คำให้การจากศพในห้องใต้ดิน
ขออนุญาตลัดคิวหน่อยน้า มาคั่นแรงบันดาลใจสำหรับเรื่องหวานๆ ด้วยแรงบันดาลใจจากหนังสือเล่มล่าสุดของไอซ์ ที่เพิ่งจะวางแผงไปสดๆ ร้อนๆ กันบ้างนะคะ ^^


คำให้การจากศพในห้องใต้ดิน






วันนี้ได้รับสายด่วนจากสายสืบว่า หนังสือออกวางแผงแล้ว ปกทะมึนแบบในรูปข้างบนนั่นแล

ไม่รู้ว่าพอเห็นชื่อเรื่องและปกแล้ว คิดว่าหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือแนวไหนกันบ้างเอ่ย


หนังสือเล่มนี้เป็นแนวสะท้อนสังคม ที่ถูกเขียนโดยใช้สไตล์ Drama Thriller นะคะ ... ซึ่งจะต่างจาก Murder&Mystery พอสมควร

Murder&Mystery จะเน้นว่า ใครฆ่า ฆ่าไปทำไม ฆ่าได้อย่างไร อะไรทำนองนี้ แต่ Drama Thriller จะเน้นบทบาท ความรู้สึก สภาพแวดล้อมของตัวละครมากกว่า โดยผสมผสานความตื่นเต้นลงไปด้วย


ตัวดำเนินเรื่องนี้คือ "แองจี้" เด็กผู้หญิงที่ถูกฆ่าไปเมื่อปีที่แล้ว และศพของเธอถูกฝังอยู่ในห้องใต้ดิน

เธอจะเป็นคนเล่าเรื่องถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับ "นาโอมิ" เด็กผู้หญิงอีกคน ที่ดูเหมือนว่า กำลังจะประสบชะตาเดียวกันกับเธอ


ลองอ่านบทนำกันดูนะคะ ^^

บทนำ

...ฉันตายไปเกือบหนึ่งปีแล้ว แต่วิญญาณของฉันยังไม่ได้ไปไหน วนเวียนอยู่ใกล้กับร่างกาย ที่ถูกเหล่าฆาตกรช่วยกันฝังเอาไว้ในห้องใต้ดิน โดยไม่มีใครอื่นรู้...

แองเจล่า หรือ แองจี้ คือชื่อของฉัน พ่อเป็นคนตั้งให้ เพราะพ่อบอกว่าฉันเป็นนางฟ้าตัวน้อยๆ ของพ่อ ฉันไม่เคยแน่ใจว่าตัวเองเป็นนางฟ้าได้หรือเปล่า เพราะตามหนังสือภาพที่เคยผ่านตา ฉันเคยเห็นแต่นางฟ้าผิวขาว ผมสีทอง ตาสีฟ้าสวย ไม่เคยเห็นนางฟ้าที่มีผิวสีกาแฟ ดวงตาสีอัลมอนด์ ผมสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำหยิกเป็นลอนอย่างฉันเลยสักองค์

ฉันคิดว่า...แม่ของฉันต่างหากที่เหมือนกับนางฟ้า เพราะนอกจากจะใจดียิ่งกว่าใครในโลกนี้แล้ว แม่ยังเป็นคนสวยอีกด้วย แม่มีผมสีทองอ่อน ยาวเหยียดถึงกลางหลัง รับกับดวงตาสีเขียวเข้มราวกับมรกต เวลาเห็นแม่สวมชุดสีขาว ฉันมักอดคิดไม่ได้ว่า ถ้าแม่มีปีกสักคู่ ก็คงจะดูเหมือนนางฟ้าในหนังสือเลยทีเดียว

แม่อพยพมาจากยุโรปตะวันออกกับพี่สาวตั้งแต่ก่อนฉันเกิด แม่มาพบกับพ่อที่นี่...ลอนดอน เมืองหลวงของประเทศอังกฤษ กับพ่อซึ่งเป็นคนอังกฤษ...พ่อเรียกตัวเองอย่างนั้น หรือจะพูดให้ถูก พ่อใช้คำว่า ‘บริทิช (British)’ ไม่ใช่ ‘อิงลิช (English) ’

บรรพบุรุษของพ่อมาจากประเทศในทวีปอัฟริกาเมื่อนานมาแล้ว ใช่แล้วล่ะ พ่อของฉันเป็นชนชาติที่ถูกคนบางกลุ่มเรียกอย่างเหยียดหยามว่า ‘นิโกร’ พ่อเป็นชายร่างสูงใหญ่ มีผิวสีเข้มเหมือนเปลือกไม้ ดวงตาสีเข้มประดับอยู่บนโครงหน้าบึกบึน ดูจากรูปร่างหน้าตาแล้ว พ่ออาจจะดูเป็นคนดุดัน แต่ความจริงแล้ว พ่อเป็นผู้ชายที่อบอุ่น นุ่มนวลที่สุดเท่าที่ฉันเคยรู้จัก พ่อทำให้ฉันนึกถึงเวลากลางคืนของฤดูใบไม้ผลิอันแสนอ่อนโยน

ฉันเป็นลูกสาวคนเดียว แม้ครอบครัวของเราจะไม่ร่ำรวยนัก ทั้งพ่อและแม่ทำงานหาเช้ากินค่ำ แต่ก็เป็นครอบครัวที่อบอุ่น บ้านเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดของฉัน

จนกระทั่งวันนั้น...วันที่เป็นวันเริ่มต้นของฝันร้ายอันยาวนานของฉันก่อนตาย อุบัติเหตุรถประจำทางชนกันพรากท่านทั้งสองไปจากชีวิตของฉันตลอดกาล

ฉันจำไม่ได้ว่าตอนนั้นร้องไห้ไปมากเท่าไหร่ คร่ำครวญอ้อนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้ามากแค่ไหน ยอมแลกได้ทุกอย่าง ขอเพียงได้พ่อกับแม่กลับคืนมาเท่านั้น

...หากเสียงร้องไห้ของเด็กผู้หญิงวัยสิบสาม ไม่ดังเพียงพอให้เกิดปาฏิหาริย์ขึ้น...
...โลกทั้งใบของฉันเปลี่ยนจากความอบอุ่นเป็นหนาวเย็นยะเยือก ราวกับดวงตะวันดับสูญไปทั้งดวง...

เนื่องจากทั้งพ่อและแม่ไม่มีญาติคนอื่น ฉันจึงต้องย้ายไปอยู่กับ...ป้าซาวิน่า...พี่สาวของแม่ ซึ่งมีบ้านอยู่อีกฝั่งหนึ่งของนครลอนดอน

หากจะพูดว่า วันที่พ่อกับแม่ของฉันจากไปเป็นบทเริ่มต้นของนิยายโศกนาฏกรรมที่มีฉันเป็นนางเอก วันที่ฉันมาถึงบ้านป้าซาวิน่า ก็คงจะเรียกได้ว่าเป็นการเริ่มต้นบทที่หนึ่ง
ฝั่งตะวันออกของลอนดอนต่างจากฝั่งตะวันตกที่ฉันเคยอยู่กับพ่อแม่มากเหลือเกิน แต่ป้าซาวิน่าแตกต่างจากแม่ของฉันมากกว่านั้น มากกว่าหน้ามือกับหลังมือ มากกว่ากลางวันกับกลางคืน

...มากกว่าสวรรค์กับนรก...

ถ้าเปรียบแม่ของฉันเป็นนางฟ้า ป้าซาวิน่าคงจะต้องเป็นแม่มดอย่างแน่แท้

คืนวันที่ฉันอยู่กับครอบครัวของป้าซาวิน่ามันเลวร้าย จนความตายกลายเป็นสิ่งที่ฉันโหยหา กลายเป็นความกรุณาที่ฉันรอคอย

จากวันที่ลมหายใจสุดท้ายของฉันขาดห้วง เวลาก็เลยผ่านไปเรื่อยๆ จากวันเป็นสัปดาห์ จากสัปดาห์เป็นเดือน จากเดือนจนจะเกือบครบปี ทุกชีวิตในบ้านหลังที่มีร่างไร้วิญญาณของฉันฝังอยู่ใต้ผืนดินในห้องใต้ดิน ดูเหมือนจะดำเนินไปอย่างสงบสุข และราบเรียบอย่างประหลาด ราวกับว่า เรื่องราวของฉันในความทรงจำของพวกเขา ระเหยหายไปไม่ต่างอะไรกับน้ำค้างยามต้องแสงแดด ราวกับว่า ฉันไม่เคยมีตัวตนอยู่ในโลกเบี้ยวๆ ไม่สมประกอบในห้วงจักรวาลนี้

ฉันเฝ้ามองเรื่องราวต่างๆ ของคนรอบข้าง ไปพร้อมๆ กับห้วงเวลาที่ค่อยๆ ไหลไปอย่างเชื่องช้า อ้อนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่าว่า ขอให้พรุ่งนี้มีคนรู้เรื่องฉัน ขอให้มีคนพบศพของฉันเสียที ขอให้คนกระทำผิดได้รับการลงโทษ

แต่คำอ้อนวอนของฉันก็ไร้ผล ไม่ต่างอะไรกับครั้งที่ฉันเคยขอให้พ่อกับแม่กลับคืนมา

...ฉันไม่สามารถทำใจให้เชื่อในปาฏิหาริย์ได้อีกต่อไปแล้ว...

ทุกวันที่ผ่านไป ความหวังที่เคยเปล่งประกายอยู่เลือนลาง ค่อยๆ จางหาย และดับวูบลง เหมือนกับตะเกียงที่หมดน้ำมัน

ในที่สุด...ฉันก็ตัดใจ เลิกหวัง และพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะลืมเรื่องราวก่อนหน้านี้ให้หมดสิ้น บอกกับตัวเองว่า ฉันตายไปแล้ว ฉันไม่สามารถทำอะไรได้อีกต่อไป และร่างที่ค่อยๆ เปื่อยเน่าอยู่ใต้ดินนั่น ก็ไม่มีประโยชน์อะไรกับฉันอีกต่อไปแล้ว ฉันไม่สามารถกลับเข้าไปสิงร่างของตัวเองได้อย่างในนิยาย หรือการ์ตูนยอดมนุษย์ กลายเป็นซอมบี้ที่ชิ้นส่วนของร่างกายค่อยๆ หลุดออกจากกันเป็นทางยาวพร้อมกับทุกย่างก้าวที่เท้าขยับเดิน

ฉันเกือบจะทำได้สำเร็จแล้วล่ะ...หรืออย่างน้อย ฉันเองก็คิดเข้าข้างตัวเองเอาไว้อย่างนั้น

หากโชคชะตากลับเล่นตลก มันเป็นกลของพระเจ้าหรือปีศาจ ฉันไม่อาจรู้ได้ แต่ประสบการณ์ที่ฉันพยายามหนักหนาที่จะลืม ดูเหมือนว่าจะถูกนำกลับมาฉายซ้ำอีกครั้ง ราวกับการกดปุ่มกรอกลับไปยังจุดเริ่มต้นของเครื่องฉายหนัง เพื่อย้อนดูภาพยนต์เรื่องเศร้าเรื่องเดิมตั้งแต่ต้น ด้วยการมาถึงของเด็กผู้หญิงที่มีชื่อว่า นาโอมิ ในคืนที่ฝนหิมะโปรย...

....................

ท้ายหนังสือเล่มนี้ ไอซ์เขียนแรงบันดาลใจที่ทำให้เกิด "คำให้การจากศพในห้องใต้ดิน" ลงไปด้วย

คิดว่าอาจจะ Spoil นิดๆ สำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่านนะคะ ^^

................

แรงบันดาลใจ

ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่อ่านเรื่อง “คำให้การจากศพในห้องใต้ดิน” มาจนถึงหน้าสุดท้ายนี้นะคะ นิยายเรื่องนี้เกิดจากแรงบันดาลใจมากมายหลายอย่าง ที่เก็บสะสมมานาน ซึ่งคิดเสมอว่า สักวันจะถ่ายทอดสิ่งเหล่านี้ให้คนอื่นได้รับรู้

นานมาแล้ว ขณะที่ฉันยังเรียนอยู่ที่ประเทศอังกฤษ เคยได้มีโอกาสดูสารคดีที่เกี่ยวกับการเหยียดสีผิว ซึ่งตอนนี้จำรายละเอียดอะไรมากมายไม่ได้ รู้สึกว่าจะเป็นการสัมภาษณ์ผู้ที่เคยมีประสบการณ์การถูกเหยียดผิวมาก่อน แต่มีสองเรื่องที่ฉันจำได้ไม่เคยลืม นั่นก็คือ สามี-ภรรยาคู่หนึ่ง ถูกยิงที่ปั๊มน้ำมัน ด้วยเหตุผลเพียงเพราะว่า ฝ่ายชายเป็นคนผิวดำ และฝ่ายหญิงเป็นคนผิวขาว คนร้ายไม่มีเรื่องบาดหมางอะไรกับผู้เคราะห์ร้าย ไม่รู้จักสามี-ภรรยาคู่นี้มาก่อนเสียด้วยซ้ำ ส่วนอีกเรื่องก็คือ เด็กผู้ชายตัวเล็กๆ ซึ่งเป็นลูกครึ่ง ผสมผสานระหว่างผิวขาวและผิวดำ พ่อหนูน้อยคนนี้ถูกเด็กคนอื่นๆ แกล้ง เพียงเพราะว่า เขาแตกต่างออกไป

เคยได้ยินไหมคะ ที่คนบอกว่า คนลอนดอนกว่า 90% เป็นพวกเหยียดผิว ฉันโชคดีที่ตลอดระยะเวลาหลายปีที่อยู่ที่นั่น ไม่เคยพบเรื่องร้ายแรงอะไร และคนรอบข้างก็ไม่มีใครเป็นอย่างนั้น

...แต่การเหยียดผิวมีจริง...

ฉันคิดเสมอว่า ไม่มีใครควรจะตัดสินใครด้วยลักษณะทางภายนอก เพียงเพราะว่าเขาหรือเธอต่างออกไป เมื่อเลาะผิวที่ห่อหุ้มอยู่แล้ว มนุษย์ทุกคนไม่มีอะไรต่างกัน มีเลือดสีแดงเหมือนกัน กระดูกสีขาวเหมือนกัน เน่าเปื่อยได้เหมือนกัน

เมื่อเกิดความคิดว่าจะเขียนเกี่ยวกับการทารุณกรรมเด็ก หรือ Child Abuse ตัวละครเอก “แองจี้” และ “นาโอมิ” จึงเป็นเด็กลูกครึ่งระหว่างคนผิวขาวและคนผิวสี

สำหรับแรงบันดาลใจหลักที่ทำให้เกิดเรื่อง “คำให้การจากศพในห้องใต้ดิน” นั้น มาจากการที่ฉันได้อ่านคดีของ Sylvia Marie Likens ซึ่งเป็นคดีที่เกิดขึ้นในประเทศอเมริกาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1965 ซึ่งอ่านแล้วอดน้ำตาไหลเพราะสงสารผู้เคราะห์ร้าย ซึ่งเป็นเพียงเด็กผู้หญิงวัยรุ่นตัวเล็กๆ ไม่ได้

ถ้าใครสนใจเกี่ยวกับคดีนี้ สามารถ search หาข้อมูลใน //www.google.com/ ได้ เมื่อใส่ชื่อ Sylvia Marie Likens ลงไป ก็จะมี link มาให้มากมาย ฉันได้อ่านข้อมูลจากหลายๆ เว็บ

สำหรับหนังสือเล่มนี้ ฉันแปลสรุปเรื่องราวอย่างย่อๆ มาให้อ่านกันนะคะ

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ค.ศ. 1965 ตำรวจเมืองอินเดียน่าโพลิส (Indianapolis) ได้รับโทรศัพท์จากจากเด็กผู้ชายวัยรุ่นที่ไม่เอ่ยนามว่า พวกเขาจะพบศพของเด็กผู้หญิงในบ้าน ซึ่งอยู่ที่ 3850 อีส นิวยอร์ก สตรีท (East New York Street)

ตำรวจไปที่นั่นและได้พบศพของเด็กสาววัยรุ่นอายุ 16 ปี ชื่อ ซิลเวีย มารี ไลเคนส์ (Sylvia Marie Likens) ในห้องเล็กๆ ห้องหนึ่งในบ้าน

มีผู้ใหญ่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นเพียงคนเดียว นั่นก็คือ เกอร์ทรูด แบนนิเซฟสกี้ (Gertrude
Baniszewski)

เกอร์ทรูดบอกตำรวจว่า เธอเป็นคนดูแลซิลเวีย เพราะว่าพ่อแม่ของของเธอออกเดินทางไปนอกเมือง และซิลเวียถูกแก็งค์ผู้ชายทำร้าย

แต่แพทย์ชันสูตรศพพบกลับพบว่า ซิลเวียถูกทุบตีและขาดอาหารมานานหลายสัปดาห์แล้ว ไม่ใช่เพิ่งจะถูกทำร้ายในเวลาไม่กี่วันนี้ ร่างของเธอเต็มไปด้วยรอยช้ำ บาดแผลเล็กๆ รอยเผาของบุหรี่มากกว่าร้อยแห่ง บางส่วนของผิวถลอกหลุดลอกออกไป มีเลข ‘3’ ขนาดใหญ่ถูกตีตราอยู่บนอกของเธอ และที่โหดร้ายที่สุดก็คือ มีประโยคที่ถูกเขียนด้วยเข็มร้อนๆ เป็นรอยอยู่บนหน้าท้องว่า

"I'M A PROSTITUTE AND PROUD OF IT!"

ถึงแม้ว่าบาดแผลของซิลเวียจะน่ากลัว แต่ความจริงที่น่าตื่นตะลึงที่สุดก็คือ เธอถูกทารุณกรรมมานาน โดยคนในบ้านและเด็กๆ แถบนั้น ซึ่งได้รับเชิญมาร่วมวง “ลงโทษ” ซิลเวีย

เพื่อนบ้านของเกอร์ทรูดเคยได้ยินเสียงแปลกๆ และคนที่เคยมาบ้านหลังนี้ ก็เคยเห็นซิลเวียที่ได้รับบาดเจ็บเพราะถูกทำร้ายมาแล้ว แต่ก็ไม่เคยมีใครยื่นมือเข้าช่วยเหลืออย่างจริงจัง

...จนในที่สุด เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งก็ถูกทรมานจนตาย...


ห้องที่พบศพของซิลเวีย


เรื่องทั้งหมดเริ่มต้นในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1965 เมื่อ เลสเตอร์ (Lester) กับ เบ็ตตี้ (Betty) ไลเคนส์ ได้ขอให้เกอร์ทรูดดูแลลูกสาววัยรุ่นสองคนของพวกเขา ขณะที่ทั้งสองจะออกเดินทางไปกับคณะคานิวัล โดยจะให้เงินค่าเลี้ยงดู 20 ดอลล่าร์ต่อสัปดาห์

เกอร์ทรูดตกลงรับ ซิลเวีย อายุ 16 ปี และเจนนี่ อายุ 15 ปี เข้ามาดูแลในบ้าน ซึ่งอยู่ที่ 3850 อีส นิวยอร์ก สตรีท

ในบ้านนั้นมีเกอร์ทรูดและเด็กๆ อีกเจ็ดคน คนที่อายุมากที่สุดคือ พอลล่า ซึ่งอายุ 17 ปี ยังไม่ได้แต่งงานและกำลังท้องอยู่ ส่วนคนที่อายุน้อยที่สุดยังเป็นทารกอยู่ นอกจากนั้น บ้านหลังนี้ยังเป็นที่ซ่องสุมของเด็กๆ ในย่านนั้นด้วย

ไม่มีข้อมูลว่าทำไมเกอร์ทรูดถึงได้เกลียดซิลเวียหนักหนา อาจเป็นเพราะ ซิลเวียเป็นเด็กที่กล้าพูด กล้าเถียง ส่วนเจนนี่นั้นตัวเล็ก อ่อนแอ เพราะเคยเป็นโปลิโอมาก่อน และไม่มีใครสามารถอธิบายได้ว่า ทำไมซิลเวียถึงได้กลายเป็นเป้าหมายของการถูกกลั่นแกล้ง รังแก ระหว่างฤดูร้อนนั้น การ “ลงโทษ” เริ่มต้นด้วยการที่ซิลเวียถูกเฆี่ยนขณะเปลือยร่างเหยียดตัวบนที่นอน

ซิลเวียถูกทุบตีด้วยเหตุผลที่ว่า เธอกินอาหารที่โบสถ์มากเกินไป และถูกเตะซ้ำๆ ที่อวัยวะเพศ หลังจากที่ยอมรับว่า เธอมีแฟนอยู่ในแคลิฟอร์เนีย

เด็กๆ แถบนั้นเริ่มมาที่บ้านของเกอร์ทรูดเพื่อร่วมวงทารุณซิลเวีย ใช้เธอเป็นเป้าซ้อมยูโด เตะ และต่อยเธอ บางคนเอาบุหรี่จี้บนผิวของเธอ

ซิลเวียถูกบังคับให้เปลื้องผ้าในห้องนั่งเล่น สอดขวดโค้กเปล่าเข้าไปในช่องคลอด ขณะที่เกอร์ทรูดและเด็กคนอื่นๆ ล้อมวงดู

หลังจากถูกทุบตี ซิลเวียมักถูกบังคับให้อาบน้ำร้อนจัด เพื่อ“ชำระบาป”

ช่วงหลัง ซิลเวียไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในบ้านอีกต่อไป เธอถูกโยนลงไปในห้องเก็บของใต้ดิน และถูกขังอยู่ในนั้น โดยได้รับแคร็กเกอร์เป็นอาหาร

วันหนึ่ง เกอร์ทรูดประกาศกับลูกๆ ของเธอและเด็กๆ ที่มาชุมนุมที่บ้านว่า ซิลเวียเป็นโสเภณีและภูมิใจที่เป็นอย่างนั้น ก็เลยจะสลักมันไว้บนหน้าท้องของเธอ ด้วยการใช้เข็มขนาดใหญ่มาเผาไฟ และสลักประโยค "I'M A PROSTITUTE AND PROUD OF IT!"

เมื่อเกอร์ทรูดรู้ว่า ซิลเวียกำลังจะตาย เกอร์ทรูดบังคับให้ซิลเวียเขียนจดหมายว่า แก็งค์ผู้ชายทำร้ายเธอ แผนการณ์ของเกอร์ทรูดก็คือ จะผูกตาซิลเวียและเอาเธอไปทิ้งไว้ในป่าพร้อมกับจดหมายฉบับนั้น

ซิลเวียพยายามหนี แต่เกอร์ทรูดกับเด็กผู้ชายคนหนึ่งจับเธอเอาไว้ได้ ทุบตีเธอ และโยนเธอกลับลงไปในห้องใต้ดิน

ซิลเวียเสียชีวิตในวันที่ 26 ตุลาคม ค.ศ. 1965 สาเหตุของการตายก็คือ สมองบวม เลือดออกในสมอง ช็อคจากอาการบาดเจ็บและขาดอาหาร

3850 อีส นิวยอร์ก สตรีท


เกอร์ทรูดและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องถูกดำเนินคดีอีกหนึ่งปีต่อมาในเดือนพฤษภาคม ค.ศ.1966 เกอร์ทรูดปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อ้างว่าพวกเด็กๆ เป็นคนทำ เธอให้คำแก้ต่างว่า ไม่ผิดด้วยเหตุผลอาการทางจิต

วันที่ 9 พฤษภาคม ค.ศ. 1966 ลูกขุนตัดสินว่าเกอร์ทรูดผิดจริงด้วยข้อหาฆ่าคนโดยเจตนา พอลล่า...ลูกสาวคนโตมีความผิดข้อหาฆ่าคนตายโดยวางแผนไว้ล่วงหน้า และเด็กผู้ชายอีกหลายคนที่ร่วมทุบตีซิลเวียและสลักข้อความลงบนหน้าท้องของเธอผิดด้วยข้อหา ฆ่าคนโดยไม่เจตนา
เกอร์ทรูดกับพอลล่าถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต

พวกเด็กผู้ชายถูกปล่อยตัวโดยภาคทัณฑ์เอาไว้ในปี ค.ศ. 1968 หลังจากถูกจำคุกสองปี

ในปี ค.ศ. 1971 ศาลของอินเดียน่าโพลิสอนุญาตให้มีการพิจารณาคดีของเกอร์ทรูดกับพอลล่าเสียใหม่ เกอร์ทรูดถูกตัดสินด้วยข้อหาเดิมอีกครั้ง ส่วนพอลล่าให้การยอมรับว่าผิดจริงในข้อหาที่ร้ายแรงน้อยกว่า นั่นก็คือ ฆ่าคนโดยไม่เจตนา พอลล่าชดใช้ความผิดในคุกอีกสองปี

เดือนกันยายน ค.ศ. 1985 เกอร์ทรูดได้รับการปล่อยตัวโดยภาคทัณฑ์เอาไว้ เธอเปลี่ยนชื่อเป็น นาดีน แวน ฟอสแซน (Nadine Van Fossan) และย้ายไปอยู่เมืองไอโอว่า

เกอร์ทรูดตายด้วยโรคมะเร็งปอดเมื่อ 16 มิถุนายน ค.ศ. 1990


เกอร์ทรูด แบนนิเซฟสกี้


อ่านคดีนี้จบแล้ว ฉันรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมเลย เหล่าฆาตกรที่ร่วมกันทำร้ายจนคนตายไปทั้งคน ได้รับโทษน้อยเหลือเกิน

ซิลเวียถูกทารุณกรรมตั้งแต่เดือนกรกฎาคมจนตายในเดือนตุลาคม เธอไม่ได้เป็นโสเภณี และยังบริสุทธิ์อยู่
คนทำผิดจำคุกเพียงไม่กี่ปี ก่อนจะถูกปล่อยตัวออกมา ใช้ชีวิตตามปกติต่อไป

คดีของซิลเวียกลายเป็นแรงบันดาลใจของฉัน ในการเขียนเรื่อง “คำให้การจากศพในห้องใต้ดิน” โดยมี “แองจี้” เด็กที่ถูก “ซาวิน่า กรีน” ทารุณจนตายเป็นผู้ดำเนินเรื่อง

...เธอตายไปโดยไม่ได้รับการช่วยเหลือ เหมือนกับซิลเวีย...

วิญญาณของแองจี้เฝ้าดูชีวิตของ “นาโอมิ” เด็กผู้หญิงอีกคนที่กำลังประสบชะตากรรมเดียวกับเธอ แองจี้คอยเอาใจช่วยนาโอมิให้รอดพ้นจากชะตากรรมร้าย

“คำให้การจากศพในห้องใต้ดิน” เป็นเรื่องที่จินตนาการขึ้น ตัวละครทั้งหมดถูกสมมติขึ้นมา ผูกเป็นเรื่องราวของคนหลายกลุ่ม – ผู้ถูกทำร้าย ผู้ทำร้าย ผู้ที่นิ่งดูดาย และผู้พยายามช่วยเหลือ โดยเขียนเป็นแนว Drama Thriller พยายามสื่อถึงความคิด ความเจ็บปวด ความคับแค้น ความหวัง ของผู้ถูกทารุณกรรมและต้องการความช่วยเหลือ

ฉันตั้งใจที่จะให้ “คำให้การจากศพในห้องใต้ดิน” จบลงด้วย “ความหวัง”

ถึงแม้ว่านิยายเรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่ถูกแต่งขึ้น แต่เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นจริง และอาจจะอยู่ใกล้ตัวกว่าที่คิด มันเป็นเรื่องเศร้าที่ยังคงเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก

ฉันเองก็มีความหวังเหมือนกับ “นาโอมิ”

...ถ้าหากพวกเราไม่นิ่งดูดาย สักวันคงจะไม่ต้องมีคนโชคร้ายอีกแม้แต่คนเดียว...


ซิลเวีย มารี ไลเคนส์


......

นี่เป็นหนังสือเล่มที่ไอซ์เขียนขึ้นมาแล้วภูมิใจมากๆ อยากให้ลองอ่านกันดูน้า ^^




ขอบคุณที่แวะเข้ามานะคะ รบกวนโพสต์ความคิดเห็นที่บล็อก Index : Behind my work ไอซ์จะเข้าไปตอบแน่นอนค่ะ ^^




Create Date : 07 กันยายน 2548
Last Update : 12 เมษายน 2552 10:28:15 น.
Counter : 3075 Pageviews.

50 comments
  
ขอฟรีได้มะค้า

เอิ๊กก ถ้ามีเวลาจะตามหามาอ่านนะค่ะ
โดย: oreocream วันที่: 7 กันยายน 2548 เวลา:21:07:41 น.
  
น่ากลัวจังอ่ะ กีกี้ไม่ค่อยชอบอ่านเรื่องแนวนี้ เพราะทุกวันนี้ชีวิตมันก็น่ากลัวพออยู่แล้วล่ะ
แต่กีกี้จะรอผลงานแบบหวานๆ โรแมนติกของคุณไอซ์ต่อไปนะคะ
เอ...เมื่อไหร่จะมีรวมเล่มออกมาอีกคะ...เรื่องรักโรแมนติกอ่ะค่ะ
โดย: กีกี้ IP: 202.133.131.1 วันที่: 7 กันยายน 2548 เวลา:22:39:57 น.
  
จะซื้อค่ะ

แปลกนะคะ
มีคดีเด็กผู้หญิงถูกทารุณทางเพศบ่อยมาก
แล้วก็ยังมีคดีผู้หญิงทารุณผู้หญิงด้วยกันอีก
โดย: ชมทะเล วันที่: 7 กันยายน 2548 เวลา:23:56:28 น.
  
น่าสนใจครับ... ท่าทางพี่ไอซ์จะเก็บข้อมูลนานมาก...
ไว้ขอลายเซ็นที่งานวันที่ 9 ตุลาด้วยนะครับ....
ไปละป่าว?
โดย: namit วันที่: 8 กันยายน 2548 เวลา:0:05:53 น.
  
ว่าแต่ บทนำ ในหนังสือยาวแบบนี้จริงๆเหรอครับ.. ท่าทางจะหลายหน้าอยู่นะเนี่ย...
โดย: namit วันที่: 8 กันยายน 2548 เวลา:0:09:00 น.
  
ยินดีด้วยจ้าที่คลอดงานชิ้นนี้ (พร้อมหน้าปกสุดทะมึน) หลังจากที่นั่งลุ้นว่าจะเป็นพล็อตไหน

ขอซื้อโรมานซ์ตุนเก็บไว้สัก 10 เล่มก่อนนะ แล้วค่อยอ่านเล่มนี้ แบบว่าท่าทางจะขมโครต ๆ ต้องเตรียมโด้ปน้ำตาลไล่หลังก่อน
โดย: ติ่ม IP: 202.183.162.233 วันที่: 8 กันยายน 2548 เวลา:11:10:59 น.
  
โอ้ อ่านข่าวที่มาลงแล้วถึงกับอึ้ง พูดไม่ออก จิตใจทำด้วยอะไรนะคนพรรค์นี้ เฮ้อ
โดย: ปุ๋ย IP: 58.8.248.155 วันที่: 8 กันยายน 2548 เวลา:17:31:03 น.
  
ชอบแนวนี้งับ T T) ถึงมันจะทรมานจิตใจแต่เราก็มาโซ (เย่ย...ไม่ใช่)

อยากอ่านงานที่แหวกแนวของไอซ์มากเลยจ้า ซื้อแน่นอน!
โดย: ฯคีตกาล IP: 61.90.248.110 วันที่: 9 กันยายน 2548 เวลา:7:39:20 น.
  
อ่านแล้วอยากร้องไห้จังค่ะ
จะไปอุดหนุนหนังสือนะคะ
เห็นชื่อคุณ Clear Ice นานแล้ว แต่ไม่เคยอุดหนุนเลย
เพราะดิฉันไม่ถนัดอ่านแนวหวานๆ
แต่เล่มนี้จะอุดหนุนค่ะ
ขอบคุณที่เขียนหนังสือเล่าอีกเรื่องที่ไม่เคยได้รับรู้มาค่ะ
โดย: Barfinn วันที่: 10 กันยายน 2548 เวลา:15:33:38 น.
  
มาแล้วจ้า คงไม่ได้มาช้าเกินไปเนอะ เบื้องหลังหนังสือเล่มนี้เคยมีโอกาสได้ผ่านตาตอนพี่ไอซ์เอาไปลงเป็นกระทู้หลังจากตอนจบที่ถนนนักเขียนอะ

ไม่ชอบการเหยียดสีผิดเหมือนกัน ทำไมโลกเราต้องมีอะไรแบบนี้ด้วยเนอะ
โดย: I aM nOt PerFecT IP: 82.43.180.139 วันที่: 10 กันยายน 2548 เวลา:20:50:15 น.
  
ตามมายินดีกับพี่ไอซ์ด้วยค่ะ ขอให้หนังสือขายดีนะคะ :)
โดย: the dust IP: 203.146.131.180 วันที่: 11 กันยายน 2548 เวลา:0:36:08 น.
  
มาเยี่ยมครับ
โดย: แป๊กก วันที่: 11 กันยายน 2548 เวลา:7:31:40 น.
  
เราก็ชอบอ่านหนังสือเหมือนกันค่ะ สวัสดีวันอาทิตย์ค่ะ
โดย: Star in the Sky วันที่: 11 กันยายน 2548 เวลา:12:33:17 น.
  
แว่บเข้ามา Blog นี้เป็นวันที่สอง

อ่านบทนำแล้วนึกถึงหนังสือที่เคยอ่านเรื่องเด็กผู้หญิงที่ถูกทำร้ายจนเสียชีวิตและมองลงมาจากสวรรค์เพื่อเห็นครอบครัวที่ก้าวผ่านความเสียใจในการสูญเสียเธอไปพร้อมๆ กับเห็นฆาตกรที่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขดี

อ่านแรงบันดาลใจแล้วพบว่ามันโหดร้ายและไม่ยุติธรรมจริงๆ ด้วย กลุ่มคนที่ทรมานจนทำให้อีกคนเจ็บปวดและถึงแก่ความตายได้รับผลตอบแทนแค่นี้เอง
โดย: เพนนีกับพีนัท (Nontagorn ) วันที่: 11 กันยายน 2548 เวลา:15:17:38 น.
  
ไม่น่าเชื่อเลยว่าคนเราจะจิตใจโหดเหี้ยมได้ถึงเพียงนี้

ขอติดตามอ่านแบบรวมเล่มด้วยคนนะครับ
โดย: ธามาดา วันที่: 12 กันยายน 2548 เวลา:0:05:03 น.
  
ตามหาซื้ออยู่ฮับ
โดย: tintin (nyx ) วันที่: 13 กันยายน 2548 เวลา:14:33:55 น.
  
ปกติ ป้าจะร้องว่า "สือฟรีๆๆๆๆๆ"
อันนี้รอตอน พิมพ์ครั้งที่สี่ก็ได้นะ แหะ แหะ
โดย: ป้าหนอน วันที่: 16 กันยายน 2548 เวลา:15:58:28 น.
  
น่าอ่านนะ พี่ไอซื
โดย: envy IP: 203.151.140.121 วันที่: 20 กันยายน 2548 เวลา:14:43:52 น.
  
ขอบคุณทุกๆ คนมากเลยนะคะ ยังไงก็ขอฝากหนังสือเล่มนี้ไว้อีกสักเล่มนะคะ

เมื่อวันก่อนได้ดูรายการถึงลูกถึงคน เกี่ยวกับเด็กที่ถูกพ่อเลี้ยงทำร้าย คิดถึงหนังสือของตัวเองเล่มนี้ขึ้นมาทันทีเลย

สังคมเรายังมีอะไรอย่างนี้อยู่ เรื่องเลวร้ายที่ไม่ควรจะมี อยากให้ทุกๆ คนช่วยกันดูแลสังคมเรา

^^
โดย: Clear Ice วันที่: 30 กันยายน 2548 เวลา:7:50:14 น.
  
แวะมาเยี่ยมค่ะพี่ไอซ์ รู้สึกพักหลังไม่ค่อยเห็นพี่ไอซ์ไปที่ถนนฯ เท่าไหร่ (หรือจริงๆ เป็นเราเองหว่า)

..มาบอกว่าอยากไปงานมหกรรมหนังสือฯ อะค่ะ แต่ติดฝึกงานสงสัยอดไปแหง.. คงต้องไปซื้อหนังสือพี่ไอซ์ข้างนอกแล้วล่ะ ..เศร้านิดๆ ที่จะไม่ได้เจอตัวจริง

โดย: มะกอกช่อ IP: 203.107.193.111 วันที่: 1 ตุลาคม 2548 เวลา:22:30:03 น.
  
อ่านคำให้การจากศพในห้องใต้ดินจบแล้วค่ะ พอได้อ่านหน้าแรงบรรดาลใจที่พี่ไอซ์เขียนไว้ท้ายเล่มแล้วรู้สึกสงสารซิลเวียมากๆ และรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมกับซิลเวียจริงๆ คนที่ทำผิดไม่น่าได้รับการปล่อยตัวเลย น่าจะให้ชดใช้กรรมอยู่ในคุกจนตายไปเลย


โดย: เมเปิ้ล IP: 203.157.14.245 วันที่: 13 ตุลาคม 2548 เวลา:14:28:01 น.
  
แหะๆ ช่วงที่ผ่านมาพี่วุ่นๆ กับหลายๆ เรื่องอะจ้ามะกอกช่อ ยังไม่มีเวลาเขียนนิยาย ก็เลยหายหน้าหายตาหลบความผิดไปตามระเบียบ แหะๆๆๆ แหงบๆ ไม่เป็นไรน้า งานหนังสือยังมีอีกหลายครั้ง เราคงจะได้เจอกันสักครั้งน่า ง่ำๆๆๆ ^^

ฮือๆ พี่ก็เขียนเรื่อง คำให้การฯ เพราะว่าสงสารซิลเวียอะจ้ะเมเปิ้ล รู้สึกแบบเดียวกันเลยว่า มันไม่ยุติธรรมเลย ก็เลยอยากเขียนเรื่องราวแบบนั้นออกมา ให้คนได้รับรู้กันอะจ้ะ ขอบคุณที่อ่านน้า ^^
โดย: Clear Ice วันที่: 22 ตุลาคม 2548 เวลา:18:06:02 น.
  
เป็นกำลังใจให้ พี่ Clear Ice เขียนหนังสือแนวนี้ต่อไปนะคะ
โดย: นาโอมิ IP: 203.209.97.37 วันที่: 29 ตุลาคม 2548 เวลา:17:39:12 น.
  
กลับมาบอกว่าอ่านเล่มนี้แล้วค่ะ

ยอมรับเลยนะคะว่าอ่านจบแล้วอึ้ง คือคุณ Ice เขียนเหมือนได้อ่านหนังสือแปลเลยนะคะ เนื้อเรื่องไม่พลิกมาก แต่สนุกและลีลาภาษาในเรื่องดีจริง ๆ หลังจากที่อ่านแต่หนังสือแปลกับพวกความรู้สึกดี ๆ ที่เรียกว่ารักของแจ่มใส งานนี้ยอมรับค่ะว่าหนังสือแนวนี้คุณก็เขียนได้ดี ไม่แพ้แนวอื่น มีผลงานแนวนี้ออกมาเยอะ ๆ นะคะ เพราะชอบแนวนี้มากแล้วจะตามเก็บทุกเรื่องค่ะ
โดย: ZAZaSassY วันที่: 30 ตุลาคม 2548 เวลา:19:27:13 น.
  
หนูอ่านคำให้การของศพในห้องใต้ดินแล้วค่ะ หนูเศร้าจนร้องไห้เหมือโดนคุณแมาว่าเลยค่ะ ไมาหน้าเชื่อว่ามีคนที่หน้าสงสารกว่านาโอมิอีกนะค่ะแต่ถ้าไม่ได้แองจี้นาโอมิคงเป็นแบบซินเวียนะค่ะ
ต้องขอบคุณ ภูวดี มากนะค่ะที่สร้างผลงานที่สะทอนภาพในสังคมที่มีอยู่จริง
โดย: นักอ่านเมืองเชียงใหม่ IP: 58.147.14.145 วันที่: 3 มีนาคม 2549 เวลา:9:50:34 น.
  
อะนี้เราอ่านแล้วหนุกมากๆเลยตอนหลังร้องไห้ด้วยซึ้งจัดดดดดดดดแต่ว่าตัวร้ายเลวได้ใจมั่กๆตัวเอกก้อนางเอ้กนางเอก
โดย: davilleye IP: 61.19.46.187 วันที่: 16 มิถุนายน 2549 เวลา:10:20:35 น.
  
สวัสดีค่ะ...พี่คนแต่ง หนูชอบเรื่องที่จังเลยนะค่ะ อ่านแล้วรู้สึกสงสารมากกเลยนะค่ะ....พี่แต่งเก่งจังเลยนะหนูขอนับถือ... สนุกจริงๆนะค่ะ...
โดย: ช่อม่วง IP: 124.121.148.215 วันที่: 20 มกราคม 2550 เวลา:18:27:45 น.
  
สนุกมากค่ะเรื่องนี้ นู๋ชอบมากค่ะ อ่านแล้วซึ้ง สงารนางเอกค่ะ มีทั้งโชคดีและโชคร้าย แต่สนุกจิงๆยอมรับค่ะ พี่แต่งเก่งมากค่ะ ยกนิ้วให้เล้ย .. อิอิ
โดย: น้องซันๆ IP: 124.157.179.234 วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:20:51:06 น.
  
ขอบคุณที่ไปเยี่ยมที่บล็อกนะคะ ไว้กลับไปบ้านเมื่อไหร่ จะไปหามาอ่านนะคะ
โดย: pladoo (กล่องไม้ขาว ) วันที่: 24 เมษายน 2550 เวลา:18:22:17 น.
  

หนูชอบเรื่องที่พี่เขียนมากเลย

โดยเฉพาะเรื่องนี้ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องสมมติก็ตามที่ แต่ก็อย่างที่บอกแหละว่า.. มันอาจจะอยู่ใกล้ตัวเราก็ได้

หนูหวังว่า...จะมีคนโชคดี อย่าง นาโอมิ คะ..

กาต่ายน้อย
โดย: auzayei@hotmail.com IP: 203.158.239.239 วันที่: 4 กันยายน 2550 เวลา:11:38:55 น.
  
ปกติไม่ชอบอ่านเรื่องน่ากลัวๆค่ะ
แต่เพื่อนเอาเรื่องนี้ให้อ่าน
ชอบเลยค่ะ
แต่ลองหาดูตามชั้นหนังสือ ไม่เจออ่ะค่ะ เผื่อจะซื้อมาอ่านอีกรอบ
รู้สึกดีที่มันไม่น่ากลัวอย่างที่คิดเอาไว้ แต่ไม่กล้าอ่านที่คนอื่นเขียน กลัวรู้สึกไม่ดี
โดย: วิ่งผ่าน IP: 124.121.228.6 วันที่: 16 ตุลาคม 2550 เวลา:19:48:58 น.
  
ได้อ่านแล้วค๊าบรุสึกสงสารแองจี้ และนาโอมิมากเลย พออ่านมาตรงแรงบันดาลใจของพี่ไอซ์ได้รุว่าเรื่องที่เขียนได้นำมาจากชีวิตจริงของ ซิลเวีย ก้อยิ่งรุสึกหดหู่ใจมากเลยค๊าบ รุสึกว่าโลกนี้มันไม่มีความยุติธรรมเลย
โดย: aom IP: 203.146.63.182 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:14:12:20 น.
  
เราอ่านเรื่อง"คำให้การจากศพในห้องใต้ดิน" แล้วรู้สึกสะเทือนใจและสงสารเด็ก 2 คน ที่ถูกทำร้ายมาก พออ่านแรงบันดาลใจก็รู้สึกสงสารซิลเวียมากๆ ขอบอกว่านิยายเล่มนี้ดีมากๆ เลย
โดย: Retrorian IP: 61.19.166.247 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2550 เวลา:19:37:43 น.
  
อ่านเรื่องนี้แล้วเศร้าใจมากๆเลยค่ะ เกือบจะน้ำตาตกแล้ว ทำไมคนเราถึงได้ใจร้ายกับเพื่อนร่วมโลกอย่างนี้ก็ไม่รู้ การลงโทษต่อผู้กระทำผิดก็น้อยเกินไปด้วย ความยุติธรรมค่อยๆหดหายไปจากโลกแล้วหรือ เป็นเรื่องแรกเลยที่ซื้อมาแล้วเป็นแนวเศร้า เพราะปกติถ้าจบไม่ดีก็มีสิทธิ์ "เมิน" เล่มนั้นไปได้ง่ายๆ สงสารซิลเวียมากๆเลย หวังว่าตอนนี้เธอคงจะได้อยู่ในที่ๆมีความสุขปราศจากความเจ็บปวดอีกแล้ว
โดย: น้ำหวาน (Whan-famous ) วันที่: 26 พฤศจิกายน 2550 เวลา:15:05:10 น.
  
อ่านเรื่องนี้แล้วเศร้ามากมาย อยากจะบอกว่าหนังสือเล่มนี้ดีมากมากและจะติดตามผลงานของพี่iceตลอดไปคะ
โดย: minty IP: 125.26.34.100 วันที่: 2 มกราคม 2551 เวลา:15:55:07 น.
  
สนุกมากเลยค่ะ

ตอนจบจบได้ซึ้งดี

คิดว่าจะจบเเบบเศร้าๆซะอีก

เป็นกำลังใจให้แต่เรื่องต่อไปนะค่ะ

อยากอ่านเเนวนี้อีกอ่ะค่ะ ^^"
โดย: Rin IP: 125.25.201.170 วันที่: 31 มกราคม 2551 เวลา:19:25:16 น.
  
สนุกมากๆเลยค่ะ


บางครั้งอ่านแล้วก้อถึงกับน้ำตาซึมเลย


เรื่องนี้เพื่อนให้ลองอ่านค่ะ


ใช้คำได้ดีมากมายเลยค่ะ


ชอบมากๆค่ะรู้ไหมค่ะว่าหนู้เอาคำพูดของคุณไปใช้เป็นคติประจำตัวด้วยนะค่ะ


ชอบงานของคุณมากเลยค่ะ
โดย: ชล IP: 203.209.94.7 วันที่: 22 มีนาคม 2551 เวลา:20:46:21 น.
  
ddd
โดย: lok IP: 58.9.50.54 วันที่: 1 พฤษภาคม 2551 เวลา:0:14:17 น.
  
โหดร้ายจัง
โดย: ยายคนที่นอนไม่หลับ IP: 118.173.51.205 วันที่: 2 พฤษภาคม 2551 เวลา:15:38:41 น.
  
พระเจ้ามีจริงเปล่าทำไมโลกถึงโหดร้ายอยางนี้
โดย: ยายคนที่นอนไม่หลับ IP: 118.173.52.106 วันที่: 6 พฤษภาคม 2551 เวลา:16:09:36 น.
  
ฉันอ่านแล้ว ฉันว่ามันเป็นหนังสือที่ดีมาก มีอะไรหลายอย่างที่ให้คิด คนที่มีเลือดเนื้อเชื้อไขเดียวกันทำการทารุณหลานแท้ ผิดกับใครหลายคนที่ไม่ใช่ญาติมิตรแต่ก็หยิบยื่นแต่สิ่งที่ดีๆให้
โดย: ปรียานุช IP: 58.147.73.3 วันที่: 31 สิงหาคม 2551 เวลา:10:57:24 น.
  
ดีมากเลย

ชอบนาโอมิตอนที่ไปทำงานแล้วเก็บตังค์ไว้อะ

และก็ยังแบ่งให้เพื่อนอีก

ชอบพี่เมษด้วยใจดี ^______^

เราได่อ่านแบบเต็มๆที่หนังสือแล้ว
โดย: ploy IP: 125.26.211.94 วันที่: 28 กันยายน 2551 เวลา:15:03:48 น.
  
คือตอนนี้จะหาซื้อแล้วหาซื้อไม่ได้เลยค่ะ ไม่ทราบใครอยากจะขายต่อบ้างคะ
โดย: แฟนใหม่คุณไอซ์ IP: 124.120.182.82 วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:10:50:59 น.
  
สวัสดีค่ะ ^^

ก่อนอื่นไอซ์ต้องขอขอบคุณพี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ ทุกคนที่แวะเข้ามาเยี่ยมอ่านเบื้องหลังงานเขียน แสดงความคิดเห็น ติชม ถามไถ่เรื่องราวต่างๆ กันนะคะ และต้องขอโทษเป็นอย่างมากที่สุด ที่ไม่ได้คุยกับหลายๆ ความคิดเห็นเลย

เนื่องจากบล็อกของไอซ์ใหญ่ มีบล็อกใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ไม่ได้กลับมาย้อนอ่านบล็อกเก่าๆ บ่อยสักเท่าไหร่

ไอซ์ได้อ่านทุกความคิดเห็นเลยนะคะ แต่บางครั้งกว่าจะย้อนกลับมาอ่านก็ผ่านไปนานแล้ว ไม่รู้ว่าคนที่มาแปะ มาถาม จะยังรอคำตอบอยู่หรือเปล่า นานๆ ไป ก็เลยแทบไม่ได้ตอบเลย ^^"

ไอซ์จึงได้จัดระเบียบบล็อกใหม่นิดนึงนะคะ

ขอรบกวนพี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเบื้องหลังผลงานทุกเรื่อง เข้าไปโพสต์ที่บล็อก Index : Behind my work นะคะ ไอซ์รับรองว่า จะเข้าไปเช็คอย่างสม่ำเสมอ และตอบทุกความคิดเห็นแน่นอนค่ะ


ขอบคุณล่วงหน้าเลยนะคะที่จะแวะคุยกัน และขอโทษสำหรับความไม่สะดวกอย่างมากด้วยค่ะ

ไอซ์ ^^
โดย: Clear Ice วันที่: 11 เมษายน 2552 เวลา:10:31:42 น.
  
น่าสงสารนะ =_=
โดย: ice IP: 125.27.59.113 วันที่: 21 มิถุนายน 2552 เวลา:19:23:46 น.
  
ผมอยากได้มาเก็บไว้ แต่หาซื้อไม่ได้ครับ ถ้าใครมีจะขาย โปรดติดต่อที่ xfalookx@hotmail.com นะครับ จะเป็นพระคุณอย่างสู๊ง สูง เลยครับ :-)
โดย: falook IP: 172.168.1.51, 58.9.53.225 วันที่: 11 กรกฎาคม 2552 เวลา:14:08:09 น.
  
หวาชอบเรื่องนี้มากกกกกกกก
มีหลากหลายอารมณ์จริงๆ
น่าสงสารทั้ง แองจี้ และ นาโอมิ


ของหวา มีพี่ยืมไปคนนึง
แล้วบอกจะเอามาคืนนนนน


แต่เค้าบินไปแต่งงานกับสามีชาวเยอรมันแล้ว
หนังสือก้อหายไปกับเค้าด้วยอะ

แง้!!! เสียใจ
ไว้พิมพ์ใหม่ค่อยสั่งซื้อใหม่ละกัน
โดย: หว่าหวา IP: 124.122.155.156 วันที่: 20 กันยายน 2552 เวลา:12:28:51 น.
  
หนูมีหนังสือเรื่อง"คำให้การจากศพในห้องใต้ดิน"แล้วคะ หนูชอบมากคะ และมันก็ทำให้หนูรู้เรื่องของซิลเวียคะ ถ้าใครอยากรู้เรื่องของซิลเวียที่เป็นแรงบันดาลใจในการเขียนเรื่องนี้ให้เข้าไปwww.google.comแล้วพิมพ์ว่าsylvia marie likensนะคะ
โดย: แพตตี้ IP: 180.214.193.80 วันที่: 30 เมษายน 2553 เวลา:18:53:27 น.
  
ปล.ย้อนหลังคะว่า
หนูชอบสำนักพิมพ์แจ่มใสมากมายเลยคะ
นิยายแต่ละเรื่องสนุกมาก
โดย: แพตตี้ IP: 180.214.193.80 วันที่: 30 เมษายน 2553 เวลา:18:59:39 น.
  
วันนี้ ตั่งแต่เวลาเที่ยงคืนครึ่ง จนถึงตี4 ฉันอ่าน "คำให้การจากศพในห้องใต้ดิน"ของคุณรวดเดียวจบ ทั้งที่จริงฉันต้องหลับเพื่อลุกไปทำงานเช้า แต่วางไม่ลงเลย ระหว่างอ่านฉันเสียน้ำตาไปเยอะมาก ตอนนี้ตาบวม แต่ก็เซิรต์หาเรื่องของซิลเวียอ่านเพิ่ม และมาเจอblogนี้
คุณเขียนได้ดีจริงๆ (ฉันชอบจนบรรยายไม่ถูกเลยล่ะ)
จากคำนำของสำนักพิมพ์ ฉันได้รู้จัก "โลก......ในมุมมองใหม่" จริงๆ ทั้งที่เลวร้ายกว่าที่พบเจออยู่ และสดใสมากขึ้น "เพราะความหวังที่ยังคงอยู่ ตราบที่ยังมีชีวิตอยู่"
ฉันเชื่อว่าคนที่ได้อ่านเรื่องนี้ นอกจาก ความเศร้า ความคับแค้นใจ ที่รู้สึกร่วมกับตัวละครแล้ว ยังจะได้แรงใจ กำลังใจ จากสาวน้อยลูกครึ่งทั้งสองคนของคุณด้วย
ยิ่งถ้าใครเคยผ่านช่วงเวลาแห่งความรู้สึก "พ่ายแพ้ สิ้นหวัง และอยากตาย" เหมื่อนที่เคยพัดผ่านเหมือนลมเข้ามาในความคิดของฉันในชั่ววินาทีหนึ่งนั้น ก็จะยิ่งเข้าใจ และได้กำลังใจมากกว่าเป็นเท่าตัว

นั่นเท่ากับว่า"ตัวหนังสือเหล่านั้นได้ช่วยชีวิตคน"บางคนไว้ด้วย

ฉันขอให้กำลังใจนั้นย้อนกลับให้คุณได้สร้างผลงานดีๆต่อไปนะคะ
โดย: ป๊อปอาย IP: 49.49.35.57 วันที่: 15 ธันวาคม 2556 เวลา:4:29:37 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Clear-ice.BlogGang.com

Clear Ice
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]

บทความทั้งหมด