.. การันตี .. บทที่ 9 .. .. การันตี .. .. บทที่ 9 .. .. พระเอกละครเวที .. . เป็นที่รู้กันว่านิคกำลังจะเป็นพระเอกละครเวทีเรื่อง “รักในความทรงจำ” ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า..รามคอยให้ความช่วยเหลือในชื่อของทัพทักษ์โดยไม่มีใครระแคะระคาย ทัพทักษ์ตัวจริงไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้อง โชคดีที่ไม่ได้สั่งซื้อดอกไม้ที่ร้านเวนดี้อีก ความสัมพันธ์ของราม นิค แคท และเวนดี้ อยู่ในโหมดของความเป็นเพื่อนมากกว่าสถานะอื่น “บอกหน่อยไม่ได้หรือว่าบทของพระเอกเป็นอย่างไร หนุ่มแสนดี เจ้าชาย หรือหนุ่มออฟฟิศ” หัวค่ำวันหนึ่งแคทถามขึ้น “เขาห้ามบอก ไว้วันซ้อมใหญ่ปิดร้านไปดูกัน..พ่อไปด้วยนะ” นิคหันไปบอกพ่อ “ไม่นึกเลยว่าไอ้ตัวเล็กที่ดิ้นกระแด่ว ๆ ในตะกร้าจะกลายเป็นพระเอกกับเขาได้” นายดอกรักมองลูกชายอย่างชื่นชม “ผมได้หล่อมาจากพ่อไงงง..” นิคยิ้มให้พ่อ..ลากเสียงยาว “หนูแคทลองดูหน่อยว่าเจ้านิคมันหล่อเหมือนพ่อตรงไหน ฮะ ๆ” “พูดตามตรง หนูว่าคุณพ่อก็หล่อนะคะแต่หล่อแบบไทย ๆ นิคเขาหล่อแบบลูกครึ่ง..” มองนิคมองนายดอกรักสลับไปมา “หรืออาจจะเหมือนคุณแม่ คุณแม่ของนิคเป็นต่างชาติหรือคะ?” “พ่อไม่แน่ใจนะว่าแม่ของนิคเป็นลูกครึ่งหรือเปล่า..ไม่เคยเห็น” นายดอกรักตอบ “อะไรพ่อ ! ฮะ ๆ” นิคขำกับคำตอบของพ่อ แคทก็พลอยขำไปด้วย วันซ้อมใหญ่มาถึง นิค นายดอกรักและแคทนั่งแท็กซี่มาโรงละคร รามทัพทักษ์ติดงานมาไม่ได้ “น่าเสียดายทัพทักษ์ไม่ได้มาดู” แคทบ่นขณะประคองนายดอกรักเข้าที่นั่ง “นิคล่ะ?” นายดอกรักถาม “ไปหล้งเวทีเตรียมการแสดงแล้วค่ะ เรานั่งฟังเพลงรอไปก่อนแล้วกัน” ..... “รักในความทรงจำกำลังจะเริ่ม ขอความกรุณาปิดเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดครับ” ม่านเวทีเปิดออกพร้อมดนตรีบรรเลงเพลงธีมประจำละคร สปอร์ตไลท์สีม่วงฉายไปกลางเวทีด้านในเป็นดวง..ไฟเริ่มสว่างขึ้นเป็นม่วงอมชมพู น้ำเงิน และสีฟ้าก่อนจะเป็นสีธรรมชาติของแสงไฟ ร่างหนึ่งนั่งอยู่กลางวงไฟ..ดนตรีเชื่อมทำนองเพลง ๆ หนึ่งคุ้นหู ร่างนั้นลุกขึ้นยืน..เวทีส่วนที่เขายื่นอยู่ค่อย ๆ เลื่อนมาระหว่างทางเดินของโรงละครพร้อมกับเสียงฮัมเพลง..และเสียงร้อง "รักน้องเพียงใจ จากไปหทัยระกำ อกฉันมืดดำน้ำตาพร่างพรำมิวาย ทะเลนองโลกโชคเกินท่วมเนินไศล ท้นท่วมไกลถึงพรหมพี่จมแทบตาย รักน้องชูใจให้พี่มีชีวิตมา ขอจงเมตตารักข้าอย่าพาแหนงหน่าย แม้วันจะเคลื่อนหรือเดือนจะเลื่อนลอยหาย รักแนบใจยิ่งไกลยิ่งใฝ่ชม.....” บนเวที..นักแสดงสาวนวยนาดออกมาจากสองข้างหลืบฉาก ตามจังหวะเสียงเพลง..หันหน้ามาทางพระเอกหนุ่มด้านหน้าที่กำลังแจกยิ้มทักทายผู้ชม “พอลมโบกโศกสวนมาหวนหอม กลิ่นพะยอมรื่นเร้าเข้าผสม โหยหาอาวรณ์ให้อ่อนอารมณ์ เหมือนกลิ่นผมกลิ่นแก้มแกมเนื้อนาง รักเคล้าเคยชมคู่เคียงภิรมย์นิทรา ครั้นยามจากมาน้องเอยไม่พารักห่าง รักน้องเพียงหนึ่ง หนึ่งน้องพี่ปองไม่วาง รักน้องนางไม่จางไปจากใจ” เวทีส่วนที่พระเอกยืนร้องเพลงอยู่ค่อย ๆ เลือนเข้าไปสู่เวทีเมน พร้อมท่อนที่มีแต่เสียงดนตรีโซโล่อยู่ ฉากค่อยสว่างขึ้นเผยให้เห็นด้านหลังที่มีสาวหลายคนนั่งเย็บผ้าอยู่บนจักรในห้องแถว..ด้านซ้ายมีอีก 2 ห้องแถวที่เห็นเพียงห้องครึ่ง ด้านขวามืห้องเดียวเป็นห้องสุดท้ายของห้องแถว..มีถนนอยู่ด้านข้างเวที พระเอกยืนตำแหน่งหน้าจักรคันแรกสุด มือหนึ่งจับเสื้อโหลที่ทยอยเลื่อนออกมาจากจักร อีกมือหนึ่งถือกรรไกรตัดเส้นด้ายที่ติดอยู่บนเสื้อโหลนั้น . ทุกคนในฉากรวมทั้งสาวเย็บผ้าทั้งหลายร่วมร้องเพลงท่อนสุดท้าย..ยิ้มแย้มแจ่มใส “พอลมโบกโศกสวนมาหวนหอม กลิ่นพะยอมรื่นเร้าเข้าผสม โหยหาอาวรณ์ให้อ่อนอารมณ์ เหมือนกลิ่นผมกลิ่นแก้มแกมเนื้อนาง รักเคล้าเคยชมคู่เคียงภิรมย์นิทรา ครั้นยามจากมาน้องเอยไม่พารักห่าง รักน้องเพียงหนึ่ง หนึ่งน้องพี่ปองไม่วาง รักน้องนางไม่จางไปจากใจ” เพลงจบลง..พระเอกหย่อนตัวลงนั่งหน้าจักรคันแรกนั้น..สาว ๆ หน้าเวทีเข้ารุมล้อมพร้อมเสียงจ๊อกแจ้ก ทำนองแซว จีบหนุ่มพระเอก..ไฟเวทีค่อยพรางดับลง จนมืดสนิท . ![]() |
BlogGang Popular Award#21
![]() สมาชิกหมายเลข 2607062
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]บทความทั้งหมด
|







ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [