ทนายอ้วนชวนหิว - ดี๋ใจ๋ยิ่งแล้ว .. แขกแก้วมาเยือนอีกเตื้่อ - ครัวย่า หมู่บ้านเชียงใหม่เลคแลนด์
ชื่อร้าน : ครัวย่า หมู่บ้านเชียงใหม่เลคแลนด์ เชียงใหม่
รายการอาหาร : ข้าวคลุกกะปิ, ก๋วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้, ข้าวคั่วกลิ้งปลาสลิด, ขนมจีนน้ำยา, สตูว์ลิ้นวัว, แกงมัสหมั่นไก่, ข้าวเหนียวน้ำกะทิทุเรียน, ยกล้อ, น้ำกระเจี๊ยบ
เวลาเปิดบริการ : ทุกวัน 09.30 - 14.00 น. หยุดทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือน
ที่ตั้งร้าน : หมู่บ้านเชียงใหม่เลคแลนด์ ถนนคัดคลองชลประทาน เชียงใหม่, เชียงใหม่ Thailand
พิกัด GPS : 18° 45' 53.19" N 98° 57' 11.38" E








เมื่ออาทิตย์ที่แล้วหนีไปเที่ยวเชียงใหม่มาครับ  เรียกว่าเป็นทริปประจำปีก็ว่าได้ที่จะต้องขึ้นไปเที่ยวทางเหนือทุกปี ปีนี้ไปเที่ยวช้ากว่าปีที่แล้วเพราะติดทริปฮ่องกงตอนต้นเดือนธันวาคมพอดีกับที่จะไปร่วมงานรับปริญญาน้องที่รู้จักกันที่จบจากเชียงใหม่ด้วย แต่ว่าการขึ้นเชียงใหม่คราวนี้ก็พอดีกับที่ภาคเหนือมีอุณหภูมิลดลงอย่างมาก ขนาดอุณภูมิพื้นราบยังแค่ 9 – 10 องศา ฝนก็ตกปรอยๆทั้งวัน เล่นเอาหนาวยะเยือก แต่ก็ยังไม่หมดความพยายามที่จะตระเวณไปตามร้านอร่อยต่างๆเพื่อไปชิมอาหารเจ้าเด็ดมาฝากกันนะครับ


ถ้าคิดตามบล็อกของเจ้าของบล็อกจะทราบว่าเจ้าของบล็อกมีเพื่อนรักสมัยมัธยมเปิดร้านอาหารอยู่ที่เชียงใหม่คนหนึ่ง และเป็นความตั้งใจของเจ้าของบล็อกด้วยที่จะไปเยี่ยมเพื่อนรักคนนี้ทุกครั้งที่ขึ้นไปเชียงใหม่เพราะเพื่อนรักคนนี้หาเวลาเจอกันยากมากๆ แค่ได้เจอหน้ากันก็หายคิดถึงไปช่วงนึงแล้วครับ




 

ครัวย่า หมู่บ้านเชียงใหม่เลคแลนด์ ถนนคันคลองชลประทาน เชียงใหม่



วิธีการไป ร้านครัวย่าหมู่บ้านเชียงใหม่เลคแลนด์  ถนนคันคลองชลประทาน เชียงใหม่ ก็ไปไม่ยากครับเอาเส้นทางที่ไปง่ายที่สุดนะครับ(เพราะเส้นทางไปร้านครัวย่ามีหลายเส้นทางแล้วแต่ว่าจะอยู่ใกล้ทางไหนมากกว่ากันครับ) เริ่มต้นเส้นทางที่ถนนสุเทพตรงประตูสวนดอกหน้าโรงพยาบาลมหาราช(ใกล้ๆวัดสวนดอก) ขับรถออกนอก “เวียง” ตรงๆมาเลยครับ จะผ่านคณะพยาบาลศาสตร์คณะเทคนิคการแพทย์ โรงพยาบาลมหาราช โรงพยาบาลประสาท คณะทันตฯ คุณะเภสัช ทางขวามือ (ทางขวามือเป็นเขตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นอาคารพาณิชย์ครับ) พอถึงแยกไฟแดงใหญ่ๆจะเป็นถนนเลียคลองชลประทาน (เรียกกันเล่นๆว่า “ถนนคันคลอง” หรือ “เส้นคันคลอง”) ซ้ายมือตรงหัวมุมจะเป็นตลาดใหญ่อีกตลาดหนึ่งรองจาก“กาดหลวง” และ“กาดต้นลำไย(กาด = ตลาด) คือ “กาดต้นพะยอม (ที่มีร้านโจ๊กชื่อดังคือ “โจ๊กศรีปิง”กับ “โจ๊กต้นพยอม” ไงครับ)” เราเลี้ยวซ้ายที่แยกนี้แล้วขับตรงไปเรื่อยๆตามคันคลองชลประทาน ประมาณ 3กิโลเมตรทางขวามือจะเป็นร้านอาหารพื้นเมืองชื่อดัง “คุ้มเวียงยอง”ให้เล็งทางซ้ายมือเอาไว้จะมีซุ้มเข้าหมู่บ้าน “เชียงใหม่เลค แลนด์” อยู่ทางซ้ายมือเป็นซุ้มสูงๆสร้างในแบบทางเหนือครับเราเลี้ยวซ้ายเข้าหมู่บ้านได้เลยขับตรงเข้าไปผ่านวงเวียนไปก่อนแล้วขับตรงๆไปตามถนนเลยครับถนนจะพาเราเลี้ยวซ้ายขับต่อไปอีกนิดเดียวก็จะเห็น  ร้านครัวย่า อยู่ทางซ้ายมือ (บ้านเลขที่ 122/128) ครับ






ก่อนจะเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่เจ้าของบล็อกก็ได้นัดหมายกับ “อ้น” เพื่อนรักว่าจะแวะไปร้านในวันอาทิตย์ “อ้น” กระซิบว่าให้มาเร็วๆ วันอาทิตย์แขกเยอะเดี๋ยวจะเม้าท์มอยกันไม่เต็มที่ “อ้น” ยังกระซิบอีกด้วยว่าจะเตรียมเมนูเด็ดเมนูใหม่ๆทั้งคาวทั้งหวานไว้ให้ชิมอีกด้วย






พอถึงวันนัดหมาย เจ้าของบล็อกไปถึงร้านครัวย่า ตั้งแต่ตอนสายๆ หลังจากที่ได้ทำการทักทายคุณแม่ คุณพี่ เพื่อนอ้น และหลานๆ ไถ่ถามสารทุกข๋ดิบกันตามประสาเพื่อนรักที่นานๆจะเจอกันตัวเป็นๆซะที “เพื่อนอ้น” ก็รีบจัดอาหารมาเลี้ยงดูปูเสื่อทันที “เพื่อนอ้น” บอกว่าจัดให้อย่างแน่นทีเดียว


(อาหารและเครื่องดื่มไม่มีราคานะครับ ไม่ได้ถ่ายเมนูมา)










ระหว่างรออาหารเพื่อนอ้นก็สั่ง ยกล้อ มาให้ดื่มแก้กระหายก่อน






กาแฟเย็นรสเข้มๆ หวานๆ ขมนิดๆ ชงแบบไทยๆแล้วค่อยมาใส่นมข้นจืดก่อนดื่มได้รสหวานๆ มันๆ ชื่นใจแบบเข้มๆ ฮาร์ดคอร์จริงๆครับ






อีกแก้วเป็น น้ำกระเจี๊ยบ






รสหวานๆ หอมๆ เย็นๆ ชื่นใจ แก้กระหายแก้ร้อนได้ดีเชียวคราบ






อาหารสองเมนูแรกจริงๆแล้วตามเมนูเป็นอาหารจานหลัก แต่เจ้าของบล็อกสั่งมาเป็นอาหารทานเล่นครับ ก๋วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้





แค่อาหารจานแรกก็รู้แล้วว่าคนปรุงใส่ใจกับอาหารทุกจานแค่ไหน เมนูก๋วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้ไม่มีอะไรมากมายเลยนะครับ มีเส้นเซี่ยงไฮ้ที่ลวกแล้วจัดมาอย่างสวยงาม ปริมาณก็กำลังพอดี มีเนื้อหมูต้มนุ่มๆ ชิ้นใหญ่ๆ แล้วก็มีเครื่องเคียงเป็นน้ำซอสกับต้นหอม ผักชี และขิงที่สับละเอียดเรื่องการซอย – การสับต้องยกให้ร้านครัวย่าเค้าครับ เค้าซอยเค้าสับได้ละเอียดมากๆ เวลาจะทานเมนูก๋วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้ก็เอาน้ำซอสราดลงไปในปริมาณตามชอบ แต่กระซิบนิดนึงว่าราดน้ำซอสปริมาณเท่าที่ร้านครัวย่าให้มาจะอร่อยที่สุดครับ เพราะทุกเมนูได้มีการทดลองทำมาแล้วว่าปริมาณเท่าไหนๆถึงจะอร่อยที่สุด น้ำซอสก๋วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้ถึงจะเป็นสีออกคล้ำแต่รสชาติออกหวานๆเค็มๆ นะครับ แล้วพอเอาเครื่องโรยหน้า ต้นหอม ผักชีและขิงเล็กน้อยสับละเอียดโรยหน้าจะได้รสชาติที่ “สดชื่น” มากๆครับ .... ครับ .... อ่านไม่ผิดครับ อาหารคาวแต่รสชาติ “สดชื่น” ครับ อาจจะเป็นเพราะขิงสับละเอียด ต้นหอมผักชีสับละเอียด และน้ำซอสที่รสชาติออกหวานๆ เค็มๆ เบาๆ ก็ได้นะครับที่ทำให้เมนูนี้เป็นเมนูอาหารคาวที่ “สดชื่น”....






เมนูที่เจ้าของบล็อกสั่งมาเป็นเมนูทานเล่นอีกเมนูหนึ่ง ข้าวมัน – ส้มตำ






เมนูนี้ละมุนละไมมากๆครับ ข้าวมันก็เป็นข้ามหุงด้วยน้ำกะทิที่ไม่มันมากนักและที่สำคัญคือไม่แฉะเลยครับข้าวเม็ดสวยและหอมกะทิมากๆ ส้มตำที่เสิร์ฟคู่กันก็เป็นส้มตำไทยรสชาติออกหวานมีรสเปรี้ยว เผ็ด เค็ม นิดๆเท่านั้น เวลาทานก็จะทานแนมกับหมูฝอยผัดหวานช่วยเสริมกันทั้งรสชาติและรสสัมผัสครับ ถึงแม้เมนูนี้เป็นเมนูหนักเมนูหนึ่งแต่เจ้าของบล็อกคิดว่าก็สามารถเป็นเมนูทานเล่นได้อย่างสบายๆด้วยความที่ข้าวมันกะทิของร้านครัวย่านุ่ม ฟู รสละมุน ไม่หนักมาก ส้มตำที่ออกหวานๆ มีรสเผ็ดนิดเดียว ทำให้เมนูนี้สามารถเป็นเมนูทานเล่นระหว่างรอจานหลักได้เลยครับ









ทีนี้มาถึงอาหารจานหลักกันบ้างนะครับ ข้าวคลุกกะปิ






เมนูนี้เวลาจะทานจะต้องคลุกให้เครื่องทุกอย่างเข้ากันอย่างดี ถึงหน้าตาของเมนูนี้เวลาคลุกให้เข้ากันแล้วจะไม่สวยงามเท่ากับเมื่อตอนที่ยกมาเสิร์ฟ แต่รสชาติของข้าวคลุกกะปิเวลาคลุกเครื่องทุกอย่างเข้าด้วยกันแล้วกลมกล่อมมากๆ มีหวานนิดๆของหมูหวาน รสเปรี้ยวของมะม่วงซอยที่ซอยมาอย่างละเอียดมากๆและมีรสเผ็ดๆของพริกขี้หนูซอยเพิ่มเข้ามานิดๆ ทำให้รับประทานได้มากขึ้น คุณแม่ของ “เพื่อนอ้น” ได้อธิบายให้เราฟังว่ากะปิที่เอามาทำข้าวคลุกกะปิต้องสั่งมาแยกกับกะปิที่ตำน้ำพริกเพราะต้องใช้กะปิที่ทำจากเคยแท้ๆรสชาติติดหวานๆนิดๆที่ปลายลิ้นเท่านั้น






 เมนูถัดมา  ข้าวคั่วกลิ้งปลาสลิด






เมนูนี้ “เพื่อนอ้น” เอาปลาสลิดแห้งมาขูดเนื้อให้ฟูๆ แล้วนำไปทอดจนกรอบก่อนจะเอามาผัดกับน้ำพริกคั่วกลิ้งซึ่งตำกันเองและเป็นสูตรเฉพาของร้านครัวย่า คั่วกลิ้งปลาสลิดรสสัมผัสกรอบๆ หอมเครื่องแกงและใบมะกรูดที่ซอยละเอียดยิบๆเตะจมูกมาก่อนใครก่อนที่จะยกมาเสิร์ฟอีก รสของคั่วกลิ้งไม่ได้เผ็ดจี๊ดๆตั้งแต่คำแรกที่ตักเข้าปากเหมือนคั่วกลิ้งทั่วไปนะครับ แต่จะค่อยๆเผ็ดซึมลึกทีละนิดๆ รู้ตัวอีกทีตอนกินไปครึ่งจานเหงื่อเริ่มออกหัวครับ ดีที่เมนูนี้มีน้ำซุปมาให้ซดแก้เผ็ดด้วย






 

ขนมจีน - น้ำยา






เมนูนี้คาอยู่ในใจเจ้าของบล็อกตั้งแต่มาร้านครัวย่าตั้งแต่คราวที่แล้วครับ คราวที่แล้วสั่งขนมจีนน้ำพริกรสกลมกล่อม - เครื่องอลังการมาทานก็เลยยั้งเมนู ขนมจีน - น้ำยา เอาไว้ มาคราวนี้ก็เลยเลือกเมนู ขนมจีน - น้ำยา มาทานเป็นอย่างแรก ขอบอกว่าน้ำยาร้านครัวย่ารส “ผู้ดี” มากๆครับ แอบตักชิมเฉพาะน้ำยาก่อนก็ได้รสที่ละมุนมากๆ น้ำยาข้นด้วยเนื้อปลาที่โขลกลงไปในน้ำยา รสชาติเมื่อชิมครั้งแรกก็ไม่ได้ออกรสเผ็ดจี๊ดจ๊าดนะครับ น้ำยาออกรสเผ็ดก็จริงแต่เป็นรสเผ็ดที่ละมุนมากๆ พอทานๆไปเรื่อยๆ รสเผ็ดถึงมากขึ้นๆทีละนิดๆครับ และก็หอมเครื่องแกงที่โขลกกันเองในร้านมากๆเลยครับ






อันนี้แอบกระซิบท่านผู้อ่านนิดนึงนะครับเครื่องแกงบดด้วยเครื่องกับเครื่องแกงโขลกเองนั้นจะมีกลิ่นที่ต่างกันมากครับ เครื่องแกงที่บดที่มีขายตามตลาดทั่วไปจะผ่านการบดด้วยเครื่องเฉยๆไม่ได้ผ่านการตำ การขยี้ ความหอมของเครื่องสมุนไพรเช่น หอมแดง ข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูด จะน้อยกว่าเครื่องแกงที่ผ่านการขโลกด้วยครก เพราะการขโลกด้วยครกคือการตำให้กระทบกับของครกกับสากต่อมน้ำมันที่อยู่ในสมุนไพรต่างๆจะแตกออกและส่งกลิ่นหอมเฉพาะตัวออกมาทำให้เครื่องแกงมีกลิ่นหอมอบอวลแล้วการผัดเครื่องแกงกับน้ำมันหรือกระทิก็จะทำให้น้ำมันหอมระเหยของสมุนไพรส่งกลิ่นหอมขึ้นไปอีกครับ เดี๋ยวนี้หาร้านอาหารที่ตำเครื่องแกงเองยากนะครับเพราะยุ่งยากเปลืองเวลา แต่ที่ร้านครัวย่ายังตำเครื่องแกงสูตรเฉพาะกันเองครับ “เพื่อนอ้น” บอกว่าเหนื่อยและเสียเวลากว่าก็จริงแต่จะให้ซื้อเครื่องแกงจากตลาดก็ไม่เอาครับ






สตูว์ลิ้นวัว





เมนูนี้ฝรั่งจ๋าเลยครับ ลิ้ววัวไม่ได้เหนียวจนเคี้ยวไม่ออกนะครับเคี้ยวแล้วมันเด้งๆสู้ฟันมากครับ น้ำซอสก็กลมกล่อมมากๆครับออกรส หวาน ๆ เปรี้ยวนิดๆ ตามรสของซอสมะเขือเทศเท่านั้น ลิ้นวัวก็ชุ่มน้ำซอสมากครับเคี้ยวไปๆน้ำซอสที่อยู่ในลิ้นวัวก็ค่อยๆซึมออกมาๆ ชุ่มฉ่ำมากๆครับ “เพื่อนอ้น” บอกว่าถ้าไม่กินเนื้อวัวก็มีสตูว์ลิ้นหมูให้เลือกชิมนะครับ






แกงมัสหมั่นไก่






แกงถ้วยนี้นอกจาก “เพื่อนอ้น” จะภูมิใจนำเสนอแล้วยังเป็นเมนูที่เจ้าของบล็อกอยากลองชิมมานานแล้วด้วย ด้วยเห็นรูปของ “เพื่อนอ้น” กับคุณแม่ที่ไปเลือกซื้อเครื่องเทศในตลาดที่ “เพื่อนอ้น” โพสลงใน FB แล้วรู้สึกได้เลยว่าแกงถ้วยนี้จะต้องหอมกรุ่นกลิ่นเครื่องเทศแน่ๆ แล้วก็ไม่ผิดหวังเลยครับ ..... แกงมัสมั่นไก่ถ้วยนี้หอมกลิ่นเครื่องเทศมากๆ และหอมยิ่งกว่าแกงมัสมั่นของเจ้าไหนๆเพราะ “เพื่อนอ้น” บอกว่านอกจากจะเลือกเครื่องเทศมาใส่แกงมัสมั่นเองแล้วน้ำพริกแกงมัสมั่นที่ร้านครัวย่ายังตำแล้วผัดใหม่ๆกันแทบทุกวัน มีเครื่องเทศบางอย่างที่ใส่มากกว่าแกงมัสหมั่นของเจ้าอื่นๆถึงได้ทำให้แกงมัสหมั่นที่ร้านครัวย่าหอมฟุ้งจรุงใจเป็นอย่างยิ่ง ที่สำคัญแกงมัสหมั่นไก่ถ้วยนี้ไม่มีมันลอยหน้าเลยนะครับ ดูข้นน่าซดแบบคลีนๆน่ากินสุดๆ เพราะ “เพื่อนอ้น” บอกเคล็ดลับมาว่าตอนที่เคี่ยวไก่กับหางกะทิได้ช้อนมันไก่ทิ้งหมดครับแกงถ้วยนี้ถึงได้ดูน่ากินอย่างนี้






ส่วนของหวานปิดท้าย “เพื่อนอ้น” ภูมิใจเสนอ ข้าวเหนียวน้ำกะทิ (สด) ทุเรียน ครับ






ข้าวเหนียวก็มูนโดยคุณแม่เองโดยใช้กะทิคั้นข้นๆจากตลาด คุณแม่เล่าให้ฟังว่าคุณแม่มักจะไปจู้จี้กับแม่ค้าเพราะอยากได้ของดีๆมาให้ลูกค้าทาน อย่างกะทิก็เหมือนกัน กะทิที่เอามามูนข้าวเหนียวก็ต้องเป็นกะทิขูดขาว ถ้าไปสั่งแม่ค้าคั้นก็ต้องให้แม่ค้าเค้าปอกเปลือกที่ดำๆจากเนื้อมะพร้าวทิ้งให้หมดถึงจะได้กะทิขูดขาวมามูนข้าวเหนียว กะทิที่เอามาทำน้ำกะทิก็จะต้องเอาแต่หัวกะทิ จากมะพร้าวขูด 2 – 3 กิโล คุณแม่ให้แม่ค้าคั้นเอาหัวกะทิมาเพียงกิโลเดียว คุณแม่ยกตัวอย่างให้ฟัง แล้วแม่ค้าสมัยนี้จะชอบเอามะพร้าวแช่น้ำก่อนขูดกะทิที่ได้จะเสียง่าย สังเกตุจากที่ตั้งกรทิไว้ข้างนอกตู้เย็นไม่นานก็จะมีกลิ่นไม่ดี คุณแม่มีเคล็ดลับก้นครัวที่ง่ายๆ แบบที่คิดไม่ถึงในการรักษาน้ำกะทิ (สด) ทุเรียนไม่ให้เสีย .... แต่จะเป็นเคล็ดลับอะไรต้องไปถามคุณแม่กับตัวดูเองนะครับ


ข้าวเหนียวน้ำกะทิทุเรียน (สด) ถ้วยนี้หวานไม่มากครับและได้ความหอมมันจากหัวกะทิคั้นสดมาเต็มที่ ข้าวเหนียวมูนที่ใส่มาก็เม็ดสวย หอมละมุน ส่วนทุเรียนที่เอามาทำเมนูนี้ก็เป็นทุเรียนพันธุ์ชะนี .... ทุเรียนชะนีซื้อที่กรุงเทพฯก็ว่าแพงแล้วลองไปซื้อที่เชียงใหม่ซิครับ แพงกว่ากรุงเทพฯหลายเท่านัก แล้วคุณแม่ใส่เนื้อทุเรียนมาต่อถ้วยไม่ใช่น้อยๆเลยครับ ถามคุณแม่ว่าทำไมไม่ใช้ทุเรียนพันธุ์อื่นคุณแม่บอกว่าทุเรียนพันธุ์ชะนีมีกลิ่นหอม มีรสหวานๆ มันๆ ถ้าเป็นหมอนทองไม่เหมาะเอามาทำน้ำกะทิทุเรียนเพราะว่าจะติดรสขมๆที่ปลายลิ้น







ได้กลับมากินข้าวร้านครัวย่าอีกครั้งก็เหมือนกับการที่ได้มากินข้าวบ้านเพื่อนรักอีกที “เพื่อนอ้น” ถ่ายทอดเอาฝีมือของคุณแม่มาครบถ้วนทุกอย่างตั้งแต่การเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ เอาใจใส่ในการปรุงอาหารนอกจากเพื่อจะให้อาหารออกมาแบบเน้นคุณภาพแล้วยังเป็นการเอาใจลูกค้าด้วยอาหารที่อร่อยและดีอีกด้วย มาคราวนี้เห็นความมั่นใจในการเป็นเจ้าของร้านอาหารที่มีคุณภาพฉายแววชัดๆในสายตาคุณเพื่อนก็ให้ภูมิใจและดีใจกับ “เพื่อนอ้น” ด้วยจริงๆครับ





Chubby Lawyer Cafe' .............................. ร้านอร่อย .................... ตามใจฉัน





SmileySmileySmiley




Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2559
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2559 14:16:31 น.
Counter : 2088 Pageviews.

12 comments
  
สตูน่ากินมากค่า
โดย: Hathi วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา:21:06:02 น.
  
น่ากินทุกอย่างเลยน้องบอล
แม้แต่น้ำจ๊ะ....ครัวย่าสุดยอด
โดย: อุ้มสี วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา:21:55:15 น.
  
ตามมาทานร้านครัวย่าด้วยคนค่า อยากจะลองชิมทุกเมนูเบยยยย
แปะใจให้พี่บอลเลยค่า
โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา:8:05:10 น.
  
น่าทานมากๆๆเลยค่ะ ก๋วยเตี๋ยวเซี้ยงไฮ้วิธีทานเก๋ดีค่ะ
โดย: touch the sky วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา:12:14:36 น.
  
คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณทนายอ้วน เรียบร้อยแล้วนะคะ
โดย: ปรัซซี่ วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา:20:55:45 น.
  
ร้านนี้อาหารหน้าตาน่าทานมากค่ะน้องบอล
ที่สะดุดตาพี่มาก ๆ คือการจัดจานที่ดูสะอาดมาก ชอบเลยค่ะ

ส่วนน้ำยาปูที่บล็อก ร้อยเดียวก็ขายแล้วค่ะ 55555
พรุ่งนี้มาแปะใจให้นะคะ วันนี้หมดตัวแย้วววววววว
โดย: เนินน้ำ วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา:21:09:05 น.
  
น่าทานมากๆค่ะ ดูละมุน อร่อยไปทุกอย่างเนอะ
โดย: auau_py วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา:21:28:14 น.
  
อาหารน่าทานและตกแต่งจานสวยด้วยค่ะคุณบอล
โดยเฉพาะจานข้าวคั่วกลิ้งปลาสลิด ตกแต่งเรียบน่ารักมากค่ะ
ครัวย่าอยู่ในหมู่บ้าน ดูไปไม่ยากด้วยนะคะ
ขอบคุณคุณบอลที่แนะนำค่ะ
โดย: Sweet_pills วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา:23:31:08 น.
  
กลืนน้ำลายเอื๊อก ๆ ตามเลยคุณบอล จากภาพดูอาหารแต่ละจานน่าอร่อยจริง ๆ ค่ะ เครื่องดื่มด้วย ดูใส่ใจจริง ๆ เนาะ ... พี่ก็ชอบยกล้อ มันฮาร์ดคอร์ อย่างที่ว่าดี 55

ข้าวเหนียวน้ำกะทิทุเรียน สุด ๆ ไปเลยค่ะ


โดย: Tristy วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา:23:49:08 น.
  
คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ ทนายอ้วน เรียบร้อยแล้วนะคะ
โดย: Tristy วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา:23:49:41 น.
  
อาหารทุกอยางจัดจานพิถีพิถันมาก มาแปะใจให้ครับ
โดย: แมวเซาผู้น่าสงสาร วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา:22:32:22 น.
  
ไว้ลองไปทานค่า
โดย: สมาชิกหมายเลข 3450494 วันที่: 15 กรกฎาคม 2563 เวลา:11:41:41 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Chubbylawyer.BlogGang.com

ทนายอ้วน
Location :
นนทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 156 คน [?]

บทความทั้งหมด