กราฟวันหยุด อ่านกราฟ อ่านประวัติศาตร์ เข้าใจการคิดอินดี้มาใช้ เป้าหมาย แนวต้าน และแนวรับ

จากที่พบเห็นมา พอสรุปด้วยตัวเองว่า ผู้คนที่นี่ไม่ใช่เก่งหรือเข้าใจคณิตศาตร์ เกินครึ่ง แนวการเขียนจึงพยายามเริ่มจากกไก่ ขไข่ และเพื่อทบทวน คนที่ไปไกลแล้วให้กลับมาคิดใหม่ว่าสิ่งเก่าๆๆนะยังมีประโยชน์ และยังเป็นพื้นฐานการอ่านกราฟอยู่ จากอย่างง่าย ไปจนลึกๆๆ และอธิบายได้ว่าเพราะอะไร จึง ต้องลึกๆๆด้วยอินดี้ ต่างๆๆ

และแนวการเขียน จะเอา ความคิดตัวเองในทุกแง่ๆๆใส่เข้าไปด้วย ถ้าไม่เห็นด้วย อยากเสนอข้อความเห็นก็ใส่เข้ามาได้ครับ ถ้าคิดว่าไม่ได้ประโยชน์ ก็อ่านเล่นๆๆวันหยุดครับ ก่อนเข้าพรรษา

จาก คนมีเงิน แล้วอยากลงทุน แต่เดิม คนสมัยก่อนก็จะคิดกันกับพี่น้อง กับเพื่อน แล้วร่วมกันทำธุรกรรม ที่คิด นั่นคือที่มาของการร่วมลงทุนเหมือน ที่ผมเจอที่นี่ เพื่อนหุ้นกันซื้อทีชายทะเลไว้ แล้ว ไม่รู้ราคาว่ามันเคลื่อนไหว ไปอย่างไรแล้วทุกๆๆเดือนทุกๆๆปี จน เวลาล่วงมาได้ข่าวว่าราคาทีมันบูมตอนนั้น เขาก็ย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว มูลค่ามันเพิ่มได้ใจจริงๆๆกับเวลาที่ผ่านไป แต่ทุกคนจะได้เช่นนั้นทุกคนไหม คำตอบคือไม่ครับ ต้องมีทุนพอในตอนนั้น (ผมคนซื้อที่ให้เขายังไม่มีเงินหุ้นกับเขาเลย แล้ว ทำเลเหมาะไหม แล้ว อะไรอีกหลายๆๆอย่าง )
จึงเป็นที่มาของตลาดหลักทรัพย์ สถานที่จะมาระดมทุนของบริษัทต่างๆๆให้เป็นเรื่องเป็นราว รัฐบาลได้เข้ามาควบคุมให้ดี (หวังเอาภาษีให้เต็มเม้ดเต็มหน่วย ) ประชาชนก็ได้การรับรอง ว่าถุกต้อง มีหลักฐานมีกำไรในสามปีห้าปีที่ผ่านมาดี (ระบบกรองของตลาด )
กราฟก็เป็นตัวบันทึกเรื่องราวในอดีตไว้
(ขอยืมกราฟมาจากกระทู้หนึ่ง ขอขอบคุณ เจ้าของภาพด้วย )

การอ่านกราฟอดีต จะจำเป็นสำหรับคนเล่นหุ้นใหม่ๆๆมาก เพราะจะต้องใช้อดีตของหุ้นตัวนั้น ว่าผ่านราคาอะไรมาบ้าง แต่อย่าไปเอามาคิดนะครับว่าราคาจะย้อนกลับไปหาอดีตอันหวานชื่นสมัยก่อนได้อีกแล้ว เช่นหุ้น ปูนใหญ่ ที่เคยราคา 7000ต่อหุ้น
การอ่าน อดีต บางช่วงที่ราคาตกวูบไป ของหุ้นบางตัวจะช่วยบอกอดีตมีการแตกพาร์ หรือ ลดทุน หรือเพิ่มทุน จะทำให้เข้าใจหุ้นตัวนั้นได้มากขึ้นว่าอดีตดีเลวแค่ไหน แล้วปัจจุบันเป็นเช่นไร พาร์เท่าไร ราคาแกว่งอยู่แถวไหน
ส่วนหลักทางคณิตศาสตร์ ที่พัฒนาตามตลาดมาด้วยจากอดีต
ที่เอาแค่อินเดก เมื่อหมดวันมาบันทึกเป็นกราฟไว้ การแก้เออเร่อที่ตัวเลข กระโดดบ้างในบางวัน การแก้เอ่อเเร่อทางคณิตศาสตร์ก็เริ่มถูกนำมาใช้ให้ราบเรียบแปลผลง่างขึ้นด้วย การใช้ค่าเฉลี่ยมาสร้างกราฟ แล้วนำเสนอเป็นแท่งหรือบาร์ เพื่อเพิ่ม การอ่านผลให้มากขึ้น บ่งบอกราคาเปิดปิดของแต่ละวันไว้ด้วย
และแล้วการพัฒนาการแปลผลก็เริ่มเข้าใจอารมณืคนในตลาด และภาวะเศรษฐิกิจหรือเรื่องราวที่มีผลต่อตลาดเข้ามาอยู่ในกราฟด้วย (การใช้กราฟจึงไม่ใช่แค่การอ่านตัวเลขแค่นั้น ควรจะทราบ เหตการณ์ที่มีผลกับตลาดด้วย จึงจะแปลผลเออเร่อที่เกิดขึ้นในบางช่วงของกราฟได้ เข้าใจมากขึ้น เช่น ช่วงก่อนปิดสมุด ควอเตอร์สอง ที่ผ่านมา หรือปลายปี )
จากค่าเฉลี่ย 5วัน10วัน20วัน50วัน100วัน200วัน
ก็เกิดจากราคาที่เปลี่ยนแปลงไป เมื่อภาวะไหน ตกต่ำสุด เราก็พบว่า
กราฟแท่งเทียนหรือบาร์ อยู่ใต้เส้นค่าเฉลี่ยทุกเส้น



และเมื่อไรที่ กราฟ แท่งหรือบาร์ เริ่ม เข้าไปติด เส้นเฉลี่ย แล้วเริ่ม พ้นขึ้นไปอยู่บนเส้น ค่าเฉลี่ยที่น้อนสุดได้ แล้วเส้นค่าเฉลี่ยน้อนสุดเริ่มหักหัวขึ้น ไปจะตัดเส้นบนถัดไป คือเส้นค่าเฉลี่ย 10หรือ20แล้วแต่เราจะเลือกใช้

เป้าหมายจะไปถึงนี่แหละที่เรียกเป้าหมายง่ายๆๆ หรือแนวต้าน
หรือจะขีดเส้นแนวต้านเองก็เอาเส้นในระดับที่สูงกว่าที่เป็นอยู่ปัจจุบัน แล้วมีกลุ่ม คนถือราคาหุ้นตัวนั้นไว้สูงกว่าราคาปัจจุบันไม่มากแต่จำนวนเยอะ เป็นเป้าหมายที่จะไปถึง
เมื่อถึงแล้วก็ต้องลุ้นให้ฝ่าแนวต้านไป หาเป้าหมายต่อไป หรือแนวต้านต่อไป



(ทำนองเดียวกัน เมื่อขึ้นสุดแล้ว เวลาลง ก็หาเป้าหมายแบบเดียวกันเมื่อกราฟค่าเฉลี่ย น้อยสุดเริ่มหักหัวลง มาหาเส้นถัดไป และถัดไป และถัดไป นั่นคือแนวรัวหรือเป้าหมายนั่นเอง เช่นกัน )


แต่ขณะนี้เส้น เฉลี่ยสองร้อยวัน มันไม่รองรับอดีตที่ผ่านมาว่าเสทเคยตกลงมาจากที่สูงกว่าเป้าหมายตอนนี้

ท่านก็ต้องหัดที่จะขีดเส้น แนวต้าน หรือเป็หมายต่อไปเอาเอง ถ้ามันกลับเป็นต่อจากนี้อีกครั้ง




เป้าหมายอาจจะมีไว้ทำลายนะครับ ทั้งขึ้นและลง โปรดระวัง

และระยะเวลาที่คิดว่าพ้นจุดต่ำสุดมาแล้ว ? อาจจะไซด์เวย์ นานเท่าไร ก่อนการกลับไปหา จุดเดิม ( รอผลการประกาศ ค่าต่างๆๆไปในทางดีขึ้น )

ปล. ลืมบอกไว้ว่า เส้นค่าเฉลี่ย ทีได้พัฒนาไปเป็น EMA exponential moving average ซึ่งมีข้อดีกว่าเพราะให้ผลกับราคาปัจจุบันไวกว่า MACD เพราะใช้ ค่า MA 12-26 วัน จะไปดีในการแปลผลระยะยาวกว่า เป็นการแก้ เออเร่อด้วยวิธีทางคณิตศาสตร์ อีกแบบหนึ่ง
อีกเองคือเวลาจะอ่านค่าปัจจุบันที่สุด คงไม่มีอะไรดีกว่ากราฟ รายนาที ในระหว่างวัน ที่คนเล่นเดย์ เทรดหรือ ฟิวเจอร์ จะได้หาจังหวะในการเข้าออกได้ตรงรอบ มากกว่าเครื่องมืออย่างอื่น (ถ้าไม่มีห้ามเล่นนะครับ เพราะ ท่านเหมือนคนตาบอด แน่ หรือคนที่ไม่พร้อมจะดูจอตลาดเวลาเช่นกัน ท่านกำลังเสี่ยงสูงสุดถ้าเล่นฟิวเจอร์ )
ในระยะกลาง หรือยาว การอ่านเดย์กราฟ แล้วใช้ระยะหนึ่งเดือน สามเดือน หกเดือนเก้าเดือน และหนึ่งปี เพื่ออ่านประวัติที่ผ่านมาเคยราคาแค่ไหนตรงไหนนานๆๆ หรือตรงไหนหลุดไว มีหน้าต่าง
ส่วนคนที่ไม่เข้าใจคณิตศาสตร์ พอ การใช้ กราฟวีคเพียงแค่ ไม่ให้กราฟ ยาวออกไปพ้นจอเท่านั้น เพื่อย่อ กราฟปีให้ดูดี หรือกราฟเดือนให้ดูสั้นๆๆ
จึงไม่ช่วยการแปลผลอะไรเพิ่มขึ้นกลับจะทำให้ท่านไข้วเข่ว ถ้านำมาใช้กับกราฟ หนึ่งเดือนด้วย กราฟวีค ที่หยาบ จนผิดพลาดได้

อีกข้อที่อยากบอก คนที่ชอบว่า อินดี้ มันหลอก
นี่แสดงว่าท่านไม่เข้าใจการทำกราฟ เครื่องมือทำตามที่เราสั่งไว้ใส่สูตรไว้ เครื่องมือไม่โกหกตอแหล แต่ เออเร่อ ถ้า
ข้อมูลที่ใส่ไป แกว่งสูงต่ำเกิน ปกติมากๆๆ เช่น เกิดการกระชาก ด้วยวอลุมอย่างรุนแรง เพราะข่าวบางข่าว จนเวลาผ่านไปสักพัก กราฟจะเฉลี่ยเออเร่อกลับมาปกติเอง
เพราะฉนั้น เราผู้ใช้เครื่องจงรับทราบไว้ว่า อุปกรณื ที่เราใช้ สามารถ ผิดพลาดได้ เหมือนที่นักวิเคราะห์ ผิดพลาดในขาขึ้นที่ผ่านมาโดยตลอด
เพราะRSI เกิน เขต ซื้อมากเกิน ไปจากวอลุม ที่ทะลักเข้ามาจน กราฟแปลผลเออเร่อ และคนใช้ไม่ได้ เอาทุกอย่างมาคิดรวมด้วย คิดจะใช้แต่กราฟอย่างเดียว
หรือตอนที่ขาลงมาแล้ว แต่มาติด วินโดว์เดสซิ่งเลยมีการลากขึ้นอย่างผิดปกติประจำทุกปี ผลกราฟก็อาจจะทำท่า เช่นพ้นเส้นค่าเฉลี่ยขึ้นไป และแล้วทุกอย่างก็กลับสู่ปกติ ไงละครับ

จงใช้สมองทุกส่วน และ เซนส์ และจิตวิทยา แต่ไม่ต้องใช้ธูป แต่ใช้แท่งเทียน ในกราฟ

Create Date : 04 กรกฎาคม 2552 Last Update : 4 กรกฎาคม 2552 8:51:17 น. Counter : 1998 Pageviews.		3 comments
Share Tweet