การพูด presentation ให้สู้ฝรั่งได้ (ตอนที่ ๑)
เชื่อว่าเกือบทุกคนนะคะ เวลามาเรียนต่างประเทศแล้วต้องพูด presentation เป็นภาษาอังกฤษ ก็คงจะตื่นเต้น ประหม่า หรือกังวลกันแทบทุกคน แต่การพูดให้ดีนั้น ฝึกกันได้ค่ะ ทักษะการพูด เป็นสิ่งจำเป็นนะคะ แล้วทักษะนี้ไม่ได้หมายความเฉพาะการพูดภาษาอังกฤษให้เหมือนฝรั่งเท่านั้นนะคะ แต่ยังรวมถึงการจัดเรียงเนื้อหาในแต่ละ slide การจัดลำดับ slides และการเสนอเนื้อหาที่ผู้ฟังทุกคนเข้าใจเราได้ ซึ่งทักษะเหล่านี้ แม้แต่ฝรั่งก็ต้องฝึกค่ะ

การพูด presentation เป็นเรื่องที่คนอเมริกันให้ความสำคัญมาก ดูได้จากหนังสือทางด้านนี้มีตีพิมพ์ออกมามากเลยค่ะ สำหรับคนที่เรียนและทำงานวิจัย การจะให้คนอื่นได้รู้ว่าเราทำงานสำคัญแค่ไหน มีผลงานออกมาดีแค่ไหน ก็อยู่ที่การ presentation นี่ล่ะค่ะ จากประสบการณ์ของผู้เขียน การจดจำจากคนรอบข้าง การอ่านจากหนังสือ รวมทั้งการลองผิดลองถูกมาด้วยตัวเอง ก็ขอรวบรวมขั้นตอนและวิธีการ ในการฝึกและเตรียมตัว โดยแบ่งตามระยะเวลา ดังนี้ค่ะ

การเตรียมตัวล่วงหน้านานๆ

๑. เข้าฟังการพูดของคนอื่นๆ โดยเฉพาะของคนอเมริกัน แล้วให้สังเกตุคำพูดขึ้นต้น คำพูดระหว่างเปลี่ยนสไลด์ และคำพูดตอนจบของเค้า เพื่อเราจะได้นำมาเลียนแบบและพูดได้อย่างเป็นธรรมชาติ

๒. ฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษให้ชัดเจน คนส่วนมากโดยเฉพราะคนอเมริกัน มีปัญหามากกับการเข้าใจสำเนียงต่างชาติอย่างพวกเรา ลองนึกถึงเวลาเราพยายามเข้าใจเพื่อนอินเดีย หรือเกาหลีญี่ปุ่นพูดสิคะ เราเองก็ปวดหัวเหมือนกัน ถ้าคิดว่าเรายังพูดภาษาอังกฤษได้ไม่ชัด ให้พูดช้าๆค่ะ ออกเสียงแต่ละคำให้ชัด ดีกว่าพูดเร็วแต่คนอื่นฟังไม่รู้เรื่อง จะทำคนฟังทรมานเปล่าๆค่ะ เรื่องการฝึกพูดให้ชัด โอกาสหน้าจะมาแนะนำเพิ่มเติมนะคะ

การเตรียมเนื้อหาลงใน powerpoint slides

๑. เมื่อทราบว่าเราจะต้องเตรียมพูด presentation แล้ว ก็ควรเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆนะคะ แนะนำว่าควรเตรียมล่วงหน้า ๑ เดือนถ้าเป็นไปได้ โดยเฉพาะการพูดครั้งแรกๆ หรือในเรื่องใหม่ๆ ยิ่งใช้เวลานานค่ะ แต่หากเริ่มชำนาญแล้ว ระยะเวลาเตรียมตัวก็ลดลงไปได้ค่ะ และให้จำไว้ว่า ขณะเราเตรียมและซ้อมไปเรื่อยๆ เนื่อหาของเราก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆได้ค่ะ บางที slides ที่เราเตรียมวันแรกๆ อาจเปลี่ยนหน้าตาไปสิ้นเชิงจาก version สุดท้าย หลังผ่านการปรับปรุงมาแล้วได้ค่ะ

๒. เมื่อเริ่มเตรียม slides สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงคือ คนฟังค่ะ ถามตัวเองว่าใครเป็นกลุ่มเป้าหมายที่จะมาฟังเรา เป็นเพื่อนใน research group ของเราที่ทำงานวิจัยเรื่องใกล้เคียงกัน หรือเป็นคนในภาควิชาเดียวกัน แต่ไม่ได้รู้พื้นฐานงานเรามากนัก หรือเป็นคนทั่วไป การประเมินความรู้พื้นฐานของคนฟัง ทำให้เราเตรียมข้อมูลให้คนเหล่านั้นเข้าใจงานของเราได้ค่ะ

๓. สำหรับสไลด์ Acknowledgements นั้น เป็นสไลด์ที่ขอบคุณบุคคลที่ช่วยงานเราให้สำเร็จ แต่ไม่ต้องขอบคุณบุคคลที่เราใส่ชื่อไว้ในสไลด์ชื่อเรื่องของเราค่ะ เช่น ถ้าเราใส่ชื่อเรา และชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาในสไลด์แรกแล้ว ก็แปลว่าอาจารย์เป็น co-author ของงานนี้แล้ว ดังนั้นไม่ต้องใส่ชื่ออาจารย์อีกใน acknowledgements ค่ะ แต่อาจใส่ชื่อเพื่อนในกลุ่มงานวิจัยได้ค่ะ เช่น (นามสกุลอาจารย์)’ s research group เป็นต้น นอกจากนี้ ก็ขอบคุณ funding source(s) ค่ะ

๔. สำหรับ powerpoint template ผู้เขียนสังเกตว่า ส่วนใหญ่ในการพูดงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ จะนิยมใช้ template แบบเรียบๆค่ะ เช่นสีขาว และอาจมีลายเฉพาะที่ขอบๆค่ะ ถ้าอยากจะเลือก background เป็นสีเข้ม ให้ระวังตัวหนังสือให้เห็นชัดนะคะ ถ้าไม่แน่ใจว่าห้องที่เราจะพูดนั้นจะสว่างมากน้อยแค่ไหน ให้เตรียมพื้น background เป็นสีขาวจะปลอดภัยกว่าค่ะ

๕. อย่าใช้ animation เยอะนะคะ ในการเปลี่ยนสไลด์ เพราะมันทำให้ distract คนฟังค่ะ แต่มีข้อแนะนำสำหรับสไลด์ที่มีตัวหนังสือเยอะๆ ให้ทำเป็น bullet points แล้วใช้ entry เป็น appear หรือ appear and dim จะดีค่ะ

๖. ขนาดตัวหนังสือในแต่ละสไลด์ อย่าให้เล็กจนเกินไปค่ะ อันนี้ควรรู้ว่าห้องที่เราจะไปพูดนั้นใหญ่เล็กแค่ไหนค่ะ พยายามอย่าให้ตัวอักษรเล็กกว่า ๒๐ ก็ดีค่ะ และก็อย่าลืมเช็ค ชื่อของแกนx แกน y ของกราฟที่เราโชว์ด้วยนะคะ

๗. ข้อแนะนำในการเตรียมสไลด์ยังมีอีกมากค่ะ ขอแนะนำหนังสือ ชื่อว่า "The Craft of Scientific Presentations” โดยอาจารย์ Michael Alley นะคะ ถ้าใครอยู่ที่ University of Illinois at Urbana อาจารย์ไมเคิล เคยไปทำ workshop สอนเรื่องการ presentation ทุกๆปีนะคะ ดีมากๆค่ะ ถ้าสนใจต่องคอยติดตามนะคะ เป็น sponsor จาก College of Engineering ค่ะ

ข้อแนะนำเพิ่มเติม ขอไปต่อตอนที่ ๒ ค่ะ



Create Date : 03 ธันวาคม 2550
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2551 13:22:46 น.
Counter : 4211 Pageviews.

6 comments
เมนูที่เต็มไปด้วยคุณค่าอาหาร ข้าวยำ สมาชิกหมายเลข 4313444
(4 เม.ย. 2567 00:28:04 น.)
โรงงานผลิตอาหารเสริมผู้ชาย ตัวเลือกสำหรับคนที่ต้องการเป็นเจ้าของแบรนด์ที่ได้คุณภาพ สมาชิกหมายเลข 7213059
(3 เม.ย. 2567 00:10:02 น.)
9 แนวคิดที่ทำให้เรามีชีวิตประจำวันที่ดีกว่าเดิม peaceplay
(31 มี.ค. 2567 09:18:27 น.)
พระประธานสมัยสุโขทัย : วัดไร่ขิง ผู้ชายในสายลมหนาว
(15 มี.ค. 2567 16:51:33 น.)
  
มีประโยชน์ดีค่ะกำลังเรียนเรื่องพรีเซนเทชั่นอยู่พอดีเลย
โดย: ชื่อนี้...คงไม่ซ้ำ วันที่: 6 มกราคม 2551 เวลา:23:08:45 น.
  
ยิ่งอ่านไปเรื่อยๆ ก็รู้สึกชอบในแต่ละเรื่องที่เขียนนะครับ
โดยเฉพาะเรื่องนี้ ดีมากๆเลยครับ

โดย: ไม่ง่วงครับ วันที่: 30 เมษายน 2551 เวลา:9:36:50 น.
  
เนื่อหาดีมากคะ ชอบจัง
ขอบคุณนะคะ
โดย: คนผ่านมา IP: 58.137.15.214 วันที่: 26 พฤษภาคม 2552 เวลา:10:03:04 น.
  
คือหนูเป็นเด็กปีหนึ่งสาขานิเทศ เพิ่งเข้ามาในปีนี้ ปกติแล้วที่ผ่านมาหนูเป็นคนที่พรีเซ้นงานในแต่ละครั้งไม่ได้เรื่องเลย ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ พี่เจ้าของบล็อกมีข้อแนะนำอารายอีกมั้ยคะที่ทำให้หนูมั่นใจในการพรีเซ้นมากกว่านี้ ทริคอารายเล็กน้อยยยก็ได้คะที่พี่เคยลองทำแล้วได้ผล


**ขอบคุนนะคะสำหรับวิธีการทำslidesให้ดูน่าสนใจ
โดย: เบลล์ ม.กรุงเทพ IP: 118.174.30.219 วันที่: 16 มิถุนายน 2553 เวลา:17:02:21 น.
  
ตอบคุณเบลล์ ม.กรุงเทพ ค่ะ
สิ่งสำคัญที่สุดคือความตั้งใจในการปรับปรุงตัวค่ะ ถ้ามีใจจะเรียนรู้ เราก็ต้องเชื่อว่าเราทำได้ ซึ่งผู้เขียนเชื่อว่าคุณเบลล์ทำได้ค่ะ ฝึกไปเรื่อยๆนะคะ ต้องพูดบ่อยๆต่อหน้าคนบ่อยๆ จะหายตื่นเต้นและทำได้ดีขึ้นค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
โดย: DrJoyKwanrawee วันที่: 16 กันยายน 2553 เวลา:16:33:40 น.
  
ขอบคุณครับ มีประโยชน์กับผมมากจิงๆ
โดย: ไก่ IP: 118.172.229.94 วันที่: 21 มิถุนายน 2554 เวลา:10:18:00 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Drjoykwanrawee.BlogGang.com

DrJoyKwanrawee
Location :
Davis, California  United States

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]

บทความทั้งหมด