Oh James , I’m Really Falling 4 You โอ้ เจมส์ ฉันหลงรักนายเข้าแล้วสิ 1
เกริ่นเรื่อง

เรื่องนี้ ชื่อเต็มว่า Oh James , I’m Really Falling 4 You โอ้ เจมส์ ฉันหลงรักนายเข้าแล้วสิ
แต่เนื่องจากว่า ชื่อมันยาวไปเลยถูกตัดออก เรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสาวน้อยจอบเปิ่นวัยสิบเจ็ดผู้ไม่เคยพบรักกับใครเลยซักครั้ง จนกระทั้งวันหนึ่งเธอได้ไปเที่ยวที่ต่างประเทศ ที่ กรุงลอนดอน และความเบอะบะของเธอก็ได้ไปเดินชนกับนักหนุ่มชื่อดังแห่งเกาะอังกฤษ และเค้าได้เชิญเธอไปพักด้วยที่ห้องด้วยเหุตผลที่ว่า ไม่อยากให้เธอไปกลางเต็นท์อยู่ข้างนอกคนเดียวหลังจากที่พูดคุยกันไปได้พักหนึ่ง (เถียงกัน) แพมตอบตกลงอย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง ถึงแม้ว่าระหว่างเค้าสองคนจะมีปากมีเสียงกันบ่าง แต่เธอก็เป็นพวก...ว๊ายกรี๊ด ดาราชวนฉันไปพักด้วย........ อะไรประมาณนั้น แล้วในที่สุดแพมก็ตกหลุมรักเค้าเข้าจนได้ แต่ว่าเค้าจะคิดยังไงกับเธอล่ะ ติดตามกันเลยน่ะค่ะ

Chapter 1 วันรับใบเกรด

โรงเรียนมัธยมปลายในเมืองเล็กๆแห่งหนึ่งของประเทศเยอรมันกำลังครึกครื้นไปด้วยเหล่านักเรียนที่เตรียมตัวมารับใบเกรด วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่พวกเค้าจะมาโรงเรียน หลังจากนั้นอีกสองเดือนถึงจะได้กลับมาที่นี่อีก ต่างคนต่างสนุกสนานกับการพูดคุยถึงเรื่องที่เที่ยวที่พวกเค้าจะไปในช่วงวันหยุดภาคฤดูร้อนนี้ ฉันกำลังยืนรอแอนนิต้าเพื่อนสนิทของฉันอยู่หน้าโรงเรียน ซึ่งดูวี่แววว่าจะไม่โผล่หัวออกมาง่ายๆ

“เมื่อไหรจะมาน่ะ ยายแอนนี่”ฉันพึมพำ

“เดี๋ยวเค้าก็มาแหละ” เสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลัง มันปลุกโสตประสาทของฉันให้บังคับตัวหหมุ่นกลับไปหาก่อนจะมองหน้าเค้า

“อ้าว มาแล้วหรออเล็ก” ฉันถามขึ้น เค้าส่งยิ้มหวานๆมาให้ฉัน เค้าแลดูน่ารักอยู่ไม่หยอก เค้าสูงประมาณ 180 เซนติเมตร ฉันจึงต้องแหงนหน้ามองเนื่องจากฉันเตี้ยกว่าเค้าอยู่นิดหน่อย จะว่าไปแล้วก็ไม่หน่อยเท่าไหร่ ฉันเตี้ยกว่าเค้าอยู่ประมาณ 18 เซนติเมตร อเล็กมีผมสีทอง นัยน์ตาสีฟ้า เค้าเป็นคนรัสเซียย้ายมาอยู่นี่ได้ประมาณห้าปีได้ เค้าเป็นคนฉลาด และเฟอร์เฟค หากใครได้เค้าเป็นแฟนคงเหมือนกับบุญหล่นทับ อะไรประมาณนั้น แต่ว่าเราเป็นแค่เพื่อนกัน ฉันคงคิดแบบนั้นกับเพื่อนไม่ได้ “แอนนิต้านี่ชอบมาสายประจำเลย” ฉันบ่นในขณะที่สายตายังจ้องไปที่หน้าเค้า

“อืม งั้นมั้ง” เค้าตอบ เค้าช่างเป็นคนพูดน้อยจริงๆๆ “ปิดเทอมนี้เธอจะไปเที่ยวไหนหรอ แพม” เค้าถามฉัน

“อืม ฉันว่าจะไปเที่ยวประเทศอังกฤษซักสามอาทิตย์น่ะ แล้วนายล่ะ”

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน อยู่แถวนี้มั้ง” เค้าตอบอย่างเซงๆ “เธอเดินทางคนเดียวหรอ” เค้าถามแต่ยังไม่ทันที่ฉันจะตอบฉันก็ลากแขนเค้าตรงไปหาแอน

“เออนั้นไงยัยแอนนี่มาแล้ว” ฉันพูดขึ้นพรางลากอเล็กวิ่งตรงไปหายัยเพื่อนซี้จอมมาสาย ฉันมาหยุดอยู่หน้ายายแอนมือข้างหนึ่งของฉันเผลือยื่นออกไปเขกหัวยัยแอนอย่างรั้งไม่อยู่

“โอ๊ย ยัยบ้ามาเขกฉันทำไมย่ะ” ยายแอนบนอุบ

“เธอมาช้าน่ะแอน ฉันรอตั้งนาน นี่เธอรู้มั้ยว่าฉันยืนรอจนขาแข็งแล้ว” ในขณะที่ฉันพร่ามแต่ดูเหมือนว่าแอนจะไม่ได้ฟังฉันเลย สายตาของเธอจับจ้องไปยังอเล็กอย่างอาวรณ์ ฉันมองไปยังแอนก่อนจะหันหน้ามามองอเล็ก และฉันก็พบว่าเค้ากำลังมองฉันอยู่ นี่มันหมายความว่าไงนี่ “เออ เข้าห้องดีกว่า” ฉันกล่าวขึ้น ยายแอนสดุ้งพรางส่ายหัวสองสามที เราสามคนเดินขึ้นห้องไป แอนและฉันนั่งลงบนเก้าอี้ของตน แต่อเล็กกลับมายืนอยู่เบื่องหน้าฉัน

“แพม เธอจะไปเที่ยวคนเดียวหรอ” อเล็กถามด้วยสีหน้าจริงจัง ฉันจ้องหน้าเค้าอย่างฉงน

“อืม ทำไมง่ะ”

“ฉะ... ฉันไปด้วยได้มั้ย” อเล็กหน้าแดงก่อนจะเบือนหน้าหนี “ เป็นผู้หญิงเดินทางคนเดียว ไม่ปลอดภัยน่ะ ฉันเป็นห่วง” เค้ากล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แต่ฉันอึ้ง ......ที่เค้าพูดแบบนี้..

“เฮ้อ โถ้ นายไม่มีที่ไปก็ว่าเถอะ แหมทำเป็นพูด ต่อให้ฉันไปคนเดียวก็ไม่เป็นไรหรอก ฉันน่ะมีหน้าตาเป็นอาวุธ” ฉันเริ่มพูดกลบเกลื่อนเพราะความอายก่อนที่มือจะฟาดไปที่แขนเค้าป๊าบใหญ่ เสียงหัวเราะที่ไร้มารยาทของฉันดังลั่นห้อง แต่พอฉันหันกลับไปหาแอน กลับเห็นเธอนั่งซึม อเล็กยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ ฉันชักเริ่มไม่แน่ใจว่าควรจะให้เค้าไปด้วยดีมั้ย ฉันคงสงสัยไปเองมั้ง แอนอาจจะไม่ได้ชอบอเล็กก็ได้

“นักเรียนทุกคนฟังทางนี้” อาจารย์แบรนด์เอ่ยขึ้น ทำให้เสียงพูดคุยภายในห้องเงียบลง

“อาจารย์วากเนอร์มาแจกใบเกรดให้พวกเธอไม่ได้ เพราะฉนั้นครูจะเอาใบเกรดพวกเธอวางไว้นี่ ใครที่ได้รับแล้วให้เซ็นต์ชื่อลงในสมุดนักเรียน

เมื่อทุกคนเซ็นต์แล้วให้หัวหน้าห้องเอาสมุดไปยื่นที่ฝ่ายปกครองพร้อมๆกับใบเกรดที่เหลือของคนที่ไม่ได้มารับในวันนี้ หลังจากนั้่นให้พวกเธอกลับบ้านได้” สิ้นเสียงอาจารย์แบรนด์ เสียงนักเรียนในห้องก็ฮือฮาขึ้นอย่างดีใจ ดีใจหรอ ดีใจเพราะอะไร ดีใจที่พวกเราไม่ต้องมานั่งฟังอาจารย์วากเนอร์นั่งเทศไงล่ะ หากพวกคุณต้องมาอยู่ในห้องที่ฉันเรียนอยู่นี่ละก็คุณจะรู้สึกเบื่อไปในบันดล เพราะถ้าคุณได้อาจารย์วากเนอร์มาเป็นอาจารย์ประจำชั้น เค้าสามารถนั่งเล่าเรื่องครอบครัวที่แสนน่ารักเค้าให้คุณฟังจนคุณเบื่อไปเลย จริงอยู่ครอบครัวอาจารย์น่ารักจริงแต่ว่าการที่เราฟังเรื่องเดิมๆซ้ำๆกันหลายๆครั้งมันก็น่าเบื่อไม่น้อย

“ไปดูเกรดดีกว่าแพม” แอนนี่เอ่ยขึ้นพร้อมกับลากแขนฉันออกไปหน้าห้อง เราไปยืนต่อแถวรอรับ แอนยืนอยู่หน้าฉันส่วนอเล็กยืนต่อจากฉันไป แอนเดินเข้าไปค้นหาใบเกรดของเธอหลังจากที่ซาแมนท่าออกจาหแถวไปแล้วเซ็นต์ชื่อ คนต่อไปก็คือฉันซิน่ะ ฉันไม่อยากจะคิดเลยว่าเกรดจะเป็นแบบไหนหวังว่ามันจะดีขึ้นน่ะ

“โอ๊ว พระเจ้า” แอนนี่อุทานด้วยความดีใจหลังจากเปิดดูเกรด “ฉันได้หนึ่งหมดเลย เยี่ยม” เธอพูดพรางเขย่ามือฉันอย่างตื่นเต้น ฉันไม่แปลกใจเลยหากเธอจะได้หนึ่งรวด แต่ฉันจะแปลกใจมากกว่าหากเธอได้สองน่ะนะ ซึ่งมันต่างจากฉัน ฉันกอดเธอก่อนจะหอมเธอที่แก้มฟอดใหญ่ แล้วตรงไปหาใบเกรดของฉัน ฉันหยิบมันขึ้นมาก่อนจะเซ็นต์ลายเซ็นต์ลงบนสมุดรายชื่อแล้วเปิดอ่านดูเกรด

“เฮ้อ เฮ้อ... เหมือนเดิมเลย” ฉันพึมพำ แอนนี่เชง้อคอมองอย่างอยากรู้อยากเห็น ฉันส่งเกรดให้เธอดู

“ไม่เป็นไรหรอก เธอเพิ่งมาอยู่นี่ได้ไม่นานเองน่ะ” แอนปลอบใจฉัน

“ยากจังน่ะภาษาเยอรมันน ฉันได้เกรดสี่อีกแล้ว” ฉันบนทำหน้าเสียใจเล็กน้อย แต่เชื่อเถอะถ้าฉันถึงบ้านเมื่อไหร่ฉันจะลืมมันทันที ฉันเป็นพวกไม่ค่อยสำนึกเท่าไหร่น่ะ

“แต่ฉันว่าเธอเก่งน่ะ ดูสิ วิชาอื่นเธอได้สองหมดเลย คนที่อยู่นี่มาแต่เกิดยังทำไม่ได้เลยน่ะ” แอนกล่าวพรางส่งยิ้มมาให้ เธอแลดูน่ารักเหลือเกิน นัยน์ตาสีน้ำตาลคู่นั้นดูสดใสทุกครั้งที่เธอพยายามจะทำให้ฉันมีความสุข

“เฮือ..... เธอเลิกทำตาหวานได้แล้วเลียน” ฉันพูดก่อนจะเอื้อมมือไปหมุนหน้าเธอหนีไปทางอื่น เราหัวเราะผสมโรงกันยกใหญ่

“แต่จะว่าไป หากเธอได้หก เธอคงจะสำนึกมากกว่านี้น่ะแพม ฮ่าฮ่าฮ่า” แอนนี่แซวก่อนจะหัวเราะอีกระรอก ฉันล่ะอยากจะเอาค้อนทุบหัวเธอนัก..... ฉันชอบเวลาที่แอนนี่หัวเราะมาก เธอดูสดใส เธอทำให้ใจฉันพองโตอย่างบอกไม่ถูก

“ไปกันเถอะ” อเล็กกล่าวขึ้นหลังจากที่เซ็นต์ชื่อเสร็จ พวกเราพยักหน้ารับ แล้วเดินออกจากห้องไปพร้อมๆกัน

“แอน ไปเล่นกับเราที่บ้านก่อนมั้ย เราจะออกเดินทางวันพรุ้งนี้แล้วน่ะ” ฉันหันหน้าไปถามแอน

“ฉันต้องขอโทษจริงๆน่ะแพม วันนี้ฉันต้องไปเยี่ยมคุณปู่ที่โรงพยายาบาลน่ะ” แอนเอ่ยพรางมุ่นคิ้วอย่างเสียดาย ฉันก็รู้สึกเสียดายเหมือนกัน “แต่ฉันจะโทรหาเธอน่ะ” เธอกล่าวอย่างกระตือรือร้น ฉันพยักหน้ารับพร้อมกับส่งยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตร พวกเราส่งแอนก่อนเพราะบ้านแอนเป็นทางผ่านบ้านของฉันและอเล็กพอดี ฉันจูบลาแอนแล้วเดินต่อไป

“เฮ้ออ หยุดซะทีน่ะ” ฉันถอนหายใจมาอย่างโลงอก ส่วนอเล็กก็ได้แต่พยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย

“เกรดนายเป็นไงบ่าง” ฉันถามขึ้น

“เหมือนเดิม” เค้าตอบ

“นายนี่ก็เก่งเหมือนเดิม ได้หนึ่งรวดละสิ ฉันนี้โง่จังไม่น่าถามเลย” ฉันหัวเราะแห้งๆ แน่ล่ะ คนอย่างอเล็กไม่มีวันปล่อยให้เกรดตกหรอก

“แพมจองเที่ยวบินของสายการบินอะไรหรอ เย็นนี้ฉันจะได้จองด่วน” อเล็กถามขึ้น ฉันลืมเรื่องนี้ไปสนิทเลย

“อะ.. เออ ของลุฟทันซ่าน่ะ รอบเจ็ดโมงเช้า” ฉันตอบ

“งั้นเดี๋ยวฉันไปรับเธอน่ะ”

“เออ แม่ฉันจะไปส่งที่สนามบินน่ะ เอางี้ดีกว่าเดี๋ยวฉันเข้าไปหานาย” ฉันตอบ “ แม่ฉันตื่นเต้นมากเลยแหละ กับการเดินทางไปต่างแดนครั่งแรกของฉัน ฉันหมายถึงการไปคนเดียวน่ะ” ฉันอธิบาย อเล็กยิ้มกลับมา เค้ายิ้มแบบนี้อีกแล้ว ยิ้มแบบที่เรียกว่า ละลายหัวใจคนได้ แม้เค้าจะพูดน้อยแต่รอยยิ้มนั่นมันก็สยบใจฉันได้ทุกครั้ง

“งั้น...เจอกันพรุ้งนี้น่ะอเล็ก” ฉันบอกลาเค้าเมื่อพวกเราเดินมาถึงหน้าบ้านฉัน

“แล้วเจอกันพรุ้งนี้นะแพม” อเล็กบอกลาพร้อมกับโบกมือให้ฉัน แล้วเดินจากไป


“แม่ค่ะ ทายสิวันนี้แพมได้เกรดอะไร” ฉันตะโกนขึ้นทันทีที่เปิดประตูเข้าบ้านได้

“ได้อะไรหรอจ๊ะลูกรัก” แม่ตะโกนกลับมา ในขณะที่ฉันเดินตามหาแม่เพราะไม่รู้ว่าแม่อยู่ส่วนไหนของบ้านกันแน่

“ได้สองรวด แต่ได้เยอรมันสี่ แม่อยู่ไหนค่ะ” ฉันตอบแม่ก่อนจะถามขึ้น

“แม่อยู่ในครัวจ้า” แม่ตอบ “ แล้วลูกเสียใจรึเปล่าจ๊ะเรื่องเกรดลูกน่ะ” แม่ถามมาอย่างอ่อนโยน แม่เป็นคนที่เข้าใจฉันเสมอ เธอไม่เคยต่อว่าเรื่องผลการเรียนของฉันเลยซักครั้ง เธอจะให้กำลังใจฉันเสมอในยามที่ฉันท้อแท้ เธอมักจะพูดว่า ทำไปเถอะลูก ทำในสิ่งที่คิดว่าดีต่อตัวลูก แม่ไม่สามารถเรียนเพื่อนลูกได้ อย่าเสียใจถ้าหากเราทำไม่ได้อย่างที่หวัง ให้ลุกขึ้นมาแล้วพยายามมันอีกครั้ง
คำพูดของแม่ย้ำอยู่ในใจฉันตลอด บางครั้งฉันเหนื่อยที่จะต้องเรียนภาษาที่ไม่ใช่ภาษาตัวเอง แต่แม่ก็จะให้กำลังใจฉันเสมอ

“ก็มีบ่างค่ะแม่” ฉันตอบ

“เรายังอยู่ที่นี่ไม่นาน การจะเรียนภาษามันต้องใช้เวลาพอสมควร ครั้งหน้าพยายามใหม่อีกที แม่เชื่อว่าลูกทำได้” แม่ตอบกลับ “ แม่ว่าลูกไปเตรียมของดีกว่า ไปหาความสุขให้เต็มที่ แล้วกลับมาต่อสู้กับปัญหาที่รอเราอยู่ข้างหน้าดีกว่า”

“ขอบคุณค่ะแม่” ฉันวิ่งขึ้นไปบนที่ห้องของฉัน ฉันเตรียมยัดเสื้อผ้าลงในเป้ที่เตรียมไว้ อันหนึ่งเป็นเต็นท์ที่เตรียมไปด้วย เป้ใหญ่เป็นเสื้อผ้าของฉัน ฉันต้องเตรียมเต็นท์ไปเพราะฉันคงจะไม่ไปพักที่โรงแรมหรอก เพราะที่นั่นมันแพงจะตายไป ฉันอาจจะไปพักอยู่สวนเช่าของน้าในกรุงลอนดอน แล้วไปอาบน้ำที่ห้องอาบน้ำสาธารณะที่ไหนซักแห่ง

++++++++++++++++++++

!!! เกรด ของ ประเทศเยอรมัน !!!!
1: ดีมาก
2: ดี
3: ปานกลาง
4: พอใช้
5: ต้องปรับปรุง
6: 0



Create Date : 10 กรกฎาคม 2548
Last Update : 11 กรกฎาคม 2548 19:34:07 น.
Counter : 556 Pageviews.

5 comments
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๗ มาช้ายังดีกว่าไม่มา
(2 ม.ค. 2567 07:30:30 น.)
BUDDY คู่หู คู่ฮา multiple
(3 ม.ค. 2567 04:49:04 น.)
ทนายอ้วนจัดดอกไม้ - จัดดอกไม้ง่ายๆ – แจกันสวัสดีปีใหม่ 2567 - กุหลาบพวงสีชมพู - ขาว ทนายอ้วน
(2 ม.ค. 2567 15:16:32 น.)
สวัสดีปีใหม่ Rain_sk
(1 ม.ค. 2567 21:38:33 น.)
  
สวัสดีค่ะ
แวะมาทักทาย เลยได้นิยายอ่านด้วย ดีใจค่ะ
ติดตามตอนต่อไปนะคะ

ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมนะคะ
โดย: journey (thai_friends ) วันที่: 11 กรกฎาคม 2548 เวลา:7:19:31 น.
  
ว้าว...ชอบจัง

ตอนแรกกะเข้ามาขอบคุณที่แวะไป

แต่ดีจังได้อ่านนิยายด้วย...สงสัยจะติดแล้วล่ะ

มีตอนต่อไปป่าวอ่ะ เอาใจช่วยแพมกะอเล็กนะ
โดย: slamp_dr วันที่: 11 กรกฎาคม 2548 เวลา:10:57:52 น.
  
หวัดดีค่ะ เข้ามาเยี่ยมเยียน จขบ. ค่ะ
โดย: To feel happy วันที่: 11 กรกฎาคม 2548 เวลา:13:09:49 น.
  
ขอบคุณที่แวะมาทักทายค่ะ
ดีจังมีนิยายให้อ่านด้วย.....
โดย: หัวใจสีม่วง วันที่: 11 กรกฎาคม 2548 เวลา:13:19:36 น.
  
อ่านแล้วสนุกดีน่ะลุ้นดี เป็นกำลังใจให้คนเขียนน่ะ
โดย: โบว์ IP: 202.28.34.244 วันที่: 10 สิงหาคม 2548 เวลา:11:40:50 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Emrysmerlin.BlogGang.com

emrysmerlin
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]