[Books] Shards of Honor (Vorkosigan Saga #1) : Lois McMaster Bujold


Tests are a gift. And great tests are a great gift. To fail the test is a misfortune. But to refuse the test is to refuse the gift, and something worse, more irrevocable, than misfortune.
– Cordelia Naismith (Shards of Honor)

ก่อนอื่นต้องขอบคุณทุกคนที่เชียร์+หลอกล่อให้เราได้มาอ่าน Vorkosigan Saga นะคะ ไม่งั้นเราคงพลาดหนังสือดีๆแบบนี้ไปแบบไม่รู้ตัวเลย เพราะจริงๆแล้วเราไม่ใช่คอนิยายวิทยาศาสตร์ หนักไปทางแฟนตาซีมากกว่า ตอนแรกที่มีคนเชียร์ เลยออกจะลังเลอยู่ แต่พอเห็นว่าทางสนพ. แจกเล่ม 3 ให้อ่านฟรี ซึ่งเป็นเล่มที่หลายๆที่แนะนำว่าเป็น jump start ที่ดีสำหรับชุดนี้ ก็เลยโหลดมาอ่าน

ผลก็คือสมองแตกโพละ เผ่นเข้าเน็ตไปกวาดเล่มที่เหลือมาจนหมด และแค่อ่านเล่ม 1+2 จบ ก็แปรสภาพกลายเป็นแฟนเกิน(!)สติแตกไปเรียบร้อย ขนาดที่อยากจะลุกขึ้นมาวาด fanart เป็นล่ำเป็นสัน ซึ่งเป็นอาการเดียวกับที่เคยเกิดกับกรณี แฮรี่ กันดั้มวิง FMA ยูเจนิดิส ฯลฯ แต่ปัญหาคือ ขาดความมั่นใจว่าตัวละครควรจะใส่เสื้อผ้าแบบไหน คิดเยอะเกินไป ความกระตือรือร้นเลยห่อเหี่ยวฟุบสลายไปพร้อมๆกับแทบเบล็ตที่ถูกห่อเก็บเข้าลิ้นชัก

จะว่าไปแล้วเราไม่ได้อ่านเรื่องนี้ด้วยความรู้สึกที่ว่ามันเป็นนิยายวิทยาศาสตร์เลยนะคะ เราคิดว่ามันคือ แฟนตาซีการผจญภัยในอวกาศ (บางคนบอกว่ามันคือ Space Opera มิใช่นิยายวิทยาศาสตร์) Shards of Honor นี่ ช่วงแรกๆรู้สึกอย่างกับเพชรพระอุมาด้วยซ้ำ แถมยังมีความรักเข้ามาอีก (แฟนโรแมนซ์เป็นปลื้ม) ไอซิ่งโบนัสดีๆนี่เอง

ฉากหลัง : อนาคตกาลอันไกลโพ้น เมื่อมนุษย์ย้ายถิ่นฐานกระจัดกระจายไปอยู่ตามที่ต่างๆในอวกาศ

เมื่อ กัปตันคอร์ดิเลีย ไนสมิธ แห่งดาวบีตาโคโลนี ถูกส่งมาสำรวจดาวเคราะห์ที่ไกลความเจริญดวงหนึ่ง เธอคาดว่าจะได้พบกับสัตว์ประหลาดหกขา ปรสิตที่แสนพิลึก และอื่นๆอีกมาก แต่เธอไม่ได้คิดว่าจะได้พบผู้คนบนดวงดาวที่ร้างมนุษย์แห่งนี้ และยิ่งไม่ได้คิดว่าตนเองจะมาไว้เนื้อเชื่อใจและร่วมเสี่ยงตายกับบุรุษผู้เป็นที่รู้จักในหมู่ชาวอวกาศในฉายา The Butcher of Komarr

ขออภัยที่เขียนเรื่องย่อซะเป็นนิยายรักแทนที่จะเป็นนิยายวิทยาศาสตร์ แหะ แหะ ก็แบบว่าเราชอบความสัมพันธ์ของคอร์ดิเลียกับแอรัลเอามากๆๆๆๆๆเลยนี่นา เป็นความสัมพันธ์ที่เป็นผู้ใหญ่สุดๆ (แอรัล 40 คอร์เดลีย 35) ชีวิตของแต่ละคนผ่านอะไรมาเยอะ เลยเกิดความนับถือซึ่งกันและกัน และความสัมพันธ์ก็พัฒนาจากตรงนั้น

สำนวนภาษาของเล่มแรกนี้เราว่าสู้เล่มหลังๆไม่ได้ คงเพราะเป็นหนังสือเล่มแรกของคนเขียน และเราคิดว่ามันเป็นเรื่องดำเนินด้วยตัวละคร ถึงแม้ว่าจะมีพล็อตเยอะ แต่จริงๆเป็นเพราะตัวละครน่าสนใจมากๆต่างหาก เรื่องเลยน่าติดตาม

ความที่เป็นนิยายวิทยาศาสตร์เลยมีอะไรเจ๋งๆอยู่หลายจุด อย่างอาวุธที่ใช้ในเรื่อง เจ้า Nerve disruptor นี่หลอนมาก โดนยิงแล้วกลายเป็นพืชผักสวนครัวทันที (หมายถึงมีชีวิตอยู่แต่สมองเดี้ยงไปแล้ว) เราว่าโหดว่า Plasma arc อีก

บทส่งท้ายเป็นอะไรที่ไม่เกี่ยวกับตัวเรื่องหลักเลย อ่านไปได้หน่อยก็เลิก ใครกรุณาช่วยสรุปให้ฟังจะเป็นพระคุณมาก

ชอบ

- แอรัล แอรัล และแอรัล

- คอร์ดิเลีย คอร์ดิเลีย และคอร์ดิเลีย
(หลบกระถางต้นไม้ที่คนอ่านขว้างมา แล้วส่ง quote ให้)
“You’re not what I expected a female officer to be.”
“Oh? Well, you’re not what I expected a Barrayaran officer to be, either, so I guess that makes two of us.” She added curiously, “What did you expect?”
“I’m — not sure. You’re as professional as any officer I’ve ever served with, without once trying to be an, an imitation man. It’s extraordinary.”

- ธรรมเนียมที่แตกต่างกันของแต่ละดาว ดาวบีตาโคโลนี นี่เราว่าคล้ายๆอเมริกาสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ในบางแง่ เช่น สิทธิเสรีภาพ ส่งออกอาวุธ ประชาธิปไตย ไม่เน้นพิธีรีตอง ฯลฯ ส่วนบาร์รายาร์นี่รู้สึกเหมือนรัสเซียสมัยพระเจ้าซาร์ ที่อยู่ในโลกอนาคต (มั้ง)

- ตอนที่แอรัลกับคอร์ดิเลียผลัดกันเล่าเรื่องความรักในอดีตของตัวเอง ว่าแต่ กรณี “ฉันมีเพื่อนคนหนึ่งที่เป็น...อย่างโน้นอย่างนี้…” นี่ สรุปว่าหลายคนชอบใช้กันจริงๆด้วยแฮะ เราไม่เคยใช้เลย แต่เคยพูดอย่างนี้แล้วมีคนถามว่า เจ้าเพื่อนที่ว่านี่คือตัวเราเองรึเปล่า ตอนนั้นข้าพเจ้าเซ่อไปเลย เพราะไม่นึกว่าทำไมต้องหลอกว่าเป็นเพื่อนด้วย เรื่องของตัวเองก็บอกว่าตัวเองสิ อ๊ะ...ออกนอกเรื่องซะแล้ว

- ตอนแอรัลขอคอร์ดิเลียแต่งงานครั้งแรก แบบว่าหน้าตาเฉยมาก แถมยังบอกว่ารักตั้งแต่ตอนแรกๆเลยอีกต่างหาก

- ขำรายการพูดกับตัวเองของคอร์ดิเลีย เจ้าเป่ายิงฉุบนี่ช่างคิดดีแท้

- ปกติเราไม่ใช่คนบ้าเลือดนะ แต่ตอนคอร์ดิเลียจัดการกับตัวร้าย (ไม่ว่าจะเจ้าชายหรือคุณหมอ) มันแสนสะใจ

- "So what does the man have, anyway?"

"I don't know. The virtues of his vices, perhaps. Courage. Strength. Energy. He could run me into the ground any day. He has power over people. Not leadership, exactly, although there's that too. They either worship him or hate his guts. The strangest man I ever met did both at the same time. But nobody falls asleep when he's around."

"And which category do you fall in, Cordelia?" asked her mother, bemused.

"Well, I don't hate him. Can't say that I worship him, either." She paused a long time, and looked up to meet her mother's eyes squarely. "But when he's cut, I bleed."


- โบธารี เนื่องจากเราอ่านเล่ม 3 ก่อน เลยสปอยตัวเองไปเรียบร้อย น่าเสียดายจัง อยากรู้ว่าถ้าได้รู้จักโบธารีแบบไม่มีอะไรมาทำให้ไขว้เขวไปตั้งแต่ต้น พอเล่ม 2 เล่ม 3 จะรู้สึกยังไง

- แผนการเบื้องหลัง ซับซ้อนจนนึกไม่ถึงอย่างแรง แต่ก็สมเป็นบาร์รายาร์แล้วล่ะ



สรุปว่าเป็นเล่มแรกที่เราคิดว่าโอเคเลย แต่สนุกน้อยกว่าเล่ม 2-4 (ตอนนี้อ่านถึงเล่ม 5) ว่างๆจะมารีวิวเล่ม 2 Barrayar ซึ่งเป็นเล่มที่ข้าพเจ้าชอบแบบเสียจริตให้ฟัง

อ้อ เล่มที่อ่านนี่เป็นเล่มควบระหว่างเล่ม 1 Shards of Honor กับเล่ม 2 Barrayar โดยใช้ชื่อว่า Cordelia’s Honor ซื้อมาจาก Baen Books ด้วยราคาที่คุ้มมากคือ $5 (ดีใจน้ำตาไหลพราก)

เราพยายามบำเพ็ญตนเป็นแม่ยกชักชวนชาวบ้านไปทั่ว แต่ยังไม่ค่อยสำเร็จ อุตส่าห์มาเขียนรีวิวแล้วหวังว่าจะมีคนตามมาเข้าแก็งค์เพิ่มเติมนะคะ (ปรอยสายตาแปดทิศทาง)



Create Date : 30 สิงหาคม 2554
Last Update : 25 ธันวาคม 2562 11:18:57 น.
Counter : 2515 Pageviews.

19 comments
  
เล็งชุดนี้อ่านอยู่พอดีเลยค่ะ แต่อยากรู้ว่า แต่ละเล่มเรื่องราวของคาแร็คเตอร์หลักในเล่ม (อย่างเล่มแรกคอร์ดีเลีย) นี่จบเลยไหมคะ หรือต้องอ่านต่อ ๆ ไปอีก พอดีตอนนี้อยู่ในอารมณ์ที่ไม่อยากตามคาแร็คเตอร์ตัวไหนหลาย ๆ เล่มเพิ่มอีกแล้วน่ะค่ะ

ชุดนี้มีกี่เล่มกันแน่คะ เพิ่งคุยกะเพื่อน เขาบอกว่า เยอะมาก แต่อ่านบางทีก็บอกว่า มีห้าเล่ม
โดย: May IP: 101.108.65.169 วันที่: 30 สิงหาคม 2554 เวลา:19:56:11 น.
  
อ่านตอนต่อท้ายแล้วร้องไห้โฮค่ะ เรื่องความรักของแม่ที่ไม่มีแบ่งข้างและสื่อถึงกันได้ เครื่องรางน้ำตาแม่นี่ทำให้พูดไม่ออกเลยค่ะ
โดย: jackfruit_k วันที่: 30 สิงหาคม 2554 เวลา:20:07:49 น.
  
รอดูแฟนอาร์ตๆๆๆ

บทสุดท้ายเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่อวกาศคนหนึ่งซึ่งอาสาทำงานเก็บกวาดอวกาศ เพื่อตามหาศพของลูกสาวตัวเองค่ะ

Shards ก็เน้นโรแมนติกจริงนั่นล่ะ ว่ากันว่ามันคือแฟนฟิคของคุณบูโจลด์ค่ะ เธอเป็นแฟนซีรี่ย์สตาร์เทร็ค เลยเขียนออกมาเป็นความรักระหว่างดาวโหดๆ สไตล์คลิงออน กับดาวสมัยใหม่สไตล์สหพันธ์ แต่จากนั้นเธอก็โตขึ้นเขียนอะไรลึกซึ้งขึ้นมากมาย

รออ่านรีวิว Barrayar นะคะ ^^

โดย: ทินา IP: 58.8.78.114 วันที่: 30 สิงหาคม 2554 เวลา:22:59:36 น.
  
คุณเมย์ >> แต่ละเล่มกบว่าจบลงตัวนะคะ อย่างเล่มหนึ่งนี่อานเดี่ยวๆได้เลย ถ้าชอบตัวละครก็แนะนำให้อ่านเล่มสองต่อ จากนั้นไม่อ่านเล่มสามก็ยังไม่เป็นไร เล่ม 1 กับ 2 ตัวเอกคือคอร์ดีเลีย แต่ตั้งแต่เล่ม 3 ตัวเอกจะเป็นลูกของคอร์ดีเลียค่ะ เท่าที่กบอ่านมา (ถึงเล่ม5) ก็สามารถจบได้โดยไม่ทุรนทุรายนะคะ เรื่องนี้เห็นเขาว่าชุดนี้ปัจจุบันมี 11 เล่มค่ะ (ปาดเหงื่อ) กบก็ค่อยๆอ่านไป เท่าที่อ่านมาก็สนุกทุกเล่มนะคะ เพียงแต่บางเล่มสนุกกว่าบางเล่มเท่านั้นเอง (เอ้า รีบซ่อนหน้าม้าที่ยาวออกมาเข้าไป XD)

คุณ jackfruit_k >> เราพลาดอ่านอะไรที่ลึกซึ้งอย่างนั้นไปซะแล้วเหรอเนี่ย เดี๋ยววิ่งกลับไปอ่านค่ะ ข้ามไปได้ไงนะเรา

ทินา >> เราไม่เคยอ่านหรือดูสตาร์เทร็กเลยค่ะ อย่างที่บอก ไม่ใช่แฟนไซไฟ แต่เจอเจ้าไมลส์ เอ๊ย ซีรี่ส์ Vorkosigan เข้าไป ถึงได้มาเกาะหนึบ

แฟนอาร์ต? แฟนอาร์ตอะไรคะ (หน้าซื่อ แล้วรีบซุกกระดาษที่คุ้ยเขี่ยไว้) อิ อิ ถ้าได้วาดอะไรที่พอโชว์ให้ชาวบ้านดูได้จะเอามาให้แปะค่ะ XDD
โดย: Froggie วันที่: 31 สิงหาคม 2554 เวลา:7:33:56 น.
  
ประโยค when he's cut นั่นทำเราเอาหน้าซุกหมอนอยู่เกือบห้านาทีเลยค่ะ (หัวใจแฟนเกิร์ลใช้ความโมเอ้ต่างออกซิเจน^^)

คอร์ดีเลียเป็นตัวละครหญิงที่เท่ที่สุดแล้ว ยังไม่เคยอ่านใครเหมือนเธอคนนี้>w< คุณกบเป็นแม่ยกเลยค่ะ เดี๋ยวเราทำหน้าที่กองหนุนคอยดันและส่งเสบียงเสียงเชียร์55

ปูเสื่อรอดูแฟนอาร์ตด้วยคน กรี๊ดด..ผู้ชายในเครื่องแบบ ขอไซม่อนตอนหนุ่มด้วยนะคะคุณกบ<3 อิๆ มีรีเควสต์

จิ้มไปที่แม่ยกอีกคน คุณบูโจลด์เขียนแฟนฟิคมาก่อนเหรอ โอ..แฟนดอมจงเจริญ รู้สึกคุณคนเขียนTemeraireก็เป็นนักเขียนฟิคหนึ่งในยุทธจักรมาก่อนเหมือนกัน

โดย: apple_cinnamon วันที่: 31 สิงหาคม 2554 เวลา:20:24:00 น.
  
เห็น apple พูดถึง Temeraire เรื่องนี้คุณกบก็น่าจะสนนะคะ เป็น alternate history รบกับนโปเลียนด้วยมังกรล่ะ

ป๋าอารัลกับเจ๊คอร์ดีเลียเหมาะสมกันที่สุดในสามโลกเลยค่ะ เป็นคู่พ่อแม่ในนิยายอันดับหนึ่งเลยทีเดียวเชียว (จริงๆ มันก็เจ๋งกันทั้งตระกูลน่ะนะ บ้านนี้)
โดย: ทินา IP: 58.11.73.5 วันที่: 31 สิงหาคม 2554 เวลา:21:46:23 น.
  
แอปเปิล >> วี้ดดด กรี๊ดดดด มีคนปลื้มไซมอนเหมือนกันด้วย!! น่าเสียดายจังไม่มีเรื่องความรักของไซมอน บุคลิกน่ามีเล่มของตัวเองมั่ก แต่อาจจะไม่มีเวลาก็ได้เพราะมัวกุมขมับเรื่องเจ้าไมลส์ หึ หึ

ทินา >> รบกับนโปเลียนด้วยมังกร! แค่ฟังก็น่าสนใจแล้วค่ะ ขอชื่อๆๆๆ เดี๋ยวจดลงลิสท์หางว่าว (ที่น่าจะยาวลงมาระพื้นแล้วตอนนี้)
โดย: Froggie วันที่: 1 กันยายน 2554 เวลา:9:40:16 น.
  
มาช่วยดันอีกแรง

เล่มแรก His Majesty's Dragon (Temeraire book1) by Naomi Novik ค่ะ สนุกมาก สำบัดสำนวนพีเรียดได้ใจ มีผจญภัยเก็บเควสต์มังกร ตอนซึ้งๆก็มีนะ มังกรของพระเอกโมเอ้มาก

ตอนนี้ออกมาหกเล่ม(เอง)ค่ะ แอบกระซิบคุณกบว่าไม่้ต้องกังวลไป เล่มหลังๆมันแผ่ว^^" ขอเชียร์เฉพาะเล่มแรกๆก่อน

ปล. อดใจไม่ไหวซื้อ Devil's cub มาแว้วว~ เพิ่งรู้ว่าปล่อยไก่ตัวใหญ่เพราะนึกว่ามันชื่อเรื่อง Devil's CLUB มาตลอดเลยอ่ะค่ะ มานึกๆดูก็น่าจะเป็นcubนะ ก็เป็นตอนลูกชายนี่เนอะ โฮกก..Dominic.. กระชากใจป้าจริงๆลูกเอ๊ยย

โดย: apple_cinnamon วันที่: 1 กันยายน 2554 เวลา:11:17:47 น.
  
ไซม่อนตอนหนุ่ม.. อย่างนี้พอไหวมั๊ยคะ อยากได้ยูนิฟอร์มimpsec (แฟนเกิร์ลกำเริบอย่างหนัก)

Photobucket
โดย: apple_cinnamon วันที่: 1 กันยายน 2554 เวลา:11:47:11 น.
  
ฮึ่ม เรื่องนี้มีแต่ชายหนุ่มน่าปลื้มเต็มไปหมด เลือกยาก โดยส่วนตัวชอบ Duv ค่ะ ขนาดไม่เด่นยังไม่ธรรมดาเลย
โดย: jackfruit_k วันที่: 1 กันยายน 2554 เวลา:23:28:53 น.
  
ยังไงก็ชอบป๋าที่สุดแล้วล่ะค่ะ "Dear Captain" อ๊างงงงงงง
โดย: ทินา IP: 61.90.12.160 วันที่: 1 กันยายน 2554 เวลา:23:48:56 น.
  
สองคนนั่นขอเป็นของต้องห้ามค่า แบบว่ากวาดโวตเรียบ
โดย: jackfruit_k วันที่: 2 กันยายน 2554 เวลา:0:01:00 น.
  
คุณ jackfruit_k >> Duv คือใครคะ (หูผึ่ง) แต่อย่าสปอยเรานะ

คุณแอปเปิล >> !! หน้าตาได้ใจมาก!! เราติดก็เรื่องชุดนี่แหละค่ะ ช่วงนี้ไม่อยู่ในอารมณ์จะออกแบบซะด้วย คุณบุโจลด์ไม่เคยแย้มบ้างเหรอคะว่าชุดควรจะเป็นแบบไหน

His Majesty's Dragon เหมือนเคยได้ยินชื่อหนังสือค่ะ มังกรที่โมเอ้...ฟังแล้วอยากอ่านขึ้นมาเลย XDD ว่าแต่...หกเล่ม (ตกเก้าอี้) สงสัยต้องรอคิวค่ะ ไมลส์คุงยังไม่จบ อ่านเรื่องยาวๆต้องทีละชุด ไม่งั้นตัวละครตบตีกันในหัว

หุ หุ หุ โดมินิคนี่ต้นตำรับ bad boy ในรีเจนซี่โรแมนซ์รุ่นถัดๆมาเลยนะคะเราว่า อ่านแล้วอย่าลืมมาคุยกันน้าาา
โดย: Froggie วันที่: 2 กันยายน 2554 เวลา:7:47:30 น.
  
สงสัยเพราะอ่านเรื่อง brothers in arms ก่อนเป็นเล่มแรก เลยเกิดความประทับใจในตัวดูฟที่โชคร้ายได้ไมลส์เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาแบบไม่ทันตั้งตัว ฮ่าๆ

ความจริงคิดว่าจิ้มไปเถอะค่ะ น่าปลื้มทั้งนั้นเลย โดยเฉพาะพวกที่สามารถรับมือไมลส์ได้โดยไม่เพี้ยนไปก่อน ถือว่าผ่านมาตรฐาน จะเป็นฝ่ายพระเอกหรือตรงข้ามก็ใช้ได้ ไม่ต้องถึงขนาดรับมือได้แบบเกรกอร์หรอก (นี่ก็ฮ๊อตสุดๆ)

อยากเห็นแฟนอาร์ตจริงๆ นะคะ ชุด undress green ในจินตนาการคิดว่าเป็นทูนิค คอตั้ง แบบชุดนักเรียนญี่ปุ่น แต่ใส่รองเท้าบู๊ตยาวเกือบถึงเข่าอ่ะค่ะ แต่ชุดพาเรดนี่นึกไม่ออกเลย
โดย: jackfruit_k วันที่: 2 กันยายน 2554 เวลา:10:05:12 น.
  
แฟนอาร์ตคาดว่าท่าจะวาดจริงๆคงต้องไปนั่งอ่านย่อหน้าที่อธิบายเครื่องแต่งกายของเรื่องนี้ก่อนค่ะ ไม่งั้นมันจะออกมาสไตล์กันดั้มหมด ตอนนี้ในหัวเป็นแบบนั้นอยู่ เพราะติดภาพอวกาศ = กันดั้ม ^^;;;
โดย: Froggie วันที่: 2 กันยายน 2554 เวลา:14:03:51 น.
  
จู่ๆ ก็เห็นภาพไมลส์ในชุดแบบชาร์ (ใช่ไหมนะ คนที่ใส่หน้ากากน่ะ)
โดย: ทินา IP: 58.8.110.121 วันที่: 3 กันยายน 2554 เวลา:0:48:26 น.
  
คนใส่หน้ากากมีเยอะค่ะ เพราะมีหลายภาค แต่ต้นตำรับเจ้าเก่าก็ต้องท่านชาร์นี่แหละ สำนักไหนๆก็ต้องฟันธงว่าเป็นตัวร้ายที่เท่ที่ซู้ด เท่กว่าพระเอกแบบทิ้งห่างไม่เห็นฝุ่น ^^
โดย: Froggie วันที่: 3 กันยายน 2554 เวลา:8:03:08 น.
  
ขออนุญาติเข้ามากรี๊ดนอกเรื่องหน่อยนะคะ โอย..ไม่ไหวแล้ว Marquis of Vidalโจรกระชากใจป้า อ่านตอนเพิ่งถึงปารีสค่ะ น่ารักมากกคู่นี้
โดย: apple_cinnamon วันที่: 3 กันยายน 2554 เวลา:15:58:36 น.
  
กริ กริ เจอโดมินิคเข้าไปคนเดียว หลงเสน่ห์ Georgette Heyer เข้าแล้วใช่มั้ยล่า
โดย: Froggie วันที่: 5 กันยายน 2554 เวลา:6:56:45 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Froggie.BlogGang.com

Froggie
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 29 คน [?]

บทความทั้งหมด