Part 1 : 4 วัน 3 คืน เปิดประสบการณ์เที่ยวเกาหลี กับทัวร์ ไปเที่ยวเกาหลีกันไหม มาไปตอนเขาเลิกฮิตกันแล้ว เกริ่นนำกันก่อน ... จริงๆแล้วไม่เคยมีความคิดที่จะไปประเทศนี้เลย แต่เพราะต้องไปศึกษาดูงานปริญญาโท กับมหาลัย โหวตกันไปโหวตกันมา วงเงินที่ได้อยู่ในงบที่สามารถไปเกาหลี (เดินทางวันที่ 8 มิถุนายน 2559 ถึงวันที่ 12 มิถุนายน 2559 ได้ในราคาคนละ 15,900 ทั้งหมด 30-35 คน << จ่ายค่าไกด์ท้องถิ่นต่างหากอีกคนละ 750 บาท / 25,000 วอน ราคา ณ เดือนมิถุนายน 2559 อัตรา 100 วอน = 30 บาท >> เราเห็นว่าราคาไม่แพงมาก เลยตัดสินใจไปค่ะ  รู้ว่าจะไปก็เตรียมความพร้อมโดยไปจอง Pocket Wifi จากงานท่องเที่ยวในราคาวันละ 200 บาท จาก Samuri Wifi (Global Wifi) ซึ่งใช้งานได้ลื่นไม่มีค้าง ไม่มีหลุด เราใช้กัน 2 คนกับคุณแฟน (คือมีเพื่อนบ้างคนซื้อซิมเกาหลีไป 300 บาท แต่เนทค้างไป ครึ่งชั่วโมงค่ะ ) คือนัดวันที่ 8 มิถุนายน 2559 เวลา 21.30 น. ที่สนามบินสุวรรณภูมิ บินจริงเข้าคืนวันที่ 9 มิถุนายน เวลา ตี 1 (โปรแกรมทัวร์นี้เขียนซะสวยยังกับไป 5 วัน 4 คืน แต่....จริงๆแล้วเปล่า ไปแค่ 4 วัน 3 คืน > < !)  อาหารเช้าบนเครื่องจินแอร์  กว่าจะถึงสนามบินอิซอนปาไป 9.00 น.  กว่าจะได้ออกจากสนามบิน เพราะทัวร์ให้เวลาแปรงฟัน เปลี่ยนเสื้อผ้าก็ 10.50 น. มากับทัวร์ก็ดีตรงเรื่องเอกสารค่ะ กรอกให้เสร็จสรรพ เราแค่เซ็นต์ชื่อ ตรงที่เขาไฮไลท์ไว้  โปรแกรมวันที่ 1 (9 มิถุนายน 2559) ประเดิมด้วยเมนู "ทัคคาลบี้" (Dakkalbi) // ไปเกาะนามิ // ไปสวนสนุกเอเวอร์แลนด์ // มื้อเย็นทานบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างใกล้สวนสนุกเอเวอร์แลนด์  คือหิวมาก ขอบอกกว่าจะเดินทางถึงร้านก็ 13.20 น. ต้องผัดทุกอย่างให้เข้ากันแบบนี้     หิวแต่กินได้ไม่มาก เพราะว่าเมนูนี้ "มัน และเลี่ยนมากค่า" น้ำจิ้มที่มีคือน้ำจิ้มเต้าหู้ยี้เค็มๆ เท่านั้น เลยเลือกกินแต่ไก่กับผักกะหล่ำจิ้มน้ำจิ้มเต้าหู้ยี้  ทานเสร็จก็เดินชมของฝากภายในร้าน         หน้าตารถทัวร์ที่ให้บริการเราค่ะ  ไม่รู้ว่าร้านที่มาทาน "ทัคคาลบี้" (Dakkalbi) ชื่อร้านอะไร แต่เห็นว่ารถทัวร์มาใช้บริการเยอะ แถมไกด์บอกว่าอยู่ใกล้กับทางไปเกาะนามิ เลยถ่ายรูปบรรยากาศรอบๆร้านมาให้ชม เดินออกมานอกร้านก็เจอวิวแบบนี้  ข้างๆร้านมีร้านสะดวกซื้อ  คาดว่านี้คงเป็นชื่อร้าน  อิ่มแล้วก็ไปเกาะนามิกัน เราต้องข้ามเรือเฟอร์รี่ก่อนถึงจะมาถึงเกาะนามิได้ ใช้เวลาข้ามเรือแค่ 10 นาที  อยากลองปั่นจักรยานแบบนี้บ้าง ขี้เกียจเดิน   มาแล้วก็ต้องมาถ่ายมุมยอดฮิต   ที่เกาหลีก็มีใบไม้เปลี่ยนสีนะ         มีซาลาเปาขายด้วย แต่...ลูกละ 30 บาท    จากนั้นก็ไปเอเวอร์แลนด์กันต่อค่ะ ออกเดินทางจากเกะานามิ 16.00 ถึงเอเวอร์แลนด์ 18.00 (สรุปเดินทางไป-กลับเกาะนามิใช้เวลา 4 ชั่วโมง) แล้วไปถึงก็เป็นเกาะที่ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจสำหรับเรา  ค่าเข้าที่นี้เมื่อคิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,400 บาท (แพงโคตร) และแถมสวนสนุกปิด 20.30 น. ทัวร์พามาตอน 18.00 น. จะเล่นได้กี่อย่าง คือ ถ้ามาเองจะแพลนไว้ที่นี้ 1 วันโดยเฉพาะ ซึ่งก่อนมาเราห่ข้อมูลมาบางแล้วว่าจะเล่นอะไรที่เป็นไฮไลท์สุดๆของที่นี้ มาถึงก็รีบตรงดิ่งไปหาสิ่งนั้นทันที    ชิงช้าก็น่าขึ้น  ของที่ระลึกนี้หยุดถ่ายอย่างเร็วเพราะต้องรีบจ้ำไปหาเจ้า T Express รถไฟเหาะรางไม้ที่สูงที่สุด  ต้องมาต่อกระเช้านี้ลงไปอีกกว่าจะเจอเจ้า T Express   เห็นรางรถไฟเหาะมาแต่ไกล แต่ใจไปถึงนานแล้ว อยากเล่นมาก  ขอเซลฟี่กับคุณโดนัท เจ้าหน้าที่นำทัวร์ของคณะเสียหน่อย (ไกด์ท้องถิ่นที่แนะนำสถานที่ต่างๆบนรถบัสก็เป็นหญิงไทยชาวใต้ค่ะ แต่มาแต่งงานกับคนเกาหลี ป้าแกไม่ได้เดินมาด้วย)  ลงกระเช้าก็เดินมาอีกไกลพอควรค่ะ กว่าจะเจอ T Express วิ่งจนลิ้นห้อย (กลัวไม่ทัน กลัวคนเยอะ 555)  ซึ่งคนเยอะจริงค่ะ ต้องยืนรอคิวอีกเกือบ 20 นาที  ระหว่างรอก็ยืนถ่ายรูปเล่นไป    กว่าจะได้ขึ้นดีใจสุดๆ ต่อคิวตั้งนานเล่นไปแค่ 3 นาที เสียวหัวใจจะวาย อยากเล่นอีกแต่เห็นคนรอต่อคิวแล้วเหนื่อย  แวะทานไอศรีมกันหน่อย เขาว่าอร่อย  ถ้วยเล็ก 3,000 วอน / 91 บาท  ทำเป็นเกล็ดกลมๆทานง่าย เคี้ยวง่าย อร่อยดีค่ะ มันก็เหมือนไอศรีมทั่วไปเพียงแค่อณูมันเล็กลง  มื้อเย็นทัวร์พามาทานบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างที่ร้านนี้ เขาว่าอยู่ใกล้สวนสนุกเอเวอร์แลนด์   บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างมีทั้งไก่ หมู เนื้อ จัดหนัก จัดเต็ม และที่พลาดไม่ได้คือทานคู่กับน้ำจิ้มเต้าหู้ยี้ แต่ทางทัวร์ได้เตรียมน้ำจิ้มแจ่วมาให้ค่ะ   ชิ้นนี้เนื้อหมักซอสแอปเปิ้ลกับสาลี่ที่รสชาติออกหวาน นุ่ม (หวานไปสำหรับเรา) ทัวร์ให้เวลาทาน 1 ชั่วโมง  บรรยากาศภายในร้านชั้น 2   บรรยากาศภายในร้านชั้น 1   และตามธรรมเนียมทางร้านที่ทัวร์พามามักจะมีของที่ระลึกขายคู่ไปด้วย     เจอเจ้าแมวกระปุกออมสินโดยบังเอิญ น่ารักมาก อยากได้ แต่...พอคิดราคาเงินไทยเท่านั้น พี่ปล่อยให้มันอยู่แบบเดิมดีกว่า ตั้ง 600 บาท แถมหากถ่านหมดเขาว่าถ่านแพง  กว่าจะถึงโรงแรมก็ 22.00 กว่าแล้ว ตาเริ่มจะปิด คืนนี้เราพักที่โรงแรม Siheung ในเมืองซูวอน (ไกด์บอกอ่านจำง่ายๆว่า ชี - หึ่ง)  ห้องเราอยู่สุดมุมทางเดินพอดี     ห้องน้ำโอเคค่ะสะอาดใช้ได้ คราบที่เห็นในอ่างน้ำนั้นคือ ลายของหินอ่อนนะไม่ใช่คราบสกปรก  แต่..ขอตินึดนึงพอเปิดประตูเข้ามาไม่ทราบว่าเป็นเพราะห้องปูพรม ห้องชื้นแอร์ ห้องน้ำชื้น หรืออับอากาศ มันมีกลิ่นเหมือนคนสูบบุหรี่อะ แต่พอเปิดแอร์ไปสักพักกลิ่นก็หายไปค่ะ นอนหลับสบายไม่มีกลิ่นเหม็น มารบกวน  อาบน้ำเสร็จก็เดินไปสำรวจรอบๆโรงแรมสักหน่อย พักคืนเดียวต้องไปเก็บรายละเอียด  ข้างๆ โรงแรมมีร้านขายไก่เกาหลีด้วย   ไปที่ไหนก็เห็นแต่ป้าย ซงจุงกิ ดาราสุดฮิต  ด้านหน้าโรงแรม  ฝั่งตรงข้ามโรงแรมก็มีเซเว่น รอดตายละ  มีบาร์ มีร้านอาหาร สิ่งบันเทิงครบ   เข้ามาสำรวจของในเซเว่นดีกว่า อันนี้ห่อน่ารักดี   ขนมนี้เคยซื้อกินที่ไทย แบบว่าไม่อร่อย ของญึ่ปุ่นอร่อยกว่า แถมที่สำคัญราคาเท่ากับบ้านเรา กล่องละ 35 บาท  คงเป็นเลย์บ้านเขา พออ่านว่าเป็นรส Honey Butter หยุดเลยเกือบจะซื้อแล้ว คงออกหวานนำ    น้ำต่างๆ แพ็กเกจยังไม่ค่อยน่าดึงดูดใจให้ซื้อเท่าที่ประเทศญี่ปุ่น  มุมนมกล้วยยอดฮิตราคาขววละ 36 บาท  คือคล้ายๆ นมกลิ่นกล้วยยี่ห้อแดรี่ ฟาร์มบ้านเรา แต่ของเกาหลีออกหวานกว่า  เลยซื้อน้ำแบบนี้มาลองทานน่าจะดีกว่า แล้วก็รสชาติดีจริงค่ะ เหทือนน้ำผักผลไม้ยูนิฟบ้านเรา   มาดูอาหารเช้ากันบ้าง เจอแฮมที่นี้เราก็บายเลย     ข้าวผัดน้ำมันเยิ้มมาก  กับข้าวนี้กินกับข้าวต้มค่ะ (ข้าวต้มบ้านเขาจะมีเนื้อข้าวน้อยกว่าบ้านเรามาก เน้น !! ว่ามาก เพราะตักขึ้นมามีแต่น้ำ    เล็งแล้วตักมาทานได้เท่านี้จริงๆ รสชาติจืดสนิท  มาสำรวจรอบโรงแรมยามเช้ากัน   มีร้านสะดวกซื้อหลายร้านไม่ต้องห่วงว่าจะอดตายค่ะ (เพราะอาหารเช้าไม่ได้เรื่องเลย และเป็นเช้นนี้ทุกโรงแรมที่เราพัก ต้องทำใจกับอาหารเช้า ใครทานไม่ได้ต้องไปซื้อทานเอง)  รอต่อ Part 2 : 4 วัน 3 คืน เปิดประสบการณ์เที่ยวเกาหลี กับทัวร์ จะพาไปเที่ยวชมงานที่ซัมซุง ดีไลท์ และที่อื่นๆอีกมากมายค่า
|
Emmy Journey พากิน พาเที่ยว
 ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]บทความทั้งหมด
|
||||||||||||||||||||||
 |
|
