[Books] Call Me Irresistible : Susan Elizabeth Phillips
งวดนี้มุดรูหนอนกลับมาหาโรแมนติกคอเมดี้ก่อนนะคะ



ลูซี จอริค ลูกสาวของอดีตประธานาธิบดีแห่งอเมริกา กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกับ เท็ด โบดีน นายกเทศมนตรีแห่งเมืองวีเน็ตต์ เท็กซัส Mr.Irresistible ผู้ชายที่เพียบพร้อมที่สุดในโลก

เม็ก คอแรนดา เพื่อนเจ้าสาว มั่นใจว่าเพื่อนสนิทของตนกำลังตัดสินใจผิดครั้งมโหฬาร

ถึงเม็กจะรู้ว่าการขัดขวางงานแต่งงานของเพื่อนรักเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครเห็นด้วย ภายในชั่วพริบตาเม็กก็กลายเป็นผู้หญิงที่มีคนเกลียดมากที่สุดในเมือง เมืองที่เม็กต้องมาติดแหง็กอยู่กับรถปุโรทั่ง เงินที่เกลี้ยงกระเป๋า และเจ้าบ่าวที่โกรธจัด

พล็อตมันไม่น่าอ่านเลยใช่ม้า (อย่างน้อยก็สำหรับเรานะ) กรณีเพื่อนสนิทแย่งแฟนเพื่อนนี่ไม่ปิ๊งเลยค่ะ สองบทแรกอ่านไปด้วยความประหวั่นพรั่นพรึง แต่ปรากฏว่ามันไม่ใช่ (สาธุ) มันไม่ใช่! (กำหมัดชูมือ เยส!) SEP ไม่ทำให้ผิดหวัง เหมือนรู้เลยว่าจะต้องแบบนี้แหละถึงจะถูกจริตเรา อ่านไปอมยิ้มไป เฮฮาปาร์ตี้มั่ก ทั้งๆที่เรื่องก็ดำเนินไปตามสูตรเดิมๆที่เดาได้ของ SEP นั่นแหละ หรือว่าจะเป็นเพราะเราห่างเหินจากการอ่าน SEP นานเกินไปหว่า

ชอบ

- บทสนทนาในเรื่องที่อัดเพียบไปด้วยอารมณ์ขัน

- เม็ก น่ารักอ่ะ คอยลุ้นเอาใจช่วยตลอด อยากจะให้เธอเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ และพบความสุขจริงๆ

- “This is America. We’re entitled to our opinions.”
“Wrong. This is Texas. And my opinion is the only one that counts.”

- สารพันวิธีที่เม็กทำให้เท็ดเสียคะแนนในเกมกอล์ฟ ขำกิ๊กเลย เม็กไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะ กติกากอล์ฟมันจุ๊กจิ๊กเท่านั้นเอง

- เท็ดไปกินข้าวกับเม็ก แล้วงอนเม็ก เลยยึดตะกร้าคอร์นชิปมาครองไว้คนเดียว อารมณ์เด็กซนชัดๆ XDDD
- เม็กโทรศัพท์ไปถามลูซีว่าจะมีอะไรกับเท็ดได้มั้ย แล้วลูซีสนับสนุนด้วยความกระตือรือร้นสุดขีด

- ตอนที่เท็ดบอกว่าตัวเองรักลูซี รักมาตั้งแต่ต้น คิดว่าลูซีเป็น The One เรางี้ลุกขึ้นมาชี้หน้าใส่ kindle กลางดึกเลยว่าไม่จริ๊งงง โกหกกกก นึกๆก็เป็นเอามากนะเรา +_+”


- มุมมองของเท็ด คือเนื้อเรื่องมันดำเนินจากมุมมองของเม็กซะ 80% จนมาท้ายๆเรื่องถึงจะได้ฟังความในใจของเท็ดบ้าง คาดว่าเพราะ SEP อยากเก็บมันไว้เป็นความลับ แต่ขอบอกว่า พอได้ฟังแล้ว โอ๊ยยยย ไม่ผิดหวัง ที่ตอนแรกๆอยากเบิ๊ดกะโหลกเท็ดให้แตกซะหลายหน เอ้า ยอมให้อภัยก็ได้
- การคอยลุ้นให้เท็ดสติแตก และพอแตกจริงๆก็......it’s Oh So DELICIOUS!

- การที่ถึงเท็ดจะเศร้าไม่เป็นผู้เป็นคน แต่สุดท้ายก็ยังลุกขึ้นมาทำงานทำการในความรับผิดชอบของตัวเองได้ ไม่ใช่ว่าเอาแต่รันทด ขาดเธอแล้วชีวิตฉันจะต้องล่มสลาย

- “This one is not getting away”



ในเรื่องจะพูดถึงเว็บ weekendwithted ที่ชาวเมืองเปิดประมูลเพื่อหาเงินมาสร้างห้องสมุด ลองไปดูในเน็ต มีตั้งเว็บของจริงด้วยล่ะ XDDD

จุดที่ไม่ชอบก็มีนะคะ เรารู้สึกว่าชาวเมืองใจแคบและใจร้ายมาก เม็กไม่ควรโดนขนาดนี้ พล็อตมันคล้ายๆกับ Ain’t She Sweet เรื่องสุดโปรดของเราก็จริง แต่เรื่องนั้นชูการ์เบ็ธโดนก็ไม่แปลก เพราะอดีตเธอทำไว้แสบสุดๆ แต่เม็กไม่ใช่ ทำไมชาวเมืองไม่โกรธลูซีที่วิ่งหนี ทิ้งเจ้าบ่าวค้างเติ่งกลางแท่นพิธีต่อหน้านักข่าวนับร้อยล่ะ คนในเมืองต่อมสามัญสำนึกพิการกันหมดรึไง

จะว่าไปแล้วหลายๆอย่างในเรื่องมันโอเว่อร์และเหลือเชื่อมากนะนี่ บังเอิญว่ามันอยู่ภายใต้ฝีมือเจ้าแม่โรแมนติกคอเมดี้อย่าง SEP เวลาอ่านเลยไม่ทันคิด พอมานั่งมองกลับไปตอนหลังถึงได้รู้สึกว่า เออ แฮะ มันมีอะไรที่ไม่เข้าท่าเยอะจัง นี่เป็นข้อพิสูจน์ว่าต่อให้เรื่องมันมีช่องโหว่ขนาดไหน บางทีมันก็ขึ้นกับฝีมือคนเขียนที่จะทำให้คนอ่านสนุกจนลืมคิดได้

หรืออาจจะแค่เป็นข้อพิสูจน์ว่า ข้าพเจ้าลำเอียงเข้าข้าง SEP จนออกนอกหน้าก็ได้ >_>;;;

ดังนั้น โปรดอ่านโดยใช้วิจารณญาณ m(-_-)m

Call Me Irresistible นี่ เป็นเล่มที่ 6 ในชุดเมืองวีเน็ตต์ เม็ก ลูซี เท็ด เคยเป็นเด็กน้อยที่มีบทในเรื่องของพ่อแม่ตัวเองมากในเล่มก่อนๆทั้งนั้น งวดนี้เลยมีตัวละครเก่าๆโผล่ออกมาเยี่ยมเยียนเยอะเป็นประวัติการณ์ โดยเฉพาะจาก Lady Be Good นี่ มาเป็นคณะเลย เราคิดว่าไม่ค่อยเหมาะกับคนที่ยังไม่เคยเรื่องอื่นๆก่อนหน้านี้เลยแม้แต่เล่มเดียว เสียดายอารมณ์พบเพื่อนเก่า แต่ถ้าเคยอ่านมาแล้วสักเล่มสองเล่ม ก็ยังพอไหว ถ้าใครสนใจ แนะนำ Lady Be Good นะคะ





Create Date : 12 กันยายน 2554
Last Update : 25 ธันวาคม 2562 11:18:13 น.
Counter : 2264 Pageviews.

8 comments
  
มายกมือว่าชอบ Lady Be Good ค่ะน่าร้ากกกกกก
โดย: อ้อมกอดของความเหงา วันที่: 12 กันยายน 2554 เวลา:11:30:28 น.
  
เนอะะะะ คิดว่า Lady Be Good เป็นเรื่องที่สนุกที่สุดในชุดนี้แล้วค่ะ ในเล่มที่รีวิวนี่เลดี้เอ็มม่ามีบทเยอะด้วยล่ะ
โดย: Froggie วันที่: 12 กันยายน 2554 เวลา:11:45:37 น.
  
ขี้เกียจอ่านฉบับภาษาอังกฤษ แต่ไม่อยากอ่านฉบับแปลของสำนักพิมพ์บลิสมากกว่า

สงสัยต้องไปคิโนะแล้วหล่ะค่ะ
โดย: pocha_t วันที่: 12 กันยายน 2554 เวลา:12:42:22 น.
  
รีวิวซะอยากอ่านเลยค่ะ แต่คิดว่ากว่าจะได้อ่านฉบับแปลไทยก็คงอีกนานเลยยย............

ชุดนี้แก้วกานต์น่าจะได้ไปนะคะ เพราะเห็นว่าจะเอา Lady Be Good มาพิมพ์ใหม่ เพราะงั้นก็คงจะได้ยกชุดมาแล้วล่ะ (แอบดีใจเพราะชอบสำนวนของแก้วกานต์มากกว่าบลิส อิอิ....)

ปล. คุณกบ เราไปค้นเจอมาว่า Faro's Daughter ของ จอร์เจ็ตต์ เฮเยอร์ สนพ.ฟองน้ำเคยเอามาทำแล้วล่ะ แต่ก็แปลงชื่อเรื่อง กับชื่อนักเขียนตามระเบียบ และน่าจะสงสัยว่าเราก็จะมีเล่มนี้แล้วด้วยค่ะ ไว้ต้องไปค้นก่อน อ่านแล้วรู้สึกยังไงจะมาเมาท์ค่ะ
โดย: โอ-พิน (o_pinP ) วันที่: 12 กันยายน 2554 เวลา:13:20:20 น.
  
ว่าแล้ว...ชื่อพระเอกคุ้น...ๆ
มีแปลไทยหรือเปล่าคะ จะได้ซื้อ
พอดีแอบเป็นแฟนนักเขียนท่านนี้ค่ะ

เนื้อเรื่องทันสมัย แต่โทนเรื่องสนุกดี
โดย: nikanda วันที่: 12 กันยายน 2554 เวลา:14:57:06 น.
  
คุณ pocha_t >> วันก่อนไปคิโนะมา ไม่เห็นเล่มนี้เลยค่ะ สงสัยหมดล็อตไปแล้ว

คุณ o-pin >> โอ้ รอฟังค่ะๆ หวังว่าคงไม่แปลงเรื่องไปจนเละเทะด้วยนะ เป็นห่วงจัง

คุณ nikanda >> ไม่ต้องแอบค่ะ เรามาเป็นแฟน SEP ด้วยกัน (จับมือๆ) คิดว่าน่าจะยังไม่มีแปลไทยนะคะ เพราะภาษาอังกฤษก็เพิ่งออกมาไม่กี่เดือนเอง
โดย: Froggie วันที่: 12 กันยายน 2554 เวลา:15:12:00 น.
  
ขำตรง "wrong. this is Texas" จินตนาการว่าคนพูด(นางเอกเหรอใครพูดคะเนี่ย)ต้องทำท่าหยิ่งจิกกัดสุดๆ

โดย: apple_cinnamon วันที่: 13 กันยายน 2554 เวลา:15:53:08 น.
  
คุณแอปเปิ่ล คนพูดคนแรกคือนางเอก คนหลังคือพระเอกค่ะ หุหุ ก็หยิ่งจิกกัดจริงๆนั่นแหละ
โดย: Froggie วันที่: 13 กันยายน 2554 เวลา:21:26:33 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Froggie.BlogGang.com

Froggie
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 29 คน [?]

บทความทั้งหมด