+++++ วัฒนธรรมการฟังเพลงแบบ "ม้วนเดียวจบ" +++++
ในช่วงชีวิตนี้ผมมีเครื่องเล่น mp3 แบบพกพาอยู่ 3 เครื่อง ซื้อโดยต่างกรรมต่างวาระและสมควรต่อราคา แม้ใจจะอยากได้ไอพอด แต่ไม่รู้จะเอาปัญญาไหนไปซื้อ สำหรับเครื่องแรกนั้น ซื้อเมื่อปี 48 ยี่ห้อ creative MUVO 256 MB (น้อยนิดมาก) ราคาตั้งสี่พันกว่า อันที่สองเป็นจำยี่ห้อไม่ได้ ขนาด 4GB ก็ใช้ฟังได้พอถูไถ อันสุดท้ายเป็นมือถือไอโมบายพันกว่าบาท คุณภาพก็ตามราคา

เครื่องเล่นสองอันแรกนั้น ผมจะใส่เพลงเป็นโพลเดอร์ ตั้งชื่อแต่ละอัลบั้มเอาไว้ฟัง แต่พอมาใช้ไอโมบาย ลองใส่เพลงเป็นโฟลเดอร์ทั้งอัลบั้มอย่างที่เคยทำ ปรากฎว่าไม่ยักกะทำได้แฮะ เกิดอะไรขึ้นหนอ ลองทำทดสอบหลาย ๆ ครั้งก็พบว่าเขาไม่มีฟังก์ชันสำหรับแยกฟังเพลงเป็นหมู่เหล่า ต้องเอาเพลงมาใส่เรียงกันเอง ซึ่งยากลำบากแท้ ผมก็เลยสงสัยว่าทำไมหนอ ทำไม ไม่ทำให้เหมือนชาวบ้าน

ช่วงปี 51 ที่ซ้อมบาสให้น้องทุกเย็น ระหว่างมืด ๆ น้อง ๆ ก็จะเอาเพลงมาเปิดฟังกัน ซึ่งแต่ละคนมีเพลงในเครื่องมากมาย เมื่อเปิดดูของทุก ๆ คน ก็จะเห็นรายชื่อเพลงจำนวนมากที่แทบไม่ซ้ำศิลปินทั้งไทยและเทศ เป็นลิสต์เพลงฮิตที่พร้อมจะเปิดแทนเครื่องวิทยุได้ทุกเมื่อ

ผมเป็นคนที่ซีเรียสกับการฟังเพลงระดับหนึ่ง แม้ว่าตัวเองจะไม่ได้มีความรู้เรื่องเพลงมากนักและที่สำคัญเล่นดนตรีไ่ม่เป็นสักกะอย่าง (แต่เคยฝันว่าเป็นร๊อคสตาร์ 55) แต่เวลาฟังเพื่อสุนทรียะ ผมให้ความสำคัญเสมอด้วยการเลือกฟังเพลงทั้งอัลบั้ม

ผมติดการฟังเพลงทั้งอัลบั้ัมมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งผมคิดว่าสื่ออย่างเทปคาสเซทท์นั้นมีอิทธิพลมาก ๆ (อย่างน้อยก็สำหรับผมที่โตมากับสื่อนี้) เพราะคาสเซทท์เป็นสื่อบันทึกเสียงแบบเดียวที่ไม่มีแทรคให้เลือก ในขณะที่แผ่นเสียงซึ่งอายุยาวนานกว่าก็มีร่องเสียงให้ได้สังเกตว่าเพลงไหนอยู่แทรคใด แม้จะต้องใช้ความชำนาญสักนิด ในขณะที่แผ่นซีดี แผ่นเอ็มดี ก็มีแทรคให้เลือกตามความพึงพอใจ พอพัฒนามาถึงทุกวันนี้ในรูปลักษณ์ของเครื่องเล่นเอ็มพีสาม มันช่างง่ายเสียจนซีดียังตกกระป๋อง

คาสเซทท์อาจจะมีฟังค์ชั่นสำหรับ cue เพื่อหาเพลงถัดไปจากระยะห่างของเสียง แต่การคิวฟังครั้งหนึ่ง ๆ ก็ใช้เวลานานมาก จนกลายเป็นสื่ออะนาล็อกที่ต้องใช้ความโปรเหมือนกัน ดังนั้นการฟังมันทั้งอัลบั้มจึงเป็นทางเลือกที่น่าพิศมัยไม่น้อย และด้วยความที่มันไม่มีแทรคบอก อย่างน้อย ๆ เมื่อซื้อมา เราก็จะได้ฟังเต็ม ๆ 1 ครั้ง เพลงมันไม่ดีอย่างไรเราก็ทนฟังเพราะไม่รู้ว่าเพลงต่อไปมันจะเริ่มตรงไหน กรอไปข้างหน้าก็จะเสียเวลาเปล่า ๆ การฟังเทปคาสเซทท์ทำให้ผมมีเซนส์บางอย่างติดตัวมา คือเราจะรู้ว่าเมื่อเพลงนี้เล่นจบ จะมีซาวด์บางอย่างของเพลงต่อไปตามขึ้นมา ซึ่งเวลาไปฟังในรวมฮิตหรือทางวิทยุจะเผลอคิดเสมอว่าเดี๋ยวเพลงต่อไปต้องขึ้นแบบนี้แ่่น่นอน

การฟังเพลงไปนั่งอ่านปกเป็นความสุขแบบหนึ่งยิ่งนัก ทำให้ผมซึมซับนิสัยการฟังเพลงแบบรวดเดียวทั้งม้วนมาจนถึงทุกวันนี้ แม้ว่าสื่อจะเปลี่ยนไปเป็นซีดีหรือเครื่องเล่น mp3 ก็ตาม

McLuhan เจ้าสำนักโตแรนโตบอกว่า เมื่อสื่อเปลี่ยน คนก็เปลี่ยนตาม คำถามที่น่าสนใจในการศึกษาบางทีอาจจะไ่ม่ได้อยู่ที่ว่า เราฟังอะไร แต่เปลี่ยนเป็น เราฟังอย่างไร ความง่ายของสื่อใหม่ ๆ ทำให้เราสามารถเลือกฟังเพลงได้เฉพาะอย่างที่ใจต้องการ เครื่องเล่นต่าง ๆ มีฟังค์ชั่นเล่นซ้ำเฉพาะเพลงที่ชอบ แถมยังสามารถกดรีโมทสั่งไปยังเพลงที่เราต้องการฟังได้เลยในทันที แถมเดี๋ยวนี้เครื่องเล่นเอ็มพีสามราคาแพงอย่าง ไอพอดนาโน ไอพอดคลาสสิค และ ไอพอดทัช เจนล่าสุด ยังสามารถเลือกทำเพลย์ลิสต์ได้จากเพลงที่เราชอบโดยประมวลจากเพลงทั้งหมดในเครื่อง โอ้ว!!! อะไรจะช่างวิเศษขนาดนี้

ในเมืองไทย ซีดีเริ่มได้รับความนิยมในปี 2547 (ผมจำได้ดีเพราะ ปี 2546 ผมอยู่ปีสี่ยังซื้อเทปฟังอยู่เลย พอมาเรียน ป.โทปี 47 ผมเริ่มซื้อซีดีปีนั้น พร้อมกับราคาที่ถูกลงของซีดีค่ายแกรมมี่และอาร์เอส) เด็กเจเนเรชั่นเรียนมหาวิทยาลัยทุกวันนี้ส่วนใหญ่โตมาพร้อมกับซีดีแล้ว อาจจะมีบ้างที่เคยซื้อเทปคาสเซทท์เป็นของตัวเอง แต่ผมเดาเอาว่าถ้าได้ฟังก็คงของพ่อแม่พี่หรือญาติ ๆ มากกว่า

การโตมาพร้อมกับสื่ออย่างซีดี และความง่ายในการเข้าถึงสื่อ ทำให้เรามีโอกาสได้ง่ายที่จะเลือกฟังเฉพาะสิ่งที่เราอยากฟังเท่านั้น เพลงไหนเราไม่ชอบเราก็กด skip ยิ่งเดี๋ยวนี้สามารถริปเพลงเก็บไว้ในเครื่อง หรือดาวน์โหลด (ทั้งถูกและไม่ถูกกฎหมาย) คุณค่าของเพลงที่ได้มาในฐานะของคนฟังที่ต่ำลง งานเพลงดิจิตอลเหล่านี้พร้อมทุกเมื่อที่จะถูกลบออกไปได้เสมอ บางเพลงเพียงฟังแค่ครั้งเดียวไม่ถูกใจก็ลบทันที

พฤติกรรมแบบนี้พบเจอได้ทั่วไปและผมรู้สึกเสียดายที่เขาเหล่านี้พลาดสิ่งดี ๆ ไปถ้าเขาใส่ใจกับ "วิธีการฟังมากกว่านี้"

ประการแรก ในแต่ละอัลบั้มเพลงนั้น โปรดิวเซอร์และคนทำเพลงต่างตั้งใจจัดเรียงวางเพลงของพวกเขาไว้แล้ว โดยอาจจะเน้นห้วงอารมณ์อันต่อเนื่องจากเพลงสู่เพลง จากเพลงสู่อัลบั้ม ทำให้เราได้ฟังแล้วรู้สึกถึงความเป็นเนื้อเดียวกันทั้งอัลบั้ม

ผมขอยกตัวอย่างเป็นรูปธรรมสักผลงาน เ่ช่น อัลบั้ม Simple Thing ของ Zero 7 งานชิ้นนี้เป็นดนตรีอิเลคโทรนิคส์ชิลล์เอาท์ที่เพราะมาก มีหลายเพลงที่ตัดมาฟังเดี่ยว ๆ ได้ และได้รับการเปิดในวิทยุเสมอ ๆ โดยเฉพาะเพลง Destiny แ่ต่หากลองฟังตั้งแต่เพลงแรกคือ I have seen ที่ Mozez ขับร้องไปจนถึงเพลงสุดท้าย เราจะรู้สึกความสว่างและอบอุ่นบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ ซึ่งลำพังเพลง Destiny เพลงเดียวไม่สามารถก้าวไปถึงความรู้สึกนั้น





หรืองานหลาย ๆ ชิ้น ศิลปินออกแบบมาแล้วให้เป็นงานในลักษณะ Concept album คือมีการเล่าเรื่องและคุมโทนของงานออกมาในทางเดียวซึ่งส่วนมากพบในงานโปรเกรสซีฟ งานแบบคอนเซปท์อัลบั้มก็เช่นกัน หากฟังแยกเป็นแทรคก็พบความเพราะมิต่างกันมากนัก ทว่าหากฟังรวมกันยาวเหยียดตั้งแต่ต้นจนจบเราจะได้อารมณ์อีกอย่างที่สงวนแก่คนที่รักสุนทรียะแบบนี้เท่านั้นได้สัมผัส

อัลบั้ม Fastasma ของ Cornelius เป็นงานคลาสสิคอีกชิ้นที่ออกแบบมาเพื่อใช้ฟังทั้งอัลบั้มตั้งแต่ต้นจนจบ แม้จะมีเพลงดัง ๆ อย่าง Star fruits SurfRider เป็นเพลงเอก ทว่าเมื่อลองแยกฟังเป็นแทรค ๆ ไปจะพบว่าหมดความเพราะไปไม่น้อย เพราะตัวของคอร์เนเลียสใช้เทคนิค fade in และ fade out (การค่อย ๆ เพิ่มเสียงและลดเสีียง) ในต้นและท้ายของแต่ละเพลง ทำให้การฟังแต่ละเพลงแบโดด ๆ นั้นมีการขาดหายไปของเสียงบางอย่างในช่วงต้นและท้าย พลอยทำให้เสียอารมณ์เอาได้ง่าย ๆ ลองฟังจากเพลง Chapter 8 ~Seashore and horizon~ ที่เอามาแปะให้ฟังดูนะครับ จะเห็นว่าเพลงเริ่มได้ห้วนมากและจบได้ประหลาดมาก ที่เป็นเช่นนี้เพราะเิริ่มต้นเพลงและท้ายเพลงจริง ๆ ไปผสมอยู่กับเพลงอื่น




ประการสำคัญได้จากการฟังเพลงแบบม้วนเดียวจบ คือ เราีมีโอกาสได้ค้นพบเพลงเพราะ ๆ ที่ไม่โปรโมต หรือเพลงจำพวกบีไซด์ดี ๆ จำนวนมาก ซึ่งโอกาสแบบนี้เด็กที่โหลดเอ็มพีสามเฉพาะเพลงดัง ๆ มาฟังไม่เคยรู้จัก

เพลงดี ๆ จำนวนมากไม่ได้ถูกเลือกมาโปรโมตทำให้คนส่วนใหญ่ไม่รู้จักกัน แต่หากเราซื้อแผ่นมานั่งฟังอย่างตั้งใจจากต้นจนจบเราจะพบว่ามีเพลงที่เราจะหลงรักและหลงใหลได้เสมอ อย่างผมก็มีหลายเพลงที่เป็น B-Side และผมรักมาก เช่น เพลง Machine Gun ของ Futon, ไฮเวย์ ของ สี่เต่าเธอ ลั่นทม ของ Goose ถ้าเพลงฝรั่งก็อย่าง The Tourist ใน O.K. Computer, Gene by Gene และ Magic America ของ Blur และ Chemistry between Us ของ Suede เป็นต้น

สำหรับใครที่ไม่เคยลองฟังเพลงทั้งอัลบั้มหรือฟังแต่เพลงดัง ๆ ฮิต ๆ ก็อยากให้ลองฟังแบบนี้กันดูบ้างครับ เพราะมันประสบการณ์ความรู้สึกที่ดีมาก ๆ เลย และความรู้สึกเหล่านี้มันบอกกันไม่ได้ด้วยครับ เพราะต้องฟังเองเท่านั้น ผมแนะนำอัลบั้ม O.K. Computer ของ Radiohead ลองฟังจากต้นจนจบ คุณจะรู้สึกได้เลยว่าเพลงอย่าง The Tourist นั้นปิดอัลบั้มได้ทรงพลังขนาดไหน หรือวงไทยอย่าง Siam Secret Service ที่เรียงเพลงต่อกันโดยเฉพาะในหน้าบีได้อารมณ์ราวกับฝันร้าย

ลองฟังกันดูนะครับ รับรองจะติดใจ



Create Date : 11 มกราคม 2553
Last Update : 11 มกราคม 2553 12:42:42 น.
Counter : 1150 Pageviews.

21 comments
วิ่งข้างบ้าน 11,13,14,15 เม.ย.2567/สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 สองแผ่นดิน
(15 เม.ย. 2567 22:33:38 น.)
Oh, Pretty Woman - Roy Orbison ... ความหมาย tuk-tuk@korat
(12 เม.ย. 2567 12:16:07 น.)
2467_The kissing Booth หอมกร
(10 เม.ย. 2567 09:53:30 น.)
:: ถนนสายนี้มีตะพาบ โครงการที่ 349 :: กะว่าก๋า
(8 เม.ย. 2567 05:48:36 น.)
  


ป้าเชิญนางฟ้า...มาอวยพรวันเกิดค่ะ
ขอให้พบแต่สิ่งดีๆ คนที่ดีมีจิตใจดี
และเหตุการณ์ดีๆรวมทั้ง...
ความรักที่ดีที่สุดในชีวิตนะคะ
หวังว่าคงจะไม่ช้าไปนะคะ
*********
******
*****
***
*



โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 11 มกราคม 2553 เวลา:13:08:32 น.
  
ตอนเป็นวัยรุ่น (เมื่อไม่นานมานี้นี่แหล่ะ)

ติด Great Escape ของ Blur มากก

ไปไหนต้องติดตัวไปด้วยตลอด เพลงเพราะทุกเพลง ฟังทั้งวัน ทั้งคืน ไม่เบื่อเลย

ปล. ชอบปกหลัง มากกว่าปกหน้าแฮะ อิ อิ




ปล.2 สุขสันต์วันเกิดค่ะ
โดย: Shallow Grave วันที่: 11 มกราคม 2553 เวลา:14:21:54 น.
  
เอ่อ..จนป่านนี้ก็ยังไม่มีเอ็มพีสาม สี่ ใดๆ ทั้งสิ้น

ปกติเวลาถ้าซื้อเทปในสมัยก่อนกับซีดีสมัยนี้ พี่ก็ชอบฟังแบบม้วนเดียวจบนะคะ




เห็นด้วยว่าภาพวาดในวัดสวยมากๆ ชอบสุดๆ เลยแหละ
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 11 มกราคม 2553 เวลา:16:30:00 น.
  


สุขสันต์วันเกิดค่ะ
ขอให้คุณพบเจอแต่สิ่งดี ๆ มีความสุข
สดชื่น สบายใจ สุขภาพแข็งแรงค่ะ

โดย: I_sabai วันที่: 11 มกราคม 2553 เวลา:16:30:08 น.
  
โดย: ใจดีค่ะ วันที่: 11 มกราคม 2553 เวลา:17:07:42 น.
  
เป็นคนนึงที่มีนิสัยฟังเพลงแบบม้วนเดียวจบเหมือนกันค่ะ ไม่ว่าจะฟังกี่รอบมาแล้ว ชอบฟังแบบรวดเดียวทั้งอัลบั้มมากกว่า (หรือเป็นเพราะวงที่ชอบมันฟังได้ทั้งอัลบั้มทั้งหมดเลยมั๊ง อิ อิ)
ที่สำคัญ เวลาฟังไปแล้วอ่านปกเทป หรือปกซีดีไปด้วยเนี่ย มีความสุขมากๆ แต่เดี๋ยวนี้พฤติกรรมแบบนั้นไม่ค่อยมีแล้ว
โดย: perfect blue IP: 124.120.153.165 วันที่: 11 มกราคม 2553 เวลา:17:41:37 น.
  
อ๊ะ ลืม
ป.ล. เด๋วนี้มี mp3 แล้ว ก็ยังมีพฤติกรรมเหมือนเดิมนะ แต่ข้อเสียของ mp3 คือ ถึงแม้จะฟังแบบ "ม้วนเดียวจบ" ก็ตาม มันก็ไม่ smooth เท่าไหร่ในเพลงที่เชื่อมกัน (หรือเป็นเฉพาะเครื่องเล่นที่มีก็มิอาจรู้ได้)
ป.ล.ป.ล. ตามอ่านบล็อคแบบไม่ค่อยสม่ำเสมอเท่าไหร่ ไม่ค่อยคอมเม้นท์ 55 แต่ entry นี้ขอพล่ามนิดนึง แบบว่าโดนใจมั่กๆ
โดย: perfect blue IP: 124.120.153.165 วันที่: 11 มกราคม 2553 เวลา:17:48:02 น.
  
สุขสันต์วันเกิดนะคะ ขอให้หล่อ รวย มีความสุขมากๆนะคะ
โดย: ณรินทร์รัตน์ชนา วันที่: 11 มกราคม 2553 เวลา:17:50:01 น.
  
คุณ perfect blue (หน้าไฮด์ลอยมาทันที)

ปกติผมใช้ itunes ฟังเพลงครับ มันมีฟังค์ชั่น gapless album ให้เราเลือกได้ด้วย ผมว่าเจ๋งเลย เวลาฟังเพลงที่ต่อกันนี่เนียนสนิท ไม่มีกระตุกให้เซ็งเล่นครับ
โดย: I will see U in the next life. วันที่: 11 มกราคม 2553 เวลา:18:30:58 น.
  


สุขสันต์วันเกิดค่ะ
โดย: โสมรัศมี วันที่: 11 มกราคม 2553 เวลา:18:37:03 น.
  
แวะมาทักทายพร้อม HBD นะคะ ^^

สุข สดชื่น สดใส สุขภาพแข็งแรงค่ะ





โดย: sierra whiskey charlie วันที่: 11 มกราคม 2553 เวลา:19:08:14 น.
  
สุขสันต์วันจันทร์อันแสนผ่อนคลายนะค้าบ
โดย: ผมชอบกินข้าวมันไก่ วันที่: 11 มกราคม 2553 เวลา:20:50:03 น.
  
Happy Birthday Comments at dazzlejunction.com



สุขสันต์วันเกิดค่ะ ขอให้มีความสุขมากๆ มีสุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจ คิดหวังสิ่งใดก็ขอให้ประสบความสำเร็จทุกประการค่ะ
โดย: แม่น้องแปงแปง วันที่: 11 มกราคม 2553 เวลา:21:19:09 น.
  
โดย: debry วันที่: 11 มกราคม 2553 เวลา:21:25:18 น.
  
จริงค่ะ
เพลงดี ๆ เดี๋ยวนี้หาฟังยาก
ก็ได้แต่หาฟังตามบล็อคของเพื่อน ๆ นี่ล่ะค่ะ

ขอบคุณนะคะ



โดย: ผีเสื้อยิปซี วันที่: 11 มกราคม 2553 เวลา:22:18:31 น.
  
ตอนนี้ฟังอัลบั้มโปรด
The Arcade Fire - Funeral
โดย: grappa วันที่: 12 มกราคม 2553 เวลา:19:40:29 น.
  
ใช่เลย เห็นด้วย

เราควรฟังเพลงกันเป็นอัลบั้ม (เอ่อ แต่ยกเว้นบางแทร็กที่มันห่วยเกินทนก็นะ กดข้ามไปก็ได้)

นึกออกอีกเพลงอย่างอพาร์ตเม้นท์คุณป้า เพลง เป็นไปได้ไง ที่โด่งดังในหมู่เด็กแนว ฟังแยกแทร็กก็ว่าดีแล้ว ฟังเป็นอัลบั้มนี่ถึงกับลงไปชักดิ้นชักงอเหมือนโดนน้ำร้อนสาด เพราะมันแรงกว่าเดิมแปดล้านเท่า
โดย: pick IP: 61.90.167.124 วันที่: 13 มกราคม 2553 เวลา:14:15:24 น.
  
kid a ของ radiohead ก็ไม่มีการตัดซิงเกิ้ล นัยว่าเพื่อการฟังเป็นอัลบั้มหรือเปล่าดอง
โดย: pick IP: 58.8.167.44 วันที่: 13 มกราคม 2553 เวลา:14:16:47 น.
  
^
^

น่าจะเป็นเช่นนั้นนะปิ๊ก หรือวงตั้งใจแนวเฉย ๆ ก็ไม่รู้



โดย: I will see U in the next life. วันที่: 13 มกราคม 2553 เวลา:15:20:59 น.
  
ก้งั้นๆๆน่ะ
โดย: คู่หู คู่รัก IP: 124.122.214.253 วันที่: 15 มกราคม 2553 เวลา:20:55:08 น.
  
รุ่นนวพรยังทันคาสเสตอยู่อาจารย์ สมัยนั้นเป็นช่วงเปลี่ยนคั่วทางสื่อบันทึกเสียงเมืองไทย เคยพาดผ่านตั้งแต่เทป ซีดี และการด์เพลง(ที่จะขายแต่แทรกเปิดตัวเพลงสองเพลง ลักษณะเป็นสี่เหลี่ยม) แต่ไม่ทันรุ่นแผ่นเสียง บ้านไม่ร่ำรวยขนาดมีติดบ้านไว้ใช้ในงานเต้นรำ ชอบซื้อเทปเพราะเทปสามารถอัดทับและแลกคือซื้อตลับใหม่ได้ในราคาห้าสิบเปอร์เซ็นต์
โดย: นวพร IP: 58.8.184.246 วันที่: 18 เมษายน 2553 เวลา:20:25:27 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Djdonk-mc43.BlogGang.com

I will see U in the next life.
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]

บทความทั้งหมด