เราเดินทางมาไกลรึยังน่ะ
เรายังไม่รู้สึกถึงการเติบโตเลย
หรือเราเองเท่านั้นที่ไม่อยากเติบโต
เราเองแหละที่ยังคิดว่าเรายังไม่โต
เรายังไม่อยากรับผิดชอบกับเรื่องหลาย ๆ เรื่อง
แต่เราไม่ได้หนีมันนะ เราก็เดินทางไปตามวันเวลา
ที่ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว มันเดินทางอย่างเชื่องช้า
ในชีวิตที่สุขสบาย และกำลังจะเคยชินแล้ว
พอเริ่มเคยชิน เราก็รู้สึกไม่หวังอะไรแล้ว
เราผ่านช่วงเวลาแห่งชีวิตมานานเหมือนกัน
จนเราอยู่รอดจนถึงทุกวันนี้ เรามองไม่เห็นหรอก
อนาคตนั้นน่ะ ส่วนอดีตก็รอเวลาสักวันที่จะต้องลืมมันไปบ้าง
เราโชคดี เราโชคดีจริง ๆ ที่ได้นั่งอยู่ตรงนี้
ฟังดนตรีที่ชอบ และยังมีอีกหลายอย่าง
เพียงแต่ตอนนี้เรานึกไม่ออก เราผ่านสิบขวบ
เราผ่านสิบห้าปี เราผ่านมายี่สิบปี เราไม่ได้คิดว่า
มันมากหรอกน่ะ เพียงแต่เราไม่รู้สึกถึงอะไร
เรามองมันอย่างเฉย ๆ ไม่มีความคิดใด ๆ ที่นำทาง
ไปสู่สิ่งไม่ดี โชคดีของเรา เราลองหยุดนิ่งสักพัก
เราหลับ หลับตาลงแต่เราไม่ได้นึกถึงอะไร
เรารู้สึกว่ามันสบาย สบายที่ได้หลับตาลง
มันรู้สึกสบายจริง ๆ นะ มันเย็น ที่เย็นนั้นก็เพราะ
เราเปิดพัดลมเอาไว้เองและ เรายังจะต้องการอะไร
มากมายกว่านี้อีก เราไม่รู้สึกถึงความทะเยอทะยานเลย
มันไม่มีเลย อาจเป็นเพราะทุกอย่างมันราบรื่น
มันสุขสบาย วัน ๆ เราก็มีเพียงเท่านี้ เราเคยคิดน่ะ
ถ้าวันหนึ่งในข้างหน้า เราต้องการ... เรากำลัง
ลังเลหยุดนิ่ง แต่ไม่ได้พิมพ์สิ่งที่คิดลงไป
เราลังเลอยู่นานทีเดียว คิดว่าไม่พิมพ์ลงไปน่าจะดีกว่า
เราคิดอะไรไม่ออกแล้ว เราหลับตาลง
มันยังรู้สึกสบายอยู่เลย นี่เราพิมพ์มาเกินหน้ากระดาษเอสี่
รึยังน่ะ เราคงพิมพ์ได้ไม่มากเท่าไหร่
ถึงตรงนี้แล้วเราก็ยังรู้สึกสบายอยู่เลย
เราอยู่ถูกที่แล้วหล่ะ แบตมันใกล้จะหมด
เราเลยไปเสียบปลั๊กโน๊ตบุ๊คใกล้ ๆ นี่เอง
เรากำลังจะเข้าเลขสามแล้วละ มันมาไกล
และมาเร็วมากน่ะ จะดีไหมถ้าเรายังไม่รู้สึกว่าเราโตเลย
หากมีคนมาว่า นายไม่ใช่เด็กแล้วน่ะ เราคงจะสลดไปนิดหนึ่ง
แต่ก็ไม่ได้โกรธอะไรหรอกน่ะ เราไม่อยากสายตาสั้นเลย
อ่า... เราไม่อยากใส่แว่นแล้ว ไม่ใช่ไม่อยากสายตาสั้น
เราไม่อยากใส่แว่นต่างหากละ ถอดออกก็มองไม่ค่อยเห็น
เราหลับตาลงอีกครั้ง ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราหลับตา
แล้วปล่อยสิ่งที่ฉันพิมพ์สู่สายตาของผู้คน