ปลดล็อกศักยภาพธุรกิจด้วยการใช้บริการ Outsource

Outsource คือการว่าจ้างบริษัทหรือบุคคลภายนอกให้รับผิดชอบงานบางส่วนแทนองค์กร ช่วยลดต้นทุน เข้าถึงบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ และเพิ่มความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจ

การเติบโตอย่างรวดเร็วของธุรกิจในปัจจุบันนั้น ท้าทายความสามารถในการบริหารทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ องค์กรจำนวนมากพบว่าตนเองขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะหรือความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ส่งผลให้โอกาสในการเติบโตและขยายธุรกิจต้องชะงักลง การตัดสินใจเลือกใช้บริการจาก Outsource เป็นวิธีการแก้ปัญหาที่องค์กรหลายแห่งเลือกใช้ เพราะการจ้างบริษัท Outsource ช่วยให้องค์กรสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายอย่างมหาศาล ในขณะเดียวกันก็สามารถเข้าถึงบุคลากรมืออาชีพที่มีทักษะและความเชี่ยวชาญในระดับสูง นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความคล่องตัวในการดำเนินงานอีกด้วย

Outsource กับ Subcontract เหมือนหรือต่างกันอย่างไร

Outsource คือ การที่องค์กรว่าจ้างให้บริษัทภายนอกรับผิดชอบงานบางส่วนหรือทั้งหมดในกระบวนการทำงาน โดยบริษัทผู้ให้บริการ Outsource จะเป็นผู้จัดหาบุคลากร ดูแลบริหารจัดการ และรับผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมาย องค์กรเพียงแค่ว่าจ้างและติดตามงาน ไม่จำเป็นต้องควบคุมกระบวนการโดยตรง เหมาะสำหรับงานที่ไม่ใช่หน้าที่หลักขององค์กร

ในขณะที่ Subcontract คือการที่องค์กรว่าจ้างให้บริษัทภายนอกรับผิดชอบงานบางส่วนเฉพาะกิจในโครงการหรือสัญญางานใดงานหนึ่ง โดยองค์กรเจ้าของโครงการจะเป็นผู้กำหนดขอบเขต ควบคุมดูแล และบริหารจัดการบริษัทผู้รับเหมาช่วงโดยตรง ทั้งนี้บริษัทผู้รับเหมาช่วงจะรับผิดชอบเฉพาะงานที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น

ดังนั้น Outsource จะเน้นการถ่ายโอนความรับผิดชอบทั้งหมดในกระบวนการงานบางส่วนให้บริษัทภายนอก แต่ Subcontract จะเน้นที่การมอบหมายงานบางส่วนเฉพาะกิจภายใต้การดูแลขององค์กรเจ้าของโครงการโดยตรง นอกจากนี้ระยะเวลาของการจ้าง Outsource จะยาวนานและมีความสัมพันธ์กันทางธุรกิจ ในขณะที่ Subcontract มักมีกรอบระยะเวลาที่สั้นกว่าและจำกัดเพียงโครงการเดียว

ธุรกิจแบบไหนที่เหมาะจะจ้าง Outsource

สำหรับการจ้าง Outsource จะเหมาะกับธุรกิจที่ต้องการลดต้นทุนในการดำเนินงาน ต้องการบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ต้องการความยืดหยุ่นและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับกระบวนการทำงาน ซึ่งตัวอย่างธุรกิจที่เหมาะกับการจ้าง Outsource จะมีดังนี้

ธุรกิจด้านการเงินและบัญชี

ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับทางด้านการเงินและบัญชีอย่าง ธนาคารหรือบริษัทหลักทรัพย์ สามารถจ้าง Outsource ที่ให้บริการด้านบัญชีและการเงิน เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายพนักงานประจำและเข้าถึงผู้เชี่ยวชาญด้านบัญชีและกฎหมายภาษีได้ง่ายยิ่งขึ้น

ธุรกิจด้านไอที

ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับทางด้านไอที ซอฟต์แวร์ และเทคโนโลยี สามารถจ้าง Outsource ด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชัน รวมถึงการดูแลระบบเครือข่ายและเซิร์ฟเวอร์ เพื่อช่วยรองรับปริมาณงานที่เพิ่มสูงขึ้นหรือลดภาระของบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางลงได้

ธุรกิจด้านการผลิตและโรงงานอุตสาหกรรม

ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและโรงงานอุตสาหกรรม อาจจ้าง Outsource ที่ให้บริการด้านการผลิตชิ้นส่วนหรือการประกอบชิ้นงาน เพื่อลดต้นทุนแรงงานและสามารถรับมือกับยอดคำสั่งซื้อที่มีความผันผวนได้ดียิ่งขึ้น

ข้อดีของการเลือกจ้างงาน Outsource

หลังจากที่ได้ทราบเกี่ยวกับธุรกิจที่เหมาะกับการจ้างงาน Outsource กันไปแล้ว ถัดไปเราจะมาดูข้อดีของการใช้บริการ Outsource ที่ทำให้เป็นที่นิยมในองค์กรธุรกิจต่าง ๆ กันดูบ้าง

ช่วยประหยัดต้นทุน

ข้อดีหลัก ๆ ของการใช้ Outsourcing ก็คือการประหยัดต้นทุนในการใช้ทรัพยากรบุคคล ซึ่งจะช่วยให้ลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการจ้างพนักงานประจำ เช่น เงินเดือน ค่าประกันสังคม สวัสดิการต่าง ๆ เป็นต้น

สามารถเข้าถึงบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ

การใช้พนักงาน Outsource จะทำให้องค์กรสามารถใช้ประโยชน์จากความสามารถของผู้เชี่ยวชาญหรือมืออาชีพ โดยที่ไม่จำเป็นต้องจ้างพวกเขาเป็นพนักงานประจำ ตัวอย่างเช่น บริษัทสตาร์ทอัพจำนวนมากที่มักใช้ Outsource ด้านการพัฒนาแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ เป็นต้น

มีความยืดหยุ่นในกระบวนการทำงาน

Outsourcing ช่วยให้องค์กรสามารถปรับเปลี่ยนระดับการใช้ทรัพยากรได้ง่าย และสามารถรับมือกับความต้องการที่ผันผวนได้ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น บริษัทเครื่องบินสามารถจ้าง Outsource งานด้านการบริการบนเครื่องบินได้ตามจำนวนของเที่ยวบินที่มีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละเดือน

ข้อจำกัดและความเสี่ยงในการจ้างงาน Outsource

การจ้าง Outsource ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียหรือแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ไม่ได้มาตรฐานนั้น อาจเสี่ยงต่อการพบปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ อย่าง การทิ้งงานกลางคัน ขาดความเป็นมืออาชีพหรือความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ดำเนินงานล่าช้า ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะมีความเสี่ยงลดลงถ้าใช้บริการจากบริษัท Outsource ที่มีที่อยู่และช่องทางการติดต่อที่ชัดเจน สามารถตรวจสอบประวัติการทำงานได้ โดยจะส่งผลไปถึงคุณภาพงานและการส่งมอบงานตามกำหนดเวลาที่ได้ตกลงกันอย่างชัดเจน

บทสรุปการใช้บริการ Outsource

การจ้าง Outsource หรือว่าจ้างบุคคลหรือองค์กรภายนอกให้มารับผิดชอบงานบางส่วนนั้น สามารถช่วยแก้ไขปัญหาข้อจำกัดทางด้านทรัพยากรบุคคลและงบประมาณได้ โดยจะช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ ประหยัดต้นทุน และเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินงานได้

อย่างไรก็ตามการจ้าง Outsource ผ่านช่องทางที่ไม่มีมาตรฐานอย่างเช่น โซเชียลมีเดีย หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ทั่วไปนั้น อาจเสี่ยงต่อปัญหาคุณภาพงานตกต่ำ ล่าช้า หรือถูกหลอกลวงได้ ซึ่งการว่าจ้าง Outsource ผ่านบริษัทหรือองค์กรผู้ให้บริการที่มีมาตรฐาน จะมีกระบวนการควบคุมคุณภาพ และมีข้อตกลงทางกฎหมายที่ชัดเจน

สำหรับใครกำลังมองหาผู้ให้บริการ Outsource ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญทางด้านไอทีและ Software Development สามารถเลือกใช้บริการจาก Cube SoftTech บริษัท Outsource ผู้ให้บริการครอบคลุมทั้งด้าน Software Development, IT Staff Outsourcing, IT Consultants และ Custom Software Solutions โดยทีมงานมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ พร้อมส่งมอบงานที่มีคุณภาพสู่มือลูกค้าตามระยะเวลาที่ได้ตกลงไว้