โพรเพเชีย (Propecia) ยาสำหรับ ผมบาง จากกรรมพันธุ์ในผู้ชาย

เอกสารกำกับยา

โพรพีเซีย (ฟิเนสเทอไรด์ MSD) เป็นสารประกอบสังเคราะห์กลุ่ม 4-azasteroid ซึ่งมีฤทธิ์ยับยั้งจำเพาะต่อเอนไซม์ 5 alpha-reductase type II ซึงเป็นเอนไซม์ภายในเซลทำหน้าที่เปลี่ยนแปลงฮอร์โมนแอนโดเจน เทสโทสเทอโรนให้เป็น ไดไฮโดรเทสโทสเทอโรน (DHT)

ข้อบ่งใช้

โพรพีเซีย มีข้อบ่งในในการรักษาอาการผมร่วงในผู้ชาย (androgenetic alopecia) โดยมีผลเพิ่มการงอกของเส้นผม และป้องกันไม่ให้ร่วงอีก

โพรพีเซีย ไม่มีข้อบ่งใช้ในผู้หญิง และเด็ก

โพรพีเซีย ไม่มีผลรักษาในหญิงวัยหมดประจำเดือนที่มีภาวะผมร่วง

ขนาด และการบริหารยา

แนะนำให้รับประทาน โพรพีเซีย ขนาด 1 มิลลิกรัม วันละ 1 เม็ด อาจให้พร้อมกับอาหารหรือไม่ก็ได้ โดยทั่วไปจะเห็นผลในการเพิ่มการงอกของเส้นผม และ/หรือป้องกันผมร่วงต่อไป ก็เมื่อมีการใช้ยาติดต่อกันทุกวันนาน 3 เดือนหรือมากกว่า และควรใช้ยาต่อไปเพื่อให้ได้ผลการรักษาสูงสุด การหยุดยาจะมีผลทำให้กลับคืนสู่สภาพเดิมก่อนใช้ยาภายใน 12 เดือน

ข้อห้ามใช้

โพรพีเซีย ห้ามใช้ในกรณีดังต่อไปนี้

• หญิงมีครรภ์ หรือมีโอกาสตั้งครรภ์
  
• ผู้ที่แพ้ส่วนประกอบใดๆของยานี้
  

ข้อควรระวัง

จากการศึกษาทางคลีนิคของการใช้ โพรพีเซีย ในผู้ชายอายุ 18-41 ปี พบว่าค่า Prostate specific antigen (PSA) ลดลงจาก 0.7 นาโนกรัม/มิลลิลิตร เป็น 0.5 นาโนกรัม/มิลลิลิตร ในเดือนที่ 12 เมื่อใช้ โพรพีเซีย ในการรักษาอาการผมร่วง ในผู้ชายสูงอายุที่เป็นโรคต่อมลูกหมากโต (Benign prostatic hyperplasia : BPH) ร่วมด้วย ควรตระหนักว่าในผู้ป่วยดังกล่าวค่า PSA อาจลดลงถึง 50%

หญิงมีครรภ์

ห้ามใช้ โพรพีเซีย ในหญิงมีครรภ์หรือคิดว่าอาจจะตั้งครรภ์ เนื่องจาก 5 alpha-reductase inhibitors รวมทั้งฟิเนสเทอไรด์ สามารถยับยั้งการเปลี่ยนฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน เป็นไดไฮโดรเทสโทสเทอโรน จึงอาจทำให้เกิดความผิดปกติของอวัยวะเพศภายนอกของทารกเพศชายในครรภ์ได้ ถ้ามารดาได้รับยานี้

หญิงมีครรภ์หรือคิดว่าอาจจะตั้งครรภ์ ไม่ควรสัมผัสกับเม็ดยาโพรพีเซีย ที่บิ่นหรือแตก เนื่องจากอาจเกิดการดูดซึมฟิแนสเทอไรด์ และมีโอกาสเสี่ยงต่อทารกเพศชายในครรภ์ โพรพีเซียเป็นยาเม็ดเคลือบ สามารถป้องกันการสัมผัสกับตัวยาโดยตรงได้ ถ้าเม็ดยาไม่บิ่นหรือแตก

อาการข้างเคียง

ผู้ป่วยมักทนต่อยา โพรพีเซีย ได้ดี อาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นมักไม่รุนแรง และไม่จำเป็นต้องหยุดยา จากการศึกษาทางคลีนิกแบบ placebo-controlled double-blind multicenter 3 การศึกษาในผู้ชายมากกว่า 3,200 คนเป็นระยะเวลา 12 เดือน ได้มีการประเมินความปลอดภัยของการใช้ฟิแนสเตอไรด์ในการรักษาอาการผมร่วงในชาย พบว่าความปลอดภัยของผู้ที่ได้รับ โพรพีเซีย ใกล้เคียงกันกับผู้ที่ได้รับยาหลอก โดยการหยุดการรักษาเนื่องจากอาการข้างเคียงของยาเกิดขึ้น 1.7% ในชาย 945 คนที่ได้รับ โพรพีเซีย และ 2.1% ในชาย 934 คนที่ได้รับยาหลอก

จากการศึกษาเหล่านี้พบว่าอาการข้างเคียงเนื่องจากยาโพรพีเซียงที่พบ >= 1% มีดังต่อไปนี้ :

• ความรู้สึกทางเพศลดลง (โพรพีเซีย 1.8%, ยาหลอก 1.3%)
  
• ความผิดปกติในการแข็งตัวของอวัยวะเพศชาย (1.3%, 0.7%)
  
• นอกจากนี้ยังพบว่าปริมาตรน้ำอสุจิที่ขับออกมาลดลง (0.8%, 0.4%)
  

การเกิดอาการข้างเคียงเหล่านี้จะหายไปได้โดยหยุดยา โพรพีเซีย และมากรายใช้ยาต่อไปอาการข้างเคียงก็หายไปเอง จากอีกการศึกษาหนี่งต่างหากพบว่า ผลของโพรพีเซีย ต่อปริมาตรน้ำอสุจิที่ขับออกมา ไม่แตกต่างกับยาหลอก

อาการข้างเคียงเหล่านี้พบว่าน้อยลงเหลือ <= 0.3% ในปีที่ 5 ของการรักษาด้วยโพรพีเซีย มีรายงานอื่นเกี่ยวกับอาการข้างเคียงจากยานี้หลังยาออกสู่ท้องตลาดได้แก่ ความผิดปกติของการหลั่งน้ำอสุจิ เต้านมโตขึ้นและกดเจ็บ อาการแพ้ยาเช่น เกิดผื่นที่ผิวหนัง คัน ลมพิษ ริมฝีปากบวม หน้าบวม และปวดบริเวณลูกอัณฑะ

อ้างอิง :
1. เอกสารกำกับยาโพรพีเซีย
2. //www.elib-online.com/physicians/drugs/drug_propecia01.html

---

Create Date : 29 มีนาคม 2551 Last Update : 25 พฤษภาคม 2551 23:26:34 น. Counter : 20056 Pageviews.		30 comments
Share Tweet