This blog is relaunched.
พูดถึงวงดนตรีต่างประเทศมามาก คราวนี้ขอพูดวงไทยบ้าง แล้ววงที่เลือกมาเปิดเป็นวงแรก คือวงที่บนเส้นที่แบ่งกลางระหว่างความบ้าและความอัจฉริยะ ยากนักที่จะบอกว่าพวกเขาเป็นอย่างไร เพราะพวกเขาก็คือพวกเขา บ้า ๆ เซอร์ ๆ สไตล์พาราดอกซ์
พาราดอกซ์ออกอัลบัมเต็ม ๆ ชุดแรกในสังกัด Eastern Sky Reccord (สังกัดเดียวกับวงพราว) หลังจากช่วงแรกทำเพลงออกมาแบบใต้ดิน สมาชิกในวงขณะนั้นที่ออกมาเป็นฟรอนท์ไลน์มีอยู่ 3 คน คือ คุณต้า คุณสอง และคุณโน้ต
ภาพที่ทุกคนจำได้ตอนพาราดอกซ์ออกอัลบัม คือตาแว่นสองคนมัดผมเล่นคอนเสิร์ตบนเวที แถมตาแว่นที่เล่นเบสยังชอบแต่งชุดผู้หญิง (คล้าย ๆ กับที่บาร์บี้ชอบทำ) เนื้อเพลงที่เล่นก็ประหลาด ๆ ดูแลติดตาเหลือเกิน
พวกเขาเปิดอัลบัมด้วยเพลง 'ไก่' เพลงฮิตที่เด็กเล็กลูกแดงในขณะนั้นร้องกันทั้งบ้านทั้งเมือง ไม่ให้ร้องเป็นกันได้ไง เพลงเนื้อง่าย ๆ แถมเนื้อหายังแปลกแหวกแนว แถมช่วงสุดท้ายมีเสียงเครื่องบินขึ้นอีกต่างหาก อะไรจะขนาดนั้น........
แล้วก็พาเราไปเที่ยวต่อกับ โรตีที่รัก เพลงที่กลิ่นความเป็นอินเดียอยู่ (ก่อนจะเพลิดเพลินต่อกับภารตะฟิล์มในชุดซัมเมอร์) จากนั้นเสียงเบสก็ดังขึ้น นักมายากลเวอร์ชั่นต้าเสียงยังไม่หล่อก็ลอยออกมาให้โดดเด่งกัน
เวอร์ชั่นนี้ต่างจากเวอร์ชั่นใน Free Style หลายอย่างทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการบันทึกเสียงที่ห่วยกว่า เสียงพี่ต้าที่ยังไม่หล่อนุ่มแบบทุกวันนี้ แต่เวอร์ชั่นดีกลับได้ความรู้สึกที่สดและดิบ เข้ากับอารมณ์และเนื้อเพลงเป็นอย่างดี ดียิ่งกว่าเวอร์ชั่น Free Style หลายเท่า
พาราดอกซ์ทำเก๋ ด้วยการเอาวิธีการทำแกงเผ็ดเป็ดย่างมาทำเป็นเพลงซะ
"หากกลัวเปลืองเวลาเปิดฝารอก่อนเลย
ปรับปรุงเป็นดังใจได้รสที่โปรดปราน
หากคุณมีเวลาเปิดฝาเคี่ยวต่อไป
ใส่ความจริงใจลงไปให้รสไม่จืดจาง"
ฟังแล้วพลอยทำให้นึกถึงเพลงไข่เจียวของคุณประภาสแฮะ......
กินข้าวกินปลากันเสร็จ พาราดอกซ์ก็อินเทรนด์กับวาทกรรมการอนุรักษ์ป่าในขณะนั้นหน่อย ในเพลง 'ลา ลา ลา' สำหรับผม ผมให้เพลงนี้เป็นเพลงเอกของอัลบัมเลยครับ
เนื้อหาเพลงนี้เล่าถึงเด็กที่เล่นซ่อนหากันในป่า แล้ววันหนึ่งก็พบว่าไม่มีป่าให้เขาเล่นแล้วเพราะพ่อตัดเอาไปขายหมด เขาจึงทำได้แค่เพียงลาก่อน ป่าไม้......
เสียงนับ 1 2 3 ในช่วงต้นเพลงหลอนเอาการ แต่ก็ทำให้หลาย ๆ คนหันควับมาฟัง แถมด้วยเสียงเครื่องสายในตอนท้าย สร้างความอลังการได้ทีเดียว
หลังจากไปอนุรักษ์ป่าได้สักพัก พวกเขาก็กลับมาเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ กับเพลง 'เพ้อ' ซึงเพ้อได้สมชื่อจริง ๆ คิดว่าเพลงนี้หลาย ๆ คนคงคุ้นหูเพราะถูกนำเอามาทำใหม่ในอัลบัม on the beach
"เพ้อ หากฉันมีแต่เธอ และสองเราคงเพ้อ หากฟ้าลืมสว่าง ท่ามกลางโขดหินโพ้นทะเลดำเธอ ผู้แสนงามเพียงเธอ แผ่วพริ้วกายกลิ่นเธอ อ่อนหวานละมุนจนเพ้อ เปลี่ยนแปลงความรักทั้งสองรวมกัน เปล่าเปลือยลงน้ำเย็นฉ่ำ คืนนี้มีแต่หมู่ดาว กลาดเกลื่อนกระพริบพร่างพราว มีแต่สองเรา กอดเธอไว้ลืมตามองสิ่งที่สวยงาม..."
ภาษานี้ผมอยากรู้เหมือนกันว่าพี่ต้าคิดได้ไง ฟังแล้วอยากเพ้อตามจริง ๆ
เพ้อเสร็จก็กลับสู่โลกความเป็นจริงว่าไอ้คนที่เรารักมันดันไม่รักเรา แถมยังต้องมาเห็นภาพบาดตาบาดใจอีก สุดท้ายจึงทำได้เพียงแค่อยากรักเธอ เพลง 'อยาก' ของพาราดอกซ์เป็นอีกหนึ่งเพลงช้าของทางวงที่ทำออกมาได้เพราะมาก ผสมผสานกับเสียงเครื่องสายในช่วงท้ายเพลง ทำให้อารมณ์ใจจะขาดเพราะหมดหวังในรักลอยกระจายฟุ้งในอากาศ
"อาจจะเป็นเพราะเธอ อยากจะเก็บรักเธอ อยากจะบอกรักเธอ อยากจะแอบรักเธอ
อาจจะเป็นเพราะเธอ อยากจะเก็บรักเธอ อยากจะบอกรักเธอ แต่ไม่อาจรักเธอ"
แทร๊กเกือบสุดท้าย พวกเขา พาเราไปเมามันกับ 'เสือไบ' เพลงเนื้อหาส่อที่คุณระเบียบรัตน์ได้ยินคงเป็นลม เสียงเบสของคุณสองเปิดประเดิมเรียกอารมณ์ได้อีกตามเคย มีการเอา sampling ของเพลงเชอรี่พิงค์มาใช้ด้วย ท่อนสุดท้ายคุณต้าทำเสียงแบบที่เหล่าชาวเกย์ชอบทำกัน ฟังแล้วแทบช๊อคว่าอะไรจะกล้ากันขนาดนี้
ส่วนแทร๊กสุดท้าย เป็นเพลง Trance (ที่แถวเชียงใหม่บอกว่าเปิดให้เด็กแซ๊ปกับสกอยต์ฟัง) ชื่อว่า 'ห้ามดื่ม' ทางวงก็ได้เอาเรื่องข้อควรระวังในการกินยามาเขียนเป็นเพลง ก็ครีเอททีเดียว
พาราดอกซ์เป็นวงดนตรีที่มีเอกลักษณ์ของตัวเองอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ชุดแรก เนื้อเพลงและการใช้ภาษาของพวกเขายากนักทีี่ใครจะลอกเลียนแบบได้ จนบางครั้งผมก็เคยคิดว่าคนบ้าเท่านั้นแหละที่แต่งเพลงแบบนี้ได้
นี้เป็นอัลบัมไทยอีกอัลบัมที่แสดงให้เห็นว่าคนไทยมีดีไม่แพ้ชาติอื่นครับ
ป.ล. อัลบั้มนี้ในปัจจุบันไม่มีวางขายตามแผงแล้ว
Paradox : Lunatic Planet (Eastern Sky Records)
วางจำหน่าย ปี พ.ศ. 2539 โดย MGA
Track List (กดฟังเพลงได้โดยคลิกที่ชื่อเพลง)
1. ไก่2. โรตีที่รัก3. นักมายากล4. แกงเผ็ดเป็ดย่าง5. ลา ลา ลา6. เพ้อ7. อยาก8. เสือไบ9. ห้ามดื่ม
ตอนนี้กำลังแก้ไข ยังไงก็ขอบคุณที่แวะเข้ามาฟังครับ