Oh James , I’m Really Falling 4 You โอ้ เจมส์ ฉันหลงรักนายเข้าแล้วสิ 3
Chapter 3 แรกพบ : นายหน้าลิง (น่ารัก) ^_^!

“เรียนท่านผู้โดยสารทุกท่าน อีกห้านาทีเครื่องของเราจะลงจอดที่ท่าอาศยานของสนามบิน ฮีทโทรว์ ขอให้ท่านนั่งกับที่ รัดเข็มขัดให้เรียบร้อย” เสียงหวานๆปลุกฉันจากนิทรา นี่จะถึงแล้วหรอนี่ “ ขอความกรุณาให้ผู้โดยสารนั่งอยู่กับที่ จนกว่าเครื่องบินจะจอดสนิท ท่านสามารถปลดเข็มขัดที่นั่งได้ทันทีหลังจากสัญญาณปลดเข็มขัดเตือนขึ้น” หวาน หวาน แต่พูดมากจริงๆ ฉันหาวไปฟอดใหญ่ บิดตัวไปซ้ายทีขวาที

“ตอนนี้เครื่องบินได้ลงสู่สนามบินเรียบร้อยแล้ว ขอขอบคุณทุกท่านที่ใช้บริการสายการบินลุฟทันซ่าของเรา ขอให้ท่านเดินทางต่อไปโดบสัวัสดิภาพ ขอบคุณค่ะ” อีกแระ เอาอีกแระ อยากออกจากเครื่องโว๊ย ปล่อยฉันซะที

เมื่อสัญญาณเตือนให้ปลดเข็มขัดที่นั่งดังขึ้น ฉันก็รีบปลดมันออกทันที ฉันลุกขึ้นปลดล๊อคชั้นสำหรับใส่สัมภาระที่อยู่เหนือหัว แล้วหยิบเป้ทั้งสองออกมาอย่างทุลักทุเล ทำไมมันหนักอย่างนี้ว่ะ..... เมื่อเช้ายังไม่เท่าไหร่

ผู้คนทะยอยออกจากเครื่องไปอย่างช้าๆ ( เชื่องช้ามากกกกกก ราวกับเต่า ) ฉันควานหาพาสปอร์ตในกระเป๋าไปด้วยในขณะที่รอ

เฮ้อออกจากเครื่องซะที ฉันยื่นพาสปอร์ตให้พนักงานตรวจดูเดินออกไปตามทางแคบ ทางกว้างขึ้นเรื่อย ตายห่าแล้ว...ฉันจะเดินไปทางไหนดีนี่ ฉันไม่รู้จักที่นี่เลย มันดูสับสนชอบกล ต้องมองหาคน หาคน หาใครล่ะ ตามใครดีล่ะทีนี้ ตามผู้โดยสารที่มาเครื่องเดียวกันดีกว่า

ฉันเดินตามป้าคนที่มองหน้าฉันตอนขึ้นเครื่องไปเรื่อยๆ จนกระทั้งเธอไปหยิบสัมภาระของเธอ และนำทางฉันไปยังทางออก ( นำทางหรอ ฉันแอบตามเค้าต่างหาก ฮิ ฮิ )

ตอนนี้ฉันออกมาข้างนอกแล้ว แต่........ ฉันไม่รู้จะไปที่ไหน ฉันต้องไปที่ไหนน่ะ ฉันวางเป้ลงบนพื้นแล้วจึงสอดมือเข้าไปในช่องเล็กๆควานหาที่อยู่ที่น้าฉันให้ไว้

“ถนนเซตน์ปีเตอร์ สแควร์ แย่แล้ว แล้วอย่างนี้ฉันจะหาเจอมั้ยนี่” ฉันพูดออกมาซะเสียงดัง คนรอบข้างหันมามองฉันอีกแล้ว ฉันน่าจะคิดให้ดีกว่านี้ก่อนที่จะมาที่นี “ เฮ้ออออออ กลุ้ม”

“ไปกับพวกเรามั้ยล่ะ” เสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นอย่างนุ่มนวลมาทางเบื่องหลังของฉัน ฉันหันกลับไป .....จ๊าก..พ่อรูปหล่อนั่น แต่ตอนนี้เค้าไม่ได้ยืนอยู่คนเดียว ข้างๆเค้ามีสาวสวยหุ่นระดับนางแบบยืนอยู่ด้วย ผมของเธอยาวสรวยไปถึงกลางหลัง ดั้งโด่งลับกับใบหน้ารูปไข่ของเธอพอดิบพอดี ริมฝีปากคู่นั้นเรียวบางออกสีชมพูอ่อน แลดูน่าจูบ เฮ้ยยยย..... ฉันเป็นผู้หญิงน่ะ คิดแบบนี้ได้ไง

“อะ..เออ พวกคุณจะไปที่ไหนหรอค่ะ” ฉันถามด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก

“เราสองคนกำลังจะผ่านไปที่ ถนนเซนต์ปีเตอร์สเเควร์ พอดี เลยอยากชวนเธอไปด้วยกัน” น้ำเสียงนุ่มนวลออ่นหวานกล่าวขึ้น เธอช่างดูน่ารักน่าหลงไหลเหลือเกิน อ๊าก....เอาอีกเเล้ว “ฉันชื่ออแมนด้าจ่ะ” เธอแนะนำตัวพร้อมกับยื่นมือมาเพื่อทักทาย

“ฉัน แพมจ๊ะ” ฉันแนะนำตัวตอบพร้อมกับส่งยิ้มที่ฉันคิดว่าหวานที่สุดในชีวิตของฉันไปให้เธอ

“ฉัน ปีเตอร์” พ่อรูปหล่อนั่นแนะนำตัว พรางกับส่งยิ้มสยบใจสาวมาให้ เอิ้กก...จะละลาย “ถ้าเธอไม่รังเกียด พวกเราจะอาสาไปส่งเธอที่เซนต์ปีเตอร์สแควร์” เค้าพูดอย่างออ่นโยน

“เออ ไม่เลย ไม่รังเกลียดเลยซักนิด” ฉันรีบตอบไปอย่างกระตือรือร้น หน้าฉันเริ่มปริบานเท่ากระด้ง ..จะให้ฉันรังเกลียดได้ไง ฮิ ฮิ คนหล่อจะไปส่งเชียวน่ะ “แหม มีคนอาสาไปส่งทั้งที จะรังเกลียดได้ไงล่ะ” ฉันยังไม่สามารถหุบปากเบาๆของฉันได้ ก็หัวใจมันพองโตขนาดนี้ ถ้าเป็นคุณ คุณก็คงจะดีใจเช่นกัน

“งั้นเราไปกันเถอะค่ะ พี่ปีเตอร์” อแมนด้ากล่าวขึ้น ก่อนจะเดินตรงไปยังรถลีมูซีนสีดำที่จอดรออยู่เบื้องหน้า เฮ้ออออออ ฉันยืนอึ้งปากของฉันถูกเปิดกว้างเช่นเดียวกับดวงตาของฉัน

“แพม ส่งเป้มาสิ ฉันถือช่วย” เสียงของปีเตอร์ปลุกให้ฉันตื่นจากภวัง

“อะ..เออ ไม่เป็นไรหรอก แค่ให้ฉันติดรถไปด้วยก็พอเเล้ว” ฉันตอบเค้าพร้อมกับยิ้มแห้งๆอย่างรู้สึกเกรงใจ ปีเตอร์หัวเราะออกมาเมื่อเห็นสีหน้าฉันเริ่มซีด

“เอามาเถอะน่า ไม่ต้องมาเกรงใจฉันหรอก ตัวเล็กติดเดียวแบกของตั้งเยอะตั้งแยะเดี๋ยวไม่โตน่ะ” ปีเตอร์แซวฉัน ...โอ๊ย ฉันรู้หรอกว่าฉันไม่โตแล้ว แต่อย่าย้ำได้มั้ย มันเจ็บ.... แต่ว่าความน่ารักของเค้ามันทำให้ฉันหายเคืองไปสนิท ฮ่า ฮ่า ( รำเอียงง่ะ) เค้าคว้าเป้จากหลังฉันไปสะพาย ฉันเดินตามหลังเค้าไปราวกับเด็กน้อยที่ต้องเดินตามหลังพ่อ เค้าผายมือให้ฉันเป็นการเชิญขึ้นรถ ฉันนั่งลงข้างๆอแมนด้าที่นั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับประตู ก่อนจะปรายตามองไปรอบๆ เพดาลด้านในถูกบุตกแต่งด้วยผ้ากำมหยี่เนื้อดีสีแดง เบาะนั่งเป็นหนังสัตว์สีดำเนื้อดี เมื่อฉันเหลือบไปด้านซ้ายมือก็พบว่าตรงนั้นมีเครื่องเสียงชั้นหนึ่งของพวกผู้ดีประดับอยู่ ทีวีจอแบบขนาดเท่ากับความกว้างของรถ ข้างๆมีจอเล็กที่ส่งสัญญาณภาพมาจากห้องคนขับ ปิเตอร์นั่งลงฝังตรงข้ามพวกเรา พนักงานทำความเคารพเค้าอย่างสุภาพก่อนจะปิดประตูลง

“เธอเดินทางมาคนเดียวหรอ” ปีเตอร์ถาม

“อืม ฉันเดินทางมาคนเดี๋ยว” ฉันตอบ “ คุณสองคนเป็น ไม่ได้เป็นแฟนกันหรอค่ะ” ปากเบาของฉันถามขึ้นเพราะนึกสงสัยในคำพูดของอแมนด้า

“เปล่าหรอกค่ะ เราเป็นพี่น้องกัน” อแมนด้าตอบพร้อมกับยิ้มหวานมาให้ ปีเตอร์ส่งยิ้มมาให้ฉันอีกครั้ง ฉันเริ่มรู้สึกว่าตัวเองชักจะเสียมารยาทไปซะแล้วที่ถามแบบนั้น เอิ้ก..ปีเตอร์ไม่มีเจ้าของ ฮ่า ฮ่า เสร็จ โก๋.. (ซะเมื่อไหร่เล่า) “พี่ปีเตอร์เล่าเรื่องเธอให้ฉันฟัง เธอนี่น่ารกดีน่ะ” อแมนด้ากล่าวอย่างสุภาพพร้อมกับยิ้มหวานๆให้ฉัน แต่แก้มฉันเริ่มร้อนผาว เพราะความอาย

“อะ..เออ เรื่องอะไรหรอ” ฉันแกล้งถาม

“ฉันเล่าให้เขาฟังตั้งแต่เธอเดินมาชนฉันเลยแหละ” อ๊าย..หมอนี่ ร้ายไม่เบา ดูเขาสินั่งอมยิ้มอยู่ได้ ฉันเริ่มรู้สึกร้อนไปทั้งตัว เฮ้อ... ปีเตอร์นะปีเตอร์ เล่าอะไรไม่เล่า อย่างนี้เอาฉันมาขายชัดๆๆ

“เฮ้อ...ฉันมันเบอะบะ เป็นอย่างนี้ประจำแหละ อย่าถือสาฉันเลยน่ะ” ฉันถอนหายใจออกมาซะยาวเหยียดก่อนจะอธิบาย เนื่องจากหาข้อความมาแก้ตัวไม่ได้

“นั่นแหละค่ะ ที่อแมนด้าว่าน่ารัก” เธอกล่าวด้วยรอยยิ้ม เอิ้กๆๆ สงสัยแม่สาวน้อยหน้าสวยนี่จะไม่เต็ม นึกยังไงน่ะมาบอกว่าฉันน่ารัก “ อแมนด้าว่า สาวๆสมัยนี้เย้อหยิ่ง ถือตัว ไม่เหมือนแพม” เธออธิบายไปอย่างภาคภูมิใจ “ หลังจากที่พี่ปีเตอร์เล่าให้ฉันฟัง ฉันก็อยากเจอแพม เราเดินตามแพมมาตลอดเลย แต่แพมไม่รู้ตัว เพราะดูเหมือนว่าแพมจะสะกดรอยตามป้าแก่ๆคนอยู่ก็ไม่ปาน” ฮ่า ฮ่า สะกดรอยตาม....ฉันหาทางออกไม่ได้ต่างหาก ... เฮ้ย พวกนี้เห็นฉันขนาดนั้นเชียวเรอะ “ แล้วจู่ๆแพมก็มาหยุดกระทันหัน แล้วก็พูดออกมาซะเสียงดังเลย” อแมนด้าอธิบายพร้อมกับหัวเราะคิกคัก ปีเตอร์มองหน้าฉันยิ้มๆ

“น่าขายหน้าจัง ฉันทำเรื่องแบบนี้บ่อยทีเดียวเลยแหละ แต่จะให้ทำไงได้ละ ฉันไม่รู้จักที่นี่นิ พอรู้ว่าต้องไปที่ถนน เซนต์ปีเตอร์สแควร์ ฉันก็เลยตกใจนิดหน่อยน่ะ” ฉันอธิบายออกมาอย่างเปิดเผย ก่อนที่เสียงหัวเราะที่อุตส่ากักเก็บเอาไว้เพื่อรักษามารยาทของฉันจะระเบิดออกมาอีกรอบ อแมนด้าและปีเตอร์ทึ่งใรพฤติกรรมของฉันในตอนแรก แต่แล้วพวกเค้าก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างไม่เกรงใจฉันเหมือนกัน ก่อนที่อแมนด้าจะก้มหน้าเขียนบางสิ่งบางอย่างลงบนแผ่นกระดาษเล็กๆที่เธอหยิบออกมาจากกุชชี่ของเธอ

“นี่เป็นเบอร์สำหรับติดต่อกับพวกเรา” เธอยื่นกระดาษแผ่นนั้นให้ฉัน “ ถ้าเธอมีปัญหาโทรหาเราได้ทุกเมื่อ” ฉันมองหน้าพวกเค้าอย่างงุนงง เออ...ทำไมน่ะ พวกเค้าถึงได้ดีกับฉันขนาดนี้

“เธอน่าจะให้เบอร์โทรสำหรับติดต่อกลับบ่างน่ะ” ปีเตอร์ทวง

“อะ..เออได้สิ” ฉันฉีกกระดาษส่วนที่เหลื่อ พร้อมกับจดเบอร์มือถือลงไป ก่อนจะส่งมันให้อแมนด้า“ทำไมพวกเธอถึงได้ดีกับฉันจัง” ฉันถามขึ้น ก็แน่ล่ะ ฉันสงสัยน่ะ คนไม่รู็จักทำดีด้วยขนาดนี้จะไม่สงสัยได้ไง นั่นมันคนแปลกหน้าน่ะ แต่เป็นคนแปลกหน้าที่หล่อ >_< และฉันก็ทำเรื่องขายหน้าไว้เยอะซะด้วย ~_~

“อะ ถึงแล้วถนนเซนต์ปีเตอร์สแควร์” อแมนด้าเอ่ยขึ้นก่อนที่ฉันจะได้ถามคำถามต่อไป “เดี่ยวเราจะจอดให้เธอลงข้างหน้า”

“เที่ยวให้สนุกน่ะแพม เดี่ยวพวกเราจะโทรหา” ปีเตอร์พูดขึ้นก่อนที่ฉันจะก้าวลงรถ

“ยินดีที่ได้รู้จักพวกเธอน่ะ” ฉันกล่าวขึ้นพร้อมกับยิ้มหวานๆให้พวกเค้าอีกรอบ

“พวกเราก็ยินดีที่ได้รู้จักเธอจ๊ะ” อแมนด้าตะโกนกลับมา เธอน่ารักจังเลย >_* พี่ชายเธอก็น่ารัก >_<

ฉันเดินลงรถมา ยืนดูรถลีมูซีนของพวกเค้าแล่นผ่านสี่แยกไป ฉันยกเป้ขึ้นมาสะพาย

“นี่หรอลอนดอน วุ่นวายชะมัดยาก” ฉันพึมพำออกมา ผู้คนมากมายเดินกันขวักไขว่ บางคนก็วิ่งข้ามถนนด้วยความเร่งรีบจนเกือบจะเดินชนรถเข้า (ไม่ใช่รถชนน่ะ)

ฉันรื้อหาที่อยู่ในกระเป๋า เฮ้ออฉันชักเริ่มรู้สึกเหนื่อยแล้วน่ะ ปีเตอร์สแควร์ ฉันต้องหาสวนปีเตอร์สแควร์ แล้วมันอยู่ไหนหรือนี่ ฉันหมุนตัวกลับ

โป๊ก!!!

“โอ๊ย!”

ข้างหน้าฉัน อดีตข้างหน้าฉันมันเป็นเสา ฉันชนมันเข้าอย่างจัง ไอ้เสาไปเวรนี่ ฉันเจ็บน่ะ มันดันเดินมาชนฉันได้ ไม่ใช่สิฉันชนมัน เฮ้อๆๆๆ ฉันเดินกุมหัวไปตามฟุตบาศต์ฝ่าฝูงชนแห่งเกาะอังกฤษไปเรื่อยๆ ฉันแทบจะมองไม่เห็นร้านค้าที่ตั้งอยู่ด้านข้างเลย เพราะคนเต็มไปหมด ฉันต้องหาอากาศ อากาศ ไม่ไหว ฉันพยายามแหวกไปยืนอยู่ริมฟุตบาศต์

“ ฮ้าาา ที่อยู่ ที่อยู่” ฉันร้องขึ้นเมื่อจู่ๆลมก็พักที่อยู่หลุดมือไป ฉันพยายามจะเอื้อมมือไปคว้ามัน เอิ๊กๆๆๆๆ จะตกถนนแล้ว เซ เซ เซ ตกๆๆๆ ตายๆๆๆๆแน่ รถวิ่งมาแล้ว

“ยัยบ้อง จะฆ่าตัวตายรึไง” แล้วมือหนึ่งก็เอื้อมมาโอบเอวฉันไว้ เค้าดึงฉันกลับเข้ามาก่อนจะตำหนิฉัน ฉันหันหลังกลับมาอย่างฉุนๆ

“ฉันไม่ได้บ้องน่ะ คนบ้า” ฉันก้มหน้าก้มตาตะหวาดใส่เค้า “ และฉันก็ไม่ได้จะฆ่าตัวตา.......” ฉันอึ้งทันทีที่เห็นเค้า ต๊าย ตาย นั่นมันเจมส์..... ฉันขยี้ตาสองสามทีแล้วมองหน้าเค้าอีกครั้งเพื่อนให้แน่ใจว่าฉันไม่ได้ตาฝาดไป

“ถ้าอยากตายนักฉันจะอาสาพาเธอไปโดดน้ำตายที่ทาวเวอร์บริจด์ มาตายแถวนี้สกปรกถนนบริทริสแย้” ต๊ายตานี่ นายน่าลิง นายเห็นฉันเป็นอะไร หน้าตาฉันสิ้นคิดขนาดนั้นเลยเรอะ ฉันอ้าปากค้างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน หมอนี่หล่อซะเปล่า

“นาย.. นายหน้าลิง ปล่อยฉันได้แล้ว” ฉันแกะมือเค้าออกจากตัว “ ฉันไม่ได้สิ้นคิดจะฆ่าตัวตายหรอกน่ะ แต่ที่อยู่ของฉันมันกำลังปลิวตกถนนไป นายจะให้ฉันยืนมองมันลอยหายไปได้ไง” เจมส์เริ่มหน้าแดงเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเค้าจะเริ่มเคืองขึ้นมาบ่าง แต่เค้าเผยยิ้มออกมาอย่างน่าหมั่นใส้

“สิ้นคิด” เค้าเอ่ยขึ้น ฉันเริ่มรู้สึกโมโห

“นี่เจมส์ นายนี่ชักจะมากไปแล้วน่ะ” ฉันตะหวาด “ ฉันล่ะเริ่มรู้สึกเสียใจขึ้นมาแล้วแหละ หลังจากที่รู้ว่านักร้องในดวงใจไม่ล้างปาก” ฉันสาธยายไปยกใหญ่ เจมส์กลับยืนยิ้มอย่างได้ใจก่อนที่ฉันจะหมุนตัวกลับอย่างนึกฉุน ฮ่า ฮ่า และฉันก็สะดุดขาตัวเองล้มลงไปกองอยู่กับพื้น ข้าวของร่วงลงจากบ่า

“ต้องการความช่วยเหลือไม่ครับคุณผู้หญิง” เจมส์โค้งตัวลงก่อนจะส่งมือมาให้ฉัน แต่รอยยิ้มที่ริมฝีปากของเค้ามันดูหน้าหมั่นใส้ ฉันหงุดหงิดเพราะไม่อาจจะเห็นสายตาของเค้าที่ซ่อนอยู่ใต้แว่นตาดำนั้นได้ แววตาเค้าคงจะเย้ยฉันน่าดู

“ไม่ต้องหรอกค่ะ คุณสุภาพบุรุษ” ฉันกล่าวด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทั้น ก่อนจะหยับเป้แล้วเดินจากไป

เช้อ นายหน้าลิง ใส่แว่นตาตั๊กแตน แต่........เฮ้ย เจอเจมส์เว้ย .....นี่ฝันไปรึเปล่าว่ะ.....ฮ่า ฮ่า ฉันเดินตบหน้าหนาๆของฉันไปตามทางอย่างไม่น่าเชื่อ แม้จะนึกฉุนอยู่บ่างแต่กลับรู้สึกดีใจ

แต่เอ๊ะ เป้ฉันหายไปอันนี่หว่า อ้าวเต็นท์ เต็นท์หาย ฉันมองซ้ายมองขวาหาเต็นท์ของฉันอย่างรุกรี้รุกรน เฮ้อแม่จ๋าเต้นท์หนูหาย เฮ้อๆๆๆๆ




( Chapter 4 +_+ ไปพักกับฉันมั้ย 0_0 อะไรน่ะ °_°! ) โอ๊ว เจมส์ถามฉันแล้ววววววววววว น่ารักกกกก หน้าลิงน่ารัก



รักคนอ่านทุกท่านมากๆๆๆ5555



Create Date : 13 กรกฎาคม 2548
Last Update : 13 กรกฎาคม 2548 22:31:50 น.
Counter : 501 Pageviews.

12 comments
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๗ มาช้ายังดีกว่าไม่มา
(2 ม.ค. 2567 07:30:30 น.)
BUDDY คู่หู คู่ฮา multiple
(3 ม.ค. 2567 04:49:04 น.)
สวัสดีปีใหม่ Rain_sk
(1 ม.ค. 2567 21:38:33 น.)
อุ้มสีมาทำบุญ ๙ วัด ในวันขึ้นปีใหม่ที่จ.อุบลราชธานี อุ้มสี
(3 ม.ค. 2567 19:10:02 น.)
  
รู้มั้ยว่าทำไมเต้นท์แพมถึงหายไป ก็เราเอาเต้นท์ไปกางรอตอน 3 ออกงัย

อิอิ
โดย: ปาริน IP: 61.91.117.16 วันที่: 13 กรกฎาคม 2548 เวลา:2:05:40 น.
  
^^^
^^^
^^^
อย่างง เราเองแหล่ะ
โดย: ปาริน (slamp_dr ) วันที่: 13 กรกฎาคม 2548 เวลา:2:07:34 น.
  
อย่าเศร้าเลยนะ เดียวเราอดอ่านตอน 4 (ล้อเล่น)

สู้ๆๆๆ เป็นกำลังใจให้นะ
โดย: ปาริน (slamp_dr ) วันที่: 13 กรกฎาคม 2548 เวลา:2:59:55 น.
  
ขอบคุณที่แวะเยี่ยมกันนะค่ะ เดี๋ยวนิดจะตามอ่านงานย้อนหลังนะค่ะ ขอเวลาแป็ป
โดย: JewNid วันที่: 13 กรกฎาคม 2548 เวลา:10:12:50 น.
  
ดีค่า
สงสัยอ่ะ ทำไมต้องชื่อเจมส์ด้วยเหรอคะ ชอบเป็นพิเศษป่าวเอ่ย
โดย: Kitsunegari วันที่: 13 กรกฎาคม 2548 เวลา:11:26:25 น.
  
แวะมาบอกอีกทีค่ะ BPG ก็คือ Baramos Perfect Guide เรียกตามที่พี่กบบอกอ่ะ แต่ชื่อที่จะใช้จริงๆคืออะไรไม่ทราบจ้า
โดย: Kitsunegari วันที่: 13 กรกฎาคม 2548 เวลา:11:37:29 น.
  
แต่งหัวขโมยแห่งบารามาอสเยอะๆจิ

โดย: กดกด IP: 61.91.140.198 วันที่: 13 กรกฎาคม 2548 เวลา:17:15:05 น.
  
ง่า นิยายหรอ ติดไว้ก่อนนะคะ อิอิ
โดย: Robotoon วันที่: 13 กรกฎาคม 2548 เวลา:20:08:53 น.
  
ตามมาอ่านค๊า
โดย: yadegari วันที่: 14 กรกฎาคม 2548 เวลา:1:31:13 น.
  
กำลังติดตามค่ะ สนใจตอนต่อไปจัง
โดย: JewNid วันที่: 14 กรกฎาคม 2548 เวลา:11:28:11 น.
  
มาว่าบล็อคเค้ากลิ่นตุๆได้ไงอ่ะ จายร้ายยย แค่ไม่อัพอาทิตย์สองอาทิตย์เอ๊งงง ตอนนี้เรากะลังปั่นฟิคลอร์ดเรื่องใหม่อยู่อ่ะ ของบารามอสยังหาพล็อตใหม่มะได้เลย เลยยังคงที่ๆ 3 เรื่องเหมือนเดิม
แต่มั่นใจได้เลยว่าฟิคใหม่ของเราตัวหลักต้องเป็นซาตานแห่งป้อมอัศวินแน่นอน ฮ่าฮ่า

แล้วจะมาเที่ยวใหม่นะ เดี๋ยวต้องพาหมอมาหาหมา เอ๊ย หมาไปหาหมอแระ
โดย: Kitsunegari วันที่: 14 กรกฎาคม 2548 เวลา:19:00:48 น.
  
แพมเหมือนพี่มากกว่าขิมอีกนะ555
พระเอกออกนิดเดียวเอง=..=
เรื่องนี้สิ้นสุดลงแค่นี้555
พระเอกเลยออกโรงจิ๊ดเดียว
โดย: แกมแก้ว IP: 110.49.205.35 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา:16:48:12 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Emrysmerlin.BlogGang.com

emrysmerlin
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]