การเข้าเฝือกครั้งที่ 4 ในชีวิต!!
  อืม....ให้มันได้อย่างนี่สิคนเรา เรื่องซุ่มซ่าม ผลุบผลับ ไม่ค่อยระมัดระวังนี่เป็นที่หนึ่งเลยเรา และกว่าจะได้เขียนรีวิวก็ผ่านไปจะ 7 เดือนกว่าแล้ว 555 มาดุกันดีกว่าค่ะว่าความซุ่มซ่ามของเดี๊ยนเริ่มต้นได้อย่างไร แต๊น...แตน.....เช้าวันหนึ่ง ขณะกำลังยืนคอยรถอยู่ที่ป้ายรถเมล์เพื่อที่จะไปทำงาน (วันที่ 3 กันยายน 2556)  จู่ๆ รถเมล์คันที่หมายปองก็มาจอดเทียบท่า ผู้คนต่างหลั่งไหล กรูกันขึ้นรถเมล์ประหนึ่งว่ามันมีคันเดียวในโลก (ชีวิตคนเมืองนี่มันน่าอนาถเยี่ยงนัก) และแล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น 

เราก้าวขาซ้ายลงจากฟุตบาท เพื่อที่จะขึ้นรถเมล์แล้วขาเกิดพลิก (เสียงที่ได้ยิน คือ....กร๊อบ...และเราก็ร้องโอ๊ะ!!) ลงไปนั่งพับเพียบกับพื้นถนน แต่สิ่งที่โหดร้ายกว่านั้นก็คือ ผู้คนที่ไม่ว่าจะทั้ง ผู้ชาย ผู้หญิง หนุ่มสาว คนแก่ ต่างไม่สนใจสิ่งรอบข้างที่เกิดขึ้น (ประหนึ่งว่าเสียงที่ได้ยินจากปากตรูเป็นเสียงนกเสียงกา) ทุกคน.....ขอย้ำว่า "ทุกคน" ยังคงกรูกันแย่งขึ้นรถเมล์กันอยู่ แทบข้ามหัวตรูไปเลย ไอ้เราก็เลยต้องรีบลุกขึ้นยืน ทั้งๆ ที่ขาก็เจ็บแปล๊บ ร้าวระบม ตะเกียกตะกายขึ้นรถเมล์คันนั้นไปด้วย (สังคมเมืองหลวง ก็งี้ละ ไม่ค่อยมีใครช่วยใคร น้อยคนนัก) ขึ้นไปใช่ว่าจะมีที่นั่งต้องทนยืนไปตลอดทางทั้งๆ ที่ขาร้าวระบม แล้วเริ่มมีอาการบวม ปวด เจ็บ T T พอถึงที่หมายยังกัดฟันทนเดินไปจนถึงที่ทำงานอีกแนะ (ดีนะที่แวะซื้อน้ำแข็ง กับยาทา + ผ้ายืดพันข้อเท้ามาด้วย ยังสามารเดินไปซื้อได้อีกแนะ) ขึ้นไปถึงทีีทำงานก้ใช้หลักการปฐมพยาบาลเบื้องต้น คือ ทำความสะอาดข้อเท้าที่เจ็บ ไม่มีบากแผล มีแต่การบวม /ใช้น้ำแข็งประคบ/ใช้เจลเย็นแก้เอ็น หรือแก้ข้ออักเสบทา แล้วเอาผ้ายืดพันเท้าไว้ก็ค่อยยังชั่วหน่อย แต่ทว่า.....ตกบ่าย...เริ่มปวดหนักเดินไปเข้าห้องน้ำแทบไม่ไหว ต้องกัดฟันเดินเอา ถึก ทน เยี่ยงนักเรา แม่บอกให้ไปหาหมอ เราก็ไม่ไป (นึกในใจว่าตรูจะเดินไม่ไหวแล้วอ่า เจ็บเหลือเกิน ยังจะให้ไปโรงพยาบาลอีก) ทน....ทน...จนเย็นเลิกงานยังกัดฟันเดินไปขึ้นรถเมล์ต่อรถตู้กลับบ้านอีก ในที่สุดก็ไปโรงพยาบาลแถวบ้าน เพราะมีประกัน หมอเช็ดอาการเบื้องต้นแล้ว แจ้งว่ามีอาการบวม อักเสบของเส้นเอ็น (เอ็นฉีกว่างั้น) แถมสาธิตโดยการกดลงไปตรงข้อขาที่เราบวม (ร้องกรี๊ด...ดดดดลั่นโรงพยาบาลเลย จะกดเพื่อ..... Y Y ) หมอไม่รีรอจับเข้าเฝือกเลย เนื่องจากเส้นเอ็นฉีก มีเลือดคั่งที่ข้อเท้า





หมอบอกว่าเข้าเฝือกไว้ 1 อาทิตย์ แล้วนัดมาดูอีกที (เย้ แค่ 1 อาทิตย์เด็กๆ ) เดี๋ยวก็หาย ผ่านไปครบวันที่หมอนัดเฝือกเริ่มดำแล้ว แว๊ก.กกก



หมอให้ฝ่าเฝือก ทำความสะอาดเท้า และแจ้งว่าให้ใส่เฝือกต่ออีก 1 เดืิอน ห๊ะ.....งะ...... 1 เดือน ตรูจะไปทำงานยังไงเนี่ย



ทั้งตัด ทั้งแงะ ขาคนนะไม่ใช่พิซซ่า



เช็ดทำความสะอาดขาที่อบซาวน่าอยู่ในเฝือก 5555



ยังบวมอยู่เลย ข้อเท้าฉัน แต่ไม่เขียวเหมือนตอนแรกแล้ว



มีถุงน่องด้วยน่า ^^



แล้วคุณหมอก็มาใส่เฝือกให้ เอาสำลีพันที่ถุงน่องอีกชั้นหนึ่ง



แล้วนำเฝือกที่แช่น้ำจนนิ่มมาพันๆๆๆ โบกๆๆๆ รอบขาเรา



ขั้นสุดท้ายถูให้เฝือกติดกัน (เริ่มร้อนขาขึ้นมาแล้ว)



หมอให้พักขารอประมาณ 15 นาที เพื่อให้เฝือกแข็งเข้าที่ ห้ามเดินไปไหน ต้องรอให้เฝือกหายร้อนก่อน



แปะเวลาไว้ให้ดูด้วยละ 



พอครบเดือนหมอนัดฝ่าเฝือกออก  เฝือกดำได้ที่อีกแล้ว 





ไม่เหม็นรึไงหนอคุณพยาบาล



ถ่าง งัด แงะ






รอบนี้ถอดออกมาเป็นมัมมี่เลย





มีรอยฟกช้ำ ดำเขียวเพราะเดินแรงเลยกระแทกกับขอบเฝือก 5555 ยังสามารถซุ่มซ่ามได้อีก






คุณหมอให้ยาแก้ปวด และยาทาอย่างดีมาสำหรับทาแก้ข้อ เส้นเอ็นอักเสบโดยเฉพาะ



แถมแนะนำให้เข้าเฝือกอ่อนต่ออีก 1 เดือน T T 



โดยการใช้ผ้ายืดพันไว้แบบนี้เวลาไปทำงาน จะได้เดินแล้วไม่เจ็บ และช่วยพยุงขาด้วย



ให้สวมถุงเท้าทับอีกชั้น เพราะห้ามนำผ้ายืดไปซัก



เวลาพักเที่ยงเรามักจะแกะผ้ายืดรัดข้อเท้าออกมา เพื่อทายา และพักเท้า (หายใจไม่ออก รัดแน่นเกิน)



เลือดไหลเวียนไม่สะดวกเขียวจนม่วงเชียว พักสักครู่ก็ต้องใส่ต่อไป จนกว่าจะครบกำหนด ไม่งั้นไม่หาย ช่วงแรกที่ถอดเฝือกออกเดินไม่เป็นเลยค่ะ เจ็บแปล๊บที่ข้อเท้าตลอด แต่หมอบอกให้ฝืนเดินตามปกติ และทำกายภาพบำบัดโดยการงอข้อเท้าขึ้น - ลงเบาๆ 



2 อาทิตย์แรกเดินมาก ขาจะระบม เจ็บ จนทุกวันนี้ถ้าเดินนานเกินไปจะรู้สึกแปล๊บๆ ที่ข้อเท้า ต้องระวังให้มากๆ เพราะว่าขาข้างซ้ายนี้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในการเข้าเฝือกไปซะแล้ว

สรุปผลการเข้าเฝือก 4 ครั้งในชีวิตนี้

ครั้งที่ 1 : เดืิอนกันยายน (ประมาณ 13 กันยายน 2543) ตอนอยู่มหาวิทยาลัย วิ่งขึ้นรถเมล์แล้วตกรองเท้าส้นตึก ใส่เฝือกขาซ้าย 1 เดือน เพราะกระดูกหัก

ครั้งที่ 2 : 25 กันยายน 2551 ไปเที่ยวน้ำตกคลองลาน จังหวัดกำหพงเพชรแล้วลื่นก้อนหิน (ก้าวพลาดซะงั้น) ใส่เฝือกขาขวา 1 อาทิตย์ เพราะเอ็นอักเสบ

ครั้งที่ 3 : ประมาณเดืนตุลาคม 2551 เดิน Shopping อยู่แถวที่ทำงานแล้วตกร่องน้ำ (คล้ายฝาท่อเล็กๆ ) ใส่เฝือกขาซ้าย 1 อาทิตย์ เพราะเอ็นอักเสบ

ครั้งที่ 4 : 3 กันยายน 2556 ก้าวพลาดตกฟุตบาท ตอนจะขึ้นรถเมล์ไปทำงาน (อนาถใจจริง) ขาซ้ายพลิก  ใส่เฝือกขาซ้าย 1 เดือน เพราะเส้นเอ็นฉีก

*** ต่อให้กินนมเยอะๆ ก็ช่ายไรเราไม่ได้เลยค่ะ เพราะเราไม่ถูกกับนม ทานแล้วท้องเสียทุกที *** 



Create Date : 10 มีนาคม 2557
Last Update : 11 มีนาคม 2557 19:26:09 น.
Counter : 6644 Pageviews.

1 comments
Day..10 โฮมสเตย์ริมน้ำ
(11 เม.ย. 2567 08:25:45 น.)
ถนนสายนี้มีตะพาบ กม.ที่ 349 "วันใดที่เธอ...." จันทราน็อคเทิร์น
(8 เม.ย. 2567 14:18:13 น.)
ไปภูเก็ตมาอีกแล้วค่ะ ... tanjira
(4 เม.ย. 2567 15:14:39 น.)
การรักษาและติดตามนิ่วในไต Emmy Journey พากิน พาเที่ยว
(3 เม.ย. 2567 13:28:39 น.)
  
แวะมาทักทายจ้าาา sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite ร้อยไหม IPL Medisyst adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้วถาวร สักคิ้ว 6 มิติ Cover Paint สักไรผม 3D Eyebrow Haijai.com สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรเพื่อสุขภาพ น้ำมันมะพร้าว ขิง ประโยชน์ของขิง ผู้หญิง สุขภาพผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการ ตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อคนโบราณ
โดย: สมาชิกหมายเลข 4713825 วันที่: 16 สิงหาคม 2561 เวลา:14:47:33 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Emilia0412.BlogGang.com

Emmy Journey พากิน พาเที่ยว
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]

บทความทั้งหมด