เท่าที่ทำก็เสร็จแล้ว...! ฤดูมรสมุมในเมืองไทยเริ่มตั้งแต่เดือนกรกฏาคมจนถึงเดือนตุลาคม ในช่วงเวลานี้ พระสงฆ์จะงดเว้นการเดินทาง วางมือจากงานทั้งหลาย... และอุทิศเวลาเพื่อการศึกษา และำภาวนา เราเรียกช่วงเวลานี้ว่า "ช่วงเข้าพรรษา" ที่ปักษ์ใต้เมื่อหลายปีก่อน... ท่านเจ้าอาวาสซึ่งเป็นพระที่มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ท่านกำลังก่อสร้างศาลาหลังใหม่ในบริเวณวัดป่าของท่าน เมื่อถึงช่วงเข้าพรรษา ท่านก็ระงับการก่อสร้างและส่งช่างก่อสร้างกลับบ้าน เพราะนี่เป็นเวลาของความสงบในวัดของท่าน สองสามวันต่อมา... ผู้มาเยี่ยมคนหนึ่งเห็นสิ่งก่อสร้างที่สร้างไว้ครึ่ง ๆ กลาง ๆ นี้ จึงกราบเรียนถามท่านว่าศาลาหลังนี้จะสร้างเสร็จเมื่อใด? และโดยไม่มีอาการลังเล ท่านเจ้าอาวาสตอบว่า... "ศาลาหลังนี้สร้างเสร็จแล้ว" ผู้มาเยี่ยมคนนั้นถามแล้วก้าวถอยห่างออกมา เขาคิดคำนึงในใจว่า ท่านหมายความว่าอย่างไร... หลังคาก็ยังไม่มี ประตูหน้าต่างก็ไม่มีสักบาน ไม้และถุงปูนยังกองไปทั่ว ท่านจะทิ้งไว้อย่างนี้หรือ? ท่านเพี้ยนหรือนี่? ท่านหมายความว่าอย่างไรกันแน่? เพื่อให้แน่ใจ เขากราบเรียนถามท่านอีกครั้งว่า... "ศาลานี้สร้างเสร็จแล้วหรือขอรับ" ท่านเจ้าอาวาสผู้ชรายิ้ม... และตอบอย่างอ่อนโยนว่า... "เท่าที่ทำแล้วก็เสร็จแล้ว" แล้วท่านก็เดินจากไปเพื่อภาวนา นี่เป็นวิธีการคิดเพียงวิธีเดียวที่จะสามารถหยุดเราจากการงานทั้งปวง...เพื่อเข้าภาวนากรรมฐาน มิฉะนั้นแล้ว งานที่เราต้องทำจะไม่มีวันเสร็จสิ้นได้เลย... ทีมา : จากหนังสือ "ชวนม่วนชื่น" โดย...พระอาจารย์พรหม วันนี้ได้อ่านข้อคิดดีๆๆก่อนนอน คืนนี้คงจะฝันดีมากมายค่ะ พรุ่งนี้คงมีความคิดอะไรใหม่ๆๆดีๆๆอีกเปนแน่ ขอบคุนค่ะ
โดย: ดอกหญ้าในHouston วันที่: 13 มกราคม 2553 เวลา:8:02:18 น.
โดย: ผมชอบกินข้าวมันไก่ วันที่: 13 มกราคม 2553 เวลา:9:38:38 น.
ยิ้ม....ไม่ว่าจะยิ้มเล็ก หรือ ยิ้มใหญ่
ยิ้ม.... เป็นของฝากที่ไม่ต้องซื้อหา ยิ้ม.... คือความอบอุ่นที่หัวใจ ยิ้ม.... ทำให้โลกสดใส มีชีวิตชีวา ยิ้ม.... คือกำลังใจที่ดีในการต่อสู้ ยิ้ม.... มีคุณค่าสำหรับผู้รับเสมอ วันนี้ คุณยิ้มให้คนที่คุณรักหรือยัง...??... มาส่งยิ้มให้นู๋กิ่ง...ค่ะ โดย: พรหมญาณี วันที่: 13 มกราคม 2553 เวลา:11:19:03 น.
หนังสือชวนม่วนชื่น
เป็นหนังสือที่ผมชอบมากเลยครับพี่กิ่ง อินเดียถ้าใครมีความหร้อมก็ควรจะได้ไปสักครั้งในชีวิตนะครับ โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 มกราคม 2553 เวลา:11:45:58 น.
งานเสร็จก็คือเสร็จตามเป้าหมายค่ะ นั่นต่างหากคือสิ่งที่บอกว่างานเสร็จหรือไม่เสร็จ
โดย: Chulapinan วันที่: 13 มกราคม 2553 เวลา:18:13:19 น.
ถนน...ทุกสายต่างทอดยาวไกลสุดสายตา
ถนน...คือหนทางให้เราออกก้าวเดิน ถนน...พาเราไปสู่จุดหมายปลายทางที่ต้องการ ถนน...ที่ราบเรียบ เดินได้อย่างสบายกายสบายใจ ถนน...ที่ขรุขระ ต้องเดินด้วยความระมัดระวัง ไม่ว่าถนนจะราบเรียบหรือขรุขระ หากเรามีสติในการเดิน ย่อมส่งผลให้เราเดินได้อย่างปลอดภัย แต่เมื่อใดที่เผลอสติ ทำให้เราประคองตัวเองไม่ได้...ล้มลง จงรีบกลับมาตั้งสติใหม่ แล้วค่อย ๆ พยุงตัวลุกขึ้นก้าวเดิน...ต่อไป แล้ววันหนึ่งเราจะถึงจุดหมายที่หวังไว้ เพราะเราไม่เคย ท้อถอย ขอให้มีความสุขและประสบความสำเร็จในการเดินทางบนถนนแห่งชีวิต..นะคะ โดย: พรหมญาณี วันที่: 15 มกราคม 2553 เวลา:16:10:35 น.
สวัสดียามเช้าครับพี่กิ่ง
อนุโมทนาบุญด้วยนะครับพี่ โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 มกราคม 2553 เวลา:6:06:33 น.
ความสุข เป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา
ความทุกข์ คือสิ่งที่ทุกคนไม่ต้องการ ไม่ว่าสุขหรือทุกข์ ทุกคนต้องมี ต้องได้ อย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น เมื่อมีความสุข อย่าหลงระเริงชื่นชมยินดีจน...ขาดสติ เมื่อมีความทุกข์ อย่าปล่อยให้ชีวิตจมอยู่กับทุกข์นั้นอย่าง...ไร้สติ จงบอกตัวเองเสมอ ๆ ว่า สุขหรือทุกข์ ไม่ช้าก็...ต้องไปจากเรา สุข ใยต้อง...ยินดี ทุกข์ ใยต้อง...เศร้าโศก เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป....นี้คือสัจธรรม ขอให้ทุกท่านมีสติรู้เท่าทันกับ สุข-ทุกข์ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต และเตรียมพร้อมในการเรียนรู้ที่จะอยู่กับมันอย่าง พุทธะ ตลอดไป...นะคะ โดย: พรหมญาณี วันที่: 19 มกราคม 2553 เวลา:16:33:03 น.
คิหิสุข หรือ กามโภคีสุข คือ สุขของคฤหัสถ์, สุขอันชอบธรรมที่ผู้ครองเรือนควรมี ได้แก่
๑. อัตถิสุข สุขอันเกิดจากความมีทรัพย์ คือความภูมิใจ เอิบอิ่มใจ ว่าตนมีโภคทรัพย์ที่ได้มาด้วยน้ำพักน้ำแรงความขยันหมั่นเพียรของตนและโดยชอบธรรม ๒. โภตสุข สุขเกิดจากการใช้จ่ายทรัพย์ คือความภูมิใจ เอิบอิ่มใจ ว่าตนได้ใช้ทรัพย์ที่ได้มาโดยชอบนั้น เลี้ยงชีพ เลี้ยงผู้ควรเลี้ยง และบำเพ็ญประโยชน์ ๓. อนณสุข สุขเกิดจากความไม่เป็นหนี้ คือความภูมิใจ เอิบอิ่มใจ ว่าตนเป็นไท ไม่มีหนี้สินคิดค้างใคร ๔. อนวัชชสุข สุขเกิดจากความประพฤติไม่มีโทษ คือความภูมิใจ เอิบอิ่มใจ ว่าตนมีความประพฤติสุจริต ไม่บกพร่องเสียหาย ใคร ๆ ติเตียนไม่ได้ ทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ ในบรรดาสุขทั้ง ๔ อย่างนี้ อนวัชชสุข มีค่ามากที่สุด ขอให้ทุกท่านมีความภูมิใจ เอิบอิ่มใจ ในคิหิสุข สมปรารถนาในสุจริตทรัพย์ทั้งปวง...นะคะ โดย: พรหมญาณี วันที่: 21 มกราคม 2553 เวลา:13:55:06 น.
ความสุข และความทุกข์...เป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นกับสัตว์โลกผู้ยังเวียนว่ายตายเกิด
แต่... ความสุข และความทุกข์....อยู่กับเราไม่นาน ผ่านมา...แล้วก็...ผ่านไป เมื่อทุกข์ก้าวเข้ามาในชีวิต..เราต้องตั้งสติให้ดี พร้อมที่จะเผชิญกับทุกข์นั้น...อย่างกล้าหาญ เรียนรู้ที่จะอยู่กับทุกข์นั้นได้...อย่างสงบ หากเราสงบได้ด้วยความเข้าใจในทุกข์นั้น...อย่างแท้จริง ก็เรียกได้ว่า...เราเป็น....ผู้ชนะ ชนะ...ที่สามารถอยู่กับทุกข์...อย่างมีความสุขได้นั่นเอง เมื่อสุขผ่านเข้ามาเยือน...จงน้อมรับด้วยความยินดีอย่างมี...สติ อย่าคาดหวังว่าสุขนั้น...จะอยู่กับเรา...ตลอดไป จงทำหน้าที่ รักษาสิ่งดี ๆ นั้นไว้...ให้อยู่กับเรา...นานที่สุด บอกกับตัวเองเสมอ ๆ ว่า...ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่...ยั่งยืน หากเราตระหนักได้แล้วถึง...ความไม่จีรังของทุกสรรพสิ่ง วันหนึ่ง...เมื่อสุขนั้นต้องจากไป เราจะได้ไม่ต้อง...มานั่งเสียใจ วันหนึ่ง...เมื่อทุกข์ผ่านเข้ามาในชีวิต เราจะได้ตั้งรับ...อย่างมีสติ ทุกสิ่งล้วน..เกิดขึ้น...ตั้งอยู่...ดับไป ผ่านมา...แล้วก็...ผ่านไป ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่กำลังผจญกับความทุกข์ เหนื่อยกาย...เหนื่อยใจ...เหนื่อยได้ แต่อย่าท้อ ขอแสดงความยินดีกับผู้ที่กำลังมีความสุข เก็บรักษาความสุขนั้นไว้ในความทรงจำ...ตลอดไป โชคดี มีความสุข...ค่ะ โดย: พรหมญาณี วันที่: 22 มกราคม 2553 เวลา:14:05:46 น.
สวัสดีวันจันทร์ที่ท้องฟ้าสดใส...ค่ะ
อุตส่าห์นั่งทำภาพสวยเอาไว้ตั้งแต่วันเสาร์ ตั้งใจว่าจะนำไปฝากเพื่อนบล็อกทุกท่าน แต่เน็ตไม่เป็นใจ ทั้งเสาร์และอาทิตย์ สงสัยเพราะบ้านปอป้า อยู่ตะเข็บกรุงเทพฯ เน็ตไม่เป็นใจ วันนี้เลยเอาภาพค้างสต๊อกมาฝากเพื่อน ๆ ก่อน..นะคะ ขอให้มีความสุข สนุกสนาน สำราญใจ ตลอดสัปดาห์และตลอดไป...นะคะ โดย: พรหมญาณี วันที่: 25 มกราคม 2553 เวลา:11:26:45 น.
ปญฺญา หมายถึงความมีปัญญาหยั่งรู้เหตุผล รู้จักคิดพิจารณา
เข้าใจภาวะของสิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริง นาถกรณธรรมนี้ ท่านเรียกว่าเป็น พหุการธรรม หรือ ธรรมมีอุปการะมาก เพราะเป็นกำลังหนุนในการบำเพ็ญคุณความดีทั้งหลาย ยังประโยชน์ตนและประโยชน์ผู้อื่นให้สำเร็จได้อย่างกว้างขวางไพบูลย์ ขอให้ดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข ถึงพร้อมด้วยปญฺญา อันจะนำไปสู้ความสำเร็จในทุกสิ่งที่ปรารถนา ตลอดไป..นะคะ โดย: พรหมญาณี วันที่: 26 มกราคม 2553 เวลา:14:12:33 น.
วิมุตติ คือความหลุดพ้น มี ๒ คือ
๑. เจโตวิมุตติ คือความหลุดพ้นแห่งจิต, หลุดพ้นด้วยอำนาจการฝึกจิต, การหลุดพ้นแห่งจิตจากราคะ ด้วยกำลังแห่งสมาธิ ๒. ปัญญาวิมุตติ คือความหลุดพ้นด้วยปัญญา, ความหลุดพ้นด้วยอำนาจการเจริญปัญญา, ความหลุดพ้นแห่งจิตจากอวิชชา ด้วยปัญญาที่รู้เห็นตามเป็นจริง ขอให้ทุกท่านมีความสุขในการดำเนินชีวิต ถึงพร้อมด้วยเจโตวิมุตติ และปัญญาวิมุตติ สมความปรารถนาในทุกสิ่งอันสุจริตที่พึงมีพึงได้ สุขกาย-สุขใจ ตลอดไป...นะคะ โดย: พรหมญาณี วันที่: 28 มกราคม 2553 เวลา:13:40:17 น.
สวัสดีค่ะ...
ระยะนี้บล็อกมีปัญหามาก เข้าบล็อกเพื่อน ๆ และวางเม้นท์ได้ไม่ทุกบล๊อก ดังนั้น ถ้าปอป้า แวะเยี่ยมเพื่อน ๆ ได้ไม่ทั่วถึง ต้องขอโทษด้วย..นะคะ วันนี้ นำบุญกุศลที่ได้ปฏิบัติมาทั้งเมื่อวันอาทิตย์และวันนี้ ส่งให้เพื่อน ๆ ทุกคน ขอให้ทุกท่าน มีความสุข ความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม พรั่งพร้อมด้วยโภคทรัพย์และอริยทรัพย์ ทำการสิ่งใดให้สำเร็จสมความปรารถนา มีสุขภาพกายและสุขภาพใจที่เข้มแข็ง พบแต่กัลยาณมิตรที่ดี ตลอดไป...นะคะ โดย: พรหมญาณี วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:21:08:50 น.
สวดมนต์...นั่งสมาธิ...ก่อนเข้านอน
จะทำให้...จิตสงบ...นอนหลับง่าย ยามตื่น...จะรู้สึก...ตัวเบา...จิตเบา ไม่ลอง...ไม่รู้...นะคะ ฝันดี ราตรีสวัสดิ์...ค่ะ โดย: พรหมญาณี วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:0:31:43 น.
สวัสดีค่ะ....
ระยะนี้ เน็ตที่บ้านปอป้า มีปัญหามาก เข้าบล็อกได้บ้าง ไม่ได้บ้าง พอเข้าได้ วางเม้นท์ไม่ได้ เป็นอย่างนี้ประมาณ ๒-๓ อาทิตย์แล้ว..ค่ะ อุตส่าห์คาดหวังว่า มาเข้าบล็อกที่ทำงานก็ได้ แต่ปรากฏว่า มีอาการเดียวกันเลย..ค่ะ ไม่รู้ว่าเพื่อน ๆ เจอปัญหาแบบเดียวกันนี้บ้างหรือเปล่า ยังไง ปอป้าต้องขอโทษด้วย ถ้าระยะนี้ไปเยี่ยมไม่ทั่วถึง หรือไม่ได้ตอบเม้นท์ของบางท่าน ขออภัยในความไม่สะดวก..นะคะ สุข สดชื่น รื่นเริง บันเทิงใจ ตลอดสัปดาห์นี้ และตลอดไป..นะคะ โดย: พรหมญาณี วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:9:58:44 น.
มีคำถามในใจของผม
เพราะพระอาจารย์ที่บรรยายบนรถท่านพูดว่า เราว่าเราสงสารขอทาน แต่รู้มั้ยขอทานพวกนี้ ถึงเวลากินก็กิน ถึงเวลานอนก็นอน ไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรกับชีวิตเหมือนที่เรารู้สึกหรอก เราซะอีก รวย มีตำแหน่งสูงๆ ถามว่าเครียดมั้ย นอนหลับมั้ย ทุกข์มั้ย บางทีชีวิตของเราอาจน่าสงสารกว่าชีวิตขอทานก็ได้นะครับ โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:21:25:53 น.
ใช่....
การหลงยึดติดกับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นความร่ำรวย ตำแหน่งหน้าที่การงาน ความสวย ความงาม ที่เป็นไปตามวะระ แต่ใจรับไม่ได้ มากมายหลายอย่าง.... ล้วนแต่กอดความทุกข์ไว้กับตัวทั้งนั้น ใครยึดไว้มาก ก็ทุกข์มาก ใครยึดไว้น้อย ก็ทุกข์สั้นลง เมื่อก่อนพี่กิ่งก็ยึดมากเช่นกัน เดี๋ยวนี้ไม่ใช่ว่าไม่ยึด แต่มันค่อย ๆ ปลดออกไปทีละนิด อย่างน้อย...ตอนนี้มีเงินน้อยลงกว่าเดิม แต่ตอนนี้กลับไม่ทุกข์เท่าเมื่อตอนที่มีเงินมากมาย.... เมื่อก่อน...อยากมีใครมาร่วมชีวิต รอคอยว่าเมื่อไหร่จะมา (สักที) เดี๋ยวนี้...ได้โปรด! อย่าแวะเวียนเข้ามาเลย... (เพราะมีความสุขดีแล้ว) โดย: i am_giddy วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:21:41:45 น.
พระอวโลกิเตศวร เป็นเสมือนปุคคลาธิษฐานแห่งมหากรุณาคุณของพระพุทธเจ้าทั้งปวง
ขอบารมีแห่งพระอวโลกิเตศวร โปรดดลบันดาลให้เพื่อนบล็อกทุกท่าน ประสบแต่ความเจริญ ปรารถนาสิ่งใดให้ได้สมความปรารถนาทุกประการ มีสุขภาพกายและใจที่เข้มแข็ง แข็งแรง ปราศจากทุกข์ใด ๆ มากล้ำกราย พรั่งพร้อมด้วยโภคทรัพย์และอริยทรัพย์ ตลอดจนเหล่ากัลยาณมิตรที่ประเสริฐ มึความสุขกาย สุขใจ ตลอดกาลและตลอดไป... โดย: พรหมญาณี วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:11:06:53 น.
ปอป้า กลับมาแล้ว..กลับมาพร้อมบุญกุศลที่ตั้งใจหอบมาฝากทุกท่าน..ค่ะ
กุศลใด ที่กระทำ สำเร็จแล้ว ศีลผ่องแผ้ว ปริยัติ ปฏิบัติมา รีบนำส่ง ถึงทุกท่าน ไม่รอช้า ทุกเวลา มีแต่สุข ทุกข์มลาย ขอบารมี แห่งองค์ พระสุคต ช่วยเปลื้องปลด ทุกข์โศก โรคพลันหาย กระทำการ สิ่งใด สมใจหมาย ทั้งกายใจ ปราศทุกข์ สุขนิรันดร์ โดย: พรหมญาณี วันที่: 20 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:20:38:29 น.
|
บทความทั้งหมด
|