มาราธอนที่ 4 "วิ่งไป ขรี้ไป ก็เข้าเส้นชัยอยู่ดี" ..premenopause running ตอน "วิ่งไปขรี้ไป ก็เข้าเส้นชัยอยู่ดี" กับ มาราธอนที่สี่ครั้งแรกของกุ...เมื่อห่างหายกันไปเกือบห้าปี จนเกือบหาทางกลับลงสนามวิ่งไม่ถูก ก็ปอดแหกประมาณนึงตั้งใจมาเอาเสื้อ DNF กะจะวิ่งแค่ 21 โล เพราะซ้อมมาประมาณสิบโล หลังรับบิบกลับที่พักตั้งใจพักร่างเอาเข้าจริง สี่ทุ่มแล้วกุยังนอนสบตากะมาริโอ้อยู่เลย เริ่มกังวลลึกๆพรุ่งนี้กุจะ arrest มั้ยวะ $@'*/+("'? .....ตีสองกุต้มกาแฟ กินกะหนมปังกรอบเพื่อให้ลำไส้ตื่นตัว เป็นไปตามคาดกุหมดห่วงไปเรื่องนึง นับว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีของวันนี้ ตีสองครึ่งกว่าๆ ที่สนาม นักวิ่งหลายคนกำลังอบอุ่นร่างด้วยการวิ่งเหยาะๆ บ้างกำลังยืดเหยียดร่างกาย แต่กุต้องประหยัดพลังงานทุกอย่างไว้ใช้ในสนามเท่านั้น กุกลัวหมดแรงกุเคยผ่านมาราธอนมาแล้วกุรู้ว่ากุไม่ควรเสียพลังงานนอกสนามอิอิ เจอเพื่อนจุนนักวิ่งขาแรงเขาพับผ้ามาซ้อมใหญ่ก่อนลงสนามจริงทักทายกันพอเป็นพิธีก่อนกุจะถูกเรียกเข้าจุดสตาร์ทซึ่งเค้าให้กุอยู่ block C 55555 ก่อนหน้านี้กุไม่เคยรู้ว่าเค้ามีเข้า block ด้วย. ปกติกุมักไปต่อแถวท้ายสุดจะได้วิ่งบายๆไม่ต้องโดนใครเบียด และจะไม่เสียจังหวะเข่าของกุ .....กุพาตัวเองออกจาก block C ตั้งใจวิ่งตามแผนที่วางไว้ คือวิ่งให้ถึง 21 โลก่อนพระอาทิตย์จะขึ้น หลังจากนั้นค่อยวัดดวงกัน นานแล้วที่กุไม่ได้ตื่นเช้ามาวิ่ง มีบ้างแหละที่ตื่นเช้ามาวิ่งแทงน้ำเกลือ วิ่งใส่ทิ้ว วิ่ง มา CPR และครั้งนี้กุมาวิ่งจริงๆ กุทอดขาไปตามจังหวะหายใจของตัวเองเรื่อยๆ ยังไม่รู้สึกเหนื่อยเหมือนทุกครั้ง คงเป็นเพราะเขาอกทะลุแหละ กุทำสมาธิโดยการนับจุดให้น้ำ... กุคิดว่ามันคงมีประมาณยี่สิบจุดกุเลือกจิบน้ำไปทุกจุดและบอกตัวเองว่าอีกสองกิโลก็จะได้จิบน้ำอีกความหวังของอยู่แค่จุดให้น้ำถัดไปเท่านั้น ..ผ่านมาสิบโลกว่าๆแล้วมีบางอย่างผิดพลาดเกิดขึ้น กุวิ่งผ่านป้ายห้องน้ำมาหลายจุดแล้วตอนที่ลำไส้ใหญ่บีบตัวเบาๆกุเข้าใจว่ามันคงล้อเล่นเลยไม่สนใจป้ายเหล่านั้น แต่ความจริงไม่ใช่แบบที่กุคิด การวิ่งไปขมิบไปมันทำให้เสียจังหวะทั้งจังหวะเท้าและการหายใจ จะวิ่งกลับหลังคงไม่ได้แล้ว แว่บเดียวที่กุเหลือบไปเห็นป้ายห้องน้ำเล็กๆตรงป้อมตำรวจนาโยง สวรรค์มาโปรดพร้อมกับสายฝนโปรยปรายหนักขึ้นกุใจชื้น ตัวชื้น ทุกอย่างชื้นไปหมด กุเสียเวลาในนั้นไปเท่าไหร่ไม่รู้ได้ แต่กุก็ไม่ได้ยี่หระกับเวลาที่เสียไปนั้น โลกของกุสว่างไสวขึ้นมา กุกลับออกมาด้วยกำลังใจเต็มเปี่ยม ฝนตกแล้วกุน่าจะได้เข้าเส้นชัยแหละ กุวิ่งไปท่ามกลางสายฝน จิบน้ำทุกจุด กินทุกอย่างที่เค้าจัดไว้ให้ ใช้บริการสเปรย์ทุกหน่วยปฐมพยาบาล หลังจุดกลับตัว มีไอติมเรนโบว์มาแจก กุฟินนนนน หลังจากนั้นขากลับ กุต้องวิ่งวางเท้าหนีไส้เดือนเพื่อนร่วมสนามผู้ไม่มีบิบ สายฝนทำให้สดชื่นแต่แรงขามาหมดตอนสามสิบหกโล กุเลยเดินสลับวิ่งในหกโลที่เหลือ...และกุก็วิ่งแซงแบทแมนซุเปอร์ฮีโร่ที่คาดว่าคงมาพิทักษ์โลกเข้าเส้นชัยมาได้ในนาทีสุดท้าย....และมาราธอนครั้งนี้กุไม่เจ็บ @$-/"#:'-@...แต่ตอนนี้กุทิ้งร่างไว้บนเตียง...ตั้งใจนอนนิ่งๆ...เพราะขยับตัวทีมันเจ็บสะเทือนไปทั้งร่าง... มาราธอนบอกกุว่า มันคือสนามวิ่งไม่ใช่สนาม แข่งขัน ทุกคนต่างมีเส้นชัยเป็นของตัวเอง........... มีจังหวะวิ่งที่เป็นของตัวเอง มีสถิติที่เป็นของตัวเอง... ดังนั้นสถิติ และ สติถิ ควรจะมีตอนลงวิ่งมาราธอน. 9 ก.ค.2023
|
BlogGang Popular Award#20
สมาชิกหมายเลข 7582113
|