เรื่องเล่าของฉัน ตั้งแต่วันที่มีเธอ Chepter 8 ตอนนี้ยาวหน่อยนะคะ... มาดูกันต่อจากตอนที่แล้วเลยดีกว่า...^^ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- "อ่อ...คือ"พัทยังอ้ำอึ้ง /ปัดโธ่ มาขนาดนี้แล้วน่า กล้าๆหน่อยเด่ะวะไอพัท!!/ "...หืม?? อะไรคะ"ปานวาดเริ่มคลายหน้าจากอาการหัวเราะ เธอเอียงคอน้อยๆด้วยความสงสัย "คือ พี่อยากจะถามเราว่าเราเกิดวันไหนหรอ?" "ปานน่ะหรอคะ"ปานวาดแปลกใจ /อะไรวะ มาปลุกกันเพื่อถามแค่นี้เนี่ยนะ -*- / "อือ" "13 กรกฎา 2528"ปานวาดตอบ "งั้นตอนนี้ก็...23..."พัทเอ่ยลอยๆทำท่าครุ่นคิด... "..." "..." "ทำไมหรือคะ" ปานวาดเริ่มงงๆ "นี่ เดี๋ยวไปเปลี่ยนชุดเลยนะ" พัทหันมาพูดด้วยรอยยิ้ม "ห๋า??" ปานวาดยิ่งงงเป็นไก่ตาแตก /มาถามวันเกิด แล้วนับอายุ จากนั้นก็ให้ไปเปลี่ยนชุด???/ และเมื่อปานวาดจะถามพัทอยู่นั่นเอง เขาก็ชิงพูดตัดขึ้นมาเสียก่อน "จุ๊ๆๆ เซอร์ไพร์ส" พัทยิ้มอย่างมีเลศนัยก่อนจะวิ่งกลับไปในห้องของเขาอย่างรวดเร็ว "อ้าว พี่คะ เดี๋ยวสิ" แกร๊ก...(เสียงปิดประตูห้อง) /อะไรของเขานะ/ ปานวาดคิดอย่างสงสัย /...แต่ก็เอาเถอะ ไหนๆก็ตื่นแล้วนี่/ ตอนนี้ปานวาดตื่นนอนแล้ว และเธอรู้ดีว่าถึงกลับไปนอนตอนนี้ก็คงนอนไม่หลับ ...เธอแอบถอนหายใจเบาๆด้วยความเสียดาย... /เฮ้อ....คนอุตส่าห์หลับลงแท้ๆ/ ปานวาดเปลี่ยนชุดเป็นเสื้อสีขาวแขนยาวผ้าใส่สบายกับกางเกงสี่ส่วนตัวหลวมๆ เธอหวีผมเล็กน้อย และแตะน้ำหอมกลิ่นมะลิบางๆที่ซอกคอเพิ่มความสดชื่น (แม้จะเป็นเวลากลางคืน แต่เราก็เป็นผู้หญิง จะอยู่บ้าน จะเจอคนสนิท หรือไปเที่ยวที่ไหน เราก็ต้องดูดีหน่อยนะลูก - คำสอนของคุณวิชุดาเมื่อปานวาดยังเด็ก) เมื่อเธอแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว พัทก็มาเคาะประตูเรียกพอดี ก๊อกๆๆ "น้องเสร็จหรือยัง" "ค่ะ เสร็จแล้วค่ะ" ปานวาดวิ่งไปเปิดประตู "งั้นไปกันเถอะ" พัทชวน แล้วเริ่มเดินนำ ปานวาดแอบเห็นว่าพี่ชายของเธอเข้าไปหวีผมจนเรียบร้อย และเปลี่ยนจากเสื้อยืดใส่นอนเก่าๆเป็นเสื้อยืดคอกลมสีเขียวแก่ดูสะอาด พัทเดินนำปานวาดโดยไม่พูดอะไรจนไปถึงระเบียงบ้าน... และเขาก็... "ฮึ๊บบ!!" พัทปีนระเบียงขึ้นไปอยู่บนหลังคาบนด้วยความรวดเร็ว "เฮ้ย พี่พัท! ทำอะไรน่ะ" ปานวาดเอ่ย(เบาๆ)ด้วยเสียงหลง "เอ้า เราเองก็ขึ้นมาซิ" พัทห้อยหัวลงมามองปานวาด สีหน้าของเขาตอนนี้ดูสนุกสนานจริงๆ "แต่ปานขึ้นไม่เป็น ถ้าตกลงไปล่ะคะ" ปานวาดเอ่ยกลัวๆ "ไม่ตกหรอก... พี่มีที่ขึ้นไว้ให้แล้ว นั่นไง" พูดจบแล้ว พัทก็ชี้ไปที่ฝาผนังบ้านใกล้ๆกับระเบียง เมื่อมองตามือของพัทไป ปานวาดจึงเห็นบันไดลิงเชือกเส้นโต เหมือนที่เธอเคยปีนในด่านตอนเข้าค่ายเนตรนารีสมัยเด็ก ปลายเชือกด้านหนึ่งผูกไว้อย่างแน่นหนากับตะขอตัวใหญ่ที่ซ่อนอยู่ใต้หลังคาบ้าน ส่วนปลายเชือกก็ได้ทิ้งตัวจนถึงพื้นระเบียงที่เธอยืนอยู่พอดี "เร็วหน่อยสิปาน หรือจะให้พี่ลงไปรับล่ะ" พัทยิ้มอย่างกวนๆเมื่อเห็นปานวาดสำรวจความปลอดภัยของบันไดที่เขาทำไว้อย่างรอบคอบ ... ..... ... ... แล้วปานวาดก็ปีนขึ้นมาอยู่บนหลังคาได้สำเร็จ "...เอาล่ะค่ะ ปานขึ้นมาแล้ว" ปานวาดพูดขึ้นพลางพยายามทำสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด /เฮ้ออ... กลัวแทบตาย เสียวตกชะมัดเลย/ และเมื่อเธอเงยหน้าขึ้น เธอก็ได้เห็นหน้าของพี่ชายเธอ... เขานั่งยืดขาอย่างสบายๆ สายตาของเขาไม่ได้มองเธออยู่ ...แต่หันหน้าไปอีกทาง ใบหน้าเต็มไปด้วยความอิ่มเอิบ ปานวาดใจเต้นเบาๆไปกับใบหน้าของพี่ชายท่ามกลางแสงจันทร์... เธอรู้สึกประหลาด...ในค่ำคืนนี้ ปานวาดจึงหลีกเลี่ยงความคิดของตัวเองด้วยการมองตามสายตาของพัทไป และเธอก็ได้เห็น...ความสวยงาม พระจันทร์ทรงกลดกลมโตขึ้นอยู่ที่ระดับสายตา ส่องสว่างแข่งกับดาวดวงที่อยู่รายรอบ แสงของมันตกกระทบลงบนกลีบเมฆบางๆ ที่ลอยลมอย่างช้าๆ... และวาดแสงลงต่ำ กระทบลงกับหลังคาบ้านหลังต่างๆที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา... แม้เธอจะได้มองพระจันทร์จากหน้าต่างห้องอย่างเคยชิน แต่เธอไม่เคยเลย ที่จะได้เห็นพระจันทร์เต็มสายตาเช่นนี้ กระต่ายน้อยเผลอมองเหม่ออย่างลืมตัว... /สวยเหลือเกิน/ปานวาดคิด ทางวศินเองก็เผลอมองอย่างลืมตัวเช่นกัน... หญิงสาวในชุดเสื้อสีขาวแขนยาว เสื้อของเธอทำจากผ้าบางเบาที่พลิวตามลม ผมหยักศกสีดำยาวที่เริ่มยุ่งหน่อยๆเพราะแรงลมและการปีนป่าย... ดวงตาสีน้ำตาลกลมโต ทอดยาวไปยังพระจันทร์อย่างเคลิ้มฝัน แพขนตากระพริบน้อยๆเป็นครั้งคราว ริมฝีปากบางที่เผยอออกราวกลีบกุหลาบแรกแย้ม กลิ่นหอมอ่อนๆลอยมากระทบจมูกอย่างชื่นใจจากผิวขาวนวลละเอียด... /สวย.../ เขาเผลอลืมไปว่าผู้ที่ยืนอยู่ตรงหน้านี้เป็นน้องสาวแท้ๆไปช่วงหนึ่ง เมื่อปานวาดรู้สึกตัว เธอจึงหันกลับมาพูดกับวศิน "พี่มีอะไรหรือคะ" ปานวาดยิ้มถาม "...อ้อ จริงสิ" คำเรียกของปานวาดทำให้เขารู้สึกตัวอีกครั้ง พลางล้วงมือเขาไปในกระเป๋ากางเกงอย่างเร่งๆ "เอาล่ะ เราตั้งมือรองไว้" พัทใช้มือซ้ายและมือขวาสองข้างทำท่าเหมือนกอบทรายเป็นตัวอย่างให้ปานวาดทำตาม "..." ปานวาดทำตามอย่างว่าง่าย "อืม...ดีแล้ว ทีนี้คอยรับให้ดีนะ" และไม่ทันที่ปานวาดจะสงสัย พัทก็เริ่มถ่อยห่างจากเธอไปอีก 2-3 ก้าว.. และเขาก็ดีดวัตถุก้อนเล็กๆที่เขาหยิบออกมาจากกระเป๋ากางเกงขึ้นไปบนท้องฟ้า.. วัตถุอันนั้นส่องแสงประกายระยิบระยับ /...ดวงดาวหรอ?!!/ ปานวาดเผลอคิดในใจขณะที่เอื้อมมือคอยรับ เมื่อวัตถุนั้นตกลงมาจนถือมือของเธอ เธอก็ได้เห็นว่า มันเป็นช็อคโกแลตที่ห่อกระดาษแก้วมันวาว 1 เม็ด แสงที่ส่องประกายเมื่อครู่นี้เป็นเพียงแสงจันทร์ที่ส่องสะท้อนกับกระดาษห่อ... "นั่นพี่ให้น้องเป็นของขวัญตอนน้อง 1 ขวบนะ..." พัทเอ่ยเสียงอบอุ่น เขายิ้มอย่างอ่อนโยน "...พี่พัท..." ปานวาดมองช็อคโกแลตในมือสลับกับมองพัทไปด้วยสีหน้าบอกไม่ถูก เธอดีใจมากเหลือเกิน... "เดี๋ยวสิ อย่าเพิ่งทำหน้าอย่างงั้น... ยังไม่หมดซักหน่อย" ว่าแล้ว พัทก็ดีดช็อคโกแลตอีก 2 เม็ดขึ้น... ปานวาดรีบรับมันไว้ เธอเกือบตั้งตัวไม่ทัน... "อันนั้นของน้องตอน 2 ขวบ" พัทพูดอย่างใจดี... แล้วเขาก็ดีดอีก 3 เม็ดต่อมา... "นั่นของ 3 ขวบ"... แล้ว"ของขวัญ"ย้อนหลังวันเกิดของปานวาดตอน 4 ขวบ ...5 ขวบ ... .... .. .......6 ขวบ .... .... ............7ขวบ ... ..... .. ก็ทะยอยมาเรื่อยๆ... จนถึง 22 ขวบ... เมื่อจบ 22 ขวบแล้ว... ในมือของปานวาดเต็มไปด้วยช็อคโกแลตที่ส่องแสงระยิบระยับราวกับดวงดาวเต็มมือไปหมด... "ให้ย้อนหลังหมดแล้ว ...แล้วส่วนปีนี้... พี่จะให้อะไรที่พิเศษกว่า แต่ยังหาไม่ได้เลย.. รอหน่อยนะ" พัทพูดแล้วถูกหลังคออย่างเขินๆแล้วสารภาพว่า "จริงๆแล้วพี่คำนวญผิดน่ะ... พี่คิดว่าปีนี้เรา 22 เสียอีก จำ พศ. เราผิดไปซะได้..." "...." "แหะๆๆ...ไว้คราวหน้าพี่ขอ..." พัทหยุดพูดทันที... เมื่อเห็นว่าปานวาดกำลังจะร้องไห้... "..." ตาของปานวาดตอนนี้ปริ่มไปด้วยน้ำตาที่พร้อมจะไหลออกมาได้ทุกวินาที "เป็นอะไรไปปาน...! พี่ทำอะไรผิดหรือเปล่า!" พัทกล่าวอย่างร้อนรน "..." ปานวาดส่ายหัวแรงๆ เธอไม่ได้ตอบคำถาม ตอนนี้น้ำตาเธอไหลออกมาเรียบร้อยแล้ว... "...ปาน พี่ขอโทษ... ไม่ชอบช็อคโกแลตหรอ..." "ไม่ใช่ ชอบสิ ชอบมากๆเลย..."ปานวาดตอบเสียงสะอื้น "แล้วปานร้องไห้ทำไม หรือว่ากลัวความสูงหรอ ถ้างั้นเราลง..." "ดีใจ"ปานวาดพูดขัด "...." "ดีใจ มากๆ" "..." "ดีใจจริงๆนะ"ปานวาดร่ำไห้ "...เด็กโง่ ถ้าดีใจแล้วร้องไห้ทำไม เวลาดีใจเขาจะยิ้มกันต่างหากล่ะ"พัทกล่าวปนหัวเราะด้วยความสบายใจที่เขาไม่ได้ทำอะไรให้เธอเจ็บช้ำ... "...อื้ม" ปานวาดค่อยๆยิ้มขึ้นมาด้วยน้ำตานองหน้า "...เห็นไหม น้องยิ้มแล้วสวยขนาดนี้แน่ะ" พัทเอ่ยเบาๆด้วยสายตาหวานซึ้ง... "...ฮะๆๆ" ปานวาดหัวเราะหน่อยๆ แก้เขิน... "... พี่ขอผิดสัญญานิดนึงนะ ไม่อยากเห็นเลย" พัทพูดจบเขาก็ไม่รอคำตอบ แต่ใช้มือทั้งสองข้างของเขาเช็ดน้ำตาออกจาแก้มขาวพร้อมๆกัน... เมื่อเช็ดน้ำตาเรียบร้อยแล้ว... พัทยังคงค้างมืออยู่บนแก้มเนียนนั้น... และทั้ง 2 ก็สบตากันอย่างลืมตัวเป็นระยะเวลาหนึ่ง... ปานวาดไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด... ...หลังจากนั้นทั้งสองก็นั่งคุยกันอีกสักพักและก็พากันกลับมาที่ห้องของตนเอง และก่อนที่จะพัทจะเข้าประตูห้องไป "พี่คะ" ปานวาดโพล่หน้าเรียกจากประตูห้องของเธอ "หืม?" "...แล้วพี่เกิดวันไหน" ปานวาดถามด้วยตาใสซื่อ "อยากรู้จริงๆหรอ" พัทตอบแกมทะเล้น "อื้อ..." ปานวาดยิ้มขำๆ "13 มิถุนา" "อ้าว...วันเดียวกับปานนี่นา" "ฮะๆๆ ใช่ วันเดียวกัน" เมื่อบทสนทนาจบแล้ว... ปานวาดและวศินก็แยกย้ายกันเข้าห้อง และเมื่อพัทเดินไปรูดม่านจะปิดหน้าต่างนั่นเอง... เขาก็ได้เห็นแสงไฟส่องออกมาจากหน้าต่างของห้องปานวาด... เมื่อเขาลองมองไป เขาก็ได้เห็นกระปุกช๊อคโกแลตที่เขาให้ตั้งอยู่ พร้อมกับโคมไฟตั้งโต๊ะที่ตั้งใจเปิดส่องให้เห็นข้อความบนกระดาษ A4 ที่บรรจงแปะอยู่ที่กระจกอย่างดี... ข้อความนั้น ทำให้พัทต้องอมยิ้มอย่างสุขใจ... "GOODNIGHT ค่ะพี่" เมื่อเวลา 03.02 น. แสงจัทนร์บนท้องฟ้าได้พาความรู้สึกใหม่มาให้ 2 พี่น้องที่กำลังจมอยู่ในห้วงนิทรา... พระจันทร์คงไม่รู้...ว่า เขา และ เธอ รักกัน...ไม่ได้... -*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*--*-*-*-*-*-*- TO B CONTINUE...
โดย: เซียน_กีตาร์ วันที่: 25 สิงหาคม 2550 เวลา:7:00:48 น.
ตัวหนังสือสีอ่อนทำให้แสบตาเวลาอ่านแต่ก็อ่านจนจบค่ะ พัทเกิด 13 มิถุนา พ.ศ. อะไรน้า เรื่องจะเป็นอย่างไรต่อไปกันล่ะนี่ แล้วจะมาติดตามต่อไป โดย: ไลเดเลีย วันที่: 25 สิงหาคม 2550 เวลา:11:42:39 น.
แวะมาฝากความคิดถึงไว้..เผื่อคุณพัทจะเห็นใจ..(ซะงั้น) โดย: ไลเดเลีย วันที่: 29 สิงหาคม 2550 เวลา:20:38:37 น.
แวะมาดูว่าคุณซินอัพนิยายอ่ะยัง..คิดถึงคุณพัทอ่ะ โดย: ไลเดเลีย วันที่: 31 สิงหาคม 2550 เวลา:20:42:55 น.
|
บทความทั้งหมด
|
พี่ยังเจ็บตาอยู่
ยังไม่พร้อมอย่างยิ่งที่จะอ่านข้อความยาว ๆ
น้องเล่นมีตัวอักษรสีด้วย
ได้โปรดอย่าทำสีอ่อนเกินไป
ได้โปรดสงสารคนแก่ ๆ ตาเจ็บอย่างพี่ด้วยเถอะนะ
ป.ล.
สิ้นสุดการทดลองสอนแล้วค่ะ
คราวนี้ถึงที คูอ้อมคิดถึงลิงน้อย