หลบหนีความวุ่นวาย พร้อมกับแพคกระเป๋าอย่างรวดเร็วพร้อมเพื่อนๆ 4 คน ขับรถขึ้นเขาใหญ่
นัดค่ำไปเช้าอย่างนี้แหละ มักจะไม่ล่ม แถมมีคน"ใจ"อย่างนี้ ร่วมทางสนุก..แน่นอน
หลายต่อหลายครั้งเวลาเรานึกถึงบรรยากาศนอนเต้นท์หนาวๆ เรามักจะนึกถึงทางเหนือ
แม้กระทั่งตัวเองก็ไม่ค่อยได้คิดถึงเขาใหญ่เท่าไหร่
แต่ด้วยระยะเวลาเพียง 2 วัน ทำให้ เขาใหญ่ ถูกดึงกลับมาเป็นเป้าหมายในการเดินทางครั้งนี้
ซึ่งไม่ผิดหวังเลยค่ะ
อากาศเย็นๆ สบายๆ ปล่อยความคิดไปเรื่อยเปื่อย มองดูผู้คนที่ผ่านไปมา
หนังสือดีๆสักเล่ม กล้องถ่ายรูป กับ เต้นท์และถุงนอนอุ่นๆ
พูดถึงเขาใหญ่ ไม่ได้ขึ้นไปนานเหมือนกัน ที่ผ่านๆมาขึ้นไปแค่ตีนเขา กับสารพัดรีสอร์ทบนนั้น
ครั้งล่าสุดที่ขึ้นเขาใหย่ คือ ไปกางเต้นท์ที่ผากล้วยไม้
แต่คราวนี้ เราเลือกกางเต้นท์ที่ลำตะคอง เพราะเป็นที่ที่เราไม่เคยไป
นี่คือหน้าตาของสมาชิกในทริปนี้ค่ะ 4 คน ( เห็น 3 อยู่หลังกล้องอีก 1)
เดินทางโดยน้องออส
แวะตามจุดท่องเที่ยวค่ะ
รอดูพระอาทิตย์ตก
แวบไปดูกวางมาหน่อยนึงด้วยคร่าาา
เพื่อนที่ไปด้วยเพิ่งขึ้นมาเขาใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ช่วงหน้าหนาว
บอกว่า เต๊นท์แออัดมาก
คราวนี้ที่เรามา ถือว่าเต๊นท์ยังเบาบาง
บรรยากาศเงียบๆ มีเพียงแสงสว่างจากเทียนไขเท่านั้น
นั่งคุยเรื่อยเปื่อยไปมา ดูเวลาอีกที ตี1 กว่า
เข้านอนดีกว่า ..พรุ่งนี้จะได้ตื่นเช้าไปถ่ายรูป
เอ่กอี้เอ้กเอก..
ตอนแรกตั้งใจว่าขับรถไปหามุมถ่ายรูป
แต่ดูไปดูมา แถวๆที่เราตั้งเต๊นท์ก็มีอะไรให้เดินถ่ายเยอะแยะ
ช่วงที่เพือนๆยังหลับกันอยู่ ก็ออกไปยิงภาพซะหน่อย เพราะแสงสวยดี
ดูรูปนี้แล้วนึกถึงเพลงแสงหนึ่งของพระพี่นางว่า
"เปรียบเธอดังแสง ที่มองไม่เห้น แต่เมื่อส่งมาสะท้อน วัตถุที่ซ้อนเร้น
ก็เด่นชัดขึ้นทันที"
เพราะแสง ทำให้ภาพธรรมดาๆภาพนี้ สวยงามขึ้นทันทีค่ะ
ช่วงนี้เขาใหญ่ใบไม้เปลี่ยนสี มีใบไม้สีแดงขึ้นทั่วเขาไปหมด
เมื่อเจอกับแสงแดด ก็เลยยิ่งงดงามขึ้นค่ะ
ผู้คนสบายๆกันที่เขาใหญ่ เป็นบรรยากาศที่ดีค่ะ
ถือว่าได้ชาร์ตแบตให้ตัวเองอีกครั้งหนึ่ง ใกล้แต่ได้ประสิทธิภาพค่ะ