[Books] Ancillary Sword (Imperial Radch #2) - Ann Leckie

"If there was anything any Radchaai considered essential for civilised life,
it was tea."




รีวิวเล่ม 1 Ancillary Justice

จะเล่ายังไงไม่ให้สปอยเล่มแรกเนี่ย เอาเป็นว่าเล่มที่แล้วเป็นการแนะนำจักรวรรดิ Radchaai ให้เรารู้จักแบบกว้างๆ แต่เล่มนี้พาเราไปเจาะลึกที่สถานีอวกาศแห่งเดียว และลงลึกถึงโครงสร้างทางสังคม เล่นประเด็นความไม่เท่าเทียมกันในสังคม และการเหยียดเชื้อชาติของผู้ชนะสงครามได้ถนัดถนี่กว่าเล่มก่อน

ช่วงแรกอาจจะเพราะเราจำของเก่าไม่ค่อยได้ เลยงุนงงแต่ก็คุ้นเคยไปหมด รู้สึกว่าสนุกมาก อ่านไปด้วยอึดอัด ตื่นเต้น และลุ้นโพดๆๆๆ

แต่พอจบองก์แรกซึ่งค่อนข้างสั้น เล่มนี้ก็เข้าเกียร์ต่ำทันที

ทุกอย่างช้าเนิบนาบ เราถึงกับต้องวางแล้วไปอ่านอย่างอื่นก่อนแป๊บนึง

แต่พอกลับมาอ่านใหม่ ก็ต่อได้ลื่นจนจบนะ เรื่องราวบนสถานีอาจไม่ลุ้นระทึกนัก แต่พอไม่คาดหวังแล้วก็อ่านได้เพลินดี ให้ความรู้สึกคล้ายงานสืบสวนของไมลส์เล่มหลังๆ แต่ไม่มีแอ็คชั่น ทั้งเล่มแทบไม่มีฉากบู๊ หรือตัวละครตกอยู่ในอันตราย หลายส่วนเป็นการทำความรู้จักโลกในหนังสือแบบเจาะลึกโดยละเอียด

ต่อจากนี้มีสปอยบางส่วน
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

เล่มนี้มีหลายอย่างที่ต่างไป อย่างเช่น เล่มก่อน space opera เล่มนี้ cozy mystery เส้นเรื่องไม่กระโดด ไม่ต้องลุ้นชะตากรรมตัวละคร ถ้าเล่มก่อนเบร็คเป็นเดวิดปะทะโกไลแอ็ธ เล่มนี้เบร็คก็แทบเป็นพระเจ้า ความกำกวมของเพศยังมีอยู่ แต่เราชินเสียแล้ว ไม่รู้สึกว่า "ต้อง" เดาเพศตัวละครเหมือนเล่มหนึ่ง

(แต่เราคงทำอยู่ลึกๆ เพราะมีตัวละครหนึ่งที่เราระบุเพศในใจโดยไม่รู้ตัว พอเฉลยแล้วไม่ตรงกับที่คิดไว้ แทบจะทำให้เราต้องทบทวนอคติในใจของตัวเองทันที การที่หนังสือทำให้เราสะดุ้งแบบนี้ได้ เป็นอะไรที่น่าทึ่งดี)

แต่ความแตกต่างนี่แหละที่ทำให้เรารู้สึกว่าเล่มนี้มัน "ธรรมดา" ไปเลยเมื่อเทียบกับเล่มแรก แต่ด้วยฝีมือของคุณคนเขียน จะบอกว่าสามัญประจำบ้านคงไม่ได้

เบร็คได้เป็น Fleet Captain แล้ว และได้ควบคุมยาน Mery of Kalr ซึ่งก็แปลกๆดีคือเป็นยานอวกาศคุมยานอวกาศที่มีมนุษย์ทำหน้าที่เป็นลูกข่ายของยานอวกาศ งงดีนะ ^^ เล่มนี้เบร็คถูกส่งไปสถานีอวกาศที่ Athoke เศรษฐกิจหลักของระบบดาวเคราะห์ที่นี่คือการผลิตใบชา (ซีรี่ส์นี้มีแต่ใบชา น้ำชา ถ้วยชา ดื่มชามันยันเต XDD ) พอเบร็คเหยียบสถานี คหบดีเจ้าของไร่ชาก็มาประจ๋อประแจ๋ทันที ตัวผู้ว่าฯ ผู้บริหารระดับสูงของสถานี และสังฆราชทั้งหลาย ก็ดูมีนอกมีในในการปฏิบัติหน้าที่ ยังไม่นับกัปตันยาน Sword of Antagaris ที่ส่อเค้าไม่น่าไว้ใจมาตั้งแต่ต้น และความขัดแย้งด้านเชื้อชาติในระบบดาวเคราะห์ก็เป็นหนึ่งในประเด็นหลักที่ขับเคลื่อนเนื้อเรื่อง

ที่สถานีนี้ยังมีน้องของคนที่เบร็ครักอาศัยอยู่ มี Ghost Gate ที่พ่นของแปลกๆออกมาเป็นระยะ พร้อมกันนั้นก็มีความเสี่ยงถึงตัว Anaander Mianaai ที่อาจแผลงฤทธิ์เมื่อไรก็ได้

ตัวละครและปัญหายุ่บยั่บขนาดนี้ ก็เพื่อเซ็ตอัพประเด็นการเมืองนั่นเอง เบร็คเข้าไปพัวพันกับการเรียกร้องสิทธิพลเมืองของที่นั่น และได้สืบสวนคดีด้วย

ยังชอบเบร็คอยู่ แต่ด้วยความรู้สึกที่ต่างออกไป เบร็คเปลี่ยนจากตัวละครที่เราอยากค้นหา เป็นตัวละครที่เราผูกพันแทน มุมมองของ AI ยังน่าสนุกเหมือนเดิม แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าพวกลูกเรือที่เบร็คเห็น รู้สึกยังไงกับการถูกละเมิดความเป็นส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต ต่อให้ถูกล้างสมองเรื่องวัฒนธรรมทหารมาแล้วก็เถอะ

เล่มนี้มีมุกตลกเยอะกว่าเล่มก่อน อย่างประเด็นน่ารักๆเรื่องชุดจานชาม แล้วก็การร้องเพลง

ประเด็นความขัดแย้งในจิตใจจี้ได้ลึก อย่างเรื่องหลอกตัวเองนั่น ช่างสะท้อนนิสัยของมนุษย์ได้ดีเหลือเกิน ชอบประเด็นการเรียกร้องสิทธิ ประโยคนี้โคตรเข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน

“When they behave properly, you will say there is no problem. When they complain loudly, you will say they cause their own problems with their impropriety. And when they are driven to extremes, you say you will not reward such actions. What will it take for you to listen?”

ประเด็นเหยียดเชื้อชาติ/จักรวรรดินิยมก็น่าคิด แต่เราว่าตัวเราในฐานะคนไทย ไม่ได้มีบริบททางสังคมที่จะคิดลึกซึ้งเท่าฝรั่ง หรือชาติที่เคยตกเป็นอาณานิคมเต็มรูปแบบ

อย่างไรก็ตาม เล่มนี้ Seivarden ออกน้อยอะ! เราต้องการ Seivarden! เราต้องการ Seivarden! เจ้าหนู Tisarwat ก็ไม่ได้ใจเท่า ถึงช่วงแรกจะมีหน้าที่เป็นผู้ที่ติดตามที่อ้วกตลอดศกเหมือนกัน

ถึงจะไม่เท่าเล่มแรก แต่ก็ยังสนุกอยู่ดี เพราะงั้นก็อัพเป็น 4 ดาว

---
โจทย์บิงโก : กดลิงก์ดูตาราง
มาใหม่ไม่ดอง, ชื่อเรื่องขึ้นด้วยสระ, อ่านแล้วหัวเราะ, นามปากกาไม่ไทย, นิยายชุด



Create Date : 22 มกราคม 2561
Last Update : 22 มกราคม 2561 14:43:33 น.
Counter : 1478 Pageviews.

6 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณสาวไกด์ใจซื่อ

  
ชุดนี้ถ้าไม่มีแปลไทย น่าจะไม่ได้อ่านค่ะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ล้งเล้งลัลล้า Travel Blog ดู Blog
Max Bulliboo Klaibann Blog ดู Blog
wicsir Travel Blog ดู Blog
polyj Book Blog ดู Blog
ทนายอ้วน Food Blog ดู Blog
บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน Review Food Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Photo Blog ดู Blog
จารุพิชญ์ Music Blog ดู Blog
Froggie Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 22 มกราคม 2561 เวลา:14:24:00 น.
  
ขอบคุณสำหรับการโหวตนะคะ เราว่าอ่านยากพอสมควรด้วยค่ะ แบบต้องชอบแนวนี้จริงๆ บทบู๊แทบไม่มี บทรักหาไม่เห็น บทตลกก็ลึ้กลึก XD; แต่เราชอบนะคะ มีอะไรให้คิดเยอะดี
โดย: Froggie วันที่: 22 มกราคม 2561 เวลา:14:44:04 น.
  
น่าสนใจค่ะ
โดย: jackfruit_k วันที่: 22 มกราคม 2561 เวลา:19:44:17 น.
  
รอแปลอย่างเดียวครับ
โดย: leehua (สมาชิกหมายเลข 755059 ) วันที่: 22 มกราคม 2561 เวลา:21:18:15 น.
  
@ คุณ jackfruit_k >> เชียร์ให้ลองอ่านเล่มแรกดูค่ะ เราว่ามันสนุกแปลกใหม่ ได้อารมณ์ต่างจากนิยายทั่วไปที่เคยอ่าน

@ คุณ leehua >> ดูท่าจะแปลยากระดับหนึ่งเลยค่ะ ทั้งเรื่องเนื้อหา และภาษา
โดย: Froggie วันที่: 22 มกราคม 2561 เวลา:21:39:34 น.
  
คือแนวนี้อ่านได้ค่ะ

แต่ถ้าไม่ใช่ภาษาไทย อันนี้ยากเลย แหะๆ
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 23 มกราคม 2561 เวลา:8:59:52 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Froggie.BlogGang.com

Froggie
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 29 คน [?]

บทความทั้งหมด