"ความทรงจำกลางฤดูใบไม้ร่วง ณ แดนอาทิตย์อุทัย" # 1
"ความทรงจำ กลางฤดูใบไม้ร่วง ณ แดนอาทิตย์อุทัย" /
ตอนแรก " My name is Luka "

13 พฤษภาคม 1999 คืนนั้นอากาศย่านปิ่นเกล้าของกรุงเทพฯ ร้อนอบอ้าว ผมรู้สึกเบื่อ ๆ ไม่มีอะไรทำ เพราะมหาวิทยาลัยยังไม่เปิด เมื่อความรู้สึกเบื่อมากเข้า จึงตัดสินใจเดินไปร้านอินเตอร์เน็ตซึ่งอยู่ไกลจากบ้านถึงสองกิโลเมตร ตอนใกล้ห้าทุ่ม

Does homosexual love really exist ? คือคำบรรยายใต้นามแฝงแชทของตัวเองที่ผมตั้งขึ้น

ขณะคลิกเข้าไปในห้องแชท Thailand ของ gay.com ณ เวลานั้นผมไม่ได้มีอารมณ์อยากจะแชทแม้แต่น้อย ไม่มีแม้แต่ความอยากรู้อยากเห็นที่จะ
คลิกดูโพรไฟล์ของหนุ่มรายอื่น ๆ อย่างเคย ทุกอย่างรอบกายดูไร้ชีวิตชีวา อาการนี้เรียกว่า ขาดรักหรือเปล่านะ ไม่รู้สิ แต่ถึงอย่างไรคำถามใต้นามแฝงของผมก็ไม่มีใครสนใจคลิกเข้ามาทักทาย หรือให้ความเห็น แม้เวลาจะผ่านไปร่วมชั่วโมงก็ตาม

เสียเวลาจริง ๆ เสียเงินอีกต่างหาก แถมต้องเดินกลับอีกตั้งสองกิโลเมตร ผมสบถกับตัวเองในใจ ขณะที่เตรียมจะเลิกเล่นอินเตอร์เน็ต แต่ก่อนที่ผมจะกดปิดหน้าเวบเพียงเสี้ยววินาที หน้าต่างของ private chat สีฟ้าอ่อนก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าจอของผม

My name is Luka คือนามแฝงแชทของคนที่เรียก private chat เข้ามา ผมคลิกตรงชื่อนั้น เพื่อจะอ่านโพรไฟล์ด้วยความเคยชิน หากแต่ข้อมูลตรงนั้นว่างเปล่า รูปก็ไม่มี ช่างเถอะ ผมเองก็ไม่ได้ใส่รูปไว้เหมือนกัน

"Can I chat with you ? I am bored to death. ขอผมแชทกับคุณได้ไหม ผมเบื่อจะตายแล้ว" คือประโยคทักทายแรกจากหนุ่มคนนั้น ทำไมผมถึงมั่นใจว่าเป็นหนุ่มล่ะ ก็เพราะคงไม่มีสาวคนไหนจะอุตริมาแชทในเวบเฉพาะกิจของชาวเกย์น่ะสิ

ํYes, sure. ได้สิครับ แน่นอน ผมตอบเค้าไป ใครจะรู้บ้างว่าผมนั่งเหี่ยวแห้งมาตลอดชั่วโมงจนแทบจะกลับบ้านแล้วนะ ขณะที่รอเค้าพิมพ์ข้อความกลับมา ผมก็ครุ่นคิดถึงนามแฝง My name is Luka ของเขา อืม เป็นคนอิตาเลียนหรือเปล่านะ ชื่อแบบนี้ ถ้าเป็นจริงก็ดี คนอิตาเลียนส่วนใหญ่หน้าตาหล่อเหลาจะตายไป และได้ยินว่าเป็นนักรักที่เยี่ยมยอดอีกด้วย

What is your name ? and what do you do in Bangkok ? หนุ่มคนนั้นถามชื่อ และอาชีพของผม

ผมชื่อ......เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย ผมตอบไป และกลับเข้าสู่ภวังค์ความคิดของตัวเองต่อ ถึงที่มาอันน่าจะเป็นไปได้ของ My name is Luka ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่า เหตุไฉนชื่อนามแฝงนี้ถึงกระตุ้นความสนใจอย่างมาก ...เค้าอาจจะเป็นคาธอลิคนะ ผมนึกไปถึงชื่อพระคริสตธรรมคัมภีร์บทนักบุญลูกาที่เคยอ่าน
My name is Kenji. I am a Japanese. Nice to meet you .What do you study ?
อ้าวเป็นคนญีปุ่นหรอกเหรอ ผมแปลกใจ ที่การคาดคะเนของตนเองผิดพลาดหมด และปกติหนุ่มญี่ปุ่นก็แทบจะไม่เข้ามาในห้องแชทของไทยเลย

ผมตอบยินดีที่รู้จักกลับไปตามธรรมเนียมมารยาทอังกฤษ และบอกคณะที่ตัวเองเรียนอยู่ ซึ่งเมื่อเขาทราบ ก็ชมว่าคณะของผมน่าสนใจ และบอกว่าภาษาอังกฤษของผมจะต้องดีมาก ๆ เพราะคณะที่ผมเรียน ซึงผมก็ไม่ได้ปลื้มปีติ หรือยิ้มจนแก้มปริแต่อย่างใด เพราะการชมว่าคณะหรืออาชีพของคู่
สนทนาน่าสนใจนั้น เป็นเรื่องธรรมดาที่อาจจะกลายเป็นธรรมเนียมอีกอย่างหนึ่งไปแล้วของการแชท

็How old are you ? May I ask ? I am 20 years old. เขาถามอายุผมอย่างสุภาพ และบอกอายุของตัวเองมาก่อน

I am 19 ผมตอบ และไม่รู้คิดยังไง ผมก็ถามอีเมล์ของเขากลับไปตอนนั้นด้วย

kenji4you@......... เขาตอบกลับมา

ชื่อ My name is Luka หมายถึงอะไรเหรอ เฮ้อ โล่งใจ ในที่สุดก็ถามคำถามนี้ออกไปจนได้ ผมคิด

It is the name of a song . Have you ever heard this song ? It is about an abused child.
มันมาจากชื่อเพลงน่ะ คุณเคยฟังหรือเปล่า เป็นเพลงเกี่ยวกับเด็กที่ถูกล่วงละเมิด(ทางเพศ ??)
อ่านคำอธิบายของนายเคนจิแล้ว ก็ให้ประหลาดใจรอบสอง ถึงที่มาของนามแฝงแสนยาวของเขา

My name is Luka
I live on the second floor
I live upstairs from you
Yes I think you've seen me before

เคนจิเริ่มพิมพ์เนื้อร้องของเพลงนี้ให้ผมดู แต่ก่อนที่เราจะได้คุยกันต่อ สัญญาณอินเตอร์เน็ตของผมก็ตัดไป อะไรฟะ ผมหงุดหงิดมาก รีบวิ่งลงไปข้างล่าง เนื่องจากห้องที่ผมเล่นอินเตอร์เน็ตนั้นอยู่ชั้นสอง เห็นลุงเจ้าของร้านนั่งโงก ตาจะหลับแหล่มิหลับแหล่อยู่ตรงโต๊ะทำงาน ซึ่งมีสมุดบัญชีกองอยู่ปึกหนึ่ง ตาลุงได้ยินผมวิ่งพรวดพราดลงบันไดกึงกังลงมา ก็สะดุ้งตื่น

"เน็ทหลุดอีกแล้วอะลุง สัญญาณไม่ดีเลย " ผมบ่น
"นี่ถ้ามีร้านอื่นในละแวกใกล้ ๆ ผมเลิกมาร้านนี้ไปนานแล้ว" ประโยคหลังนี้ ผมบอกกับตัวเองในใจ
ลุงเจ้าของร้านซึ่งตาแดงก่ำเพราะอดหลับอดนอน ขอโทษขอโพยผม แล้วพยายามนั่งต่อสัญญาณภายใต้ความกดดัน ท่ามกลางเสียงสบลิ้นกับโคนฟันจิ๊จ๊ะ แสดงความไม่สบอารมณ์ของลูกค้าในร้าน ที่ความหรรษาในโลกไซเบอร์ของตนถูกขัดจังหวะ เพราะสัญญาณตัดขาด

22 นาทีผ่านไป ลุงถึงต่ออินเตอร์เน็ทติดอีกครั้ง ผมจำได้แม่นยำ เพราะมองดูนาฬิกาทุก ๆ 2-3 นาที ด้วยความร้อนใจและงุ่นง่าน ด้วยเกรงว่าเคนจิจะต้องรอนาน และอาจถอดใจออกจากห้องแชทไปเสียก่อน

พลันที่สัญญาณอินเตอร์เน็ตต่อติด ผมก็วิ่งกลับไปชั้นบน ร้อนรนล็อคอินเข้าไปในห้องแชท หากแต่ไม่พบ My name is Luka อยู่ที่นั่นแล้ว ด้วยความผิดหวัง ผมไม่รู้จะทำอะไรมากไปกว่า ส่งอีเมล์ไปขอโทษเคนจิ และเลิกเล่นอินเตอร์เน็ตเดินกลับบ้านอย่างเซ็ง ๆ ตอนใกล้ตีสอง

วันรุ่งขึ้น หลังจากตื่นนอนและทำธุระส่วนตัวแล้ว ผมกระวีกระวาดไปร้านอินเตอร์เน็ต รออยู่เกือบครึ่งชั่วโมง กว่าลุงจะเปิดร้านตอนสิบเอ็ดนาฬิกา เป็นลูกค้าคนแรกเลยแหละ เปิดหน้าจอคอมต่ออินเตอร์เน็ตได้ ก็เข้าไปเช็คอีเมล์ทันที รอยยิ้มระบายทั่วใบหน้าเมื่อเห็นชื่อผู้ส่ง Kenji Uchiyama อยู่ตรงกล่องข้อความ ขนาดไฟล์ที่ใหญ่กว่าจดหมายธรรมดา ทำให้ผมตื่นเต้น เพราะมั่นใจว่าน่าจะมีรูปของเจ้าตัวแนบมาในอีเมล์ด้วย

เคนจิเขียนข้อความมายาวกว่า 2 หน้า บอกว่าประทับใจ เพราะไม่คิดว่าคนที่เพิ่งแชทกัน และสัญญาณหลุดไปจะมีน้ำใจส่งอีเมล์มาขอโทษ เค้าบรรยายประวัติส่วนตัว และตรงท้ายของจดหมายอีเลคโทรนิคส์นั้น ก็เป็นรูปชายหนุ่มผิวขาวอมชมพู คิ้วเข้มหนา ดวงตาโตกว่าคนญี่ปุ่นทั่วไป ริมฝีปากบางสีแดงจัดได้รูป น่ารักกกกกกกกกกกก !!!

เค้าส่งมาทั้งหมด 5 รูปในอิริยาบถแตกต่างกัน แต่รูปที่ทำให้ผมจ้องตาแทบไม่กระพริบก็คือ รูปเขาแผงอกเปลือยเปล่าใส่เพียงกางเกงขาสั้นตัวบาง นั่งอยู่บนเก้าอี้พับข้างลำธาร ซึ่งมีคันเบ็ดตกปลาวางอยู่ใกล้ ๆ ขาที่อ้ากว้างของเขานั้น ทำให้สายตาซุกซนของผมซอกซอนจินตนาการไปไกลเลยล่ะ

ผมรีบพิมพ์อีเมล์เพื่อจะตอบเขาอย่างรวดเร็ว และเล่าเกี่ยวกับตัวเองยาวยิ่งกว่า แต่กลับใช้เวลานานมากในการหารูปที่คิดว่าดูดีที่สุดของตัวเองแนบไปด้วย อืม รูปถ่ายผมนั่งอยู่หน้าสายน้ำตกตาดควันที่เชียงรายน่าจะเหมาะสุด ฉากหลังของผาน้ำตกฟองขาววาววับนั้น ส่งให้รูปหน้าของผมกระจ่างขึ้นตั้งเยอะแน่ะ ยิ้มอย่างภูมิใจกับตัวเอง ก่อนจะกดปุ่มส่งอีเมล์แนบรูปนั้นไปให้เพื่อนใหม่ที่เพิ่งรู้จักจากแดนอาทิตย์อุทัย

คืนนั้น เราก็ได้เจอกันอีกครั้งในห้องแชท gay.com และเปลี่ยนมาใช้ Icq เพราะไม่มีใครคลิกเข้ามารบกวน เราคุยกันอย่างเพลิดเพลินออกรสชาติ ดูเหมือนว่าจะมีเรื่องให้สนทนาไม่รู้จบสิ้น และไม่เคยรู้สึกเบื่อเลย ทุก ๆ คืนผมจึงต้องเดินไปกลับ 4 กิโลเมตร เพื่อคุยกับเคนจิ ผมไม่นั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เพราะราคา 14 บาทนั้น ผมเอาไปจ่ายค่าเล่นอินเตอร์เน็ตได้เกือบชั่วโมง

นอกจากแชทกันทุกคืน ๆ ละ 2 ชั่วโมงแล้ว เคนจิยังขอโทรมาคุยกับผม เราค้นพบว่าสามารถส่ง sms หากันได้ด้วย ทุกคืนหลังแชทกันเสร็จ และผมเดินกลับบ้าน เคนจิจะโทรมาคุยเป็นเพื่อนระหว่างทาง และทุกเช้าก่อนไปมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่น เค้าก็จะส่งอีเมล์มาอรุณสวัสดิ์กับผม ซึ่งผมมักจะส่ง sms กลับไป ค่าโทรศัพท์มือถือเพิ่มขึ้น จนคุณแม่บ่น เพราะท่านชำระบิลแทนผม อิอิ

หลังจากสองเดือนแห่งการแชทผ่านไป คืนหนึ่งเคนจิก็พูดขึ้นว่า มีอะไรอยากจะบอกผม

"But please give me a promise that you will not be angry." แต่สัญญาก่อนนะ ว่าคุณจะไม่โกรธผม

ผมไม่เข้าใจว่าทำไมผมจะต้องโกรธเขาด้วย ผมสัมผัสว่าคืนนี้เคนจิ ดูกังวลใจมากจากถ้อยคำของเขา

แต่ถึงจะคิดหาเหตุผลร้อยแปด ผมก็ไม่คิดว่าจะมีสิ่งใดที่ทำให้ผมโกรธเคนจิได้
"Sure I will not get angry at you. Do not worry. Go on" ไม่หรอกผมจะโกรธคุณทำไมกันล่ะ อย่ากังวลไปเลย จะบอกอะไรก็ว่ามา
เคนจิเงียบไปสามสี่นาที จนผมต้องพิมพ์ถามว่า
"Are you Ok ?" เป็นอะไรรึเปล่า

" I LOVE YOU..... CAN YOU BE MY BOYFRIEND? .....DARLING"
ประโยคตอบจากเคนจิ ที่เขียนด้วยภาษาอังกฤษตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมดนั้น ทำให้ผมรู้สึกว่า โลกนี้เป็นของผมคนเดียว และผมกำลังลอยอยู่ในอากาศ
ผมตอบเขาด้วยภาษาญี่ปุ่นแบบโรมาจิ (romaji) คำเดียวสั้น ๆ ว่า "HAI"

เคนจิพิมพ์คำว่า YEAHHHHHHHHHHHHHHHHHHHHHHHHHHHHH !!
THANK YOU DARLINGGGGGGGGGGGGGGGGGGGGGGGGGGG !!!

ยาวเต็มหน้าจอ ผมรู้สึกว่าเค้ากำลังกระโดดไปรอบ ๆ ห้องอย่างมีความสุข
น่าเสียดายที่เราไม่เห็นหน้ากันตอนสารภาพรักครั้งแรก เพราะเคนจิใช้ I-book
ในขณะที่คอมพิวเตอร์ของร้านเป็น Pc ถึงแม้เราจะเปลี่ยนจาก Icq มาแชทกันใน Msn เราก็ไม่อาจจะใช้เวบแคมได้

นับจากคืนนั้นเป็นต้นมา เคนจิก็เปลี่ยนจากการเรียกชื่อผมเวลาแชทกัน เป็น Darling และผมเรียกเขาว่า My dear.......
แต่บางครั้งเค้าก็แทนตัวเองว่า Otto และเรียกผมว่า Kanai
ผมอายเกินกว่าจะบอกความหมายของสองคำนี้ ใครอยากทราบ ก็ไปถามจากคนรู้ภาษาญี่ปุ่นเองนะครับ

จากพฤษภา ถึงกันยายน ไม่มีคืนไหนเลยที่เราไม่ได้แชทกัน แม้แต่ช่วงที่ผมและเขามีสอบ อีเมล์จากเขาซึ่งผมไม่เคยลบทิ้งเลยนั้น เพิ่มพูนขึ้นนับร้อยฉบับ จนกระทั่งปลายเดือนกันยายน เคนจิถามผมว่า จะมาเยี่ยมและร่วมฉลองงานวันเกิดของเขา ในวันที่ 13 ตุลาคม ที่ญี่ปุ่นจะได้ไหม

คำชวนของเขาสร้างความลำบากใจให้ผมไม่น้อย ถึงแม้ผมกำลังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของไทย ซึ่งช่วยให้การขอวีซ่าง่ายขึ้น แต่สถานทูตญี่ปุ่นก็ขึ้นชื่อลือชาในเรื่องความเข้มงวดกวดขันเรื่องการอนุมัติวีซ่าแก่คนสัญชาติไทย อีกอย่าง สภาพเศรษฐกิจอย่างครอบครัวผม อย่าว่าแต่ญี่ปุ่นเลย แค่สิงคโปร์จะมีปัญญาได้ไปหรือเปล่า คนจะขอวีซ่าได้ ต้องมีเงินโชว์ในบัญชี แล้วนิสิตปีสามไม่มีงานทำอย่างผมจะเอาเงินที่ไหน คุณแม่ก็ค้าขายในตลาดธรรมดา ไม่ได้จดทะเบียนการค้าพาณิชย์อะไรให้นำไปเป็นหลักฐานยืนยันความน่าเชื่อถือต่อสถานทูตได้

ผมไม่รู้จะตอบปฏิเสธเขาไปอย่างไร จึงเลี่ยงด้วยการโน้มน้าวให้เคนจิมาเที่ยวที่กรุงเทพฯแทน แต่เคนจิก็ยังยืนยันคำเดิมให้ผมไปหาที่ญี่ปุ่น ในที่สุดผมก็ตัดสินใจบอกความจริงว่า ไม่มีหลักฐานทางการเงินเพียงพอ พร้อมทั้งเสริมด้วยว่า เคนจิมาหาผมแทนจะง่ายกว่ามาก วีซ่าก็ไม่ต้องขอให้ยุ่งยาก
เพราะถือหนังสือเดินทางญี่ปุ่น ไปประเทศไหนก็ได้สบายอยู่แล้ว

เคนจิเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพิมพ์สัญลักษณ์หน้ายิ้มกลับมา แล้วถามผมว่า จะต้องใช้เงินเท่าไร ถึงจะพอไปโชว์สถานทูตได้ ผมเคยได้ยินมาว่าสามแสนสำหรับนักเรียน นักศึกษาก็น่าจะพอ จึงบอกเขาไปตามนั้น จากนั้นเคนจิก็ถามหมายเลขบัญชีธนาคารของผม

"อะไรน่ะ เคนจิ จะโอนเงินมาหรือไง อย่ามาเล่นตลกนะ เราไม่เคยเห็นหน้ากันนะ" ผมแย้งเขา
"Just tell me your bank account, do not be so serious, darling." เขาตอบมาง่าย ๆ
ผมถอนใจ แต่ก็ไม่คิดว่าหนุ่มเลือดบูชิโดจะกล้าโอนเงินจำนวนมากขนาดนั้นมาจริง ๆ จึงบอกหมายเลขบัญชีไป

หลังจากเหตุการณ์นั้น เราก็ยังคุยกันเป็นปกติ ผมหวงแหนเวลาแชทที่สงวนไว้สำหรับเราสองคนมาก ต่อให้เอาช้างมาลาก ผมก็ไม่ไปไหนทั้งนั้น สามสี่วันต่อมา ขณะ
แชทกัน เคนจิถามผมขึ้นว่า....

If I wont transfer you money, will you be angry ? ถ้าผมไม่โอนเงินให้ คุณจะโกรธผมไหม
ผมหัวเราะลั่น ก่อนจะบอกเคนจิว่า You are silly , how can I be angry ? I always tell you not to send it. จะบ้าเหรอ ผมจะโกรธคุณได้ไง ผมเองเป็นฝ่ายบอกตลอดว่าอย่าโอนเงินมานะ
เคนจิพิมพ์ตอบกลับมาว่า Thank you darling. I love you. จากนั้นผมก็ชวนเคนจิคุยเรื่องอื่น เพราะผมกลัวว่า เรื่องนี้จะทำให้คนที่ผมรักไม่สบายใจ

ผมบอกเค้าว่า เห็นไหม คุณมาหาผมง่ายกว่าตั้งเยอะ
แล้วก็พิมพ์สัญลักษณ์ XOXOXOXOXO ไปยาวเหยียด ความหมายของอักษรดังกล่าว คือเรา make love กันทางภาษาครับ อิอิ
เคนจิพิมพ์ตัวอีโมหัวกลมหน้าแดงกลับมา น่ารักซ้าาาาาาาาาาาาา
วันรุ่งขึ้น ผมอยู่ที่มหาวิทยาลัย ขณะกำลังจะเดินไปตลาดนัดวันศุกร์เพื่อซื้อข้าวเหนียวหมูทอดของโปรด โทรศัพท์มือถือผมก็ดังขึ้น.....

" สวัสดีค่ะ ดิฉันจากธนาคาร.....นะคะ ขอเรียนสายคุณ.....ค่ะ
"ครับ ผมพูดอยู่ครับ"
"มิสเตอร์เคนจิ อุชิยาม่า โอนเงินเข้ามาที่บัญชีของคุณ 1 ล้านเยนนะคะ หักค่าธรรมเนียมออกราว 500 บาทค่ะ เค้าแจ้งว่าโอนมาเพื่อเป็น living expenses ของคุณค่ะ
"ค่ากินอยู่ 1 ล้านเยน เนี่ยนะ" ผมอุทานกับตัวเองในใจ ก่อนจะตอบพนักงานไปว่า "ขอบคุณครับ ที่โทรมาแจ้ง" และวางสายไป

เอาแล้วไง สุดที่รักตัวแสบของผม ปกติการโอนเงินระหว่างประเทศผ่านทางธนาคารจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 5 วันนะฮะ นั่นแสดงว่า ตอนที่ยอดชายนายเคนจิถามผมว่า ถ้าเค้าไม่โอนเงินมาให้ ผมจะโกรธไหม จริง ๆ เขาโอนมาก่อนหน้านั้นเรียบร้อยแล้ว

ผมนึกถึงหน้าตาเกลี้ยงเกลา ผิวขาวอมชมพู คิ้วหนาเข้ม และริมฝีปากบางได้รูปของเขา ขณะนั่งรถ ปอ. 7 กลับบ้านที่ปิ่นเกล้า ระหว่างที่รถติดสัญญาณไฟแดงอยู่ที่แยกอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยนั้น ผมก็ส่ง sms บอกเคนจิว่า Thank you Papa, I will go to buy a lot of candies at the Japanese embassy on Monday. เขาส่งข้อความกลับมาแทบจะในทันทีว่า Good, my son !! 5 5 5 5

ด้วยเงินในบัญชีร่วมสามแสนห้าหมื่นบาทที่เคนจิส่งมา และใบรับรองสถานภาพนิสิตจากมหาวิทยาลัย ทำให้ผมได้รับวีซ่ามา 3 เดือนเต็มอย่างง่ายดาย แม่ของผมบอกเพื่อนบ้านรอบทิศว่าผมจะไปญี่ปุ่นช่วงปิดเทอมเดือนตุลา "มันได้รางวัลชิงโชคมา" แม่ว่างั้น

ย่ำรุ่งของ 12 ตุลาคม 1999 เครื่องบินสายการบินสัญชาติอาหรับประเทศหนึ่ง ก็บินลัดฟ้าพาผมจากบ้านเกิดเมืองนอน ไปยังดินแดนแห่งซากุระงามและลูกพลับแสนอร่อย ผมเลือกสายการบินนี้เพราะราคาถูกที่สุด ไม่ถึงเก้าพันบาท สำหรับตั๋วไปกลับ แต่สิ่งที่ตามมากับราคาถูกก็คือ ผมถึงที่หมายช้ากว่ากำหนดไป 4 ชั่วโมง บวกกับเวลาที่ต้องรอต่อแถวเช็คหนังสือเดินทางของตม.ญี่ปุ่นที่ท่าอากาศยานนาริตะแล้ว ก็ 5 ชั่วโมงพอดิบพอดี

ผ่านตม. มาได้ผมก็เหงื่อไหลซิบ ๆ รู้สึกเกรงใจเคนจิมาก ถึงมากที่สุด เพราะรู้อยู่ว่าชาวซามูไรรักษาเวลาขนาดไหน ถึงแม้จะหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองว่า ไม่ใช่ความผิดของผมสักหน่อย สายการบินต่างหากที่ไม่รักษาเวลา แต่ก็พูดได้ไม่เต็มปาก เพราะขณะแชทกันก่อนผมจะเดินทางมาที่นี่ เคนจิโวยวายใหญ่เมื่อรู้ว่าผมเลือกสายการบินอาหรับ แทนที่จะเป็นเจแปนแอร์ไลน์

"It is the cheapest ticket I can find."........ ตั๋วเนี่ย ราคาถูกที่สุดเลยนะ ผมบอกอย่างภูมิใจ
"In Japan we say, if you want to pay more, then buy the cheap thing. " ในญี่ปุ่น เรามีภาษิตว่า เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย .......เคนจิพิมพ์กลับมา
"อยากจะจ่ายเงินเพิ่ม ก็จงซื้อของถูกว่างั้นเถอะ"

ผมเพิ่งเข้าใจชัดเจนก็ตอนนี้เอง ว่าที่คนรักผมพูดน่ะ ถูกเผงเลย !!

ทันทีที่ลากกระเป๋าออกมาถึงบริเวณที่จัดไว้ให้คนมารอรับ สายตาของผมก็สามารถแยกแยะชายหนุ่มผิวขาวจัดคนหนึ่ง ซึ่งสวมเสื้อสีน้ำเงินกุ๊นตรงคอและแขนสีขาว กางเกงยีนส์ทันสมัย ในมือถือป้ายโลหะสีเงินสะท้อนแสง เขียนชื่อผมเป็นภาษาอังกฤษ จากเหล่าฝูงชนคับคั่งที่มารอรับผู้เดินทางอย่างง่ายดาย เพราะอะไรน่ะเหรอ ไม่อยากจะคุยเลย แต่เอาสักหน่อยก็ได้ ก็เพราะว่า เคนจิหล่อกว่าใครทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นน่ะสิ

เราทักทายกันอย่างเป็นทางการมาก เพราะผมรู้ดีว่า สังคมญี่ปุ่นนั้น ยังไม่เปิดรับมากนักสำหรับอิสระเสรีในการแสดงออกซึ่งความรักของเพศที่สาม มีเพียงสายตาของเราสองคนเท่านั้น ที่จ้องมองซึ่งกันและกันอย่างลึกซึ้ง ผมรู้สึกดีใจที่ตัวจริงของเคนจิน่ารักเหมือนในรูปถ่ายที่เขาส่งมาเปี๊ยบ (อิอิ)
แต่ในขณะเดียวกันก็อดกังวลไม่ได้ว่า หน้าตาตัวเป็นๆ ของผมจะประทับใจเคนจิหรือเปล่าก็ไม่รู้

อย่างไรก็ตาม จุมพิตแรกที่เคนจิมอบให้ หลังจากเราเข้ามานั่งในรถของเขา ซึ่งจอดอยู่ในลานจอดรถของสนามบิน ก็ทำให้ผมมั่นใจว่า อืม เราก็เสน่ห์แรงใช่ย่อยนะ ถึงแม้สมัยอยู่เมืองไทย จะไม่เคยมีใครหลงผิดคิดมาจีบก็เถอะ............

หมายเหตุ / ตอนแรกของนวนิยายเีรื่องนี้ ได้รับค้ดเลือกให้เป็นหนึ่งในพ็อคเกตบุค รักรวมรส อะดีฟ (อะดัม+อีฟ) หัวใจรักดวงที่ 3 ส่วนตอนต่อ ๆ ไป เกย่ายังไม่มีเวลาปั่นฮ่ะ อิอิ



Create Date : 12 เมษายน 2549
Last Update : 12 เมษายน 2549 6:03:35 น.
Counter : 523 Pageviews.

62 comments
สวัสดีปีใหม่ Rain_sk
(1 ม.ค. 2567 21:38:33 น.)
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๗ มาช้ายังดีกว่าไม่มา
(2 ม.ค. 2567 07:30:30 น.)
BUDDY คู่หู คู่ฮา multiple
(3 ม.ค. 2567 04:49:04 น.)
ไม่ลอดช่องโหว่ ปัญญา Dh
(2 ม.ค. 2567 13:44:30 น.)
  
อิอิ มาเป็นคนแรกเลย ดีใจคับ..
ผมชอบจัง เวลาอ่านเหมือนผมอยู่ในเหตการณ์ด้วย ผมมองเห้นภาพอะ ได้แต่อิจฉานะ อิจฉาคับ..เกย่า อิจฉาจิงๆ
โดย: next_gens IP: 67.86.244.212 วันที่: 12 เมษายน 2549 เวลา:5:56:09 น.
  
กรี๊ดค่ะ....
It's so sweet!!!
โดย: Migraine girl IP: 141.212.159.118 วันที่: 12 เมษายน 2549 เวลา:7:19:17 น.
  
โอยยยย หวานซะ น่ารักอะไรอย่างนี้
โดย: ข้าวต้มมัด IP: 202.5.94.111 วันที่: 12 เมษายน 2549 เวลา:7:50:04 น.
  
อ่านแล้วรู้สึกว่า ความรักทางอินตะเน็ตมีเจงๆนะคะเนี่ย
โดย: Mocha Macchiato วันที่: 12 เมษายน 2549 เวลา:8:22:39 น.
  
กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
อิจฉา ๆๆๆๆๆๆๆๆ
สวี๊ทๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
โดย: sugar IP: 24.14.97.179 วันที่: 12 เมษายน 2549 เวลา:8:49:37 น.
  
ไม่เคยนั่งอ่านบล็อกยาวๆๆมาก่อน

แต่อ่านบล็อกนี้จบแฮะ...

โดย: ngomngay วันที่: 12 เมษายน 2549 เวลา:9:24:47 น.
  
อ่ายไปยิ้มไป น่ารักจังเลย

Otto กับ Kanai งั้นเหรอ
คิกๆๆๆๆๆ น่ารักจังๆ

น้องเกย่าจ๋า...หอบกำลังใจมาส่งแล้ว มีแรงปั่นต่อยังจ๊ะ
อย่าลืมพักผ่อน กินข้าวบ้างนะ
รักน้องจ้า
โดย: Ing IP: 58.9.60.164 วันที่: 12 เมษายน 2549 เวลา:9:35:59 น.
  
ใช่ ๆ รีบปั่นต่อนะ รออ่านอยู่จ้า มาพร้อมกำลังใจ
เคนจิน่ารักซ้า
โดย: Cal-girl IP: 66.81.160.214 วันที่: 12 เมษายน 2549 เวลา:10:33:13 น.
  
หวานแหววซะไม่มี หวั่นไหวและวาบหวิวจ้า ว่าแล้วรอตอนต่อไปจ้า

คนเขียนรักษาสุขภาพบ้างนะจ๊ะ
โดย: Pygmy IP: 203.188.31.3 วันที่: 12 เมษายน 2549 เวลา:11:05:46 น.
  
กรี๊ดดด.... เป็นปลื้ม กะโกโบริ +อังสุมาริน ภาค เกย่า จัง
อ่านแล้ว อินมั่กกก มั่กกก แล้วจะยังไงต่อไปเนี้ย.... รออยู่นะจ้ะ
ขอขอบคุรสำหรับเรื่องราวหวานๆ จ้ะ


โดย: พี่บี IP: 203.113.80.12 วันที่: 12 เมษายน 2549 เวลา:11:18:44 น.
  
Narak mak mak a:::
น่าร้ากม๊ากเคอะ
ชอบ อ่า....ชอบ

เจ๊เกย่านะ ทำเรามะเป็นอันกินอันนอนอีกและ
แบบว่าติดงอมแงมตาทเคย
โดย: PddY IP: 162.83.161.9 วันที่: 12 เมษายน 2549 เวลา:11:23:50 น.
  

สื่อรักออนไลน์ เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไป
หรือว่าอิงจากเรื่องจริงของหนูเกย่า
ว้าว ว้าว
โดย: stew IP: 203.170.231.232 วันที่: 12 เมษายน 2549 เวลา:11:28:57 น.
  
หวานจังอ่ะ อิจฉ๊าอิจฉา
มาแปะตอนต่อไปเร็วนะค้า
โดย: kuroboo IP: 133.44.1.220 วันที่: 12 เมษายน 2549 เวลา:12:21:15 น.
  
อิ อิ เรียกกันว่า Otto กับ Kanai เลยเหรอคะ?

ตอนนี้สนุกดีค่ะ เป็นธรรมเนียมของชาวญี่ปุ่นเวลาเป็นคู่รักกันมักจะคุยกันทาง sms มากกว่าวิธีอื่น

โดย: Tai-Sarunya IP: 202.28.169.165 วันที่: 12 เมษายน 2549 เวลา:12:37:44 น.
  
มาทักทายค่ะ เดี๋ยวน้อยใจแย่เลย
โดย: พิ้งกี้ IP: 203.121.135.67 วันที่: 12 เมษายน 2549 เวลา:12:56:37 น.
  
อ่านไปนึกภาพตามไป ว๊าว โรแมนติกจริงๆ(ทาไมหนุ่มญี่ปุ่นข้างๆ ไม่น่ารักแบบเคนจิมั่งน๊า)
โดย: นู๋โนริ IP: 218.110.255.44 วันที่: 12 เมษายน 2549 เวลา:13:45:25 น.
  
น้องเกย่าคะ เล่าเรื่องได้น่าติดตามเหมือนเคย
สงสัยเราจะจบจากสถาบันเดียวกันนิ
โดย: Chinesepearls IP: 80.128.243.43 วันที่: 12 เมษายน 2549 เวลา:14:11:07 น.
  
ขอบพระคุณนะฮ้า มิตรรักนักอ่านที่น่ารักทุก ๆ ท่าน เกย่าก็อยากจะเขียนต่อไว ๆ นะฮะ แต่ว่าต้องรอให้คุณแม่ส่งไดอารี่ซึ่งเกย่าบันทึกทุก ๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นไว้มาให้ก่อน ไม่อยากให้ฉากมัน ตก ๆ หล่น ๆ ฮ่ะ โฮะ ๆ ๆ (หัวเราะปิดปาก แบบญี่ปุ่น สไตล์ เกอิชา)
โดย: เกย่า วันที่: 12 เมษายน 2549 เวลา:14:48:51 น.
  
อ้าว สุขสันต์วันสงกรานต์นะฮะทุกคน อากาศหนาว ๆ เกย่าก็ลืมไปเรยยย มัวแต่กินไข่อีสเตอร์อยู่ หุหุ
โดย: เกย่า วันที่: 12 เมษายน 2549 เวลา:14:52:08 น.
  
โห มีเรื่องหนุกหนุกมาอีกแย้ว แหม เพื่อน ๆ บ้านหนูแจ๋วไวยังกะปรอท มากับตรึม รีบมาเขียนต่อไวไวนะจ๊ะ สนุกมาก ๆ แล้วก็หวีดหวานเหมือนเดิม
โดย: ต้อมเจ้าค่ะ IP: 69.181.250.102 วันที่: 12 เมษายน 2549 เวลา:16:03:38 น.
  
มาลงชื่อด้วยคนคับ เรื่องใหม่มาในแนวน่ารัก หวานเชียวคับ
โดย: lichil69 IP: 202.12.74.5 วันที่: 12 เมษายน 2549 เวลา:17:26:34 น.
  
มารออ่านต่อจ้ะ
โดย: pink ka.. IP: 71.126.159.74 วันที่: 12 เมษายน 2549 เวลา:20:01:42 น.
  
Kenji รออ่านต่อนะจ๊ะ
โดย: P Jeed IP: 84.136.223.135 วันที่: 12 เมษายน 2549 เวลา:20:07:25 น.
  
กำลังเคลิ้มเลย เกย่า แล้วจะ Happy Ending ไหมน้า
โดย: Vince IP: 202.156.6.52 วันที่: 12 เมษายน 2549 เวลา:20:16:09 น.
  
พี่เกย่าคะ...รีบๆปั่นน้าค๊า
อยากอ่านมากมายค้า
โดย: neaq วันที่: 12 เมษายน 2549 เวลา:23:16:16 น.
  
อ่านแล้วลุ้นสุดๆ อะค่ะเจ๊ ว่าจะเป็นไง ว่าจะหวานชื่น หรือขื่นขม เขียนได้เห็นภาพมากๆ ค่ะ พรรณนาโวหารเป็นเลิศเลยเจ๊ มาอัพต่อไวๆ นะค๊า รออ่านจะไม่ไหวอยู่แล้ว
โดย: หมูน้อย IP: 58.9.45.235 วันที่: 12 เมษายน 2549 เวลา:23:36:03 น.
  
ระวังคุณนาธจะหึงนะคะ
หวานซ้าาาาาา......
โดย: ิแพท IP: 84.13.28.139 วันที่: 13 เมษายน 2549 เวลา:0:48:34 น.
  
พอเห็นมีนิยาย ก้อรีบกดอ่านเลยค่ะ ...ไม่ผิดหวังจริงๆ ...มีฉาก ตบจูบ ตบจูบปะคะ ...

ป.ล. ขอบคุณนะคะ ...ได้อีเมล์ก้อชื่นจายยยค่ะ สวัสดีปีใหม่ทุกท่านค้า
โดย: OSaKet IP: 62.254.128.5 วันที่: 13 เมษายน 2549 เวลา:6:25:53 น.
  
กรี๊ด ๆๆๆๆ อยากอ่านตอนต่อไปจังเลยอ่ะ
โดย: aoiyuki IP: 219.15.238.1 วันที่: 13 เมษายน 2549 เวลา:10:18:45 น.
  
ถ้าเป็นเรื่องจริง คุณเกย่าคงจะมีความสุขมาก ๆ นะครับ
โดย: dont wanna no วันที่: 13 เมษายน 2549 เวลา:10:57:23 น.
  
อิจฉาเจงๆ......เจ้าข้าเอ่ย.....
โดย: จีจี้จ๋า IP: 58.8.187.245 วันที่: 13 เมษายน 2549 เวลา:13:29:54 น.
  
เรื่องจริงไม่อิงนิยายรึเปล่าค๊า...มารอค่ะมารอ
โดย: girlly_girl IP: 58.9.4.254 วันที่: 13 เมษายน 2549 เวลา:18:43:55 น.
  
แล้วเกิดอะไรขึ้นต่อครับ?
อยากรู้จัง

ปล ทำไมพี่เกย่าเสน่ห์แรงงี้อะ
โดย: น้องดอย IP: 202.28.245.34 วันที่: 14 เมษายน 2549 เวลา:18:49:16 น.
  
โธ่...ไม่น่ามาอ่านเลยเรา..
อ่านแล้วก็ยิ่งอยากอ่านต่อน่ะสิคะ !!!!

(ลงไปนอนดีดดิ้นกับพื้น)

คุณเกย่าขา...สนุกมากๆเลยค่ะ
เหมือนเรื่องจริงมากกว่านิยายอีกนะคะเนี่ย
ว่าแต่...คุณคนนั้นไม่ใช่ "เพื่อน" ที่เรียนอยู๋ทีเกียวโตหรือคะ?

คิกคิกคิก
โดย: RUBIS IP: 219.115.195.106 วันที่: 14 เมษายน 2549 เวลา:20:41:48 น.
  
สนุกมาก และโรมานซ์ซ์ซ์ที่ซู๊ด อิจฉาจัง
รออ่านตอนต่อไปนะค่ะ ขอให้มีแต่ความสุขหวานแหวว ไม่อยากให้คนที่รักกันต้องจากกันและมีความทุกข์ เศร้าค่ะ
โดย: pa die IP: 80.228.193.26 วันที่: 14 เมษายน 2549 เวลา:21:32:09 น.
  
น่ารักจังเลยค่ะ
อ่านไปยิ้มไปปนกะอาการอิจฉาเล็กๆๆๆ
โดย: หลินค่ะ IP: 128.180.57.29 วันที่: 15 เมษายน 2549 เวลา:4:56:38 น.
  
อิดจังเลย..คุณน้องเกย่า
โดย: นัตโต้ IP: 59.146.151.156 วันที่: 15 เมษายน 2549 เวลา:19:52:25 น.
  
It's such a sweet story. I like your point of veiw of love. it's very positive, and I really like this sentence' Thank you Papa, I will go to buy a lot of candies at the Japanese embassy on Monday.'
Take care na ja
โดย: Kanon IP: 128.62.120.242 วันที่: 16 เมษายน 2549 เวลา:9:04:22 น.
  
หวานจังค่ะคุณน้อง มันเครือๆแต่คนล่ะหวีนะค่ะ เหมือนอดีตของพี่ในร้านอิตเตอร์เน็ต ค่ำมืดดึกดื่นเที่ยงคืนแค่ไหน ไม่มีหวั่นไม่มีท้อ จนได้พ่อรูปหล่อ(ตอนหนุ่ม)มาครอง ........
โดย: พี่ผึ้งแห่งป่าดำ IP: 84.161.111.131 วันที่: 16 เมษายน 2549 เวลา:16:12:45 น.
  
หวานมากกกกกจ้ะ น้องเกย่า จ๋า พี่แนทนั่งอมยิ้มอยู่หน้าคอมเลยนะเนี่ย
โดย: พี่แนท IP: 58.9.144.116 วันที่: 16 เมษายน 2549 เวลา:18:04:36 น.
  
สนุกจังเลย....รออ่านต่อนะคะ
โดย: Kung IP: 134.102.9.107 วันที่: 16 เมษายน 2549 เวลา:18:21:37 น.
  
สนุกมากครับอ่านแล้วนึกถึงตัวเองในอดีตเลยครับ
โดย: Panpan IP: 203.144.144.164 วันที่: 16 เมษายน 2549 เวลา:22:35:39 น.
  
I'm so jealous ja nong Gay-ya
โดย: P' Wee IP: 84.166.166.91 วันที่: 16 เมษายน 2549 เวลา:22:58:26 น.
  
เรื่องนี้หวานซ้า....ทำให้อดคิดถึงความหลังตอนที่เป็นวัยรุ่นคลั่งไคล้การ์ตูนญี่ปุ่นจนต้องเก็บค่าขนมไว้ซื้อการ์ตูน
โดย: นิดหน่อย IP: 125.25.9.238 วันที่: 18 เมษายน 2549 เวลา:9:58:26 น.
  
กรี๊ดดด หนุก ค่ะหนุก เล่าต่อนะ อยากอ่าน
อย่ามาทำให้อยาก แล้วจากไปจิ
โดย: โลมาสีน้ำเงิน (โลมาสีน้ำเงิน ) วันที่: 18 เมษายน 2549 เวลา:19:26:08 น.
  
รีบมาต่อนะ รออ่านอยู่จ้าแต่ละเรื่องหวานๆทั้งนั้นเลยช๊อบ ชอบ
โดย: เกอเซอร์บรู๊ค IP: 84.104.9.208 วันที่: 19 เมษายน 2549 เวลา:19:56:20 น.
  
โอ...
โดย: RiNNe IP: 58.147.38.217 วันที่: 22 เมษายน 2549 เวลา:13:43:21 น.
  
สุดยอดเลยข้ามฟ้ามาหารัก
โดย: เอ็มจ๊ะ IP: 58.9.84.224 วันที่: 24 เมษายน 2549 เวลา:11:57:36 น.
  
หวานช้า น่ารักจังเลยคะ
อยากมีอย่างนี้จังเลย.....เฮ้ออออออออออออออออ
โดย: JEAB IP: 202.57.166.220 วันที่: 26 เมษายน 2549 เวลา:16:38:47 น.
  
หวานมาก อ่านแล้วลอยไปกับเกย่าด้วย

น่ารักมากๆครับ
โดย: T IP: 58.8.171.194 วันที่: 27 เมษายน 2549 เวลา:23:32:49 น.
  
มาปูเสื่อรอครับ ยังไม่ได้อัพเรื่องเลย ท่าทางเกย่าจะยุ่งๆกับธีสิสแน่เรยยย
โดย: T IP: 58.8.169.74 วันที่: 28 เมษายน 2549 เวลา:22:52:23 น.
  
เพิ่งมาเห็น แล้วก็เพิ่งมาอ่าน..

ติดจายหง่ะ..

มาต่อไวไวนะจ๊ะ.. เกย่า... ขอร้องล่ะ..
โดย: JC IP: 124.120.182.241 วันที่: 29 เมษายน 2549 เวลา:22:53:38 น.
  
นี่ผมพลาดเรื่องดีๆแบบนี้ไปได้ไงเนี่ย....โอยหวานซ้าจนไม่อยากให้จบเลยฮะ ได้โปรดกรุณากลับมาต่อโดยด่วนเลยนะฮะ
โดย: หยกครับ IP: 203.156.86.83 วันที่: 6 พฤษภาคม 2549 เวลา:8:57:45 น.
  
เรื่องหวานเชียว
มาต่อไว ๆ นะคะ
โดย: ป้าเต่า IP: 203.118.99.15 วันที่: 7 พฤษภาคม 2549 เวลา:14:38:53 น.
  
อ่านแล้วไม่อยากให้จบเลย เอาอีก เอาอีก รออ่านอยู่ ไม่เป็นอันทำอะไรแล้วเนี่ย ชอบ ชอบ ชอล
โดย: kt IP: 80.41.216.78 วันที่: 7 พฤษภาคม 2549 เวลา:23:55:57 น.
  
อ๊ากกกกกก....

ทำไมชั้นอ่านแล้วต้องหน้าแดงแก้มร้อนไปถึงหูด้วยวุ้ยเนี่ย อิอิ

น่ารักคะ.....

เฮ้อ นึกถึงตัวเองในอดีตอันไม่ใกล้ไม่ไกล ผิดกันตะว่า....ของเรามันจบลงด้วยความเศร้า แบบเดียวกับโกโบริและอังศุมาลินไม่ผิดเพี้ยน....

เฮือก....

รออ่านตอนต่อไปนะคะเกย่า
(อิอิ ชักจะสงสัยว่า เป็นนวนิยายหรืออัตตชีวประวัติน้อ คิกคิก)
โดย: นิค IP: 61.47.104.183 วันที่: 11 พฤษภาคม 2549 เวลา:2:12:57 น.
  
แวะมาทักและให้กำลังใจค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะ
โดย: จอย IP: 62.178.219.125 วันที่: 13 พฤษภาคม 2549 เวลา:15:59:30 น.
  
อยากอ่านตอนต่อเรื่องนี้จังค่ะคุณเกย่า..
แต่ไม่เป็นไร ไปอ่านเรื่องอื่นรอไปก่อนก้อได้เน้อ....
โดย: Winnie is not (Vinny) IP: 203.114.99.44 วันที่: 21 พฤษภาคม 2549 เวลา:23:04:05 น.
  
ว้าวหวานจังเลย อืม อ่านแล้วยิ้มตามและลุ้นไปด้วย ว่าแต่สายการบินนั้นชื่ออะไรอะ
โดย: ญ IP: 203.113.56.74 วันที่: 23 พฤษภาคม 2549 เวลา:21:46:12 น.
  
อยากอ่านต่อเร็ว ๆ จัง หวานสุด ๆ !
อ๊ะ ตามอ่านเรื่อง ปิ๊งรัก อยู่น้า
โดย: แอน IP: 203.144.206.130 วันที่: 25 พฤษภาคม 2549 เวลา:12:48:40 น.
  
ก็รู้น่ะ นะว่าเขาวงเล็บไว้ว่านิยาย แต่เวลาอ่านไงนึกว่าเรื่องจริงของผู้เขียนซะงั้น แต่ต้องบอกว่า ลีลาการเขียนธรรมชาติและชวนเคลิ้มได้เลยนะเนี่ย แบบว่าอิน..น่ะ..อิน ..
โดย: sweetybell IP: 62.163.177.40 วันที่: 16 มิถุนายน 2549 เวลา:3:34:40 น.
  
น่ารักจัง
อ่านแล้ว รู้สึก sweet มั่กๆ ขอบอก
เขียนต่อเร็วนะ
รออยู่จ้า
โดย: pk melbourne IP: 131.172.4.45 วันที่: 17 สิงหาคม 2549 เวลา:19:27:51 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Gay-ya.BlogGang.com

เกย่า
Location :
BERLIN,  Germany

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]