ไหว้พระเก้าวัด




เพื่อนๆ นัดส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ด้วยการไหว้พระ 9 วัด แต่พกกล้องติดตัวไปด้วย ทำให้กลายเป็นทัวร์ไหว้พระ ถ่ายรูป ไปด้วย

พวกเราตั้งหลักกันที่หน้าโรงเรียนเก่า ....เริ่มต้นการเดินทางด้วยคน 3 คน เหมือนคราวก่อนไม่มีผิด อีก 3 คน ....ป่วย....

วัดแรกในเส้นทางของเรา คือ วัดกัลยาณมิตร
มีคติว่า "เดินทางปลอดภัย มีมิตรไมตรีที่ดี"
ไหว้พระพุทธไตรรัตนายก (หลวงพ่อโต ซำปอกง)

เก้าโมงเช้า ...แต่ก็เริ่มมีผู้คนมากมายแล้วล่ะ มีโต๊ะประชาสัมพันธ์ของ ททท. แจกเอกสารและเชิญชวนไห้สะสมตราประทับ ของแต่ละวัด
พวกเราก็เลยเปลี่ยนเส้นทางของตัวเองไปตามเส้นทางของททท. เพราะมีบ้างวัดในแผ่นพับนั้นที่เรายังไม่ค่อยได้ไปนัก มีเพื่อนถ่ายรูปอย่างนี้ ก็สนุกขึ้นอีก

จากวัดแรก พวกเราก็ก็นั่งตุ๊กตุ๊ก มายัง วัดอรุณราชวรารามวรมหาวิหาร
มีคติว่า "ชีวิตรุ่งโรจน์ทุกคืนวัน"
ไหว้พระพุทธธรรม มิศราชโลกธาตุดิลก
แล้วก็พากันขึ้นชมพระปรางค์
.....เมื่อก่อนก็รู้สึกว่าบันไดที่นี่ชันน่าดู แต่ก็เคยขึ้นถึงชั้น 3 ของปรางค์แล้ว เมื่อนานแล้วนาน ตอนนี้เค้าอนุญาตให้ขึ้นได้แค่ชั้นแรกเท่านั้น มององค์ปรางค์ด้วยวัยที่เปลี่ยนไป ก็แปลกตาขึ้น... และหลังจากปีนองค์ปรางค์ในมหานครวัดแล้ว .....ปรางค์วัดอรุณฯ แค่จิ๊บๆ เท่านั้นแหละ
นักท่องเที่ยวเยอะเหมือนเคย และผสมไปกับคนไทยที่มาไหว้พระด้วยเช่นกัน การถ่ายรูปจึงไม่พ้นต้องหามุมหลบคนเหมือนเดิม ...ก็เลยได้แต่ภาพมุมเงยซะมาก ....
ไหนๆ ก็มาแล้ว พวกเราก็เลยเดินชมบริเวณวัดด้านอื่นๆ กันไปด้วย ก่อนจะนั่งตุ๊กตุ๊กต่อไป

วัดระฆังโฆษิตารามวรมหาวิหาร
มีคติว่า "ชื่อเสียงโด่งดัง คนนิยมชมชอบ"
สักการะพระประธานในพระอุโบสถ และสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)
ซึ่งช่วงนี้ทางวัดเชิญออกจากวิหารมาตั้งหน้าพระอุโบสถเพื่อให้ผู้คนได้สักการะกันทั่วถึง
ผู้คนหนาแน่น จนทำให้เราไม่นิ่งพอนั่งสวดคาถาชินบัญชรได้ และที่สำคัญ ชาวคณะเริ่มหิวกันแล้ว...

แวะพักกินข้าวเที่ยงกันในซอยวังหลัง แล้วข้ามฟากมาท่าช้าง
แดดเริ่มแรงขึ้น แต่ไม่ร้อนมากเกินไปนัก

เข้าพระบรมมหาราชวังเช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวมากมาย แล้วเข้าสู่
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
คติคือ "เพื่อจิตใจสะอาด ดุจรัตนตรัย"
ที่นี่ เป็นที่แรกที่พวกเราเริ่มยกมือไหว้ด้วยจิตสงบ ไม่เบียดคนเข้าไปจุดธูปเทียนบูชา และเป็นที่ที่เราไม่ได้รับอนุญาตให้ถ่ายภาพในพระอุโบสถ แต่ก็ยังไม่วาย กดชัตเตอร์เก็บภาพจากภายนอกไว้หลายมุม จากนั้นก็เที่ยวชมพระที่นั่งต่างๆ (แบบห่างๆ ) แล้วรับเดินต่อไป เพราะสมาชิกคนนึงอาการดีขึ้นและมารอสมทบที่วัดถัดไปแล้ว

วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร
คติคือ "ร่มเย็นเป็นสุข"
สักการะพระพุทธไสยาสน์
แต่ไม่ได้เข้าสักการะพระประธานในพระอุโบสถเลย
และที่นี่เองเราถึงรู้ว่า เมื่อประทับตราครบ 9 วัดจะได้รับภาพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงผนวช พวกเราก็เลยรีบเร่งทำเวลาให้เร็วขึ้นอีกนิด

จากนั้นไปยัง วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
คติคือ "เสริมสร้างความคิดอันเป็นสิริมงคล"
ได้สักการะพระประธานในพระอุโบสถ
ในขณะที่กำลังจะมีพิธีอุปสมบท ก็เลยได้อธิษฐานอนุโมทนาบุญกับเค้าไปด้วย
แล้วก็ขึ้นไปสักการะพระบรมสารีลิกธาตุบนบรมบรรพต (ภูเขาทอง) ขาลงแวะสักการะ หลวงพ่อดำ ก่อนเดินทางต่อ

วัดสุทัศน์เทพวรารามราชวรมหาวิหาร
มีคติว่า "วิสัยทัศน์กว้างไกล มีเสน่ห์แก่คนทั่วไป"
สักการะ พระพุทธตรีโลกเชฏฐ์ ในพระอุโบสถ

แป๊บนึง แล้วรีบออกเดินทางต่อ เพิ่งรู้ว่าเจ้าหน้าที่ททท. จะประจำอยู่แต่ละวัดแค่ 4 โมงเย็นเอง และตอนนี้ก็บ่าย 3 โมงเกือบครึ่งแล้วล่ะ

เรามาถึง วัดบวรนิเวศวิหาร ตอน 3 โมง 45
คติประจำวัด "พบแต่สิ่งดีงามในชีวิต"
สักการะพระพุทธชินสีห์ (จำลอง)
แล้วรีบนั่งตุ๊กๆ ต่อมายังวัดสุดท้าย ก็วัดนี้เคยมาเที่ยวชมตอนที่จัดนิทรรศการเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบ้างแล้วล่ะ เลยไม่ใช้เวลาที่นี่มากนัก ประกอบกับเพื่อนๆ เองก็อยากสะสมตราประทับเหมือนกัน เวลาเริ่มงวดเข้ามาแล้ว

วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร
คติ "มีชัยชนะต่ออุปสรรคทั้งปวง"
สักการะ พระพุทธนรสีห์ตรีโลกเชฏฐ์มเหทธิศักดิ์ และไหว้รูปเคารพ สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท

ในที่สุด เราก็ทำเวลากันได้ครบ 9 วัดตอน 4 โมงเย็น สะสมตราประทับวัดต่างๆ มาได้จนครบและได้รับภาพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตอนทรงผนวชมาเป็นที่ระลึก 1 ภาพ

หลังจากเก็บภาพในวัดต่างๆ มาเยอะแล้ว เวลายังเหลือ พวกเราก็เลยไปทำบุญ สะเคราะห์กันต่อ ที่ศาลเจ้าพ่อเสือและวัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน้ยยี่) ช่วงบ่ายแก่ ใกล้เวลาปิดแบบนี้ คนเริ่มบางตา แต่ควันธูปไม่บางไปด้วย ถูกรมจนแสบตาไปหมดเลย

พออิ่มบุญกันทั่วหน้า ก็พากันลัดเลาะมาทางถนนเยาวราช จบการเดินทางด้วย หอยทอดและก๋วยเตี๋ยวหลอดเส้นสดแบบซัวเถา และก๊วยจั๊บน้ำใส ก่อนแยกกัน บ้านใครบ้านมัน

ครั้งนี้เราเสี่ยงเซียมซี 2 วัด และ 2 ศาล
ผลที่ได้ไม่ถือว่าดีมาก แต่ก็ทำให้มีกำลังใจ สู้ต่อไปในปีหน้า
พร้อมผจญกับปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ได้ต่อไป

สุดท้ายนี้ แปะบัตรอวยพรปีใหม่ให้ผู้แวะมาเยี่ยมเยือน blog นี้ทุกท่านค่ะ





Create Date : 30 ธันวาคม 2549
Last Update : 3 มิถุนายน 2550 14:24:57 น.
Counter : 1227 Pageviews.

1 comments
เติมให้ความมี เติมให้ความไม่มี ปัญญา Dh
(14 เม.ย. 2567 20:54:29 น.)
หาอะไรดับร้อนกับน้องถั่วแดงที่ร้านเย็น เย็น หวานเย็น สาขาMRTท่าพระ นายแว่นขยันเที่ยว
(12 เม.ย. 2567 00:32:31 น.)
คุณปู่ผู้อยู่นิ่งไม่เป็น สวยสุดซอย
(11 เม.ย. 2567 15:42:02 น.)
ถนนสายนี้มีตะพาบ กม.ที่ 349 "วันใดที่เธอ...." จันทราน็อคเทิร์น
(8 เม.ย. 2567 14:18:13 น.)
  

ขอให้มีความสุข

คิดสิ่งใดให้สมปราถนา ทุกๆประการ

สุขภาพร่างกาย แข็งแรง

ร่ำรวย ยิ่งๆๆขึ้นไป

นะค่ะ

ได้ไปเที่ยวที่ไหนบ้างป่าวค่ะนี้ เที่ยวให้สนุกนะค่ะ

โดย: STAR ALONE (STAR ALONE ) วันที่: 1 มกราคม 2550 เวลา:17:49:10 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Bookkii.BlogGang.com

นัทธ์
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]

บทความทั้งหมด