4:30 am. ดึกเกินกว่าที่จะข่มตานอน ผมเป็นคนนอนดึก ไม่สิครับ เรียกว่า นอนเช้า อาจจะถูกต้องกว่า ผมจำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำว่านิสัยนอนตอนเช้าแบบนี้เริ่มขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เอาเป็นว่าเมื่อเริ่มจำได้ ก็รู้ว่า เวลากลางคืนนั้นน่าหวงแหน และเป็นช่วงเวลาเดียวของวันที่ผมได้เป็นตัวของตัวเองอย่างที่สุด ผมรักเวลาที่ทั้งบ้านเงียบกริบ และมีเพียงผมคนเดียวที่ยังลืมตาอยู่ ผมรักเวลาที่รอบตัวไม่มีเสียง และในความมืดนั้นควันบุหรื่ลอยอ้อยอิ่งช้ากว่าเคย ผมรักกลางคืน จนบางครั้งการที่จะต้องล้มตัวลงนอนคือความทรมาน ทรมานเพราะรู้ว่าเมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง คือวันใหม่ มันเจ็บปวดนะครับ โดยเฉพาะเมื่อเวลาที่คุณรู้ตัวว่าไม่อยากให้วันรุ่งขึ้นข้ามมาถึงเลย ผมหลงรักกลางคืนครับ และ เมื่อเสี่ยวหวูลืมตาขึ้นมาในเวลาตีสี่สามสิบ ผมยังคงตื่นอยู่เป็นเพื่อนเขา เด็กชาย เสี่ยวหวู อายุ 11 ปี ลืมตาตื่นทุกคืนเวลาตีสี่ครึ่ง ทุกครั้งเขาจะย่องเข้าไปในห้องนอนพ่อเลี้ยงชาวเกาหลี มีเพียงแสงจากโทรศัพท์มือถือส่องทาง เสี่ยวหวูจะเริ่มสำรวจข้าวของของผู้ชายแปลกหน้า คนที่แม่เขาทิ้งให้นอนกรนจมกองเหล้าอยู่บนเตียง เสี่ยวหวูเก็บทุกอย่างที่เป็น และ เคยเป็นของผู้ชายชาวเกาหลีคนนั้น เด็กชายไม่เคยแม้แต่จะเอ่ยปากพูดกับคนที่แม่ทึกทักให้เรียกว่าพ่อ แต่เขาเก็บและจดบันทึกทุกอย่างของผู้ชายคนนั้น ตะเกียบคู่เก่าที่ยังอวลกลิ่นบะหมี่สำเร็จรูป ขนจากที่ลับหงิกงอ และแม้แต่คราบน้ำตาที่ค้างบนเสื้อ ตอนกลางวัน เมื่อชายเกาหลีเศร้าซึม ร้องไห้ ระบายอารมณ์ไปกับเหล้าและควันบุหรี่ เสี่ยวหวูเผลอหลับที่โรงเรียน กรอกยาแก้ไอเข้าปากโดยไร้เหตุผล และ ไม่มีใครซักคนที่จะเป็นเพื่อน โลกเหงาๆของเสี่ยวหวูและชายเกาหลี ยุติลงเมื่อถึงตอนกลางคืน ตอนที่คนหนึ่งเมาหลับไม่ได้สติ และ อีกคนลืมตาขึ้นมาตอนตีสี่ครึ่ง แทรกตัวเข้าไปในโลกของอีกคนหนึ่งเพื่อเริ่มบันทึกความทรงจำ รอยสตัน ตัน ( Royston tan ) เสนอโลกของคนเหงาสองคนสองวัย ในบรรยากาศที่อวลไปด้วยกลิ่นโฮโมอีโรติกได้ อย่างสวยเหลือเกินในหนังเรื่องนี้ เราไม่รู้สาเหตุของการเศร้าซึมของชายเกาหลี มีเพียงรูปถ่ายผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาเผลอทิ้งไว้ให้สงสัยถึงการเป็นต้นเหตุของอาการฟูมฟายไปกับเหล้า บุหรี่ และน้ำตา แต่หนังก็เลือกที่จะไม่ให้คำตอบ ทั้งภูมิหลัง และที่มาของการตัดสินใจของชายเกาหลีในตอนท้ายเรื่อง แต่กลับดึงเขาให้ห่างออกไปในขณะที่หนังเปิดโอกาสให้เราใกล้ชิดกับเสี่ยวหวูมากขึ้น ถึงมันจะเป็นความสัมพันธ์ที่ไร้เสียง แต่หลังจากวันที่ชายเกาหลีกอดคอร้องไห้กับเสี่ยวหวู วันที่เขาทั้งคู่ใกล้ชิดกันมากที่สุด และเสี่ยวหวู ตัดชายเสื้อเปื้อนน้ำตาของเขาปิดไว้ในสมุดบันทึก จากเรียงความเรื่อง ฮีโร่ในใจผม ที่เสี่ยวหวู เขียนถึงผู้ชายเกาหลีคนนั้น แต่ครูไม่สนแม้แต่ที่จะฟัง โลกเหงาๆของคน 2 คน ก็เคลื่อนเข้าสู่จุดสิ้นสุด ในขณะที่ความหมกมุ่นกับเพื่อนร่วมบ้านของเสี่ยวหวูมีมากขึ้นเท่าทวี เด็กชายตัดสินใจฝ่ากำแพงบางๆที่คั่นเขาทั้งคู่ด้วยการพยายามสื่อสาร เปิดตัวเอง แต่เมื่อผลลัพธ์ที่ได้กลายเป็นตรงกันข้าม เมื่อโลกเหงาๆกลับเข้ามาพันธนาการเสี่ยวหวูอีกครั้ง ไฟจากกระบอกไฟฉายที่เสี่ยวหวูกระพริบถี่ๆราวกับเป็นสัญญาณขอความช่วยเหลือไปนอกโลกนั้น จึงอาจจะไร้ความหมายในคืนที่เวลาตีสี่สามสิบนาฬิกาดึกเกินกว่าจะข่มตานอน อ่านหลายเรื่องแล้ว เดี๋ยวคงได้ทะยอยหามาดู
ขอบคุณคนนอนเช้า เวลากลางคืนนั้นน่าหวงแหน เช่นกันค่ะ โดย: bua ja วันที่: 31 มีนาคม 2550 เวลา:13:13:35 น.
|
บทความทั้งหมด
|
ขอบคุณครับที่แนะนำ