไทยแล้วด้วยนะคะ
สำหรับเอาใจคอหนัง ที่หนังจบ แต่อารมณ์ไม่จบค่ะ
แต่ต้องขอย้ำนะคะว่า หนังกับหนังสือนั้นเนื้อหาของทั้ง 3 ภาค
ล้วนแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เกือบจะไม่มีความสัมพันธ์กันเลยทีเดียว

สำหรับตัวอย่างหรือหน้าหนังของเรื่องนี้
ต้องชมค่ะ ว่าตัดต่อมาเรียกน้ำย่อยได้ดีเหลือใจ
กระตุ้นให้คนอยากรู้ และเอาใจช่วย
ยิ่งเมื่อมาดูด้วยตัวเองจนจบ บอกได้เลยนะคะว่า
ในหนังตัวอย่างนั้นเป็นส่วนเชื่อมต่อตอนท้ายปลายๆของเรื่องแล้ว
หนังมีเนื่อหานำร่องที่ดีเหลือเกิน คาดเดาไม่ออกว่าจะไปในทิศทางใด

หนังว่าด้วยการหลบหนีของจารชนนักลอบสังหาร เจสัน บอร์น
เพื่อสืบค้นต้นตอของตัวตน ที่สูญเสียความทรงจำไป
บอร์นคลำทางไปอย่างคนรู้เรื่องวงในดี
หนังทำให้เราเห็นเลยนะคะว่างานจารกรรมนั้นมีรูปแบบ
คนที่เป็นสุดยอดในงานนั้นๆแบบบอร์น แตกต่างจากลูกกระจ๊อกทั่วไปมากมาย
ตรงที่ อำนาจการสั่งการและลงมือนั้น เป็นคนๆเดียวกัน
บอร์นเลือกทำอะไรล้ำหน้าคนที่ตามล่าตามล้างเขา 1 ก้าวเสมอ
จนซีไอเออย่างโนอาห์ โวเช่น (รับบทโดยเดวิด แสตร์ทเฮิร์น)
เจ้าของโครงการแบล็คไบรอาร์ (บูรณาการของโครงการเทรดสโตน)
ต้องขอความร่วมมือจากผู้ตามล่าบอร์นภาคก่อน พาเมล่า แลนดี้ (รับบทโดยโจแอน อัลเลน)
หนังพาเราเดินหน้าสู่อดีตของบอร์น ที่ในที่สุดก็มีบทสรุปออกมาค่ะ

ออกตัวก่อนนะคะว่า หนังดีมากจริงๆ
และเกือบจะตำหนิความสมจริงของการทำหนัง ที่ถ่ายภาพออกมาให้ชวนเวียนหัวเหลือใจ
เกือบตำหนิจริงๆค่ะ เพราะจวนเจียนจะเวียนหัวเสียให้ได้
ทว่า "ข้อจงใจ" ของการถ่ายภาพนี้
เมื่อเราดูจบ เราจะปรบมือให้กับทีมถ่ายภาพและกำกับภาพค่ะ
เพราะมันสมจริง สมจริงจนน่ากลัว เหมือนเราอยู่ในเหตุการณ์
ใจเต้นไม่เป็นส่ำ ลุ้นไปกับตัวละคร ระทึกไปกับการไล่ล่า
เป็นหนังที่ทำให้หัวใจดิฉันเต้นแรงได้โดยธรรมชาติเลยค่ะ

ตัวละครหลัก บอร์นของเรา
ต้องปรบมือให้กับเดม่อนนะคะ
เพราะช่วงหลังๆ หน้าของเขายังไม่ช้ำเท่าไรไปกับบทตลก
พูดง่ายๆว่ายังสดอยู่กับบทบู๊ ทำให้รูปแบบของตัวละครนั้นสมจริง
เราเห็นเลยค่ะ ว่าเดม่อนฉายแววฉลาด สุขุม รอบคอบ
เป็นมืออาชีพ และที่สำคัญคืออันตราย

แสตร์ทเฮิร์นเป็นตัวเลือกที่ไร้ที่ติพอๆกับอัลเลน
สองตัวละครนี้เปล่งประกายความไม่ธรรมดาออกมาทางสีหน้า และแววตา
โดยเฉพาะรายหลัง ตัวละครเอื้อให้เรารู้สึกผูกพันธ์และเอาใจช่วยกลายๆ
ปฏิเสธไม่ได้นะคะ ว่านี่เป็นหนังผู้ชาย ที่ไม่ใช่ชายกระโปรง
เพราะฉะนั้น ตัวละครหญิงทั้งหลายนั้น แม้เมื่อชั่งน้ำหนักบทแล้ว
จะน้อยกว่าเห็นๆ หากว่ายังมีแง่มุมความเปราะบาง
มาให้เราร่วมระทึก ตระหนกตกใจได้เป็นอย่างดี
กำลังพูดถึงจูเลียร์ สไตล์นะคะ
กลับมาอีกครั้ง มีน้ำมีเนื้อขึ้นมานิดนึงค่ะ การแสดงทำออกมาได้ดีใช้ได้ทีเดียว
และสุดท้าย ตัวละครของฟินนีย์ที่คุณๆต้องไปชมกันเองนะคะ
ออกมาน้อยนิดเหลือเกิน แต่ทำดิฉันกลัว ดิฉันกลัวตัวละครแบบนี้ค่ะ
ตัวละครที่มีสายตา "ผ่านชีวิต" มาจนปราศจากความกลัว
เป็นตัวละครสำคัญในช่วงท้ายๆของเรื่องแล้ว

โดยรวมหนังลื่นไหลไปได้ดี ทรงพลัง และบู๊เต็มพิกัด
ความสมเหตุสมผลในตัวหนังนั้น ไม่มีอะไรให้เราติดข้องหมองใจเลย
ออกจากโรงด้วยใจที่เต้นระทึกเชียวค่ะ
ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงนะคะ

ขอแสดงความนับถือ



Create Date : 11 สิงหาคม 2550
Last Update : 26 สิงหาคม 2550 2:59:45 น.
Counter : 570 Pageviews.

3 comments
  
กำลังคิดว่าจะไปดู อำลาการดูหนังที่เมืองไทยด้วยเรื่องนี้
ไว้ดูแล้วจะมาคุยด้วยนะครับ
โดย: Mint@da{-"-} วันที่: 11 สิงหาคม 2550 เวลา:17:58:58 น.
  
เรื่องนี้ก็คงต้องพลาดตามเคย แต่อยากดูมากๆ
ไม่มีเพื่อนไปดูด้วย เฮ้อ เซ็งงงงง
โดย: haro_haro วันที่: 24 สิงหาคม 2550 เวลา:11:15:47 น.
  
ฟินนีย์คือตัวใหนหว่า ?
โดยรวมผมค่อนข้างผิดหวังกับบอร์น ภาคนี้ครับ มีหาวด้วยระหว่างดู ดูจบผมบ่นกับแฟนอย่างเซ็งๆ ผิดหวังเพราะภาคก่อนๆของหนังชุดนี้ มันส์มาตลอด นึกว่าจะมีอะไรใหม่ ก็เปล่า แถมบอร์นภาคนี้ดูเก่งเว่อร์ไป คนหรือคอมพิวเตอร์ล่ะนั่น
โดย: joblovenuk วันที่: 25 สิงหาคม 2550 เวลา:20:48:26 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Gloomy-sunday.BlogGang.com

Gloomy Sunday
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]