ในเศรษฐกิจยุคประหยัดแบบนี้จะตกแต่งบ้านทั้งทีก็คงเป็นเรื่องใหญ่น่าดู ครั้นจะซื้อของใหม่ยกชุดก็ราคาแพงเกินไป และยังเสียดายของเดิมที่ใช้งานได้ดีอยู่ รวมทั้งยังตัดสินใจเลือกสไตล์การตกแต่งไม่ถูก เพราะมีความชอบหลากหลายเหลือเกิน การตกแต่งแบบ Mix & Match จึงดูเหมือนเป็นทางออกที่ดีสำหรับปัญหาเหล่านี้

แต่การตกแต่งแบบนี้ใช่ว่าจะเป็นการจับเอาของหลายๆอย่างมารวมๆกันตามใจชอบ แล้วจะออกมาสวยงามเสมอไป หากแต่ต้องอาศัยกระบวนการที่ดี ตั้งแต่ขั้นตอนการเลือกสไตล์ไปจนถึงการนำของมาตกแต่งร่วมกัน อย่างไรก็ตามการตกแต่งแบบ Mix & Match ก็ไม่ได้เป็นเรื่องยากหรือวุ่นวายอะไร เพราะเรามีเทคนิคที่ทั้งง่ายและดีมาแนะนำกัน

1. รู้จักพื้นฐาน
ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกสไตล์ที่จะนำไปใช้ในการตกแต่ง ควรศึกษาและทำความรู้จักพื้นฐานของสไตล์ต่างๆให้ดี เพื่อให้รู้ถึงที่มา รูปแบบ และการสื่อถึงความรู้สึกในแบบต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกสไตล์ในการตกแต่งได้ตรงกับความชอบของคุณมากขึ้น รวมทั้งยังทำให้เข้าใจในเอกลักษณ์ของแต่ละสไตล์ และสามารถจับเอาจุดเด่นมาผสมผสานกันได้อย่างชัดเจนขึ้นด้วย

2. สร้างความเชื่อมโยง
สิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในการนำรูปแบบการตกแต่งในแต่ละสไตล์มาจัดรวมกันให้ดูกลมกลืนและไปด้วยกันได้ คือ การหาจุดร่วมในองค์ประกอบของการตกแต่งแต่ละส่วนให้มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ซึ่งสามารถทำได้โดย – การมองเห็น : พยายามคุมภาพรวมในการตกแต่งตั้งแต่พื้น ผนัง ฝ้าเพดาน ประตูหน้าต่าง ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งชิ้นเล็กๆให้มีความเป็นหนึ่งเดียวกัน ด้วยการเชื่อมโยงทางสายตา เช่น การใช้สีเดียวกันหรืออยู่ในโทนเดียวกัน รวมไปถึงการใช้วัสดุชนิดเดียวกัน หรือให้ความรู้สึกไปในทางเดียวกัน รายละเอียดเล็กๆน้อยๆเหล่านี้จะช่วยปรับให้ของต่างสไตล์กันดูเข้ากันได้มากขึ้น
- ความรู้สึก : แม้จะเป็นของตกแต่งที่มีสไตล์ต่างกัน แต่หากเลือกใช้ของตกแต่งที่มีลักษณะรูปแบบคล้ายคลึงกัน เช่นรูปทรงเหลี่ยมหรือโค้งมน การเน้นรายละเอียดหรือความเรียบง่าย จังหวะลวดลาย การใช้เส้นตรง เส้นโค้ง หรือการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีขนาดและสัดส่วนคล้ายคลึงกัน เช่น ความหนา- บาง ความโปร่ง -ทึบตัน ความสูง-ต่ำ เพื่อสร้างความรู้สึกต่อเนื่องให้กับของแต่ละชิ้น

3. ผสมผสานอย่างมีชั้นเชิง
หลังจากที่เตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็ถึงขั้นตอนสำคัญที่จะเป็นตัวกำหนดหน้าตาของการตกแต่งว่าจะออกมาเป็นอย่างไร นั่นคือการผสมผสานแต่ละสไตล์ให้เข้ากัน ซึ่งต้องอาศัยเทคนิคบวกกับรสนิยมและความเข้าใจพื้นฐานอีกนิดหน่อย ดังนี้
- มีหลักมีรอง ก่อนที่จะลงมือตกแต่ง ควรกำหนดสไตล์ที่เป็นหลักและสไตล์ที่เป็นรอง ไม่ควรตกแต่งแบบเท่าๆกัน เพราะจะทำให้สไตล์ที่ออกมาไม่ชัดเจน และกำหนดทิศทางไม่ได้ โดยอาจให้ค่าน้ำหนักเป็น 80 ต่อ 20 หรือ 70 ต่อ 30 ตามความต้องการ
- อย่ายึดติด อย่าให้กฎเกณฑ์ในการตกแต่งมาตีกรอบความคิดของคุณ พยายามลบมันออกไปบ้าง แล้วเติมความสนุกหรือความเป็นตัวคุณลงไป เพื่อสร้างสรรค์เอกลักษณ์และรูปแบบเฉพาะตัว จำไว้ว่าอยากทำอะไรก็ทำให้เต็มที่ เพราะที่นี่คือพื้นที่ของคุณ
- ลดเพื่อเพิ่ม ไม่ควรใส่ทุกอย่างที่มีลงไปในการตกแต่ง เพราะจะทำให้แต่ละอย่างเกิดการแข่งขันกันเองจนไม่น่าดู ควรมองถึงภาพรวม โดยอาจลดทอนบางส่วน เพื่อเป็นการส่งเสริมให้อีกส่วนหนึ่งดูเด่นขึ้น เช่น ลดรายละเอียดของเฟอร์นิเจอร์ เพื่อโชว์ลายวอลล์เปเปอร์บนผนัง หรือใช้ผนังสีอ่อนเพื่อขับให้ของตกแต่งดูโดดเด่นขึ้น

TIPS
- การเลือกสไตล์ที่จะนำไปใช้ในการตกแต่ง อาจเริ่มต้นด้วยการสำรวจจากสิ่งรอบๆตัวคุณ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์ หรือของตกแต่งที่มีอยู่แล้ว จะช่วยให้คุณค้นพบสไตล์ที่ตรงกับความชอบจริงๆของคุณได้ง่ายขึ้น
- อย่าลืมว่าที่มาของมิกซ์แอนด์แมทช์คือ ความประหยัด ลองหยิบของเก่ามาประยุกต์ใช้ เพิ่มรายละเอียดนิดๆหน่อยๆให้เข้ากับสไตล์ใหม่ จะทำให้ได้ของตกแต่งในแบบเฉพาะตัวที่หาจากที่ไหนไม่ได้
- เพิ่มลูกเล่นในการตกแต่งด้วยการสร้างความขัดแย้งเล็กๆ โดยอาจเลือกใช้สีคู่ตรงข้าม ความแตกต่างของพื้นผิววัสดุ หรือขนาดสัดส่วน ในจุดที่ต้องการจะเน้นเป็นพิเศษ เพื่อให้พื้นที่บริเวณนั้นดูโดดเด่นและน่าสนใจขึ้น
- อย่าเชื่อทั้งหมดที่เราบอกมา ทั้งหมดเป็นเพียงแค่หลักไม่ใช่กฎ ทุกอย่างยืดหยุ่นได้ ขึ้นอยู่กับความชอบของคุณเป็นสำคัญ

แหล่งข้อมูล : บ้านและสวน