ถึงน้องที่สอบ กสพท
และแล้วเวลาแห่งโชคชะตาและการรอคอยก็มาถึง ผล กสพท ออกแล้ว!
ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับการสอบครั้งนี้แต่ก็อดลุ้นไม่ได้
เวลาหนึ่งปีช่างผ่านไปเร็วยิ่งนัก เผลอแป๊บเดียว"อ่าว หมดไปอีกปีละ"
ตื่นเต้นที่เราจะได้มีน้องแล้ว ดีใจที่พอข้ามฟากไปจะได้ไม่ต้องเรียนเลขกับฟิสิกส์อีก(555+)
ตอนเปิดเว็บ กสพท เพื่อดูรายชือคนที่ติดก็แบบว่า ~ โห เด็กเดี๋ยวนี้ทำมัยคะแนนมันโหดจังวะ
แต่ก็นะ พอได้ย้อนกลับมาดูช่วงเวลานี้อีกครั้งในฐานะที่แตกต่าง ครั้งนี้ในฐานะรุ่นพี่ ไม่ใช่คนที่กำลังจะ"เอ็นท์" ก็ให้ความรู้สึก ยินดีแบบแปลกออกไป

ก่อนอื่นก็ขอบอกว่า จะไม่ขอแสดงความเสียใจกับคนที่ไม่ติดหมอเพราะผมว่าพวกน้องก็ทำเต็มที่แล้วแหละสิ่งที่นน้องควรได้รับจึงเป็นเสียงปรบมือ good job!
เมือน้องล้มลง น้องอาจรู้สึกเจ็บ เศร้า ท้อ ซึ่งก็ไม่แปลกเลยเพราะพวกเราก็ยังเป็นแค่ปุถชนมีอารมณ์ต่างๆ ไม่ใช่อรหันที่ละแล้วซึ่งทุกข์ แต่มันจะไม่เกิดประโยชน์เลยถ้าน้องล้มลงแล้วมัวแต่นั่งเศร้าเสียใจ หรือเสียดายอยู่อย่างนั้นเราะน้องก็จะยังอยู่ที่เก่าไม่ได้ก้าวหน้าไปไหนอยู่ดี
สิ่งที่ควรทำก็คือลุกขึ้นยืนอีกครั้งแล้วเดินหน้าต่อไป ไม่ว่าจะเลือกเดินเส้นทางใหม่ที่ไม่ใช่หมอ หรือจะเลือกเดินทางเดิมเพื่อพิสูจน์ตนเองอีกครั้งย่อมเป็นสิ่งที่พึงกระทำ
เนื่องจากคราวนี้น้องมีประสปการณ์แล้ว น้องจึงควรนำมันมาเป็นบทเรียน นำมาวิเคราะห์จุดอ่อน จุดแข็งและข้อผิดพลาดของตนเองเพื่อวางแผนและพัฒนาตนเองต่อไป

ต่อมาก็ถึงคราวคนที่สอบติดหมอบ้างซึ่งผมก็ขออณุญาตินำคำพูดของรุ่นพี่คนหนึ่งมาใช้
"ถ้าน้องไม่ติดหมอ น้องอาจจะรู้สึกทรมานแค่ซักอย่างมากก็เดือนนึง   แต่ถ้าน้องติดหมอแล้ว น้องจะทรมานไปอีกหกปี" และจากข้อความนี้ อยากจะบอกว่า "มึงพลาดแล้วละ" 555
อาจจะยาวนิดนึงแต่ก็อยากจะพูด
น้องอาจจะเลือกเรียนหมอเพราะใจรัก เพราะอยากเจริญตามพ่อแม่ เพราะมั่นคง หรือเพราะยังค้นหาตัวเองไม่เจอแต่พอดีสอบติด ไม่ว่าน้องจะเลือกเรียนหมอด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ผมอยากจะบอกว่าขอให้น้องมีสิ่งๆหนึ่งเท่านั้นซึ่งก็คือ patient
คำว่า patient นี้แปลว่า อดทน เพราะการเรียนและทำงานในสายอาชีพนี้ต้องมีความอดทนอดกลั้นเป็นอย่างมาก(ถึงมากที่สุด)ถ้าอยากรู้ว่าต้องเจออะไรบ้างก็ลองมาประสบดูเอาเองละกันนะ
แต่คำว่า patient ก็มีอีกความหมายหนึ่งก็คือ คนไข้
หมอไม่ใช่รักษาแต่ ไข้ แต่ก็ต้องรักษา คน ด้วย นี่หมายถึงนอกจาจะต้องดูแลเรื่องโรคของคนไข้แล้วยังต้องคอยเอาใจใส่ด้านอื่นของผู้ป่วยเช่นด้านจิตใจด้วย
สรุป หมอต้องอดทน และต้องมีคนไข้อยู่ในใจตลอดเวลา ถ้าน้องคิดว่าน้องมี patient น้องก็เรียนหมอได้

พูดถึงเรื่องสถาบัน น้องคนที่ได้สถาบันที่ต้องการก็ขอแสดงความยินดีด้วยจริงๆ ส่วนน้องที่ติดหมอแต่ไม่ได้สถาบันที่ตัวเองหวังเอาไว้ก็ไม่ต้องเสียใจไป เพราะถึงแม้แต่ละสถาบันอาจจะมีชื่อเสียงไม่เท่ากันแต่ผมกล้าพูดได้เลยว่าคนที่จบหมอมา เก่งเหมือนกันทุกสถาบัน!

สุดท้ายนี้ก็อยากจะบอกว่าให้เก็บความรู้สึกยินดีและภูมิใจที่เปี่ยมล้นตอนรู้ผลนี้ไว้ให้ดีๆ 
เมื่อเรารู้สึกท้อก็ขอให้หวนกลับมาระลึกถึงความภาคภูมิใจที่เราติดหมอและจุดมุ่งหมายที่จะเป็นหมอเพื่อช่วยเหลือคนอื่น จะทำให้เรามีกำลังใจเดินหน้าต่อไป

" ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตัวเป็นที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจหนึ่งลาภ ทรัพย์และเกียรติยศจะตกแก่ท่านเอง ถ้าท่านทรงธรรมะแห่งอาชีพให้บริสุทธิ์ "
สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก



Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2556
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2556 1:07:34 น.
Counter : 1901 Pageviews.

5 comments
สรุปวิชาสังคมไทยสังคมโลกในศตวรรษที่ 21 เรื่องปราชญ์ท้องถิ่น นายแว่นขยันเที่ยว
(10 เม.ย. 2567 03:05:45 น.)
สุริยุปราคา อเมริกา /นิวยอร์ก อินเดียน่า เทกซัส newyorknurse
(9 เม.ย. 2567 04:13:31 น.)
กาแฟคั่วเข้ม เหมาะกับเมนูไหนดี สมาชิกหมายเลข 7983004
(29 มี.ค. 2567 02:14:10 น.)
ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 348 "ฉุกละหุก" toor36
(24 มี.ค. 2567 10:27:24 น.)
  
เคยอ่านเรื่องของพยาบาลท่านหนึ่ง...ที่ต่างจังหวัด นอกจากจะรักษา ดูแล คนป่วยทางกายแล้ว เธอยัง...รักษาผู้ป่วยทางใจ...อีกด้วย พาผู้ป่วยไหว้ พระ สวดมนต์ นั่งสมาธิ พูดให้กำลังใจคนไข้ ให้ความเมตตาต่อทุก ๆ คนเท่าเทียมกันหมดไม่ว่ายากดีมีจน หากหมอ พยาบาลทุกคนสามารถทำได้แบบนี้ ผลบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ คงจะนำพาให้ชีวิตพบแต่สิ่งที่ดี และดียิ่ง ๆ ขึ้นไป

แม่บุญ...บริจาคร่างกายที่รพ.จุฬาฯ มาเกือบ ๒๐ ปีแล้ว สักวัน..หากต้องล้มหายตายจาก คงจะได้ทำกุศลอีกครั้ง ๆ สุดท้าย
โดย: Maeboon วันที่: 8 เมษายน 2556 เวลา:21:23:37 น.
  
หมอคือผู้ให้ และผู้รักษาด้วยจิตวิญญาณนะคะ ไม่ว่าจะประสบผลสำเร็จขั้นต้นในวันนี้ หรือวันข้างหน้า หากจิตวิญญาณของเรา ยังคงเป็นผู้ให้ที่อุทิศตน มุ่งมั่นต่อทางที่ตัวเองเลือก ย่อมประสบความสำเร็จไปตลอดค่ะ

เคยดูซีรีย์ญี่ปุ่นเรื่อง code blue แล้วชอบมากๆ เลย ให้ความรู้สึกถึงความทุ่มเทแรงกายแรงใจ อุทิศตนให้คนไข้จริงๆ แต่...อาจจะเพราะคุณภาพคนของเขาอยู่แล้วมั้งคะ เราคงต้องพัฒนาแบบเขาให้ได้สักวันเน๊อะ
โดย: คมไผ่ วันที่: 9 เมษายน 2556 เวลา:11:28:04 น.
  
เล่าแบบนี้ดีมากครับ น้อง ๆ เขาจะได้เข้าใจ

ระยะหลังมานี้ผมจะอ่านเรื่องประเภทนี้ อ่านเพลินดีครับ เมื่อก่อน
ตอนบล๊อกแกงค์ฮิต ก็ดูเรื่องท่องเที่ยวมากที่สุด

ตอนนี้บล๊อกท่องเที่ยว มีคนเสนอไม่สนุก แหะ ๆ เล่น มีคนเขียน
ถ่ายภาพ... ชุดเดียว.... แล้วมีมืออาชีพก๊อบส่งอัพ ทันที พร้อม
กัน 2 คน.... เหมือนกันทุกอย่าง แม้แต่ หัวเรื่อง... คงจะทำหน้า
ที่ของเขา.

ผมดูแล้ว คนที่จะทำให้บล๊อกแกงค์ น่าอ่าน และมีแฟนคลับติดตาม
คงจะเป็น บล๊อกอาหาร กับ ประสพการณ์ชีวิต แบบบล๊อกของคุณ
นี่แหละครับ

แต่คนคลิ๊กเข้ามาอ่านแบบ 400 กว่าคนต่อวันต่อเรื่อง คงจะยาก
หน่อย ผมเองก็คงกัดฟันสู้ต่อไปครับ
โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 23 เมษายน 2556 เวลา:10:54:23 น.
  
ปีนี้มาแล้วๆๆ สมัครสอบ กพ 2556
โดย: konseo วันที่: 9 พฤษภาคม 2556 เวลา:9:34:15 น.
  
พี่คะ บล็อกพี่ดีมากๆๆเลย

หนูอยากอ่านเรื่องเกี่ยวกับเรียนแพทย์ ว่าชีวิตมันเป็นไง

เขียนอีกนะคะ
โดย: please sir IP: 180.183.51.163 วันที่: 10 กันยายน 2556 เวลา:11:42:07 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Doctorpomelo.BlogGang.com

PS YerDua
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]