ชีวิตการทำงานของผมกับกิจกรรมการฝึกอบรมและสัมมนา ผมมานั่งทบทวนการทำงานของผมในชีวิตที่ผ่านมา ผมทำงานมาหลากหลายประเภทธุรกิจ จำนวนสถานที่ทำงานเคยนับเล่นๆมากกว่า 20 แห่ง แต่การทำงานในหลากหลายประเภทนั้น ถ้าจะเจาะลึกลงไปแล้วผมก็ทำงานอยู่เพียง 3-4 ตำแหน่งคือ ฝ่ายบริหารงานบุคคลและธุรการ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ฝ่ายการตลาดและส่งเสริมการขาย และสุดท้ายฝ่ายฝึกอบรมและสัมมนา โดยเฉพาะงานฝึกอบรมและสัมมนานั้น ผมก็แทบไม่เชื่อว่ามันจะกลายมาเป็นงานที่ผมคงต้องทำไปตลอดชีวิต ทั้งที่วันนี้ผมก็เกษียณจากงานทั้งหลายตามที่กล่าวมาแล้ว แต่งานฝึกอบรมผมก็ยังมีทำอยู่ตลอดเวลา งานฝึกอบรมผมไม่ได้ทำหน้าที่เป็นวิทยากรหรือผู้บรรยาย แต่เป็นผู้บริหารงานฝึกอบรมหรือจะพูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือเป็นผู้จัดการฝึกอบรมนั่นเอง มีคำภาษาอังกฤษอยู่คำหนึ่งผมไม่แน่ใจว่าความหมายจะตรงหรือเปล่าคือ Moderator นั่นเอง หากจะถามว่าผมมาเกี่ยวข้องกับงานนี้ได้อย่างไร ก็คงจะต้องย้อนเวลาไปหาอดีต เมื่อสมัยที่ผมทำงานที่หอสมุดแห่งชาติ ท่าวาสุกรี เมื่อประมาณ พ.ศ. 2510 ในตำแหน่งบรรณารักษ์จัตวา (เทียบเท่า ซี 3) ผมรับผิดชอบในการดูแลห้องประชุมและงานโสตทัศนูปกรณ์ทั้งหมด ห้องประชุมนี้เปิดโอกาสให้หน่วยงานราชการและสมาคมต่างๆมาขอใช้ได้ มีสมาคมหนึ่งมาขอใช้ห้องประชุมนี้คือ สมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย ผมจำได้ว่าเป็นการเปิดหลักสูตรเกี่ยวกับการฝึกพูดของสมาชิก ตลอดการใช้ห้องประชุมนี้ผมต้องบันทึกเสียงการประชุมให้กับสมาคมฯ ผมจึงได้เห็นวิธีการประชุม การฝึกอบรมของสมาคมโดยปริยาย และมีโอกาสได้รู้จักกับกรรมการสมาคมท่านหนึ่ง คืออาจารย์สมิต สัชฌุกร จำได้ว่าตอนนั้นท่านทำงานเป็นอาจารย์สอนวิชา วาทวิทยา อยู่ที่คณะนิเทศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย และมาเป็นกรรมการสมาคมฝึกการพูดแห่งประเทศไทย ต่อมาท่านผู้นี้แหละที่ชักนำให้ผมเข้าสู่วงการฝึกอบรมอย่างเต็มตัว ซึ่งผมจะเขียนให้ท่านอ่านในตอนหน้าครับ |
บทความทั้งหมด
|
อาจารย์ใจดีครับ