4. เที่ยวฮาวาย.. ภาคจบ





บล็อกนี้เป็นอันที่สาม ซึ่งต่อเนื่องมาจากบล็อคแรก เรื่อง เมื่อรู้ตัวว่าได้ไปฮาวาย และบล็อกที่สองเรื่อง เที่ยวฮาวาย - ภาคแรก ถ้าใครยังไม่ได้ติดตามภาคแรกๆของบล็อกนี้ ก็เชิญแวะไปชมกันได้ครับ

ในบล็อกกลุ่มนี้ผมตั้งใจจะเล่าประสบการณ์ที่ไปฮาวายมาตอนต้นเมษา 49 ว่าไปเจออะไรมาบ้าง.. คงจะทำเป็นเหมือน diary ว่าแต่ละวันไปเจออะไรมา แล้วก็เพิ่มรูปภาพเพื่อให้เห็นบรรยากาศ ก็คงเหมือนบล็อกที่แล้วที่ข้อมูลจะมีการเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ เพราะถ้ามีเวลาก็จะแวะเข้ามาเพิ่มข้อมูลกับรูปภาพซะทีนึง คงต้องแวะเข้ามาดูเป็นระยะๆนะครับ




วันที่ห้า - พฤหัส 6 เมษา - ย้ายโรงแรม - เที่ยวฮานูม่าเบย์


วันนี้เป็นวันที่คนไม่ได้อยู่ต่อจะเดินทางกลับ ไฟล์ทกลับออกตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า.. พวกนี้เลยต้องเช็คเอาท์ตั้งแต่ตีห้าเพื่อขึ้นบัสไปสนามบิน สำหรับพวกผม..วันนี้ต้องย้ายโรงแรมไปพักอีกที่นึง เป็นโรงแรมเรอเนสซองท์ อยู่ใกล้ๆ Alomaona (อะโลมานา) เอาละสิ คนกลุ่มนี้ตั้ง 12 คนแถมกระเป๋าอีก.. จะเรียกแท๊กซี่ไปก็คงต้องใช้สามคัน คิดไปคิดมาแล้วค่าแท๊กซี่ไม่คุ้ม ก็เลยตกลงเช่ารถกันเลย แล้วเอามาใช้ขนกระเป๋าก่อน แล้วจะได้เอารถขับไปเที่ยวกันต่อในตอนบ่ายด้วย ค่าเช่ารถก็ประมาณ 60 US$ ต่อวันสำหรับรถที่นั่งได้ 8 คน บวกค่าประกันอีกประมาณ 30 US$ รวมค่าน้ำมันแล้วก็ตกวันละประมาณ 100 เหรียญ



พอขนของเช็คอินเข้าโรงแรมใหม่เสร็จ ก็มุ่งหน้าไปอ่าวฮานูมา (Hanouma Bay) ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวมีชื่ออีกที่นึงของฮาวาย ส่วนใหญ่จะไปดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นกันที่นี่ ฮานูมาเป็นอ่าว มีต้นกำเนิดจากลาวาภูเขาไฟที่ระเบิดขึ้นจะเป็นแผ่นดิน แล้วก็ถูกน้ำทะเลกัดเซาะเข้ามาจนเป็นอ่าว

ทางเข้ามายังฮานูม่าเบย์จะเป็นส่วนที่อยู่บนเขาที่โอบล้อมอ่าวอยู่ ต้องจอดรถข้างบน แล้วก็เดินเดินลงเขาไปที่หาด ซึ่งเค้าจะมีถนนลงไปถึงหาดข้างล่าง แล้วก็มีรถคล้ายๆรถกอล์ฟแต่คันใหญ่สำหรับรับส่งผู้สูงอายุ ที่นี่เค้าค่อนข้างจะเข้มงวดเรื่องระบบนิเวศน์ ก่อนจะลงไปหาดได้ทุกคนต้องเข้าฟังอบรมในห้องเหมือนโรงหนังเล็กๆประมาณ 20 นาทีก่อน เป็นภาพยนต์เรื่องกับระบบนิเวศน์ของที่นี่ว่า ธรรมชาติที่นี่เกิดมาได้ยังไง อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ เพราะเค้าต้องการจะรักษาธรรมชาติไว้ให้ดีที่สุด แล้วก็ข้างล่างจะไม่มีอะไรขาย ไม่เหมือนหาดบ้านเราไก่ย่างส้มตำเสริฟถึงหาด

หาดฮานูม่า

ฟังการบรรยายจบก็เดินตามถนนลงเขาไปที่หาด ซึ่งหาดที่นี่ก็ไม่ได้ใหญ่อะไรเพราะอยู่ภายในอ่าว แต่ก็มีคนมาเยอะเพราะดำน้ำดูปะการัง กะดูปลากัน ถามว่าสวยกว่าบ้านเรามั๊ย ก็คงไม่ได้สวยกว่า แต่ชอบใจที่เค้ามีการดูแลรักษาอย่างดีเป็นระบบแล้วก็สะอาด ชายหาดก็ไม่ค่อยต่างจากบ้านเราเท่าไหร่ แต่อากาศเย็นทำให้ไม่รู้สึกว่าร้อน แม้จะเดินกลางแดด แล้วก็ไม่เหนียวตัว เพื่อนๆบางคนเปลี่ยนชุดลงดำน้ำดูปะการัง ก็ไปเช่าสน็อกเกิ้ลที่นี่หละประมาณ 6 US$ ส่วนผมก็เดินชายหาดจากปลายนึง ไปอีกปลายนึง ถ่ายรูปเก็บภาพบรรยากาศบ้าง บิกีนี่บ้าง (ฮ่าๆ)


Click to see full picture




วันที่หก - ศุกร์ 7 เมษา - Diamond Head - Pearl Harbor


ถ่ายหน้าป้าย Diamond Head ก่อนเดินขึ้น

Diamond Head เป็นหุบเขาอยู่ทางปลายหาด Waikiki สำหรับคนเกาะ O'ahu แล้ว Diamond Head ยังหมายถึงทิศใต้ด้วย เพราะตั้งอยู่ทางใต้ของเกาะ Diamond Head จะเป็นหุบเขาที่ตรงกลางเป็นแอ่ง เวลาขับรถเข้าไปต้องผ่านอุโมงค์ที่ทะลุขอบหุบเขาเข้าไปแล้วไปจอดรถตรงกลางหุบ จากนั้นก็เดินเท้าขึ้นไปที่ยอดของขอบด้านที่ติดมหาสมุทร ซึ่งเมื่อก่อนเป็นป้อมปืน และป้อมทหารที่ใช้สังเกตการณ์เรือรบที่เข้ามาในบริเวณนี้

ทางเดินขึ้นไป Diamond Head

ทางขึ้นก็จะเป็นทางเดินปูน ลัดเลาะไปตามไหล่เขา แล้วก็ไต่สูงขึ้นเรื่อยๆเพื่อไปถึงขอบของภูเขาที่เห็นไกลๆในรูปหละครับ ช่วงแรกๆก็เป็นทางเดินปูนแบบนี้ แต่จะค่อยๆชันขึ้นเรื่อยๆตอนใกล้ๆภูเขา ก็ค่อยเดินกันไปตามทางนี้ซะ 10 นาทีก็เริ่มเลาะไปตามไหล่เขา เค้าก็ตัดทางเดินซิกแซกไปบนเขาไม่ให้ชันมา สามารถเดินขึ้นได้ง่ายๆ

ทางขึ้น Diamond Head บันไดอีกช่วงนึงหลังจากออกจากอุโมงค์มาแล้ว ทั้งชันทั้งยาว

พอหมดช่วงทางเดิน ก็เป็นบันไดชันๆขึ้นเขาเลย อันแรกก็ก่อนเข้าอุโมงค์มืดๆที่ตัดทะลุภูเขาเข้าไป พอออกจากอุโมงค์ก็.. โอ้.แม่เจ้า.. เจอบันไดอันที่สองที่ทั้งสูง ทั้งชัน ก็ต้องพักทำใจอีกพักนึง ก่อนเริ่มปีนบันไดขึ้นไป เดินไปหอบไป พักไปเป็นระยะๆ สุดขั้นบันไดก็จะเป็นเหมือนกับฐานของทหาร ที่เค้าเจาะเข้าไปในภูเขา เดินๆไปแล้วก็ไปปีนบันไดวนๆอีกสามชั้น แล้วก็ไปปีนลอดช่องหน้าต่างแคบๆ (ดุดิ๊ทรหดมาก) เพื่อออกไปยังจุดชมวิวด้านนอก บนยอดสูงสุดของ Diamond Head

มองจากยอดของ Diamond Head จะสามารถมองได้รอบ 360 องศาเลย เห็นทั้งบริเวณที่พักบนไหล่เขาด้านหลัง แล้วก็หาดไวกีกิได้ทั้งหมด เห็นแล้วก็เลยลองถ่ายภาพเป็นแบบพาโนรามามา โดยเอาหลายๆภาพมาต่อกัน จะได้เห็นมุมมองจากยอด Diamond Head ที่กว้างขึ้น

วิว Waikiki Beach จากยอด Diamond Head

อยู่บนยอด Diamond Head ซักพักพอหายเหนื่อย เราก็ต้องเดินลงกลับมาทางเดิมหละครับ ก็อีกประมาณ 2 กม.กลับไปที่รถ แต่ขาลงสบายมาก ไม่เหนื่อยเหมือนขาขึ้นแต่ต้องระวังจะลื่น หรือสะดุดล้มมากกว่า ลงมาถึงข้างล่างก็ฝนตกอีก.. ฝนตกได้ทุกวัน แต่ดีอย่างว่าแต่ละครั้งจะตกไม่นาน ซะ 10-15 นาทีก็จะหยุด แล้วก็เป็นเม็ดเล็กๆ

จุดหมายต่อไปก็คือไปที่ Perl Harbor ซึ่งเป็นเราเคยแวะไปมาครั้งนึงแล้ว แต่ครั้งนั้นไปตอนบ่ายละ ไม่ทันที่จะดูอะไร จุดน่าสนใจของที่เพิร์ลฮาเบอร์ ก็คือเรือดำน้ำ Bowfin ที่เข้าร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 2 เรือรบ Missouri วึ่งเป็นเรือที่ญี่ปุ่นเซ็นสัญญายอมแพ้สงคราม แล้วก็เรือรบอริโซน่าที่ถูกญี่ปุ่นบินมาทิ้งระเบิดจมอยู่ก้นอ่าวเพิร์ลฮาเบอร์

อนุสาวรีย์ที่เพิร์ลฮาเบอร์ ถ่ายจากบนเรือดำน้ำ Bowfin

ก็เริ่มจากเรือดำน้ำ Bowfin ที่ร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อน ปัจจุบันจอดอยู่ที่เพิร์ลฮาเบอร์เป็นเหมือนจุดท่องเที่ยวนึง ซึ่งเปิดให้คนลงไปชมภายในเรือดำน้ำได้ ก่อนลงเรือเค้าก็จะให้เครื่องบรรยายให้คล้องคอ หน้าตาคล้าย Walky Talky แต่มีปุ่มเลขให้กด คือเดินไปในเรือดำน้ำเค้าจะมีเบอร์ติดไว้ พอเรากดเบอร์นั้นที่เครื่องนี้ก็จะมีเสียงบรรยายว่าห้องที่เรายืนอยู่นี่เป็นห้องอะไร ก็มีหลายบรรยายหลายภาษาเหมือนกัน แต่ไม่มีภาษาไทยอะ

เรือดำน้ำ Bowfin


ภายในเรือดำน้ำก็แบบที่เราเห็นในหนังเลยครับ ส่วนหัวเรือกะท้ายเรือเป็นห้องที่ใช้ยิงตอปิโด ก็จะมีตอปิโดเก็บอยู่ข้างๆ สามารถเลื่อนเข้าไปในท่อยิงได้ เดินไปในเรือก็จะเป็นทางเดินแคบๆ แล้วก็มีห้องเล็กๆอยู่สองข้างทางเดิน บางช่วงก็เป็นห้องเครื่องก็จะมีมิเตอร์วัดอะไรไม่รู้เต็มไปหมด บางช่วงเป็นห้องนอนซึ่งจริงๆก็เหมือนห้องนอนในรถไฟตู้นอน จะเป็นเตียงแบบแขวนจากกำแพงหรือเพดาน จำนวนที่นอนในเรือจะมีน้อยกว่าจำนวนคน เพราะเค้าจะหมุนกันตลอด 24 ชม. คนไหนนอนก็มานอน คนที่นอนอยู่ก่อนก็ตื่นไปทำงาน

รถ Trolley สำหรับไปดูเรือรบมิสซูรี่

ใช้เวลาเดินอยู่ภายในเรือดำน้ำประมาณ 20 นาที ก็ก้มๆเงยๆหัวชนมั่ง เตะประตูมั่ง เริ่มเดินจากท้ายเรือ มาออกที่หัวเรือแล้วก็ปีนกลับขึ้นมาบนดาดฟ้าเรือ ถ่ายรูปกันอีกพักถึงจะลงจากเรือ เพื่อไปขึ้นรถ Trolley ไปชมเรือรบมิสซูรี่ รถ Trolley จะวิ่งข้ามสะพานไปที่เกาะ Ford Island ที่อยู่กลางอ่าว Perl Habor ที่โน่นจะเป็นที่จอดของเรือรบมิสซูรี่ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเรือแห่งชัยชนะ เพราะใช้เป็นเรือที่ญี่ปุ่นเซ็นสัญญายอมแพ้สงครามโลกครั้งที่สอง ที่กลางอ่าวโตเกียว

เรือรบมิสซูรี่ ถ่ายจากสะพานขึ้นเรือ

บนเรือรบมิสซูรี่ ซึ่งขึ้นไปแล้วก็จะได้บรรยากาศคล้ายๆ "เรือรบหลวงจักรีนฤเบศ" ของเรา คือเป็นเรือรบลำใหญ่ มีหลายชั้น เวลาชมต้องเดินตามป้ายบอกเส้นทางที่เค้าทำเอาไว้ ไม่งั้นอาจจะหลงได้ ตามเส้นทางก็จะมีจุดแสตมป์ตรายางบนกระดาษเส้นทาง เอาไว้เป็นที่ระลึกว่าได้เดินทางมาถึงแล้ว

เรือรบมิสซูรี่ ถ่ายบนเรือด้านหน้า





วันที่เจ็ด - เสาร์ 8 เมษา - เดินเรื่อยเปื่อย เที่ยวหาด Waikiki


ท่าเรือยอชท์หลังโรงแรม

วันนี้ไม่มีโปรแกรมทำอะไรพิเศษ ต่างคนก็เลยอยากทำอะไรก็ไปทำ บางคนก็กลับไป Pearl Harbor ไปเก็บตกที่ที่ยังไม่ได้เที่ยว ส่วนผมเองขี้เกียจตื่นเช้าก็เลยขอออกไปเดินหาดไวกีกิถ่ายรูปดีกว่า ตื่นมาซะแปดโมงครึ่ง เพื่อนๆออกไปเที่ย Perl Harbor กันหมดละ อาบน้ำแต่งตัวแล้วก็เริ่มชีพจรลงเท้าออกเดินไปด้านหลังโรงแรมที่ติดทะเล ตรงนี้มีหาดเล็กๆอยู่อันนึง ไปเดินดูอยู่พักนึงไม่ค่อยมีอะไร เลยเดินต่อไปท่าเรือยอชท์ที่อยู่ข้างๆ ที่นี่คนคงมีเรือยอชท์กันเหมือนมีรถยนต์ แล้วก็เอามาจอดที่นี่กันเต็มไปหมด เหมือนลานจอดรถในห้างฯที่บ้านเราน่ะครับ มีทั้งเรือเล็กๆ เรือหรู แต่ส่วนใหญ่จะดูโทรมๆ ไม่สวยเหมือนเห็นในทีวี แถมบางลำก็มีเขียนป้ายกระดาษ ประกาศขายแปะอยู่บนกระจก

หาดที่อยู่ติดกับ park ตรง Alamoana Rd.

เดินเลาะท่าเรือไปเรื่อยๆ ตั้งใจจะเดินไปให้ถึง beach ที่อยู่ตรงข้าม Alamoana Shopping center คิดว่าน่าจะเดินไปถึงได้ ก็เดินชมเรือไปเรื่อยๆซะ 20 นาทีก็ไปถึงหาด ตอนเช้าแบบนี้ยังไม่มีคนเลย มีแต่ลุงแก่ๆนั่งอาบแดดอยู่คนเดียว อย่างที่เห็นใน background ของ blog นี้หละครับ ดูแล้วอ้างว้างดี เลยถ่ายรูปเก็บมาไว้ซะหน่อย ตะแรกว่าจะไปนั่งอาบแดดกะแก แต่ดูๆแล้วเราสองคนคงจะแตกต่างกันมากไปหน่อย แบบว่าผมคงบังแกมิดน่ะ เลยไม่เอาดีกว่านั่งอยู่ใต้ร่มไม้ ชมมหาสมุทรไปเรื่อยๆ

สวนสาธารณะที่อยู่ระหว่างหาด กับอลาโมน่า ช็อปปิ้งเซ็นเตอร์

นั่งอยู่ซะครึ่งชั่วโมงก็เริ่มรู้สึกหิว เลยเดินตัด Park ไปกินข้าวที่ food court ที่ Alamoana ดีกว่า กินข้าวเสร็จก็เดินอยู่ในห้างฯ อีกพักเพื่อย่อยอาหาร แล้วก็ขึ้นรถ Trolley สายสีชมพูที่ไปหาด Waikiki คือตั้งใจจะไปนั่งเล่นที่หาดนั้นจนเย็น กินข้าวที่นั่นเลย แล้วค่อยกลับโรงแรมไปเก็บของ ก็นัดเจอเพื่อนๆที่ Waikiki นั่นด้วย เพราะรู้สึกตอนเย็นจะมีการแสดงที่เวทีบนหาดนั้น

รูปปั้นท่านดยุค ที่หาดไวกีกิ เป็นคนฮาวายที่ได้เหรียญทองโอลิมปิค และเป็นคนที่นำ Surfing เข้าไปในอเมริกา

นั่งรถไปถึงหาดไวกีกิ ก็จะเจอกับสัญลักษณ์นึงของฮาวายที่เราอาจจะเคยเห็นตามโปสการ์ด คือรูปปั้นผู้ชาย ยืนอ้าแขนเหมือนต้อนรับสู่ฮาวาย รูปปั้นนี้คือรูปปั้นของท่านดยุค ซึ่งเป็นคนสำคัญของฮาวาย เค้าเป็นนักกีฬาว่ายน้ำเหรียญทองโอลิมปิค เป็นคนนำกีฬา Surfing เข้าไปที่อเมริกา รวมทั้งเป็นนายอำเภอของฮาวายถึง 13 สมัยติดต่อกัน ที่ไวกีกิจะมีรูปปั้นท่านดยุคยืนต้อนรับผู้มาเยือน ซึ่งใครมาก็ต้องมาถ่ายรูปด้วยเป็นสัญลักษณ์นึงของฮาวาย

สาวๆบนหาดไวกีกิ

เดินผ่านท่านดยุคไป ผมก็ไปหาที่นั่งดูบรรยากาศชายหาดไวกีกิ ดูคนที่มาอาบแดดบนหาด (บังเอิญส่วนใหญ่เป็นสาวๆอะครับ อิอิ) ก็เก็บภาพบรรยากาศมาฝากอย่างที่เห็น อากาศก็เย็นสบาย ลมทะเลที่นี่ก็ไม่เหนียวตัวเหมือนบ้านเรา อาจจะเป็นเพราะอากาศเค้าเย็นก็ได้ ผมก็พยายามนั่งให้โดนแดด ตัวจะได้เข้มๆเหมือนมาฮาวายหน่อย

คนอาบแดดที่ชายหาดไวกีกิ

คนที่นี่นิยมอาบแดดกันมาก นอนกันเต็มหาดไปหมด ที่ตรงไหนว่างๆเค้าก็สามารถเอาผ้ามาปูแล้วนอนอาบแดดกันได้ นอกจากฝรั่งแล้วก็จะมีสาวๆญี่ปุ่นค่อนข้างเยอะ ใส่บิกีนี่เหมือนกัน มาเล่นน้ำอาบแดดที่หาดนี้ บางกลุ่มก็มากันเฉพาะกลุ่มสาวๆ บางกลุ่มก็มีทั้งหนุ่มทั้งสาวด้วย แต่กลุ่มที่น่ารักก็คือมากันทั้งครอบครัว พ่อแม่ลูกเล็กๆเล่นทรายเล่นน้ำกันดูอบอุ่น


อาทิตย์ 9 เมษา - Mahalo Hawaii เดินทางกลับบ้าน


ป้าย Mahalo ที่ International Market Place ไวกีกิ
มาฮาโล (Mahalo) เป็นภาษาฮาวาย แปลว่าลาก่อน วันนี้เป็นวันเดินทางกลับบ้านแล้ว หลังจากมาใช้ชีวิตที่ฮาวายอยู่เกือบอาทิตย์นึง ก็ต้องตื่นเช้าอีกแล้ว เพราะไฟล์ทออกตอนเจ็ดโมงยี่สิบ เลยต้องตื่นตอนตี 5 เพื่อเก็บของ เช็คเอาท์ แล้วก็เรียกแท็กซี่ไปสนามบิน ตอนออกจากโรงแรมซะตีห้าครึ่งฟ้ายังไม่สว่างเลย รถก็ไม่ติด เลยไปถึงสนามบินตั้งกะยังไม่หกโมง

เช็คอินเข้าไปในเกท ก็ไม่มีอะไรให้ทำ เหลือเวลาอีกตั้งเกือบชั่วโมง.. ร้านขายของ duty free ก็ยังไม่เปิด เลยได้แต่เดินไปเดินมา ดูของในตู้โชว์จากนอกร้าน





Create Date : 22 เมษายน 2549
Last Update : 1 พฤษภาคม 2549 1:30:08 น.
Counter : 4380 Pageviews.

22 comments
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๗ มาช้ายังดีกว่าไม่มา
(2 ม.ค. 2567 07:30:30 น.)
พบเจอภาพอะไร? ส่วนหนึ่งของภาพน่าสนใจจึงตัดมาใช้ คุกกี้คามุอิ
(1 ม.ค. 2567 03:56:23 น.)
ทนายอ้วนจัดดอกไม้ - จัดดอกไม้ง่ายๆ – แจกันสวัสดีปีใหม่ 2567 - กุหลาบพวงสีชมพู - ขาว ทนายอ้วน
(2 ม.ค. 2567 15:16:32 น.)
สวัสดีปีใหม่ Rain_sk
(1 ม.ค. 2567 21:38:33 น.)
  
ตามไปเที่ยวด้วยคนนึงคับ
โดย: Zantha วันที่: 22 เมษายน 2549 เวลา:16:32:28 น.
  
รูปสวยจัง

อย่าทำ background สวยๆๆ ยังงี้มั้ง
โดย: สงครามกวี วันที่: 24 เมษายน 2549 เวลา:23:49:14 น.
  

อืมมม พี่ dharma ได้ลองระบำฮาวายด้วยหรือเปล่า



โดย: Eowy วันที่: 26 เมษายน 2549 เวลา:11:59:28 น.
  
ไม่ได้ลองอะ.. อายยย..

เค้ามีสอนให้เต้นด้วยนะ

มีท่าเต่า.. ท่าปลา.. ท่าพระอาทิตย์ขึ้น ท่าคลื่น..

แต่ที่ชอบสุดชื่อท่า Fungy Chicken

เต้นๆแล้วมีแยกขาตรงเข่าออก.. เหมือนที่ตลกเมืองไทยชอบเล่นอะ
โดย: เจ้าของบล็อก (dharma ) วันที่: 26 เมษายน 2549 เวลา:19:38:47 น.
  
....ซา...หวัด...ดี...ค่ะ...เจนนี่กลับมาแล้วจ้า โพสรูปที่ไปเที่ยวเหนือมาหลายวันแล้ว แต่ไม่มีโอกาสแวะเข้ามาทักทายเลย....

....วันนี้เจนนี่ว่าง เลยแวะมาทักทายและชวนไปเที่ยวกับเจนนี่ค่ะ อย่าลืมแวะไปเที่ยวกับเจนนี่อีกน่ะคะ คราวนี้เจนนี่อุตส่าห์พาไปเที่ยวต่างประเทศเลยน๊า ( ตั้งสองประเทศแน่ะ ) เจนนี่มีรูปมาโพสท์ให้ดูกันเยอะแยะเลยค๊า.....

....ป.ล.คิดถึงน่ะคะ อย่าลืมล่ะ เจนนี่จะรอ....
โดย: jenny (สาวอิตาลี ) วันที่: 27 เมษายน 2549 เวลา:17:25:18 น.
  
หายไปนานไม่ได้แวะมา พักนี้ว่างแวะมาเที่ยวฮาวาย ด้วยคนค่ะ อิอิ
โดย: noojew วันที่: 29 เมษายน 2549 เวลา:22:19:31 น.
  
สวัสดีตอนบ่ายๆ แดดร้อนๆค่ะพี่
โดย: LiLy ~ สาวหน้าใส IP: 58.136.196.52 วันที่: 30 เมษายน 2549 เวลา:14:11:59 น.
  
วันนี้ได้โอกาสมาเยี่ยนเยียนบลอคพี่เอซักที อิอิอิ ไม่มีคนแย่งคอม เนตที่คณะไวโคดๆ

ย้อนกลับไปอ่านมาหมดทุกตอนแล้วค่ะ

บอกได้คำเดียว....อิจฉาเมิ่กกกกกกกกกก

อิอิอิอิ
โดย: Peachy Punch IP: 202.28.169.165 วันที่: 1 พฤษภาคม 2549 เวลา:14:53:11 น.
  
หนอยแน่ะ....ไปเที่ยวไม่ชวนเรา

ไปเที่ยวไม่กลับซะที มีรูปทุกวัน หน๊อยยยยยยยยย

แถมถ่ายสาวๆมาอีกแหน่ะ

หมั่นไส้

ถ้ากลับมาไม่มีของฝากน๊า ขอให้โดนลดตำแหน่ง 5555
โดย: วัล (onebeauty ) วันที่: 2 พฤษภาคม 2549 เวลา:16:39:41 น.
  
ขอบคุณจ้า..น้องพันช์ ไว้เที่ยวไปสิฮาวาย.. แนะนำสำหรับ.. ฮันนีมูน อิอิ

น้องวัล.. เรากลับมาตั้งนานแล้ว.. มาเอาของฝากเร๊ววว
โดย: dharma วันที่: 3 พฤษภาคม 2549 เวลา:2:18:56 น.
  
Waikiki คนอาบแดดกันเยอะไม่ต่างไปจากที่ป่าตองเลยพี่เอ
โดย: ก้มดูเท้ามองดูดาว วันที่: 3 พฤษภาคม 2549 เวลา:11:44:29 น.
  
จิงหรอๆ.. น้องส้ม.. อืม.. บิกีนี่ด้วยป่าว.. ต้องไปเยี่ยมน้องส้มซะละ ฮ่าๆ
โดย: dharma วันที่: 3 พฤษภาคม 2549 เวลา:17:46:12 น.
  

ผมแวะมาดูเที่ยวฮาวาย ตอนที่ 2 ครับ ยังสนุกและน่าสนใจเหมียนเดิม
โดย: หนุ่มร้อยปั (หนุ่มร้อยปี ) วันที่: 5 พฤษภาคม 2549 เวลา:9:05:33 น.
  
.............เจนนี่แวะมาทักทายค่ะ ขอบคุณมากน่ะคะ ที่แวะไปเที่ยวชมที่บล็อคเจนนี่ วันนี้ว่าจะอัพบล็อค โพสท์รูปชุดวิวาท์เก่าๆซะหน่อย ไม่รู้ว่าจะมีใครอยากดูบ้าง ฮิฮิ ไม่รู้ว่าจะได้อัพหรือเปล่า คอมที่บ้านมันเกเรอีกแล้วล่ะค่ะ ไว้เจนนี่อัพเสร็จ เจนนี่จะแวะมาส่งข่าวอีกรอบน่ะคะ อย่าลืมแวะไปทักทายเจนนี่อีกน่ะคะ.............

..................ขอให้วันนี้และวันต่อๆไปเป็นวันดีๆของคุณน่ะคะ.................
โดย: jenny (สาวอิตาลี ) วันที่: 6 พฤษภาคม 2549 เวลา:13:28:53 น.
  
แวะมาอิจฉาลุงเอจ้า...อิอิ
โดย: เสือจ้ะ วันที่: 6 พฤษภาคม 2549 เวลา:18:47:39 น.
  
สวัสดีค๊าคุณพี่

อิจฉาคนได้ไปเที่ยวทะเลวันนี้จังเล้ย ฮือๆๆๆ

ไปแระค๊า
โดย: สาวหน้าใส วันที่: 6 พฤษภาคม 2549 เวลา:23:05:13 น.
  
จะได้ไปจริงก็เดือนหน้า อ่านเก็บข้อมูลก่อนครับ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลและภาพสวย ครับ
โดย: nonthapk IP: 203.130.145.67 วันที่: 23 มีนาคม 2550 เวลา:11:47:05 น.
  
ขอบคุณสำหรับขอมูลและภาพสวยๆครับ
โดย: ดิน IP: 125.27.77.23 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:11:09:48 น.
  
อยากไป ฮาวาย มาก ๆ เพราะลูกอยู่ที่นั่น แต่ก็คงไม่มีวาสนา ก็แค่ดูในเวบนี่ละ ขอบคุณมาก ๆที่ มีภาพมาให้ดู อย่างน้อยก็ยังได้รู้ว่า ที่ลูก ๆ อยู่เป็นอย่างไร
โดย: คนเจียงใหม่เจ้า IP: 118.172.97.144 วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:18:35:39 น.
  
ข้อมูลผิดเยอะนะครับ
แถบที่โรงแรมคุณอยู่คือ อาลาโมอานา (Alamoana)
แถบที่คุณไปเที่ยวคือ อ่าวฮานาอูมา (Hanauma Bay)
Mahalo ไม่ใช่แปลว่าลาก่อน แต่แปลว่าขอบคุณ
คำว่าลาก่อนก็ใช้ Aloha เช่นเดียวกับสวัสดีของเราที่ใช้เป็นทั้งคำทักทายและคำลา
โดย: คนเคยอยู่ฮาวาย IP: 203.131.211.151 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2551 เวลา:1:09:07 น.
  
อยากถามพี่มากเลยค่ะ

ไปฮาวายต้องใช้หลักฐานอะไรบ้างค่ะ

สมมุติ ถ้าจะไปทำงานที่นั้น แล้วมี คนรับรองให้ไปทำงานให้ที่ฮาวายอะค่ะ หลักฐานของเราต้องเจรียมอะไรบ้างค่ะ
ส่งคำตอบกลับ benji2bestji@hotmail.com
โดย: หนูเบสท์ค่ะ IP: 114.128.133.55 วันที่: 7 เมษายน 2552 เวลา:20:04:55 น.
  
ได้ไอเดียหลายอย่างเลย ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ
โดย: pj IP: 71.202.90.165 วันที่: 19 เมษายน 2553 เวลา:6:48:27 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Dharma.BlogGang.com

NETA Dad
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]