"ทะเลาะกับนาย ยังไงก็ไม่ชนะ" -- กฏข้อที่ 4 -- ทุ่มเวลาให้กับงาน 55 Other Rules for Success by Tom Markert กฏข้อที่ 4 - Put in the Hours ทุ่มเวลาให้กับงาน หากคุณต้องการก้าวหน้า จงจำไว้เสมอว่า คุณจะต้องทุ่มเทเวลาให้กับงาน นั่นหมายถึงชั่วโมงการทำงานที่มาก และให้ผลผลิตเต็มเม็ดเต็มหน่วยอย่างคงเส้นคงวา ... การทำงานล่วงเวลาเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วโลก และนับเป็นเรื่องที่ "ขาดไม่ได้" เลยทีเดียวสำหรับบางวัฒนธรรม คนที่ทำงานให้กับบริษัทที่ปรึกษาในด้านต่างๆนั้นมักจะมีงานล้นมืออยู่เสมอ ในเวลาที่เพื่อนร่วมทีมของคุณกำลังสั่งอาหารเย็นมาทานด้วยกันตอนสองทุ่ม คงจะมีเพียงนานๆครั้งเท่านั้น ที่คุณจะสามารถปฏิเสธโดยบอกว่า อีกไม่นานก็จะกลับแล้ว ... ถ้าบ่อยกว่านั้นล่ะก็ เพื่อนร่วมทีมของคุณก็จะเริ่ม "กินแหนง" ... และนั่นก็ดูจะไม่ใช่พรมที่ลาดสู่ความสำเร็จของคุณเลย หลายๆองค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัทที่ปรึกษาด้านต่างๆ และบริษัทที่รับงานเป็นโปรเจ็คท์ นิยมใช้จำนวนชั่วโมงการทำงานเป็นตัววัดระดับความเอาใจใส่ในงาน รวมถึงการมีส่วนช่วยในความเติบโตขององค์กรของแต่ละบุคคล ... ดังนั้น ถ้าหากคุณไม่ขยัน ก็เท่ากับว่า คุณยอมให้ใครบางคนที่เก่งพอๆจะกับคุณแต่ขยันกว่า ก้าวแซงหน้าคุณไป หลักของผมคือ ทำงานอย่างเต็มที่ชนิดแทบจะคลานกลับบ้านในระหว่างวันจันทร์ - ศุกร์ แต่หลีกเลี่ยงการทำงานในวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ เพื่อให้ร่างกายและสมองได้พักผ่อน มีเวลาทำกิจกรรมหย่อนใจของตัวเอง ... การได้ "ชาร์จแบต" เสียบ้าง จะช่วยให้คุณกลับมามีเรี่ยวมีแรง ทำงานได้ผลผลิตที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน การปฏิเสธที่จะทำงานในวันหยุดนั้นฟังดูง่าย แต่จะทำให้ได้จริงๆนั้นแทบจะเป็นคนละเรื่อง เพราะแม้จะเป็นแค่เรื่องเล็กเรื่องน้อย มั็นก็จะสามารถดึงเอาเวลาส่วนตัวของคุณไปได้ไม่ยาก .. ผมจึงบอกคนที่ออฟฟิศเสมอว่า ผมไม่เช็คอีเมล์หรือวอยซ์เมลเลยในวันเสาร์-อาทิตย์.. ในเวลาไม่นาน ก็เป็นที่รับทราบทั่วกันว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ อย่างไรก็ตาม ... คุณจะต้องชั่งใจให้ดีกับการตัดสินใจไม่ทำงานในวันหยุด อย่ายึดถือเป็นหลักจนตึงเกินไำป ...เพราะแม้ผมเอง ก็ยังมีบ้างที่ต้องยอมเข้าออฟฟิศด้วยเหตุฉุกเฉิน ... ดังนั้น หากมีงานเร่งด่วนจริงๆ ก็ควรอนุโลมบ้าง เพียงแต่คุณอย่าทำงานทุกวันโดยไม่หยุดเลยเป็นกิจวัตร เพราะสมองของคุณต้องการพัก และเก็บแรงไว้สู้ในเกมใหม่ ความเก่งเพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำให้คุณปีนขึ้นสู่ตำแหน่งสูงๆได้ เพราะต้องอาศัยความขยันด้วย... ยิ่งทำงานไปนานๆ คุณจะพบว่า มีคนที่เก่งพอๆกันอยู่มากมาย.. การที่ใครจะได้เลื่อนตำแหน่ง ก็ตัดสินกันที่ความขยันนี้แหละ ลองสร้างกิจวัตรใหม่ให้กับตัวเองโดยการเดินสำรวจรอบๆออฟฟิศ ดูว่ามีใครมาเข้างานก่อนคุณ และใครที่ยังคงนั่งทำงานต่อไปในขณะที่คุณเก็บของกลับบ้านแล้วบ้าง คนเหล่านี้แหละคือคู่แข่งของคุณ ..เพราะไม่มีใครขยันโดยไม่มีเป้าหมาย สำหรับคนที่กำลังมุ่งหาความก้าวหน้าในหน้าที่การงานแต่ยังมีภาระเรื่องการดูแลบุตรหลาน คุณจะต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มากๆในการทุ่มเวลาแก่งาน หลายๆคนแบ่งเวลาได้ดีและประสบความสำเร็จ แต่ก็มีอีกไม่น้อยที่ต้องล้มเหลว ... ผมสังเกตว่า คนที่ผ่านช่วงเวลานั้นมาได้อย่างสวยงาม จะต้องมีคนคอยช่วยดูแลบุตรหลานแทนตนในเวลากะทันหันได้เสมอๆ ถ้าหากคุณหวังที่จะนั่งเก้าอี้ผู้บริหารไฟแรงได้ต่อไป คุณก็ควรยอมจ่ายเงินเพื่อจ้างคนดีๆที่ไว้ใจได้มาดูแลเด็กๆแทนคุณ ในเวลาที่คุณไม่สะดวก บ่อยครั้งที่คนมักจะเข้าใจกันว่า การตัดสินใจเลื่อนตำแหน่งให้กับใครสักคนในบริษัท เขาผู้นั้นจะต้องมีข้อดีข้อเด่นที่เห็นได้ชัด ต่างจากคนอื่นชนิดเป็นขาวเป็นดำกันเลย...แท้จริงแล้ว ... ตัวเลือกมักจะมีหลายหลาย และแต่ละคนก็มีข้อดีข้อเด่นต่างๆกันไปทั้งนั้น ... หลายๆครั้งจึงมักลงเอยด้วยการที่ฝ่ายบริหารตกลงใจเลื่อนตำแหน่งให้กับคนที่มีแววว่า จะได้รับเสียงคัดค้านกลับมาน้อยที่สุด ...ฟังดูแปลกๆ แต่มันก็มีอย่างนี้จริงๆ จ้า
โดย: erol วันที่: 11 ธันวาคม 2548 เวลา:13:13:32 น.
|
บทความทั้งหมด
|