ทศชาติชาดก เรื่อง พระเตมีย์ ผู้ยิ่งด้วยเนกขัมมบารมี ตอนที่ 4





ทศชาติชาดก
เรื่อง พระเตมีย์
ผู้ยิ่งด้วยเนกขัมมบารมี ตอนที่ 4


จากตอนที่แล้ว ท้าวสักกเทวราชเกิดร้อนพระทัย ด้วยเดชแห่งศีลและการตั้งสัจจอธิษฐาน ของพระนางเจ้าจันทาเทวี จึงทรงตรวจดูด้วยทิพยเนตร ก็ทราบเหตุว่าพระนางตั้งความปรารถนาพระโอรส จึงทรงสำรวจดูในสวรรค์ว่า มีเทพบุตรองค์ใดที่มีบุญญาธิการเหมาะสม เพื่อที่จะอัญเชิญไปเกิดในพระครรภ์ของพระนางได้บ้าง


ครั้นทรงเห็นว่า มีเทพบุตรอยู่องค์หนึ่ง ชาติก่อนเคยเป็นพระเจ้ากรุงพาราณสี เมื่อสิ้นพระชนม์แล้วได้ไปตกอุสสุทนรกอยู่ 8 หมื่นปี แล้วได้มาบังเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ บัดนี้ใกล้จะจุติไปเกิดในสวรรค์ชั้นที่สูงขึ้นไป จึงพร้อมด้วยเทพบริวารเสด็จไปอาราธนาเทพบุตรนั้นให้ลงมาเกิดในพระครรภ์ของพระนาง เทพบุตรองค์นั้นได้สดับคำอาราธนาแล้ว ก็มีความยินดีรับคำเชิญ จึงพร้อมด้วยเทพบุตรบริวารอีก 500 องค์ จุติลงมาพร้อมกัน โดยเทพบุตรผู้เป็นประธานถือปฏิสนธิในพระครรภ์ของพระอัครมเหสี เทพบุตรบริวารปฏิสนธิในครรภ์ของภรรยาแห่งอำมาตย์ทั้งหลาย

ในเวลาที่เทพบุตรเข้าสู่พระครรภ์นั้น พระนางเจ้าจันทาเทวีมีความรู้สึกประหนึ่งว่าพระครรภ์เต็มไปด้วยแก้วใส ก็ทรงแน่พระทัยว่าได้ตั้งพระครรภ์แล้ว รุ่งเช้าจึงเสด็จไปกราบทูลให้พระราชสวามีทรงทราบ เมื่อพระราชาทรงทราบก็ทรงปลื้มพระหฤทัยยิ่งนัก ได้ทรงพระราชทานเครื่องบริหารพระครรภ์แก่พระนาง

ล่วงไป 10 เดือน พระนางก็ทรงประสูติพระราชโอรสผู้สมบูรณ์ด้วยบุญลักษณะ หาผู้เปรียบปานมิได้ เมื่อพระราชาทรงทราบว่าพระโอรสประสูติแล้วก็ทรงยินดีปรีดายิ่งนัก จึงรับสั่งให้เสนาบดีตรวจดูในเรือนอำมาตย์ทั้งหลายว่ามีทารกคลอดในวันเดียวกันบ้างหรือไม่ ท่านเสนาบดีตรวจดูแล้ว ก็ได้ถวายรายงานว่ามีทารกที่เกิดในวันนั้นถึง 500 คน




ครั้นพระราชาทรงทราบว่า มีกุมารกำเนิดพร้อมกันกับพระโอรสของพระองค์ก็ทรงโสมนัสยิ่งนัก ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้จัดทำเครื่องประดับสำหรับกุมารของเหล่าอำมาตย์ทั้ง 500 คน พร้อมกับพระราชทานแม่นม 500 นาง ให้เลี้ยงดูกุมารเหล่านั้นด้วย แต่สำหรับพระราชกุมารนั้น พระเจ้ากาสิกราชทรงโปรดให้คัดเลือกแม่นมเป็นพิเศษพระราชทานแด่พระกุมารจำนวนถึง 64 นาง โดยแต่ละนางล้วนถึงพร้อมด้วยคุณลักษณะที่ดี และจะต้องปราศจากลักษณะอันเป็นโทษ 10 ประการคือ

ข้อ 1. หญิงนั้นต้องไม่มีผิวขาวจนเกินไป ด้วยเกรงว่าน้ำนมจะมีรสเปรี้ยว

ข้อ 2. หญิงนั้นต้องผิวไม่ดำจนเกินไป ด้วยเกรงว่าจะมีน้ำนมที่เย็นจัด


ข้อ 3. ไม่ผอมแห้งบอบบาง เพราะขณะที่พระกุมารนอนบนตัก หรือนอนแนบอกดื่มน้ำนม กระดูกอาจทิ่มตำพระกุมารได้

ข้อ 4. ไม่อ้วนจนเกินไป เพราะจะทำให้พระกุมารพลอยอ้วนตามไปด้วย


ข้อ 5. ไม่สูงเกินไป เพราะเมื่อนั่งดื่มน้ำนม พระกุมารก็จะต้องยืดจนคอยาว

ข้อ 6. ไม่เตี้ยเกินไปนัก เพราะเมื่อนั่งดื่มน้ำนม พระกุมารจะต้องหดคอ พลอยต่ำเตี้ยไปด้วย


ข้อ 7. น้ำนมต้องรสไม่จืด เค็มหรือเปรี้ยวเกินไป ให้คัดสรรเฉพาะนางที่มีน้ำนมรสหวานกลมกล่อมเท่านั้น

ข้อ 8. ต้องมีถันไม่หย่อนยาน ให้คัดสรรเฉพาะแม่นมที่มีเต้านมเปล่งปลั่งเพื่อจะได้มีน้ำนมที่ดี


ข้อ 9.หญิงนั้นต้องไม่เป็นโรคหืดหอบ อันจะส่งผลให้น้ำนมไม่บริสุทธิ์เท่าที่ควร

และข้อ 10. หญิงนั้นต้องไม่เป็นโรคไอเรื้อรัง เพราะรสของน้ำนมจะเผ็ดเกินไป จะพลอยให้พระกุมารจะพลอยขี้โรคไปด้วย


เมื่อถึงวันทำนายพระลักษณะ พระราชาได้โปรดให้เชิญพราหมณ์ปุโรหิตและโหราจารย์ทั่วพระนครมาเลี้ยงดูจนอิ่มหนำสำราญ ทรงอาราธนาให้ท่านเหล่านั้นพยากรณ์พระลักษณะของพระกุมาร เพียงครั้งแรกที่พราหมณ์ปุโรหิตและโหราจารย์เหล่านั้นได้เห็นบุญลักษณะของพระราชกุมาร ต่างพากันกราบทูลว่า “ขอถวายพระพรมหาบพิตร พระหน่อเนื้อราชกุมารนี้ มีบุญลักษณะอันบริบูรณ์ ทรงประเสริฐยิ่งกว่าเทพยดาและมนุษย์ทั้งหลาย...ต่อไปภายหน้าจะได้เป็นพระราชาธิราชผู้ทรงพลานุภาพเหนือทวีปน้อยใหญ่ อย่าว่าแต่ทวีปหนึ่งเลย แม้มหาทวีปทั้ง 4 มีทวีปน้อย 2,000 เป็นบริวารก็ยังต้องอยู่ในพระราชอำนาจ ขึ้นชื่อว่าอันตรายใดๆ ที่จะมาพ้องพานพระองค์ได้นั้น ย่อมไม่มีเป็นอันขาด”


พระราชาได้สดับคำพยากรณ์เหล่านั้น ก็ทรงยินดีเป็นล้นพ้น เพราะบัดนี้ความประสงค์ของพระองค์ที่ปรารถนาจะได้องค์รัชทายาทสืบราชสมบัติต่อไปในภายภาคหน้า ก็สำเร็จดังมโนรถของพระองค์แล้ว จึงพระราชทานพระนามแด่พระกุมารนั้นว่า พระเตมิยกุมาร (เต มิ ยะ) ทั้งนี้ทรงถือเอานิมิตหมายแห่งพระประสูติกาล ด้วยทรงดำริว่า ในวันที่พระกุมารประสูตินั้น ฝนตกโปรยปรายทั่วพระนคร นำความเย็นชุ่มฉ่ำมาสู่คนและสัตว์ ทั้งไพร่ฟ้าประชาราษฏร์แห่งกาสิกรัฐต่างก็ชุ่มฉ่ำทั้งกายและใจ แม้พืชพันธุ์ธัญญาหารก็พลอยได้รับความชุ่มชื่นกันไปทั่ว ก็ด้วยอาศัยพระบารมีของพระราชกุมารนั่นเอง


และเหนือสิ่งอื่นใด พระเจ้ากาสิกราชทรงตระหนักดีว่า พระราชโอรสองค์นี้เองที่เป็นดุจทิพย์วารีที่หลั่งลงชโลมพระหฤทัย นำความชุ่มเย็นมาให้พระองค์ จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า พระองค์จะทรงรักใคร่ในพระราชกุมารสักเพียงใด


เมื่อพระราชกุมารมีพระชนมายุได้ 1 เดือน เหล่าพี่เลี้ยงนางนมก็ช่วยกันตกแต่งพระกายของพระราชกุมาร แล้วอัญเชิญขึ้นเฝ้าพระราชบิดา ขณะที่พระองค์กำลังเสด็จออกว่าราชการอยู่ภายในท้องพระโรงมหาวินิจฉัย เวลานั้น ท้องพระโรงแน่นขนัดไปด้วยเหล่าข้าราชบริพารนับพัน พระเจ้ากาสิกราชผู้เป็นราชาธิราช ทรงประทับอยู่เหนือพระบัลลังก์ทอง เพื่อทรงวินิจฉัยอรรถคดีต่างๆ ทรงแวดล้อมด้วยพราหมณ์ปุโรหิตและเหล่าอำมาตย์เป็นทิวแถวอยู่เบื้องหลังพระบัลลังก์ทอง ไล่เรียงตามมาด้วยเหล่าแม่ทัพนายกอง และราชบุรุษกองรักษาพระองค์


ฝ่ายพระเจ้ากาสิกราช เพียงได้ทอดพระเนตรเห็นพระราชกุมารผู้เป็นที่รักยิ่ง ก็ทรงดีพระหฤทัย รีบตรงเข้าไปรับเอาพระกุมารมาจากมือของพี่เลี้ยงนางนม แล้วทรงอุ้มพระกุมารให้ประทับนั่งบนตัก พระองค์ทรงรื่นรมย์อยู่กับพระกุมารครู่หนึ่ง จากนั้นจึงทรงโปรดให้มหาอำมาตย์เบิกคดีสำคัญต่อไป

ขณะนั้น มหาโจร 4 คนถูกราชบุรุษจับมัดไขว้หลัง คล้องโซ่ตรวนอย่างแน่นหนา ถูกเฆี่ยนด้วยหวาย นำตัวมายังหน้าพระบัลลังก์ทองเพื่อรับพระราชอาญา พระเจ้ากาสิกราชทรงชำเลืองดูมหาโจรทั้ง 4 ซึ่งถูกราชบุรุษสั่งให้คุกเข่าลง ณ เบื้องพระพักตร์ เมื่อทรงสดับคำกราบทูลถึงความผิดของมหาโจรเหล่านั้นจากมหาอำมาตย์แล้ว จึงตรัสสั่งให้ลงพระอาญาแก่มหาโจรทั้ง 4 นั้นให้สาสมแก่ความผิด

โดยให้โบยโจรคนหนึ่งด้วยหวายหนามแช่น้ำเกลือ 1 พันครั้ง เพียงโบยไม่ถึง 100 ครั้ง เขาก็สิ้นชีวิตอยู่ตรงนั้น

โจรอีกคนหนึ่งให้ราชบุรุษจองจำไว้กับขื่อคาโซตรวน แล้วส่งเข้าเรือนจำ ให้ตายอยู่ในเรือนจำ


โจรอีกคนหนึ่งก็ให้นำไปประหาร โดยให้แทงด้วยคมหอก

ส่วนโจรคนสุดท้ายนั้น กระทำทารุณกรรมไว้มาก จึงทรงลงโทษอย่างอุกฤษฏ์ โดยให้เสียบด้วยหลาวทั้งเป็นแล้วนำไปเสียบประจานไว้หน้าประตูเมือง

พระเตมิยกุมารผู้เปี่ยมด้วยบุญญาธิการ สั่งสมปัญญาบารมีมาดีแล้วเมื่อได้สดับคำตัดสินลงทัณฑ์ของพระราชบิดา ก็ทรงหวาดสะดุ้งในพระสุรเสียงอันกึกก้อง บังเกิดความสลดหดหู่พระหฤทัยยิ่งนัก จึงทรงดำริขึ้นว่า โอ พระราชบิดาของเรา ทำบาปกรรมใหญ่หลวงนัก คงไม่พ้นจากการเสวยทุกข์ในนรกเพราะเหตุแห่งราชสมบัตินี้อย่างแน่นอน

ได้ทรงเห็นเหตุเพียงเท่านี้ ก็ทรงตรองเห็นผลที่จะเกิดขึ้นในภายหน้า เพราะทรงสั่งสมปัญญาบารมีมานาน จึงดำริว่า หากปล่อยให้เป็นไปอย่างนี้ ต่อไปในภายหน้า เมื่อเราได้ครองราชสมบัติ ก็จะต้องตัดสินคดีความดุจเดียวกับพระราชบิดา ดำริฉะนี้แล้ว จะทรงจัดการกับชีวิตของพระองค์อย่างไร โปรดติดตามตอนต่อไป

โดย : พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)


from dmv.tv




Create Date : 23 ตุลาคม 2550
Last Update : 23 ตุลาคม 2550 17:39:42 น.
Counter : 741 Pageviews.

0 comments
การหา เติมความมี ปัญญา Dh
(16 เม.ย. 2567 18:08:16 น.)
เรื่องนี้ไม่ง่าย แต่คนมักชอบอะไรที่มันง่ายๆ 121 235 เขาถาม - ตอบกัน 450 > คำถาม : ทำอย่างไ สมาชิกหมายเลข 7881572
(16 เม.ย. 2567 09:58:49 น.)
: หยดน้ำในมหาสมุทร 35 : กะว่าก๋า
(13 เม.ย. 2567 05:51:40 น.)
: หยดน้ำในมหาสมุทร 34 : กะว่าก๋า
(12 เม.ย. 2567 05:52:40 น.)
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Desertcity.BlogGang.com

เมืองทะเลทราย
Location :
Dubai   United Arab Emirates

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด