คุณย่าครับ กับรักของเรา ตอน2(เรื่องสั้นขนาดยาว)
เพื่อนสาวของปัทมาถึงกับต้องท้าวคางมองเธออย่างไม่เข้าใจ เมื่อปัทมาขอร้อง
ให้ช่วย
"ฉันไม่เข้าใจเธอเลยจริงๆนะเนี่ย" เพื่อนสาวบ่น

"กะแค่มีแฟนสักคนนี่มันน่ากลัวขนาดนี้เลยหรือไง" เก๋ เพื่อนสนิทของหญิง
สาวและเป็นเพื่อนร่วมงานถาม

"แต่เค้าไม่ใช่แฟนชั้น" ปัทมาบอก

"ทำไมเธอไม่ลองคบกันจริงๆล่ะ" เพื่อนสาวยังถาม

"ในเมื่อ เธอเองก็ไม่มีใครและทางคุณปฐวีเองก็ไม่ติดขัด" เก๋ถามต่อ

"จะให้ฉันมีแฟนด้วยเหตุผลเพราะ "ไม่มีใคร" กับ " ใครก็ได้" เนี่ยนะเก๋"
ปัทมาย้อนถามเพื่อนสาว

เก๋ยักคิ้วให้เธอก่อนจะบ่นต่อ
"งั้นก็ตามใจ แต่ฉันละเสียดายแทนเธอจริงๆเลย"

"งั้นเธอก็มาเป็นแฟนเค้าสิ" ปัทมาบอก

"เรื่องอะไรฉันไม่ได้อยู่หมู่บ้านคานทองนิเวศน์เหมือนเธอนี่" เก๋หยอกเพื่อน
สาว ปล่อยให้ปัทมามองเธออย่างงอนๆ

...............................................

ภายในร้านอาหารญี่ปุ่นในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ปฐวี มองนาฬิกาอย่าง
กระสับกระส่าย
ปัทมาโทรมานัดเขาเพื่อทานข้าวกลางวัน แต่นี่สายไปเกือบยี่สิบนาทีแล้ว
ชายหนุ่มได้แต่ออกอาการหงุดหงิด เมื่อโทรศัพท์ไปหาหญิงสาวเธอก็ไม่
รับสาย แต่ปฐวีก็ยังตัดสินใจที่จะรอต่อไป

"พี่วีขา" เสียงเรียกมาจากทางด้านหลังของชายหนุ่ม เมื่อเขาหันกลับไปมอง
ก็ต้องตกใจเมื่อสบตากับ ตาคู่โตผิดปกติกับแก้มป่องๆเหมือนสูบลม ก่อนจะ
ทำใจและยิ้มให้กับ วิภาดา "คู่นัด" คนก่อน

"มาทานข้าวคนเดียวหรอคะ" วิภาดาถามพร้อมกับยืนบิดไปบิดมาอยู่ข้างโต๊ะ

"เอ่อ พอดีนัดเพื่อนไว้น่ะครับ" ปฐวีบอก

"เพื่อนพี่วีมาช้าจังนะคะ ให้วินั่งรอเป็นเพื่อมั้ย" วิภาดาถาม พร้อมกับ นั่งลง
ฝั่งตรงข้ามเรียบร้อย

แล้วจะถามทำไมวะเนี่ย... ปฐวีคิดในใจ
"วิ มาทำอะไรแถวนี้ล่ะครับ" ชายหนุ่มถามพร้อมกับหันซ้ายหันขวาเหมือน
คนกำลังทำความผิด

"อ๋อ วิ มาทานข้าวเหมือนกันค่ะ ไม่คิดว่าจะเจอพี่วีที่นี่ บังเอิญจังนะคะ"
วิภาดา พูด พร้อมกับเริ่มสั่งอาหาร

"วิ นึกว่าต้องทานคนเดียวเสียแล้ว" เธอพูดไปเรื่อยๆ และพยายามทำตาโต
คู่นั้นให้เป็นประกาย ในขณะที่ปฐวีถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่และภาวนา
อย่าให้ปัทมาเข้ามาตอนนี้เลย เพราะหญิงสาวอาจ หาเหตุ ยกเลิกการแกล้ง
เป็นแฟนเขาก็ได้ ... ปฐวี เริ่มแปลกใจตัวเองอยู่เหมือนกัน ว่าทำไมเขาต้อง
กังวลว่าปัทมาจะเข้าใจผิดด้วยนะ...

.............

"หนูปัทคิดยังไงถึงชวนย่ามาซื้อของล่ะจ๊ะ" คุณย่าสายหยุดถามหญิงสาว

"ปัทเกรงใจคุณย่าน่ะค่ะ ไปรบกวนทานข้าวตั้งหลายมื้อ" หญิงสาวบอก
พร้อมกับยิ้มหวาน

"เกรงใจอะไร แหม หนูปัทกับตาปฐวีก็คนรักกัน" คุณย่าพูดพร้อมกับหยิก
แก้มหญิงสาวอย่างเอ็นดู

"ย่ามีความสุขจริงๆเลย เวลาที่ได้อยู่กับหนูและตาปฐวีพร้อมๆกัน" คุณย่าพูด
ไปเรื่อยๆ จนหญิงสาวรู้สึกเศร้าขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวที่ร่วมมือกับหลายชายคน
โปรดโกหกคุณย่าใจดีคนนี้..แต่หญิงสาวก็ไม่อาจปฏิเสธว่าเธอเองก็รู้สึกรัก
คุณย่าคนนี้ขึ้นมาจริงๆ .. และการได้ไปทานข้าวที่บ้านคุณย่าสายหยุดทำให้
เธอรู้สึกเหมือนกลับเป็นเด็กเล็กๆที่คอยมีผู้ใหญ่คอยตามใจอยู่เสมอ..หากไม่
นับหลานชายคนโปรดที่คอยทำตัว กวน หัวใจเธอตลอดเวลา

หญิงสาวพาคุณย่าเดินมาจนกระทั่งเกือบจะถึงร้านอาหารญี่ปุ่น เธอมองเข้าไป
ในร้าน และพบชายหนุ่มนั่งอยู่กับหญิงสาวอีกคน
ปัทมารู้สึกเจ็บแปล็บในใจเล็กๆ แม้ว่าแผนการนี้เธอจะเป็นคนเตรียมมันขึ้น
มาเองก็ตาม หญิงสาวมองภาพหนุ่มสาวตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจตัวเอง จนคุณ
ย่าสายหยุดแปลกใจ และมองตามเธอไป

"เอ๊ะ .. นั่นตาปฐวีนี่นา" คุณย่าสายพูดหลังจากขยับแว่นตาอยู่หลายครั้ง

"อยู่กับใครนะ..เอ๊ะ" คุณย่าทำท่านึกได้

"นั่นมันหนู วิภาดา นี่นา ใช่มั้ยหนูปัท" คุณย่าหันมาถามเธอ และพบว่าหญิง
สาวยังคงมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาสับสน

"ตาปฐวี ทำอย่างนี้ได้ยังไง เดี๋ยวย่าต้องไปถามให้รู้เรื่อง" คุณย่าสายหยุดทำ
ท่าจะบุกเข้าไปจริงๆ จนหญิงสาวต้องฉุดแขนเอาไว้

"อย่าค่ะ คุณย่า" หญิงสาวบอก

"ปัทไม่อยากมีเรื่องค่ะ" หญิงสาวพูดต่อ

"ไม่ได้ ตาปฐวีทำอย่างนี้ไม่ถูก" คุณย่าโวยวาย

"คุณย่าให้พี่เค้าได้คบคนที่เค้าเลือกเถอะค่ะ" หญิงสาวพูดด้วยสีหน้าที่พยายาม
ทำให้เศร้ามากที่สุดแต่ในใจกลับรู้สึกเจ็บขึ้นมาจริงๆ

"แต่.." คุณย่าทำท่าจะค้านแต่เมื่อเห็นสีหน้าลำบากใจของหญิงสาวจึงหันไป
ปลอบใจเธอแทน

"หนูปัทไม่ต้องห่วงนะ ย่าจะจัดการเรื่องนี้เอง" คุณย่าบอก

"คุณย่าคะ " ปัทมาเรียกพร้อมกับบีบมือคุณย่า

"คุณย่า สัญญากับปัทได้มั้ยคะว่าคุณย่าจะให้พี่เค้าเลือกคนที่พี่เค้าต้องการ
หรือสิ่งที่พี่เค้าต้องการจริงๆ" หญิงสาวขอร้องคุณย่าสายหยุด ด้วยน้ำเสียง
จริงจังจนคุณย่าต้องมองหน้าหญิงสาวและไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึนกับหนุ่ม
สาวคู่นี้ ก่อนจะหันไปมองหลานรักและวิภาดาที่นั่งคุยกันอยู่ในร้าน

"วันนี้ เรากลับกันก่อนมั้ยคะ" หญิงสาวพูด

คุณย่าได้แต่พยักหน้าอย่างจนใจ...

..............................................

เสียงโทรศัพท์ในสำนักงานจัดหาคู่ "สื่อรัก"ดังขึ้นหลายครั้งจนเพื่อนสาว
ของปัทมาต้องดึงสายมารับเอง พร้อมกับมองปัทมาอย่างเคืองๆ
ในระยะหลัง เธอปฏิเสธที่จะรับสายปฐวีโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์
มือถือหรือโทรศัพท์สำนักงาน

"สวัสดีค่ะ บริษัทสื่อรักค่ะ" เก๋ เพื่อนสาวของปัทมาพูด

"อ๋อ ค่ะ คุณปฐวี" ชื่อปฐวีทำให้หญิงสาวถึงกับสะดุ้ง และพยายามส่งสัญญาณ
บอกเพื่อนสนิทว่าเธอไม่อยู่

"ค่า ยัยปัทหรอคะ เมื่อกี้ยังอยู่เลยค่ะ แต่ตอนนี้ไปไหนแล้วก็ไม่รู้" เก๋บอกปฐวี

"ค่ะ แล้วเก๋จะบอกให้นะคะ" เก๋บอกก่อนที่จะวางสายและ หันมามองปัทมาที่
ทำท่าเหมือนหยุดหายใจตลอดที่เธอคุยกับปฐวี

"ระวังขาดอากาศหายใจตายล่ะแก" เพื่อนสาวประชด

"เค้าว่ายังไง" ปัทมาถาม ทำเอาเพื่อนสาวมองอย่างหมั่นไส้

"อยากรู้ไม่คุยเองล่ะ" เก๋ประชด

ปัทมาออกอาการหงุดหงิดก่อนจะตอบ

"ฉันแค่อยากรู้ว่า เค้าจะเลิกวุ่นวายกับฉันเมื่อไร" ปัทมาบอก

"คงยาก " เก๋บอก ทำให้ปัทมาต้องขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

"ทำไม" หญิงสาวถาม

"เพราะเค้ากำลังจะมาหาเธอที่นี่น่ะสิ" เพื่อนรักตอบ

"หา !" หญิงสาวอุทาน

"ตกลงที่แกหลบหน้าเค้าเนี่ย เพราะโกรธที่เค้าไปกับยัยวิภาดาที่แกจัดฉาก
ให้หรือเปล่า" เก๋ถามตรงๆ

"จะบ้าหรอ" ปัทมาตอบเสียงหงุดหงิด

"ฉันจะออกไปหาลูกค้าข้างนอกนะ" ปัทมาบอกเพื่อนสาวก่อนจะคว้ากระเป๋า
ถือและวิ่งออกไป

เก๋มองเพื่อนสาวอย่างอ่อนใจ ....ชีวิตแกนี่เหมือนละครหลังข่าวเข้าไปทุกวัน
คนดูรู้กันทั้งประเทศจะเหลือก็แต่พระเอกกับนางเอกนี่ละที่ไม่รู้ว่าตัวเองรักกัน
เพื่อนสาวคิด....

.................

ปฐวี จอดรถห่างออกไปจากอาคารสำนักงานของหญิงสาวหลายช่วงตึกเนื่อง
จากเป็นช่วงพักกลางวันทำให้การจราจรค่อนข้างติดขัด ชายหนุ่มเดินไปยัง
สะพานลอยที่ใกล้ที่สุดแต่สายตาก็เหลือบไปเห็นหญิงสาวที่กำลังเดินออกจาก
อาคารฝั่งตรงข้ามและทำท่าเหมือนกำลังจะโบกรถแท๊กซี่คันหนึ่ง...

ยัยตัวยุ่งเอ้ย..จะหนีอีกแล้ว..ปฐวีคิด ก่อนจะตะโกนเรียกหญิงสาวดังลั่น
ปัทมาหันซ้ายหันขวาจนเจอกับเจ้าของเสียง อาการเจ็บในหัวใจวิ่งขึ้นมา
อีกครั้งจนหญิงสาวต้องขบริมฝีปากตัวเองอย่างไม่รู้ตัวก่อนจะเปิดประตูและ
เข้าไปนั่งในรถแท็กซี่

ปฐวีที่อยู่อีกฟากถนน ตัดสินใจกระโดดข้ามที่กั้นขอบทางและพยายามจะวิ่ง
ข้ามถนนไปให้ทันรถแท็กซี่คันนั้น...

"เอี๊ยดดดดดดด! "

เสียงรถประจำทางที่กำลังจะเข้ารับผู้โดยสารเบรคอย่างสุดชีวิตเมื่อเห็นชาย
หนุ่มวิ่งตัดหน้ารถในระยะกระชั้นชิด..

"คุณปฐวี!" หญิงสาวอุทานออกมาเมื่อเห็นเหตุการณ์ และรีบลงจากรถแท็กซี่
คันนั้นก่อนจะวิ่งข้ามสะพานลอยมายังอีกฝั่งของถนน..

ปฐวียังคงนอนนิ่งอยู่ที่ถนนหน้ารถประจำทางคันนั้น โดยมีคนกลุ่มใหญ่มอง
อยู่ พร้อมๆกับเสียงพึมพำ
"ตายรึยัง"
"สะพานลอยอยู่แค่นี้ไม่ข้าม สงสัยอยากตายมาก"
"ถ่ายหนังหรือเปล่า พระเอกหล้อ หล่อ"
"แล้วนางเอกอยู่ไหนล่ะ"
"...................."


หญิงสาวฝ่าคนกลุ่มนั้นเข้าไปประคองชายหนุ่มเอาไว้พร้อมกับร้องให้ใครสัก
คนพาชายหนุ่มไปส่งโรงพยาบาล

"อย่าบอกคุณย่านะ" ชายหนุ่มพึมพำ

"อะไรนะคะ คุณรู้สึกตัวใช่มั้ย" ปัทมาถาม

"คุณปัท..อย่าบอกคุณย่านะ" ชายหนุ่มย้ำก่อนจะหมดสติไป

.......................

ปฐวี ตื่นขึ้นมาพร้อมๆกับเสียงโทรศัพท์มือถือของเขา หญิงสาวลุกเดินไป
หยิบโทรศัพท์และยื่นให้กับเขาแต่เสียงโทรศัพท์ก็เงียบลงไปก่อน
ปฐวีรับโทรศัพท์มาอย่างงงๆ

"ผมอยู่ที่ไหน" เขาถาม

"คุณอยู่ที่โรงพยาบาล คุณกระโดดไปชนหน้ารถ จำได้มั้ย" หญิงสาวตอบ

ชายหนุ่มมองหน้าหญิงสาวก่อนจะขมวดคิ้วและพูด

"เค้าเรียกว่าถูกรถชนไม่ใช่หรือครับ"

"แล้ว คุณเป็นใคร" ชายหนุ่มถาม ทำเอาหญิงสาวตาโตด้วยความแปลกใจ

"อะไรนะ" ปัทมาถาม

"คุณ มาเฝ้าผม คุณเป็นคนรักของผมหรอ" ชายหนุ่มถามด้วยสีหน้าสงสัย

"คุณ .. คุณจำไม่ได้หรอ" ปัทมาถามด้วยน้ำเสียงตกใจ

"ผมจำไม่ได้ .. แต่คุณเป็นแฟนผมใช่มั้ย ดูท่าทางคุณห่วงผมมาก" ปฐวีถาม
ต่อ

หญิงสาวทำท่าอึกอัก...ฉันห่วงก็เพราะฉันเป็นต้นเหตุให้คุณกระโดดไปชน
รถประจำทางต่างหากเล่า...
"เปล่า ค่ะ เรา..เป็นเพื่อนกัน.." หญิงสาวตอบ

"หรอ...อืม.นั่นสินะ ผมจำได้ว่า...ผมมีแฟน.." ชายหนุ่มทำท่าคิดและกุมขมับ

"แฟนผมชื่อ..ปัทมา" ชายหนุ่มบอก ทำเอาหญิงสาวรู้สึกอบอุ่นในใจขึ้นมา
และแก้มทั้งสองข้างแดงขึ้นอย่างไม่รู้ตัว...

"คุณชื่ออะไร.. " เขาถามต่อ เมื่อเห็นหญิงสาวเงียบไป

"ฉันไปตามหมอให้คุณดีกว่า ท่าทางคุณจะอาการหนัก" หญิงสาวบอกด้วยท่า
ทางห่วงใยก่อนจะรีบลุกออกจากห้องไป

ชายหนุ่มมองตามไปด้วยสายตาอบอุ่น อย่างน้อย เขาก็รู้แล้วว่าเธอห่วงเขา
ก่อนจะกดดูหมายเลขที่เรียกเข้าและไม่ได้รับสาย

ปัทมาไปแจ้งพยาบาลว่าปฐวีรู้สึกตัวแต่เหมือนจะจำเรื่องราวยังไม่ได้ ซึ่ง
พยาบาลได้แจ้งให้คุณหมอเจ้าของไข้ทราบแล้ว และขอให้เธอกลับไปรอที่
ห้องคนไข้ก่อน
เมื่อหญิงสาวมาถึงหน้าห้อง ขณะกำลังจะเปิดประตูเข้าไป เธอได้ยินเสียง
ชายหนุ่มคุยโทรศัพท์จึงหยุดฟังด้วยความสงสัย

"ครับคุณย่า ผมกับน้องปัทเข้าใจกันแล้วครับ" เสียงชายหนุ่มพูด

ปัทมาบีบลูกบิดประตูจนแน่น ความห่วงใยเปลี่ยนเป็นความโกรธอย่างรวดเร็ว
เธอไม่น่ามาห่วงคนกะล่อนอย่างนายปฐวีคนนี้เลย.....หญิงสาวปล่อยลูกบิด
ประตูและคิดจะจากไปแต่ก็ต้องหยุดเมื่อได้ยินเสียงชายหนุ่มพูดต่อ..

"ผมสบายดีครับ นอนดูทีวีอยู่ที่อพาตเม้นต์นี่ละครับ"

"อ้อ คุณย่าไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ช่วงนี้ผมต้องไปทำงานที่ต่างจังหวัดหลาย
วัน คงไม่ได้ไปเจอคุณย่า แต่เดี๋ยวผมให้เจ้าเอกแวะไปเยี่ยมคุณย่านะครับ"
ชายหนุ่มหมายถึงเพื่อนสนิทที่บริษัทเดียวกัน

"คุณย่าขาดเหลืออะไร บอกเจ้าเอกได้เลยนะครับ ไว้ผมกลับมาผมจะพาน้อง
ปัทไปทานข้าวด้วย" ชายหนุ่มพูด

ปัทมายืนอยู่หน้าห้องอย่างลังเล.. ทำไมเขาต้องโกหกด้วยนะ.. จะมีสักเรื่องที่
ผู้ชายคนนี้จะพูดความจริงบ้างไหม..

"คุณ ครับ" เสียงเรียกที่อยู่ใกล้ๆ ทำเอาหญิงสาวสะดุ้ง คุณหมอเจ้าของไข้
เรียก เมื่อเห็นว่าหญิงสาวยืนอยู่อย่างใจลอย

"ไปดูคนไข้ข้างในดีกว่าครับ คุณบอกคนไข้จำอะไรไม่ได้ใช่มั้ยครับ"
คุณหมอถาม

"เอ่อ ." หญิงสาวพยายามหาคำตอบ

"ดิฉันเข้าใจผิดไปเองล่ะค่ะ คือดิฉันสับสนนิดหน่อย" ปัทมาบอก

"ผมเข้าใจครับ คุณคงเป็นห่วงแฟนมาก เลยใจลอย สับสน" คุณหมอบอกยิ้มๆ

"ไม่.." หญิงสาวพยายามจะปฏิเสธ แต่คุณหมอก็เดินนำเข้าไปในห้องแล้ว
เธอจึงต้องเดินตามไปอย่างเลี่ยงไม่ได้

หลังจากที่คุณหมอตรวจดูอาการแล้วจึงหันมาพูดกับปัทมา

"ตกลงแฟนคุณไม่เป็นอะไรมากหรอกครับ แค่แขนเดาะกับขาหัก ให้อยู่โรง
พยาบาลสักอาทิตย์ก็ไปพักฟื้นที่บ้านได้แล้ว" คุณหมอบอก และต้องแปลกใจ
ที่หญิงสาวทำหน้าเรียบเฉย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ดูเธอห่วงเขาเสียเหลือเกิน

"สนุกมากมั้ย" หญิงสาวถามปฐวีเมื่อคุณหมอออกจากห้องไปแล้ว

"สนุกที่ไหน ..เจ็บจะแย่แล้ว" ชายหนุ่มบอก

"ฉันจะกลับแล้ว โชคดี" หญิงสาวบอกพร้อมกับหยิบกระเป๋าถือ

"คุณปัท" ชายหนุ่มเรียกหญิงสาวเบาๆ หญิงสาวหันกลับไปมองหน้าเขาช้าๆ

"ขอบคุณ ... เรื่องคุณย่า" ชายหนุ่มพูด หญิงสาวเข้าใจได้ทันทีว่าเขาหมายถึง
เรื่องที่เธอไม่โทรไปบอกคุณย่าเขา

"ทำไมคุณต้องโกหก" ปัทมาถาม เมื่อชายหนุ่มทำท่าสงสัยเธอจึงอธิบายว่าตอน
ที่เขาคุยโทรศัพท์กับคุณย่า เธอยืนอยู่หน้าประตูและได้ยินบทสนทนา..

"ผมไม่อยากให้คุณย่าไม่สบายใจ" ชายหนุ่มบอกเบาๆ

"แต่คุณหายไปอย่างนี้ท่านจะยิ่งห่วง ให้ท่านมาดูแลคุณที่นี่ท่านน่าจะเป็น
ห่วงน้อยกว่า" หญิงสาวให้ความเห็น ชายหนุ่มส่ายหน้าและยิ้มเหงาๆ

"อย่าเลย.. คุณย่าท่านเป็นโรคหัวใจ อย่าให้ท่านรู้จะดีกว่า" ชายหนุ่มบอก

หญิงสาวถึงกับต้องขมวดคิ้ว โรคหัวใจแบบที่เป็นเองหายเองเนี่ยนะ.....
นี่เขาจะโกหกเธอไปถึงไหน...ปัทมาแอบน้อยใจอยู่ลึกๆ ชายหนุ่มคงมีเหตุ
ผลของเขาที่จะไม่บอกคุณย่า...หญิงสาวพยักหน้าก่อนจะเดินออกจากห้อง
ผุ้ป่วยไปโดยมีสายตาของชายหนุ่มที่มองตามอย่างเหงาๆ

................................

ที่สำนักงานของบริษัทสื่อรัก เก๋มองอาการเพื่อสาวอย่างเป็นห่วง เมื่อหญิงสาว
มาทำงานในวันรุ่งขึ้นหลังจากที่ปฐวีถูกรถชน

"ถ้าเป็นอย่างนี้ก็กลับบ้านไปเลยไป" เก๋ไล่เพื่อนสาวเมื่อเห็นว่าปัทมาเอาแต่
นั่งเหม่อ

"ฉันคิดเรื่องงานอยู่" ปัทมาแก้ตัว

เก๋ถอนหายใจก่อนจะบ่นดังๆ
"งานประเภทไหนของเธอ ลูกค้าอยากได้แฟนวัยรุ่น เธอส่งรุ่นคุณปู่ไป
กับอีกคู่นัดผู้ชายกับผู้ชายไปเจอกัน.. "

ปัทมาทำหน้าจ๋อยเมื่อเพื่อนสาวแจกแจงความผิด

"แล้วที่นั่งหน้าหงิกอยู่นี่ก็เพราะส่งคุณวิภาดาไปดูอาการคุณปฐวีเค้าใช่มั้ยล่ะ"
เก๋ถามจี้ใจดำ

"ก็เค้าขอแค่ใครก็ได้" หญิงสาวแก้ตัว แต่ในใจกลับรู้สึกน้อยใจนิดๆ

"แต่ฉันไม่เห็นว่าคุณปฐวีจะเป็นอย่างนั้นเลย เค้าง้อแกจะตาย" เพื่อนสาวบอก

"คนๆนั้น ไม่เคยพูดจริงสักอย่างหรอก แม้แต่กับย่าตัวเอง" หญิงสาวพูดพร้อม
กับนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวาน

"นี่คุณปฐวีเข้าโรงพยาบาลแล้ว ใครคอยไปดูแลคุณย่าละ" เพื่อนสาวถาม

"ก็คงพ่อกับแม่เค้าละมั้ง" ปัทมาบอก ในขณะที่เพื่อนสาวทำท่านึก

"ไหนเธอบอกว่า พ่อแม่คุณปฐวีเสียไปตั้งแต่เขายังเล็ก แล้วก็อยู่กับย่าแค่
สองคนไม่ใช่หรอ" เพื่อนสาวบอก ทำเอาปัทมาอ้าปากค้าง จริงด้วย...
เธอลืมไปเสียสนิทว่าคุณย่าสายหยุดมีแค่หลานชายสุดที่รักคอยดูแลอยู่เพียง
คนเดียว...เก๋ถึงกับส่ายหน้ากับอาการป้ำเป๋อของเพื่อนสาว..

..............

ปัทมาในชุดกางเกงขาสามส่วนและเสื้อยืดสีเข้มกำลังยืนรดน้ำต้นไม้ที่สนาม
หญ้าหน้าบ้านคุณย่าสายหยุดอย่างอารมณ์ดี หญิงสาวแวะมาอยู่เป็นเพื่อนคุณ
ย่าสายหยุดในตอนเย็นหลังเลิกงานก่อนที่จะกลับบ้านในช่วงที่ชายหนุ่มยัง
รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล

"หนูปัท" คุณย่าเรียก

"มาทานขนมก่อนสิลูก" คุณย่าเรียกพร้อมกับถือถาดขนมทองหยิบทองหยอด
ออกมาวางที่โต๊ะสนาม ตามมาด้วยชายหนุ่มท่าทางสำอาง ปัทมาขานรับก่อน
จะปิดน้ำและล้างไม้ล้างมือ

"หนูปัทเลยต้องลำบากมาอยู่เป็นเพื่อนย่า " คุณย่าบอก หญิงสาวยิ้มและแกล้ง
เฉไฉไปเรื่องอื่น

"ปัทมาขอทานขนมฝีมือคุณย่าหรอกค่ะ" หญิงสาวบอกพร้อมกับใช้ส้อมจิ้ม
ขนมทองหยอดเข้าปาก

"ถ้าชอบก็มาทุกวันเลยนะหนูปัท แหม ชอบเหมือนพี่เค้าเลยนะ" คุณย่าพูด
ยิ้มๆทำเอาหญิงสาวแทบสำลัก ในขณะที่ชายหนุ่มท่าทางสำอางกลั้นยิ้มกับ
ท่าทีของหญิงสาว

"รายนี้อีกคน ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ถูกหวยมาหรือยังไง" คุณย่าหันไปพูดกับเอก

"โธ่คุณย่า ที่ยิ้มเนี่ย ผมกำลังอินเลิฟ ครับ อินเลิฟ" เอกเล่าให้คุณย่าฟังอย่าง
อารมณ์ดี

"อ้อ หรอ ดีนะ หาแฟนเองเป็น ตาปฐวีของย่านี่สิ ต้องให้ย่าไปคุยให้"
คุณย่าพูด ปัทมาถึงกับหน้าแดง

"แล้วนี่หนูปัทได้โทรศัพท์คุยกับพี่เค้าบ้างมั้ยจ๊ะ" คุณย่าถาม

"ค่ะ" ปัทมาตอบ ก็เธอต้องซักซ้อมบทกับหลานชายสุดที่รักของคุณย่าทุกวัน
เพื่อป้องกัน "ความแตก" อย่างครั้งที่แล้วนี่นา .. และกว่าจะได้เรื่องได้ราว
หญิงสาวก็ต้องปวดหัวกับบทสนทนาที่ ยียวนกวนประสาทของชายหนุ่ม
แทบทุกครั้ง..แต่ลึกๆหญิงสาวก็รู้สึกหัวใจเต้นรัวทุกครั้งที่ปฐวีโทรเข้ามา

ใบหน้าหญิงสาวเศร้าลงโดยไม่รู้ตัวเมื่อคิดถึงความสัมพันธ์ระหว่างปฐวี
และวิภาดาซึ่งคงจะคืบหน้าไปมากเมื่อ วิภาดาต้องไปดูแลปฐวีทุกวันตาม
แผนที่เธอให้เพื่อนสาวเป็นผู้ดำเนินการให้..และในวันที่เขาออกจากโรง
พยาบาล..เขาคงจะพาวิภาดามาแนะนำกับคุณย่าสายหยุด ..และนั่นคงหมด
หน้าที่คนรักปลอมๆอย่างเธอ..ซึ่งคุณย่าสายหยุดเองก็คงไม่ว่าอะไรเพราะได้
รับปากเธอไว้แล้วตั้งแต่ครั้งก่อน..ว่าจะยอมตามการตัดสินใจของหลานชาย

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น คุณย่าขอตัวไปรับโทรศัพท์ จึงเหลือเพียงเอก เพื่อนสนิท
ของปฐวี และหญิงสาวอยู่ที่โต๊ะสนาม

"ทำไมคุณปัทไม่แวะไปเยี่ยมเจ้าปฐวีมันบ้างล่ะครับ" เอกถามพร้อมกับจิ้ม
ขนมเข้าปาก

"คงไม่จำเป็นหรอกค่ะ เพราะคุณปฐวีก็มีคนดูแลอยู่แล้ว" ปัทมาพยายามพูด
ด้วยน้ำเสียงเรียบที่สุดเพราะกลัวชายหนุ่มที่ท่าทางสำอางจะจับความรู้สึกได้

"ไม่เหมือนกันหรอกครับ" เอกพูดไม่ชัดเพราะขนมเต็มปาก

"เจ้าปฐวีมันดูสดใสขึ้นมากเวลาคุยโทรศัพท์กับคุณปัท กำลังใจจากคนรัก
นี่สำคัญนะครับ" เอกพูดพร้อมกับดื่มน้ำตามอึกใหญ่

คุณย่าสายหยุดกลับมาที่โต๊ะอีกครั้ง พร้อมกับหอมแก้มหญิงสาวฟอดใหญ่
จนเจ้าตัวตกใจ

"คุณย่า" หญิงสาวลูบแก้มตัวเองงงๆ ในขณะที่คุณย่าหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

"เมื่อกี้ พี่เค้าโทรมา ย่าบอกว่าหนูปัทอยู่ที่นี่ เค้าเลยฝากหอมแก้มด้วย" คุณย่า
บอก ทำเอาหญิงสาวหน้าแดง...ตาบ้า....คอยดูเหอะ..หญิงสาวคิด..

..................

ปัทมากดปุ่มรับสายบนเครื่องโทรศัทพ์มือถือของเธอก่อนจะพูดสาย

"ค่ะ คุณปฐวี"

"คุณ ... มารับผมหน่อยสิ" ชายหนุ่มบอก

"คุณหมอเค้าปล่อยผมออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว" เสียงชายหนุ่มยังพูดต่อ

"ก็ให้เพื่อนคุณไปรับสิ" หญิงสาวบอกก่อนที่จะพูดต่อด้วยประโยคที่ทำร้าย
จิตใจตัวเอง

"หรือไม่ก็ให้คุณวิภาดาไปรับ"

"ไม่ว่างสักคน นะ คุณนั่นละ จะให้ผมกระเตงขาใส่เผือกออกจากโรงพยาบาล
หรอ" ชายหนุ่มทำเสียงอ้อนจนหญิงสาวรู้สึกใจเต้นรัว

"ผมรออยู่ล๊อบบี้โรงพยาบาลนะ" ชายหนุ่มสรุปง่ายๆก่อนจะวางสายไป ทิ้งให้
หญิงสาวทำหน้ามุ่ยใส่โทรศัพท์

"ตกลงแกโกรธโทรศัพท์ทุกเครื่องเลยใช่มั้ย" เก๋เพื่อนสาวคนสนิทถามเมื่อเห็น
หน้ามุ่ยๆของหญิงสาว

"ก็ตาหลานรักคุณย่าน่ะสิ ใช้เอาใช้เอา" หญิงสาวบ่นโดยไม่ทันสังเกตุว่าเพื่อน
สาวอมยิ้มกับอาการที่หญิงสาวยึดเอาคุณย่าสายหยุดเป็นย่าของตัวเองจริงๆ

"ก็เธอเป็นแฟนเค้านี่" เพื่อนสาวบอก

"ชั้นไม่ใช่..." หญิงสาวจะปฏิเสธ

"อย่างน้อยก็ยังใช่ จนกว่าเค้าจะประกาศแฟนตัวจริง" เพื่อนสาวบอกก่อนจะถาม
ต่อ
"แล้วแกรู้ได้ยังไงว่า เค้าชอบคุณวิภาดาน่ะ"

"นิสัยอย่างคุณปฐวีน่ะ ถ้าไม่ชอบต้องหาทางหนีไปแล้ว" ปัทมาบอก

"อะไรที่มีความสุข แกก็น่าจะทำนะ เวลาก็เหลืออีกไม่เยอะไม่ใช่หรอ" เก๋แนะ
นำ

นั่นสินะอีกไม่นาน ปฐวีก็จะประกาศตัว แฟนตัวจริงกับคุณย่าแล้ว...ปัทมาคิด
หากเธอจะขอ..เวลาเขาสักนิด..คงไม่เป็นไรละมัง......

................................

หญิงสาวจอดรถไว้ที่จุดรับผู้ป่วยของโรงพยาบาลก่อนที่จะเข้าไปหาชายหนุ่ม
ข้างใน ปฐวียิ้มให้หญิงสาวอย่างดีใจจนหญิงสาวต้องเผลอยิ้มตอบ

ชายหนุ่มมองรอยยิ้มนั้นอย่างลืมตัว จนหญิงสาวต้องเตือน .. นี่ถ้าโดนรถชน
แล้วได้เห็นรอยยิ้มน่ารักแบบนี้ล่ะก็ อีกสองสามครั้งก็ยังไหว..ปฐวีคิด
ชายหนุ่มพยุงตัวขึ้นด้วยความยากลำบากเนื่องจากขาข้างหนึ่งยังคงใส่เฝือก
อยู่ หญิงสาวมองอย่างชั่งใจก่อนที่จะเข้าไปช่วยพยุงชายหนุ่ม แขนข้างหนึ่ง
ของเขาโอบอยู่บนไหล่หญิงสาวในขณะที่อีกข้างยันไม้ค้ำ แขนอีกข้างของ
หญิงสาวสอดอยู่ที่เอวของชายหนุ่มเพื่อช่วยพยุง

ชายหนุ่มได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆที่คุ้นเคยของหญิงสาวจนต้องสูดหายใจลึกๆ
สัมผัสที่ใกล้ชิดทำให้ปฐวีอบอุ่นไปถึงหัวใจ ชายหนุ่มเดินกระเตงอมยิ้ม
ไปตลอดทาง ปัทมาพาเขาเดินมาจนถึงประตูด้านข้าง และต้องหยุด
มองเก้าอี้ล้อเข็นที่จอดอยู่อย่างสงสัย ก่อนจะถามบุรุษพยาบาลที่ยืนอยู่

"เอ๊ะ .. รถเข็นนี่ใช้ได้หรือเปล่าคะ"

"ครับ ใช้ได้ครับ บุรุษพยาบาลตอบ " หญิงสาวหันมามองชายหนุ่มอย่างไม่
แน่ใจ

"พอดีคุณผู้ชาย บอกว่าไม่ต้องใช้น่ะครับ" บุรุษพยาบาลพูดต่อ

แววตาหญิงสาวเปลี่ยนเป็นแม่เสือขึ้นมาทันทีก่อนจะปล่อยชายหนุ่ม
ให้กระเตงขาเดียวอยู่หน้าประตูก่อนที่เขาจะตะเกียกตะกายเปิดประตูรถ
และเข้าไปนั่งคู่กับหญิงสาวที่เบาะหน้าด้วยความช่วยเหลือของบุรุษพยาบาล

"คุณไม่โกหกสักวันจะได้ไหม" หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

ปฐวีทำหน้าสำนึกผิดก่อนจะแก้ตัว
"ผมโกหกที่ไหนกัน คุณเข้าใจไปเองทั้งนั้น"

"แต่คุณพยายามไม่บอกความจริง " หญิงสาวยังหงุดหงิดไม่หาย

"ผมบอกความจริงคุณก็ไม่เชื่อผมอยู่ดี" ปฐวีบอกยิ้มๆ

"คุณก็ลองบอกมาสิ" หญิงสาวพูดประชด

"ผมคงรักคุณจริงๆแล้วล่ะ" ชายหนุ่มบอก พร้อมๆกับอาการคมำไปข้างหน้า
จนหัวกระแทกกับคอนโซลอย่างแรงเมื่อหญิงสาวเหยียบเบรกกระทันหัน

"โอ๊ย! ... คุณ" ปฐวีร้องพร้อมกับกุมศีรษะ

"คุณอย่ามาล้อเล่นอะไรบ้าๆนะ" หญิงสาวพูดพร้อมกับหันหน้าไปซ่อนดวง
ตาที่แดงก่ำเพราะกลั้นน้ำตาไว้.. ทำไมนะเขาถึงได้พูดจาอย่างนี้ตลอดเวลา
โดยที่ไม่คิดเลยว่า..มันจะทำร้ายเธอแค่ไหน..ทั้งที่เขามี วิภาดาอยู่แล้วแท้ๆ
หญิงสาวพยายามกลั้นอาการสะอื้นไว้ไม่ให้เขาเห็น

"คุณเป็นอะไรหรือเปล่า" ชายหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงห่วงใยเมื่อเห็นท่าทีที่
แปลกไปของเธอ

"อย่าเพิ่งถาม .." หญิงสาวพูดและพยายามกลั้นสะอื้น

"ชั้นไม่ต้องการฟังความจริงของคุณอีก" เธอบอกพร้อมกับหยิบกระดาษทิชชู
มาซับน้ำตา ชายหนุ่มพยักหน้าก่อนจะเงียบไปด้วยความไม่เข้าใจ

ตลอดทางชายหนุ่มฮัมเพลงเบาๆ และแอบมองหญิงสาวเป็นระยะ จนเห็นว่า
เธอแอบอมยิ้มกับเพลง หญิงสาวขับรถพาชายหนุ่มมาจนถึงอพาตเม้นต์ของ
เขา

"คุณต้องจอดทางทางทิศตะวันตก มีลิฟท์อยู่ทางนี้ ทางตะวันออกเป็นบันได"
ชายหนุ่มบอก แต่หญิงสาวกลับนำรถไปจอดทางด้านทิศตะวันออก จนชาย
หนุ่มทำหน้าแปลกใจ

"คิดว่าฉันจะเชื่อคุณหรอ" หญิงสาวพูด ก่อนจะเดินนำชายหนุ่มไป

"คุณอยู่ชั้นไหน " หญิงสาวถาม

"ชั้น แปด" ปฐวีตอบด้วยน้ำเสียงปลงๆ

ทางขึ้นอพาตเม้นต์ด้านทิศตะวันออกมีแต่บันไดตามที่ชายหนุ่มบอก ปัทมา
ได้แต่ยิ้มให้แบบจ๋อยๆพร้อมกับขอโทษ หญิงสาวเดินนำปฐวีไปยังทางขึ้น
ด้านทิศตะวันตก โดยให้ชายหนุ่มกระเตงขาเดียวตามไป จนกระทั่งถึงลิฟท์

หญิงสาวกดปุ่มเรียกลิฟท์แต่ไม่มีสัญญาณไฟขึ้น

"เอ๊ะ ไฟเสีย" หญิงสาวบ่น โดยมีชายหนุ่มยืนหอบแฮกอยู่ด้านข้าง

"อ๋อ ไฟไม่เสียหรอกครับ" เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เคาน์เตอร์ร้องบอก
ก่อนจะพูดต่อ
"พอดีลิฟท์มันเสียน่ะครับ ดูท่าจะอีกนาน เพราะช่างยังไม่มาเลย ใช้บันได
ทางทิศตะวันออกไปก่อนนะครับ"

"เหอะ" ชายหนุ่มถอนหายใจก่อนจะเอนตัวไปพิงผนัง โดยไม่ทันสังเกตุว่า
หญิงสาวหลุดอาการขำกับท่าทางของเขา

"ไปเถอะ" หญิงสาวกวักมือเรียกพร้อมกับกลั้นหัวเราะก่อนจะเดินนำไปและ
ให้ชายหนุ่มกระเตงขาเดียวตามไปเหมือนเดิมจนกระทั่งถึงบันไดทางขึ้น

"ใจคอคุณจะให้ผมกระเตงขึ้นไปอย่างนี้น่ะหรอ" ชายหนุ่มถามไปหอบไป

หญิงสาวยิ้มให้อย่างอารมณ์ดี ก่อนจะเข้าไปพยุง

"เอาเถอะ คิดเสียว่าช่วยลูกนกลูกกา ทีหลังอย่ามาโกหกกับฉัน" หญิงสาวบอก

"คุณ .. เพิ่งจะรู้ว่าคุณทรมานคนแล้ว อารมณ์ดีนะเนี่ย.. " ชายหนุ่มบ่น

"ก็รู้ไว้ซะ" หญิงสาวบอกพร้อมกับออกแรกพยุงชายหนุ่มขึ้นบันไดไปทีละขั้น

"ถ้ารู้ล่วงหน้า ผมจะได้เตรียมแส้กับเทียนไขไว้ด้วย...โอ้ย!" ชายหนุ่มร้องออก
มาเมื่อหญิงสาวกระทุ้งศอกเข้าที่สีข้างอย่างแรง

"อยากจะกระเตงขึ้นไปเองมั้ย" หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงดุๆ ถึงทำให้ชายหนุ่ม
สงบปากสงบคำลงได้

หนุ่มสาวทั้งคู่ใช้เวลาร่วมชั่วโมงกว่าจะขึ้นมาถึงชั้นเจ็ด และเหลือบันไดอีกไม่
กี่ขั้นก็จะถึงชั้นแปด..

"ผมน่าจะขึ้นไปอยู่ชั้นสิบสี่นะ" ปฐวีบอกหญิงสาว จนเธอหันมามองด้วยสาย
ตาดุๆ แต่ในใจก็รู้สึกอบอุ่นกับคำพูดทีเล่นทีจริงของเขา จนกระทั้งถึงบันได
ขั้นสุดท้าย ไม้ค้ำของชายหนุ่มก็ลื่นไถลลงจากขั้นบันได ทำให้ทั้งคู่เสียหลัก
หญิงสาวรีบประคองชายหนุ่มเอาไว้จนทำให้จมูกของชายหนุ่ม วิ่งเข้ามา
"หอมแก้ม" เธออย่างจัง
แก้มของปัทมาแดงขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้พร้อมๆกับเสียงหัวใจที่เต้นแรงจน
กลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยิน เธอรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆที่รดอยู่ข้างแก้มใส..
หญิงสาวหันมามองหน้าชายหนุ่มช้าๆด้วยแววตาที่เลื่อนลอยและสบตากับ
สายตาอันอบอุ่นของเขา เธอไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร จนปฐวีเป็นผู้ทำ
ลายความเงียบขึ้นมาก่อน

"แก้ม คุณปัทนิ่มเหมือนที่คุณย่าบอกเลย"

"ว้าย!" หญิงสาวร้องและผลักชายหนุ่มด้วยความเขินแบบสุดๆ ก่อนจะเอามือ
ปิดปากเมื่อเห็นชายหนุ่มกลิ้งหลุนๆลงไปตามบันไดที่เพิ่งจะขึ้นมา....

"ตายแล้ว..." ปัทมาอุทานเบาๆหลังจากที่ชายหนุ่มลงไปกองอยู่ที่พื้นชั้นเจ็ด

...............................

เย็นวันต่อมาปัทมาไปรับคุณย่ามาที่โรงพยาบาลที่หลานชายสุดที่รักมาพัก
รักษาตัวอีกครั้ง เนื่องจากตกบันไดแขนหัก หญิงสาวไม่เข้าใจว่าคราวนี้
ทำไมชายหนุ่มถึงยอมบอกให้คุณย่ารู้ได้ จนเมื่อชายหนุ่มเฉลยให้ฟัง
ว่า "ตกบันไดกับถูกรถชนนี่มันต่างกันมากมั้ยล่ะ" อีกทั้งต้องทำการสมรู้
ร่วมคิดกับทางโรงพยาบาลว่าที่ขาหักเข้าเฝือกนี่ก็มาจากตกบันไดนี่เอง
หญิงสาวอดอมยิ้มไม่ได้...นี่ก็ถือเป็นผลงานของเธอนะเนี่ยที่จะได้บอก
คุณย่าได้ว่าชายหนุ่มอยู่ที่โรงพยาบาล....

"แกนะแก ไปทำยังไงให้ตกบันไดแล้วเจ็บถึงขนาดนี้" คุณย่ายังบ่นซ้ำ

"คุณย่าถามหนูปัทของคุณย่าเองเถอะ" ปฐวีโบ้ยไปทางหญิงสาว จนหญิงสาว
ต้องทำตาดุใส่ก่อนจะหันไมยิ้มจ๋อยๆให้คุณย่า

"พอดีปัทไม่ทันระวังน่ะค่ะ เลยไปผลักพี่เขาเข้า" หญิงสาวเล่า

"อือ หรอ เอ๊ะ แล้ว หนูปัทไปห้องพี่เขาทำไม หรือว่า" คุณย่าเอามือทาบอก
ด้วยความตกใจเพราะคิดไปถึงไหนต่อไหน

"ตายแล้ว! ตาปฐวี แกตั้งใจรังแกน้องใช่ไหม" คุณย่าถามหลานสุดที่รักอย่าง
เอาเรื่อง

"โธ่คุณย่า ไปซะโน่น ผมผยังไม่ได้ทำอะไรเลย แค่หอมแก้มไปหน่อยเดียว"
หลานชายสุดที่รักสารภาพ

"โอ๊ย! โธ่เอ้ย หนูปัท ขวัญเอ้ย ขวัญมานะลูก" คุณย่าเข้ามากอดหญิงสาวไว้ใน
ขณะที่เธอมองชายหนุ่มที่เข้าเฝือกทั้งขาทั้งแขนด้วยสายตาเอาเรื่อง...อีตาบ้า
เล่ามาได้ยังไงกัน...

"คุณย่า.." ชายหนุ่มเรียก

"คนที่เจ็บน่ะมันผม" ชายหนุ่มอ้อนเมื่อเห็นคุณย่าชักจะกอดหญิงสาวนานไป
หน่อย

คุณหมอเจ้าของไข้เปิดประตูเข้ามาพร้อมกับฟิล์มเอกซเรย์ แผ่นใหญ่ ก่อนจะ
อธิบายให้หญิงสาวฟัง

"อาการแฟนคุณก็ไม่มีอะไรมากครับ เฝือกที่แขนและขาคงเอาออกได้พร้อมๆ
กัน" คุณหมอบอก ก่อนจะหันไปทักทายคุณย่า

"คุณย่าสบายดีหรือครับ"

"ค่า สบายดีค่า" คุณย่าตอบ

"ผลการตรวจหัวใจครั้งที่แล้วออกมาดีนะครับ แต่ต้องระวังเรื่องอารมณ์และ
การออกกำลังนิดหน่อย" คุณหมอพูดต่อ

หญิงสาวถึงกับต้องขมวดคิ้ว ก่อนจะถามคุณหมอ
"คุณย่ามีอาการโรคหัวใจหรอคะ"

"อ๋อ ครับ คุณย่าท่านเคยมีอาการมาก่อน ก็ต้องดูแลเป็นพิเศษสักนิดนะครับ"
คุณหมอบอกก่อนจะขอตัวออกไป

หญิงสาวหันไปมองหน้าชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียง ซึ่งกำลังยักคิ้วให้อย่าง
กวนประสาท ทำนองว่า ...ก็ผมโกหกที่ไหนกันเล่า....คุณเข้าใจไปเอง...

คุณย่าหันมามองหญิงสาวด้วยสายตาอาทร ...ก่อนจะพูด..ในสิ่งที่หญิงสาว
ไม่ทันได้ตั้งตัว
"ไหนๆ เรื่องก็มาถึงขั้นนี้" คุณย่าพูด

"ปล่อยไว้นาน หนูปัทจะยิ่งเสียหาย" คุณย่าพูดต่อ เมื่อเห็นหญิงสาวทำตาโต

"อะไรนะคะ"

"พอพี่เค้าออกจากโรงพยาบาลได้ ย่าจะให้พี่เค้าไปขอหมั้นหนูปัท" คุณย่าพูด

"คะ"

"หนูปัทจะว่ายังไงลูก" คุณย่าถามพร้อมกับลูบศีรษะอย่างเอ็นดู

"แต่.." หญิงสาวยังไม่ทันได้เอ่ยปากคุณย่าก็พูดต่อ

"ถ้าหนูไม่ได้รัก ไม่ได้ชอบพี่เขา หนูคงไม่ขึ้นไปที่ห้องพี่เขาใช่ไหมลูก"
คุณย่าถาม หญิงสาวพยายามจะอธิบายว่าที่เธอต้องไปจริงๆนั้นเพราะอะไร
แต่หันไปเห็นชายหนุ่มบนเตียงใช้มือข้างที่เป็นอิสระทำท่ากุมหัวใจดิ้นไปมา
ทำให้ต้องกลืนคำพูดเอาไว้...และมองเขาตาขวางๆแทน

"แต่ คุณวิภาดา" ปัทมาพยายามจะบอกคุณย่าถึงความสัมพันธ์ของหลานชาย
สุดที่รักกับ"คู่นัด" ก่อนหน้าเธอก็มีเสียงหวานๆดังขึ้นเสียก่อน

"อุ๊ย คุณย่าขา" วิภาดานั่นเองที่เปิดประตูเข้ามา ปัทมารู้สึกเหมือนหัวใจร่วง
ลงไปในเหวทันที ดวงตาใสฉายแววเศร้าลงโดยไม่รู้ตัว

"อ้าว หนูวิ เพิ่งมาหรือจ๊ะ" คุณย่าสายหยุดถามหลังจากรับไหว้จากวิภาดา

"ค่ะ " วิภาดาตอบ

"อุ๊ย คุณปัทมา" วิภาดาทักเมื่อเห็นหญิงสาวยืนอยู่ ก่อนที่จะเดินเข้ามาจับมือ
เธอ
"วิต้องขอบคุณ คุณปัทมากเลยค่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณปัท วิก็คงไม่ได้พบ
และเจอคนที่รักวิขนาดนี้" วิภาดาพูด ทั้งที่ยังกุมมือเธอไว้

"ค่ะ ปัท ยินดีด้วยค่ะ" ปัทมาพูด พร้อมกับเบือนหน้าหนี ขอบตาร้อนผ่าวขึ้นมา
โดยกลั้นไม่อยู่

"ใช่มั้ยคะพี่เอก" วิภาดาปล่อยมือปัทมาและเดินไปกุมมือเอกเพื่อนสนิทของ
ปฐวีไว้แทน....ทำเอาหญิงสาวมองด้วยสายตางงๆ

"ถ้าวิไม่ได้มาเยี่ยมพี่วี วิก็คงไม่ได้เจอกับพี่เอก ต้องขอบคุณคุณปัทมากๆเลย"
วิภาดายังเล่าไม่หยุด

ปัทมาหันไปมองหน้าหลายชายสุดที่รักของคุณย่าซึ่งกำลังนอนยิ้มอยู่บนเตียง
แววตานั้นชวนให้หญิงสาวอยากเข้าไปบีบคอเสียเหลือเกิน .เหมือนจะแปล
ความหมายได้ว่า....ผมเปล่าโกหกนะ...คุณก็คิดไปเองอีกนั่นละ...

หญิงสาวค่อยๆย่องไปที่เตียงของชายหนุ่มในขณะที่คุณย่ากำลังทักทายกับ
หนุ่มสาวทั้งคู่และบอกว่ามีข่าวดีจะประกาศ

ปัทมาจิกเล็บหยิกขาของคนป่วยบนเตียงเต็มที่

"โอ้ย!" ปฐวีร้องลั่นจนทุกคนหันมามอง

"เป็นอะไรอีกล่ะ" คุณย่าหันมาถามเพราะไม่พอใจที่ถูกขัดจังหวะ

"สงสัยมดกัดค่ะ" หญิงสาวตอบในขระที่คุณย่าส่ายหน้ากับความใจเสาะ
ของหลานชาย

"ข่าวดีก็คือ .." คุณย่าประกาศ

"หลังจากตาปฐวีออกจากโรงพยาบาล ย่าจะจัดงานหมั้นให้กับปฐวีและหนู
ปัทมา" คุณย่าประกาศ

ปฐวีเอื้อมมือมากุมมือหญิงสาวเอาไว้ก่อนจะพูดเบาๆ

"ขนาดผมกระเตงขาเดียว ผมยังตามคุณทันเลย ถ้าออกจากโรงพยาบาล
แล้วคุณหนีผมไม่พ้นหรอก "

"ลองดูมั้ยล่ะ" หญิงสาวพูดยิ้มๆ

"ถ้าคุณหนีอีก...ผมจะส่งคุณย่าไปตามคุณจนสุดขอบฟ้าเลย" ชายหนุ่มพูดยิ้มๆ
เรียกเสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความสุขของทุกคนออกมาจนเต็มห้อง......

....................จบ........................เสียที....................เฮ้อ...............


กลิ่นกาแฟ
.....................................................



Create Date : 31 ตุลาคม 2550
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2550 10:46:33 น.
Counter : 603 Pageviews.

11 comments
: รูปแบบของชีวิต : กะว่าก๋า
(17 เม.ย. 2567 04:37:20 น.)
: รูปแบบของการตระหนักในการรับรู้ : กะว่าก๋า
(15 เม.ย. 2567 05:37:45 น.)
15/04/67 สมาชิกหมายเลข 4675166
(15 เม.ย. 2567 09:46:52 น.)
: หยดน้ำในมหาสมุทร 36 : กะว่าก๋า
(14 เม.ย. 2567 06:17:30 น.)
  
"ชายหนุ่มเดินกระเตงอมยิ้มไปตลอดทาง "
อมยิ้มหนักมากจนต้องกระเตงเลยเหรอคะเนี่ย

กระเตงขาเดียวนี่เพิ่งเคยได้ยินน้า ... เคยได้ยินได้ ขเยก ขโยก ขาเดียว ...

เรื่องน่ารักดีค่ะ บรรยายให้ยิ้มได้ตลอดเลย
แต่อยากได้รายละเอียดตรงที่สองพระนางอยู่ด้วยกันอีกหน่อย

โดย: The SoVo (http://kangalala.spaces.live.com/) IP: 122.16.163.192 วันที่: 1 พฤศจิกายน 2550 เวลา:22:42:47 น.
  
ชอบค่าาาาาา เรื่องนี้ น่ารักจังเลย
โดย: itims วันที่: 2 พฤศจิกายน 2550 เวลา:5:23:20 น.
  
โอ๊ะ เพิ่งสังเกตว่าคุณ SoVo เข้ามาเยี่ยมบล็อก ยินดีต้อนรับคร้าบ

และขอบคุณคุณไอติมเหมือนเดิมครับที่แวะทักทาย
โดย: กลิ่นกาแฟ IP: 203.113.23.51 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:16:57:15 น.
  
ก็น่ารักดีนะคะ แทบทุกเรื่องเลยอ่ะ หยางจังจะติดตามผลงานของพี่นะคะ
โดย: หยางจัง IP: 58.137.129.220 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2550 เวลา:15:31:48 น.
  
แต่งเรื่องทำให้อินไปกับตัวละครดี ทำให้ยิ้มได้ทุกตอน น่ารักมั๊กมาก ค่ะ ช๊อบ ๆ
โดย: กุ๊กกิ๊ก IP: 58.137.129.220 วันที่: 20 พฤศจิกายน 2550 เวลา:16:13:13 น.
  
ขอบคุณคุณ หยางและคุณกุ๊กกิ๊กนะคร้าบ เดี๋ยวปั่นเรื่องน่ารักๆมาลงให้น้า
โดย: กลิ่นกาแฟ (กลิ่นกาแฟครับ ) วันที่: 21 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:42:37 น.
  
ชอบเรื่องนี้ นึกเ้ข้าข้างว่าตัวเองเป็นนางเอก เอ๊ะรึว่าพระเอกดี สับสน สับสน
โดย: ข้าวโพด IP: 202.123.145.203 วันที่: 1 มีนาคม 2551 เวลา:11:48:44 น.
  
หุหุ รู้สึกจะร้ายนิดๆทั้งคู่นั่นละครับ
โดย: กลิ่นกาแฟ (กลิ่นกาแฟครับ ) วันที่: 1 มีนาคม 2551 เวลา:22:02:10 น.
  
อ่านเพลินดีค่ะ......อ่านแล้วอารมณ์ดี
โดย: mangotip IP: 118.173.239.246 วันที่: 25 มีนาคม 2551 เวลา:19:53:42 น.
  
ขอบคุณคร้าบบบบบ(แต่มันมะมีสาระเนาะ เอิ๊กๆๆๆ)
โดย: กลิ่นกาแฟ (กลิ่นกาแฟครับ ) วันที่: 26 มีนาคม 2551 เวลา:10:33:07 น.
  
sanook
โดย: green IP: 173.48.204.158 วันที่: 11 สิงหาคม 2555 เวลา:4:59:14 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Coffeewriter.BlogGang.com

กลิ่นกาแฟครับ
Location :
ปราจีนบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]

บทความทั้งหมด