บทเรียนมนุษยสัมพันธ์จากน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ ในสภาพสังคมเมืองปัจจุบัน ผู้คนใช้ชีวิตกันแบบต่างคนต่างอยู่ อาจไม่แปลกที่เราจะไม่เคยคุยกับคนห้องตรงข้าม ไม่แปลกที่จะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเค้าชื่อเสียงเรียงนามอะไร เป็นภาวะที่เกิดขึ้นทั่วไปในชุมชนบนตึกสูงทุกวันนี้ เผอิญผมไม่ได้ใช้ชีวิตในคอนโด ผมอยู่บ้านธรรมดาในแถบชานเมืองฟ้าอมรนี่แหละ ผู้คนในซอยบ้านเลยพอรู้จักพูดคุยทักทายกัน เดินออกมาถนนใหญ่ไปตามร้านค้าก็ยังพอคุ้นหน้า เรียกได้ว่าไม่รู้สึกแปลกหน้ากันเกินไปเสียทีเดียว รุ่นน้องคนหนึ่งเคยบอกผมว่า กลัวการมีปฏิสัมพันธ์กับพ่อค้าแม่ค้ามาก เค้าบอกมันเป็น"มนุษยสัมพันธ์ชุมชนเชิงลึกที่ไม่ควรมี" ตะแรก ผมไม่ค่อยเข้าใจเพราะการสนิทสนมกับพ่อค้าแม่ขาย ก็น่าจะทำให้เราได้ประโยชน์ เช่น อาจได้แถมของที่ซื้อ ผมไม่เข้าใจอาการของน้องเค้าจนกระทั่ง .... เมื่อเร็วๆนี้ มีครอบครัวหนึ่งมาเช่าพื้นที่ทางเดินปากซอย เพื่อเปิดร้านขายน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ในตอนเย็น ด้วยความที่ผมเป็นพวกเห่อของทดลองของใหม่ ก็เลยไปเป็นลูกค้าเจ้านี้ตั้งแต่วันแรกที่ขาย ซึ่งต้องเว้ากันซื่อๆว่า ทั้งสองอย่างรสชาติก็งั้นๆ ผมคิดในแง่ดีว่าเพิ่งเปิดร้าน สูตรคงยังไม่ลงตัว ซึ่งทางร้านก็คงคิดเช่นนั้นจึงมีการปรับปรุงตลอด ทุกครั้งที่มีสูตรใหม่ ร้านนี้ก็มักเรียกให้ผมซื้อเสมอ ผมลองซื้อมาแล้วก็ต้องพูดตรงๆว่า ห่วยเหมือนเดิม สินค้าประเภทของกินนั้น ถ้าไม่อร่อยเสียอย่าง ต่อให้มีโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมมากแค่ไหน ยังไงก็คงรั้งใจผู้บริโภคให้มาซื้อหาจับจ่ายไม่ได้อยู่ดี แต่ผมพลาดที่ดันไปมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ค้ามากไปหน่อย กลายเป็นลูกค้าประจำที่ไม่ได้ชอบสินค้าที่ซื้อเอาเสียเลย เรื่องนี้มันคนละแบบกับ ร้านขนมที่ไม่อร่อยกับแม่ค้าสวย เพราะอย่างหลังเราไม่ได้ตั้งใจไปซื้อขนมอยู่แล้ว ฮ่าๆๆ ระยะหลังเดินผ่านร้านนี้ ผมเลยได้แต่ยิ้มแห้ง จะแกล้งทำไม่เห็นก็ไม่ได้ ตัวออกจะใหญ่ทั้งพ่อค้าแม่ค้า บางทีเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องซื้อเสียแบบเสียมิได้ เฮ้อ ความสัมพันธ์กับรสชาติมันสวนทางกันจริงๆนะเอ้อ สถานการณ์ล่าสุด ร้านนี้เจ๊งไปแล้ว ผมดีใจมากเลย บทเรียนจากน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋ครั้งนี้สอนให้ผมรู้ว่า "มนุษยสัมพันธ์ไม่เลวร้าย แต่อย่าได้ถลำลึกผิดจุด" ................................................................ แอบดีใจว่าเรามนุษยสัมพันธ์แย่นี่โชคดีจังเลย ลัลล้า
คนที่ต้องเจอบ่อยๆ ก่อนหน้านี้คือหัวหน้าหมู่บ้าน เป็นคนที่น่าเบื่อมากเพราะแกขี้คุยแล้วชอบเบ่งง่ะ เคยมากวาดใบไม้หน้าบ้านเราทีนึง (ย้ำว่าทีเดียว) แกทวงบุญคุณเป็นปีเลยนะคุณตู่ เจอหน้าทีไรก็ "นี่... วันก่อนลุงไปกวาดใบไม้ให้นะ" จนหลังๆ เวลาเราจะออกบ้าน ต้องมองซ้ายมองขวาแล้วกวดไปให้ถึงปากซอยก่อนลุงคนนี้แกจะออกมา ปัจจุบันนี้ แกเกษียณ ขายกาแฟเป็นงานอดิเรก จริงๆ ที่มาทำคงเพราะหาเรื่องหาเพื่อนคุยนั่นแล แกก็พยายามคะยั้นะคะยอให้เราซื้อกาแฟนะ เราก็บอกไปตรงๆ ว่า ไม่กินกาแฟ 55 จริงๆ ที่ไม่กล้าซื้อคือเห็นกระบวนการหลังผลิตน่ะ แกเล่นคว่ำขวดใส่กาแฟที่ล้างแล้วทุกขวดกับพื้นทางเท้าหน้าบ้าน แห้งแล้วก็เก็บเข้าบ้าน อึ๊ยยยย โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 10 มีนาคม 2551 เวลา:17:13:13 น.
ถ้าพี่ตู่ได้เจอเพื่อน 43 ของผมแต่ละคนคงชอบ
เพราะพวกนั้นชอบมีปฎิสัมพันธ์กับพ่อค้าแม่ค้ารวมไปถึงเด็กเสิร์ฟในห้างกันทั้งนั้น ถึงขนาดที่ว่าพนักงานร้านเหล่านั้นเจอพวกนี้ทีไร กลัวทุกที โดย: I will see U in the next life. วันที่: 10 มีนาคม 2551 เวลา:17:35:32 น.
อืม เป็นพวกมีปฏิสัมพันธ์กับพ่อค้าแม่ขายเหมือนกันค่ะ
บางทีถึงขั้นสนิทกับเค้าไปทั้งบ้านก็มี แต่ดังนั้น เป็นที่แน่ว่าการซื้อของเพราะเกรงใจก็มี แต่บัดนี้พยายามปลดแอกตัวเอง ถ้าไม่ซื้อ และไม่มีอะไรถูกใจก็จะไม่พยายามฝืนตัวเอง บอกไปเลยว่าไม่เอา แล้วก็แค่ทักทายเฉย ๆ คิดง่าย ๆ ว่าคุณขา เศรษฐกิจไม่ดี แล้วจะให้อีฉันซื้อของได้ตลอดหรือคะ* หรือไม่ก็ นี่ นอกจากฉันแล้ว คุณไม่คิดมีลูกค้าอื่นเหรอคะ* * คิด ๆ เล่น ๆ อย่างใจร้ายใจดำ TT โดย: หมาเลี้ยงแกะ IP: 203.151.46.130 วันที่: 11 มีนาคม 2551 เวลา:10:04:03 น.
พอดีแม่ค้าแถวบ้านสวย ๆ ทั้งนั้น
น่ามีปฎิสัมพันธ์เชิงลึก อิอิ อย่างร้านไก่ปิ้งที่ซื้อประจำ ถ้าวันไหนมีอีกร้านที่ไก่ปิ้งน่ากินกว่า เราก็จะซื้ออีกร้าน แบบไม่ต้องกระมิดกระเมี้ยน เพราะเรามีสิทธิเลือกได้อยู่แล้ว พ่อค้าแม่ค้าแถวบ้านเราใจดีอ่ะ ร้านประจำ ถ้าเราไม่ซื้อเค้าก็ไม่เป็นไร ถ้าซื้อผลไม้ก็เลือกไดด้วย ไม่เหมือนแถวเทเวศน์ ถ้าซื้อผลไม้ แล้วไปเลือกของเค้าหละก้อ.... เหมือนกับทำผิดมหันต์ ต้องประหารเจ็ดชั่วโคตรเลยแหละ โดย: GLASS OF WINE วันที่: 12 มีนาคม 2551 เวลา:8:25:32 น.
ความสัมพันธ์ในเชิง ผู้ซื้อ-ผู้ขาย ทุกชนิดไม่ควรเกินเลย โดย: Queen N. IP: 203.152.25.121 วันที่: 12 มีนาคม 2551 เวลา:10:41:32 น.
จริงๆก็สนิทกับแม่ค้าบางประเภทนะ เช่น คนขายหนังสือหน้าปากซอย คนขายกาแฟ คือส่วนใหญ่จะน่ารัก สุภาพ ไม่เคยเจอเรียกซื้อของเลย มีแต่ชวนคุยบวกส่งข่าวสาร ฮ่าๆ
โดย: DropAtearInMyWineGlass วันที่: 13 มีนาคม 2551 เวลา:4:14:14 น.
ผมดิ ตอนนี้อยากมีปฎิสัมพันธ์เชิงลีกกับลูกค้ามากครับ แต่ละนาง โอ้ว
แล้วน้องคนที่เป็นต้นตอของเรื่องนี่ใช่ไอ้อ้วนรึเปล่าครับ โดย: กุลี ณ.นิวยอร์ก IP: 69.86.216.206 วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:12:21:22 น.
..
ความเกรงใจเป็นสมบัติของผู้ดี อ้าว เหมือนคนละเรื่องเดียวกันเลยนะคะ .. ปล ทำไมหน้าที่เราชอบเป็นต้องเป็นเหลี่ยมละคะคุณตู่ ---- แน่ะ โดย: azamiya^^7790 IP: 203.153.175.61 วันที่: 20 มีนาคม 2551 เวลา:20:01:15 น.
ปกติไม่ค่อยได้คุยกับพี่พี่พ่อค้าแม่ขายเท่าใด
เอาแค่ยิ้มส่งให้กันก็พอ จะทำตัวให้ห่าง "ความเคยชิน" (= ขาประจำ) เพราะไม่อยากทำใจลำบากเวลาที่ไม่อยากกินแต่ต้องเดินผ่านร้าน โดย: renton_renton วันที่: 28 มีนาคม 2551 เวลา:13:10:00 น.
555 เหมือนผมเลย ผมมีเจ้าประจำหลายร้านอยู่เหมือนกัน เพราะตอนซื้อแรกๆชอบไปเจ๊าะแจ๊ะ หลังๆไปต้องจำใจซื้อเพราะเลี่ยงไม่ได้ วันไหนไม่ซื้อมีงอนด้วย เฮ้อ แต่ผมว่ามันก็ช่วยๆกันน่ะครับ บางทีคุยๆกับแม่ค้าพ่อค้าก็ได้เรื่องดีๆไปเหมือนกัน (นอกจากของแถมนะ 555)
โดย: ข้าวตู วันที่: 6 เมษายน 2551 เวลา:13:06:37 น.
สงสารเจ้าของร้านเขานะครับ อาจจะไปผิดทาง
หรือไม่มีคนแนะนำเรื่องสูตร เกรงว่าร้านตัวเองจะเป็นอย่างนั้นจัง อยากให้ลูกค้าบอกตรงๆมากกว่ารับ //www.patongko2u.com โดย: soponkub วันที่: 15 มีนาคม 2552 เวลา:20:20:55 น.
|
บทความทั้งหมด
|
เรื่อง ปฏิสัมพันธ์กับพ่อค้าแม่ค้า
นับว่าประมาทหรือเปิดโอกาสไม่ได้เลย
ผมกับแม่ค้าปาท่องโก๋หน้าปากซอย ก็เหมือนกัน
บางครั้งแกล้งทำท่าเมาขี้ตาเดินผ่าน แก่ก็ยังอุตสาห์มาทัก
"วันนี้พึ่งลงจากกะทะร้อนเลยน๊า" ตกลงเป็นอันต้องกินอีก
ทั้งๆที่ตั้งใจว่าจะลดแป้ง...
ถ้าผมอ้วนขึ้นผมไม่โทษใครเลย นอกจากแม่ค้าปาท่องโก๋ (ฮา)