การเก็บออมเงินทองเพิ่มพูนมากขึ้นตามวัย ของคน gen B
#พรรณีเกษกมล #ทองคำส่วนใหญ่มีเงินฝากกับธนาคาร ช่วงแรกดอกเบี้ยสูงมาก ประมาณ 16 % ทีเดียว ไม่กี่ปี เงินทบต้น บ้างแห่ฝากเงิน เพื่อเอาดอกเบี้ยมาใช้ และคาดว่า จะได้ใช้ดอกเบี้ยยามแก่เฒ่า
ทว่าความไม่แน่นอนมาเยือน
พอถึงบั้นปลาย ดอกเบี้ยหดลงเหลือแค่ 1 % มันจะไปพอยาไส้อะไรกันนี่
ที่ดินที่เคยเก็บ ด้วยเชื่อว่า เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย มีแต่ราคาสูงขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีวันลดต่ำลง กลับโดนขูดรีดภาษีที่ดิน จนเจ็บจุกอก
บ้างเก็บทองตามคำบอกของผู้เฒ่าผู้แก่ จากทองบาทละ 400 พอขึ้นมาถึง 10,000 ดีใจสุดเหวี่ยง ลืมคำสอนจนหมดสิ้น เทขายหมดทั้งทองแท่งและรูปพรรณเท่าที่มีอยู่
ไม่นาน ทองขึ้นไปเรื่อย ๆ บ้างมองเห็นช่องทางเก็งกำไร ซื้อ ๆ ขาย ๆ จนได้เงินค่าขนม
ช่วงพีคสุด ขึ้นกระหน่ำ จนแม่ค้าตามตลาด วิ่งเข้าร้านทอง แทนขายของ ซื้อเช้าขายบ่าย ได้กำไรอักโข เรียกยุคนี้ว่าตื่นทอง มีคนเก็งว่าจะขึ้นไปถึง 30,000 เป็นไงเป็นกัน ทุ่มสุดตัว
เป็นไปตามคาด บ้างซื้อไอแพด ดูกราฟราคาทอง real time จนราคาถึง 28,000 แป๊กอยู่ตรงนั้น นานเกือบสิบปี
คำว่า ติดดอยทองจึงเกิดขึ้น บ้างยอมเทขาย คิดซะว่า ที่กำไรมามากพอแล้ว ไม่ได้ขาดทุนสักเท่าไร
บ้างพอมีเงินอื่น เก็บทองไว้อย่างนั้น ครบ 10 ปี เทขายอีกจนหมดหน้าตัก เพราะพอได้กำไรบ้าง ไม่หวังเก็บ กลัวทองลง
แต่ไม่นานนัก เป็นไงอีกล่ะ ปี 2567 ทองกระโดดพรวดพราดอีกแล้ว ขึ้นไปถึง 40,000 ทีเดียวเชียว คนที่เคยติดดอย ไม่กลัวหนาวสั่น ยอมเล่นทองอีกครั้ง หวังกำไร แต่ไม่กล้าทุ่มสุดตัว ยังเกรง ๆ จะซ้ำรอยเดิม